ตอนอยู่ในเกมส์,แอเรียลนั้นเป็นบุคคลตัวอย่างที่ดูมีแววด้านเวทมนตร์ที่สุดในหมู่คนรุ่นใหม่ของไฮเอลฟ์ ในช่วงท้ายเกมส์, เธอสูสีกับตัวละครที่มีพรสวรรค์มากที่สุดภายในเกมส์, อย่างเอเลียร์ดด้วยซ้ำ
พอรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ,แอเรียลก็เรียกเมล็ดพืชขึ้นมาในมือสามเมล็ด นี่คื่อเมล็ดหุ่นเชิดต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของไฮเอลฟ์, วิญญาณต้นไม้ทองคำ
วิญญาณต้นไม้ทองคำ,เป็นที่รู้จักโดยทั่วกันในฐานะเถาวัลย์ปีศาจ, และวิญญาณต้นไม้ทองทมิฬก็เป็นขั้วตรงข้ามของมัน แม้ว่าทั้งคู่จะถูกสร้างขึ้นจากเถาวัลย์หนาม, แต่สีของพวกมันนั้นแตกต่างกัน
วิญญาณต้นไม้ทองทมิฬ,ก็ตามชื่อที่มันถูกเรียก, มันมีสีดำและมักจะถูกใช้ในการบุก ซึ่งหนามของมันเป็นพิษร้ายแรง ในอีกด้านนึง, วิญญาณต้นไม้ทองคำนั้นมีสีทองและถูกใช้ในการป้องกันซะส่วนใหญ่ หนามของมันแข็งมากและสามารถรวมร่างกับตัวอื่นเพื่อสร้างตาข่ายป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้
ในตอนนี้,แอเรียลไม่รู้ว่าศัตรูจะโจมตีมาจากทางไหน เธอจึงตัดสินใจเดินสายป้องกันตามสัญชาตญาณแล้วเอาเมล็ดวิญญาณต้นไม้ทองคำออกมา
พลังธรรมชาติระดับตำนานได้ไหลเข้าไปในเมล็ดพันธุ์ในตอนที่แสงสีเขียวหยกเปล่งออกมาจากเมล็ด, เธอก็รีบโยนไปที่พื้น และในตอนที่เมล็ดพันธุ์สัมผัสกับพื้นดิน, มันก็เริ่มหยั่งรากในทันที แล้วหลังจากนั้นไม่นาน, เถาวัลย์หนามนับไม่ถ้วนก็แผ่ขยายออกมาผ่านเปลือกนอกของเมล็ดพันธุ์
เถาวัลย์พันเข้าด้วยกัน,เกิดเป็นตาข่ายหนารอบไฮเอลฟ์ เนื่องจากเป็นสถานการณ์เร่งด่วง, แอเรียลจึงปล่อยให้พวกกองทัพของเทพแห่งการทำลายต้องเผชิญกับบุคคลนิรนามนี้อย่างเปิดโล่ง
ในตอนนั้นเอง,ก็มีเงาดำกระโดดออกมาจากพงหญ้าที่อยู่ใกล้ๆ
มีแสงสีแดงเพลิงวนรอบร่างของเงานั้นในตอนที่ปรากฎตัวแล้วด้วยการส่งเสียงคำรามออกมาเงานั้นก็เหวี่ยงดาบสีดำใส่พวกเขา
“ตายซะ,ไอ้พวกไฮเอลฟ์!”
เขาคือราชามนุษย์สัตว์อวตาร์!
อวตาร์สามารถเข้ามาใกล้พวกเขาได้มากพอที่จะทำการโจมตีทีเผลอได้เนื่องจากอีกฝ่ายถูกเบี่ยงเบนความสนใจจากแสงจันทร์ที่ลิงค์สร้างขึ้นมา
ด้วยพละกำลังทั้งหมดของเขา,เขาก็พุ่งเข้าใส่ศัตรูด้วยทักษะเฉพาะตัว: ฟาดฟันบ้าคลั่ง
ในชัวพริบตานั้นเอง,แสงสีเลือดก็สว่างจ้าไปทุกทิศทางจากคมดาบของอวตาร์เหมือนกับดอกบัว, ด้วยร่างกายของเขาที่เป็นศูนย์กลาง ไฮเอลฟ์ทั้งสามคนและคนที่เหลือก็ถูกห่อหุ้มอยู่ข้างในระเบิดแสงนี้ในทันที
แสงนี้คล้ายกับเคียวยมทูตที่จะกวาดล้างทุกสิ่ง
การโจมตีนี้ทำให้พวกเขาทุกคนประหลาดใจ
ด้วยชีวิตของพวกเขาที่อยู่บนเส้นด้าย,สิ่งเดียวที่คาทูช่า, เทวดาตกสวรรค์และขุนศึกวายุพาร์มีสทำได้นั้นก็มีแค่ป้องกันการโจมตีนี้ด้วยพลังทั้งหมดที่มี พวกเขาไม่สามารถหลบมันได้; พวกเขาพลาดโอกาสที่จะทำแบบนั้นไปแล้ว
เสียงโลหะปะทะกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วมีระลอกพลังงานแผ่ออกมาจากแรงกระแทกในแต่ละครั้ง, ซึ่งมันก็ได้ก่อตัวเป็นพายุคลั่งและต้นหญ้ารอบตัวพวกเขาก็ถูกถอนออกจนหมด
การปะทะกันของอาวุธนั้นส่งผลให้พายุรุนแรงมากจนพวกมันพัดผู้ใหญ่ธรรมดาคนนึงกระเด็นไปหลายร้อยฟุต
ฝุ่นลอยฟุ้งขึ้นในอากาศ,และบดบังดวงดาวกับดวงจันทร์ที่อยู่บนท้องฟ้า อย่างไรก็ตาม,ในตอนที่พายุกำลังจะพุ่งชนคาราวานที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนั้น, มันก็สงบลงอย่างน่าประหลาด
เบื้องหน้าพวกเขา,สายลมส่งเสียงโหยหวนเหมือนเสียงของภูตผีที่ตายไม่สงบ อย่างไรก็ตาม, ลมนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากสายลมที่เงียบสงบในตอนที่มันเข้ามาถึงคาราวานในระยะไม่กี่ฟุต สิ่งเดียวที่ทุกคนเห็นจากตรงนั้นก็คือเสียงฟ้ารองดังกระหึ่มและประกายสายฟ้าที่เกิดขึ้นจากการปะทะกันของอาวุธ
แชลลี่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็นสิ่งนี้เธอตะโกน “เทพแสงจันทร์ต้องปกป้องพวกเราอยู่แน่ๆเลย!”
“ท่านเทพ,ขอบคุณที่ช่วยพวกข้านะครับ!” มีใครบางคนตะโกนตอบ
ครั้งนี้,ไม่มีใครสงสัยคำพูดของแชลลี่เลยซักคนเดียว คืนนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากเกินไป และเทพองค์นี้ก็ได้สร้างปาฏิหารย์ให้เป็นที่ประจักษ์โดยการปกป้องพวกเขาจากความโชคร้ายทั้งหมด ซึ่งนี่มันมากเกินกว่าที่จะหักล้างได้
ในอีกด้านนึงของทุ่งหญ้า,การต่อสู้กำลังดุเดือด
แม้ว่าจะใช้พลังเต็มที่แล้ว,แต่คาทูช่า, เทวดาตกสวรรค์, และพาร์มีสก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีของราชามนุษย์สัตว์ได้ทั้งหมด ในตอนนี้, บาดแผลที่พวกเขาเพิ่งจะได้รับการรักษามานั้นได้เปิดออกอีกครั้ง, และพวกเขาก็ยังฟื้นฟูเรี่ยวแรงกลับมาได้ไม่เต็มที่เลย ในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้, โอกาสที่พวกเขาจะมีชีวิตรอดไปได้จึงน้อยมาก
ตอนนี้คาทูช่าเหงื่อแตกพลั่กและกำลังคร่ำครวญอยู่ในใจกับสถานการณ์ที่สิ้นหวังของเธอเธอไม่มีโอกาสเปิดใช้ทักษะหนามแห่งโชคชะตาด้วยซ้ำ เธอรู้สึกได้เลยว่าเธอสามารถถูกอีกฝ่ายจัดการได้ทุกเวลา
ท่ามกลางการต่อสู้ที่รุนแรงนี้,เธอเห็นเทวดาตกสวรรค์ด้วยหางตากำลังพยายามป้องกันการโจมตีของอวตาร์อยู่อย่างสุดความสามารถ เขาถูกฟันที่หน้าอกแล้ว และมีเลือดไหลท่วมออกมาจากบาดแผลของเขา
ทันใดนั้นเองคาทูช่าก็หลบออกไปข้างนึงแล้วถอยไปอยู่ข้างหลังเทวดาตกสวรรค์
เทวดาตกสวรรค์มัวยุ่งอยู่กับการปัดป้องประกายแสงอันรวดเร็วจากดาบของอวตาร์จนไม่รู้ตัวเลยว่าคาทูช่าได้ถอยมาอยู่ข้างหลังเขาจากนั้นเขาเองก็เริ่มถอยเหมือนกันในขณะที่คอยป้องกันการโจมตีที่เข้ามาหา, แต่ในตอนที่เขาถอยไปได้ครึ่งก้าว, เขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ มีคนขวางทางถอยเขาไว้
คาทูช่าไม่ได้ตั้งใจจะขวางทางหนีเขาแต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้, การลังเลเพียงเล็กน้อยก็ตัดสินชีวิตกับความตายแล้ว
เขาตอบสนองในทันที“เจ้านากา, อย่ามาขวางข้า!”
ในตอนนี้,เทวดาตกสวรรค์นั้นอยู่ตรงกลางระหว่างพายุดาบเบื้องหน้าเขาและคาทูช่า, ที่ขวางทางหนีอยู่ข้างหลัง สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ก็คือปัดประกายดาบแห่งความตายออกไปจากตัวเขาให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
ตราบใดที่เขายังป้องกันการโจมตีได้,เขาก็ยังมีโอกาสที่จะรอดชีวิตกลับไปได้ เพราะถ้าไม่อย่างนั้น, เขาจะเป็นคนแรกที่โดนเปิดประเดิม
เขาพยายามป้องกันการโจมตีอย่างเต็มกำลัง,แต่ความจริงนั้นโหดร้ายเสมอ ในช่วงเวลาสั้นๆนี้, เทวดาตกสวรรค์ป้องกันการโจมตีจากอวตาร์ไปได้อย่างน้อย 30 ครั้ง อย่างไรก็ตาม, ประกายดาบไม่ได้ช้าลงเลย, และเขาก็เหนื่อยเต็มที่แล้ว
หลังจากนั้นในทันที,ดาบก็ฟันทะลุล่างของเทวดาตกสวรรค์, และเปลี่ยนเขาเป็นเนื้อสับ
ขุนศึกวายุพาร์มีสเองก็เผชิญชะตากรรมเดียวกับเทวดาตกสวรรค์ด้วยความรู้สึกด้านชาที่ได้รับผลกระทบมาจากอาการบาดเจ็บที่ขา, ร่างของพาร์มีสก็ถูกการโจมตีของอวตาร์สับเป็นชิ้นๆในทันที ลมกรดของประกายดาบนั้นคงอยู่เป็นเวลาสามนาทีเต็มแล้วผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานสองคนของกองทัพเทพแห่งการทำลายก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ในอีกด้านนึง, คาทูช่านั้นซ่อนอยู่ข้างหลังเทวดาตกสวรรค์, เธอจึงสามารถรอดชีวิตมาได้
ส่วนไฮเอลฟ์ทั้งสามคนนั้นมีสภาพดีกว่าพรรคพวกที่เหลือ
ด้วยพลังของเมล็ดจิตวิญญาณต้นไม้ทองคำ,แอเรียลจึงสามารถสร้างบาเรียที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้, แต่มันก็อยู่ได้แค่วินาทีเดียวเท่านั้น
ในช่วงเวลาหนึ่งวินาทีที่ว่านี้,จิตวิญญาณต้นไม้ทองคำที่แข็งแกร่งก็ถูกประกายดาบของอวตาร์ทำให้กลายเป็นฝุ่นในทันที อย่างไรก็ตาม, ก่อนที่การโจมตีจะมาถึงตัวพวกเขา, แอเรียลกับคนที่เหลือก็สามารถติดตั้งบาเรียเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งได้สำเร็จ
ภายใต้การป้องกันของบาเรียเวทมนตร์,พวกเขาทั้งสามคนก็รอดพ้นจากการโจมตีของอวตาร์มาได้อย่างปลอดภัย
อวตาร์ได้ทุ่มพลังทั้งหมดในการโจมตีของเขาเขาเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานหกคนด้วยตัวคนเดียวและสามารถฆ่าไปได้สองคน นี่คือชัยชนะที่คุ้มค่าแก่การเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งทวีป
อย่างไรก็ตาม,ศัตรูคงไม่คิดจะปล่อยให้เขามีชีวิตรอดกลับไปได้หรอก, ในเมื่อเขาประสบความสำเร็จขนาดนี้ Aileen-novel
หลังจากรอดพ้นจากการลอบโจมตีของอวตาร์มาได้,ไฮเอลฟ์สามคนและคาทูช่าก็ทำการโจมตีสวนกลับ
หลังจากนั้นในทันที,หนามโชคชะตาของคาทูช่า, เสียบโลกาของแอเรียล, และจิตวิญญาณต้นไม้ทองคำทมิฬของอีโลแวนกับซอนย่าก็เข้ามาหาอวตาร์ในเวลาเดียวกัน
พวกเขาทั้งสี่คนล้อมราชามนุษย์สัตว์เอาไว้,และปิดกั้นทางหนีเขา
ราชามนุษย์สัตว์นั้นน่ากลัวจริงๆการโจมตีของเขาทำให้ทุกคนรู้สึกกลัวความตายได้เลย หลังจากที่หนีจากการโจมตีของเขามาได้อย่างหวุดหวิด, การตอบสนองแรกของพวกเขาก็คือการฆ่ามนุษย์สัตว์คนนี้ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะทำความเสียหายเพิ่มอีก
อย่างไรก็ตาม,อวตาร์กำลังหัวเราะอยู่
เขาไม่พยายามป้องกันตัวเองเลยราชามนุษย์สัตว์แค่ยืนอยู่นิ่งๆ, และหัวเราะให้กับการโจมตีที่กำลังใกล้เข้ามาทุกวินาที ในขณะที่หัวเราะนั้น, แสงสีขาวก็ห่อหุ้มร่างของเขาอย่างกระทันหัน แล้วเขาก็เลือนหายไปเหมือนกับภาพลวงตา
ในจังหวะต่อมานั้นเอง,การโจมตีของทั้งสี่ก็มาบรรจบที่จุดเดียวกันในเวลาเดียวกัน, แต่เป้าหมายของพวกเขาก็หายไปทั้งอย่างนั้น
แอเรียลตะโกนอย่างรีบเร่ง“ระวังด้วย, มันเป็นเวทย์เทเลพอร์ทที่แข็งแกร่งมาก คนที่ยังไม่เผยตัวออกมาเป็นนักเวทย์มิติ!”
จากนั้นเธอก็เริ่มตั้งท่า,เตรียมตัวขัดขวางการโจมตีของนักเวทย์มิติ ในตอนนี้,เธอไม่รู้ว่านักเวทย์มิติคนนี้ก็คือลิงค์ เนื่อจากความจริงที่ว่าพลังที่เธอสัมผัสได้นั้นแตกต่างจากของลิงค์, และแอเรียลก็สันนิษฐานไปว่ามันมาจากผู้เชี่ยวชาญไร้ชื่อเสียงคนอื่น
ในขณะที่เธอกำลังตะโกนเตือนนั้นเอง,การโจมตีของนักเวทย์มิติก็พุ่งมาหาพวกเขาด้วยความเร็วอันน่าหวาดกลัวจนพวกเขาทำได้แค่รู้สึกถึงมันเท่านั้น
เมื่อครู่ก่อนพวกเขาทั้งสี่เข้ามาหาอวตาร์พร้อมกัน,และตั้งใจจะฆ่าเขาในจุดที่เขายืนอยู่ และด้วยเหตุนั้นเอง, ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสัมผัสการโจมตีของนักเวทย์ได้, แต่พวกเขาก็ไม่สามารถย้อนการโจมตีของพวกเขาและปรับท่วงท่าของตัวเองให้ทันเวลาได้
สำหรับผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานนั้น,ระยะเวลาในการปรับท่วงท่าในตอนที่รู้ถึงการโจมตีของศัตรูมักจะใช้เวลาไม่ถึงเศษหนึ่งส่วนสิบของวินาที มันคือทักษะที่คนธรรมดาไม่มีทางเทียบกับผู้เชี่ยวชาญได้ แม้กระทั่งในหมู่นักเวทย์ระดับตำนานเอง, มันก็เป็นเรื่องยากมากในการทำความเข้าใจเพราะเวทย์ระดับตำนานนั้นต้องใช้เวลาในการเตรียมตัว
ถ้าให้พูดตามหลักเหตุผลก็คือ,ศัตรูของพวกเขาไม่น่าจะใช้เวทย์โจมตีที่แข็งแกร่งต่อจากเวทย์เทเลพอร์ทได้เร็วขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม,คนที่พวกเขากำลังต่อสู้อยู่ก็คือลิงค์ แม้ว่าเวทย์ของเขาจะไม่รุนแรงนัก, แต่พวกมันก็เร็วมาก
“ไม่ดีแล้วไง!”
สัญญาณเตือนภัยกำลังดังอยู่ในหัวของเธอโดยไร้ซึ่งความลังเล, แอเรียลก็ร่ายเวทย์แสงจันทร์ใส่ตัวเอง เธอไม่สามารถรอดพ้นจากการโจมตีของศัตรูได้ ทางเลือกเดียวของเธอในตอนนี้ก็คือหนี
แต่การเคลื่อนไหวของเธอก็ยังช้าเกินไปอวตาร์เป็นคนที่น่ากลัวจริงๆ; การบรรเลงเพลงดาบของเขาเมื่อก่อนหน้านี้ไม่มีช่องว่างให้พวกเขาสวนกลับเลย อย่างไรก็ตาม คนที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้น่ากลัวกว่าอวตาร์เป็นร้อยเท่า
ในขณะที่ชั้นป้องกันของเวทย์แสงจันทร์เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง,ดาบเหล็กหน้าตาธรรมดาเล่มนึงก็ปรากฎขึ้นข้างหลังแอเรียลอย่างกระทันหัน และด้วยการแทงที่รวดเร็ว, มันก็เจาะทะลุหัวใจของเธอโดยตรง
ร่างกายของแอเรียลสั่นดวงตาเบิกกว้าง เธอถูกแทงที่หัวใจ ในช่วงเวลานี้, พลังภายในตัวเธอปั่นป่วน, และไม่สามารถต้านทานพลังงานที่แปลกปนเข้ามาได้เลย
หลังจากผ่านไปครู่นึง,พลังมิติก็แพร่กระจายจากบาดแผลจนลามไปทั่วร่างของเธอ เธอกลายเป็นรูปปั้นมิติในทันที, และตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
ด้วยสภาพนี้,เธอไม่ได้ตายหรือมีชีวิตอยู่
จากนั้นดาบก็หายไปมันไปปรากฎขึ้นที่อีกฝั่งนึงแล้วแทงคาทูช่า เธอทรุดลงในตอนที่ถูกแรงกระแทก หัวใจของเธอเองก็ถูกแทง, และพลังงานภายในร่างของเธอก็ปั่นป่วนเช่นกัน พลังงานมิติได้ไหลออกมาจากดาบและผนึกเธอเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย
พอเห็นว่าแอเรียลกับคาทูช่าถูกดาบจัดการไปแล้ว,อีโลแวนกับมิโรสก็รีบหนีด้วยการสลายตัวเป็นหมอกแสง
แต่ว่าพวกเขาทั้งคู่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของลิงค์
ด้วยเสียงพรึบสองครั้ง,ปลายดาบก็ปรากฎขึ้นอย่างไม่มีปลี่มีขลุ่ยแล้วแทงร่างหมอกแสงของไฮเอลฟ์ทั้งคู่ในเวลาเดียวกัน จากนั้นอีโลแวนกับมิโรสก็ถูกบังคับให้กลับมาอยู่ในร่างกายภาพ พวกเขาร่วงลงมาจากฟ้าและกระแทกกับพื้น, พร้อมกระอักเลือดออกมา
ในขณะที่อยู่ในร่างหมอกแสงนั้น,ไฮเอลฟ์ทั้งคู่ไม่ได้มีบาดแผลที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่า, ความสมบูรณ์ของร่างกายพวกเขาได้รับความเสียหาย ทำให้พวกเขาไม่สามารถต่อสู้กลับได้ในระยะเวลานึง
ลิงค์ได้จัดการปิดฉากพวกเขาทั้งสี่คนในขณะที่พวกเขาเข้ามาหาอวตาร์แม้ว่าวิธีการของเขาจะขี้โกงไปนิด, แต่มันก็คุ้มค่าในตอนสุดท้าย และถึงยังไงซะ, ไฮเอลฟ์ก็มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเกี่ยวกับการต่อสู้อย่างสกปรกอยู่แล้ว, ดังนั้นลิงค์จึงไม่มีเหตุผลให้รู้สึกอับอายกับการกระทำของเขาเลย
ในตอนที่ลิงค์จัดการทั้งสี่คนเสร็จ,เขาก็เดินออกมาจากที่ซ่อนตรงมาหาพวกเขา
อีโลแวนกับมิโรสยังมีสติอยู่ในตอนที่เห็นลิงค์, ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างเหมือนกับแผ่นรองแก้ว พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าลิงค์จะเป็นคนรอบโจมตีพวกเขาเนื่องจากพลังที่พวกเขาเคยสัมผัสจากลิงค์เมื่อก่อนนั้นแตกต่างจากนักเวทย์ที่โจมตีพวกเขามาก
แม้จะรู้ว่ามีนักเวทย์ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนซักแห่งในบริเวณใกล้เคียง,แต่พวกเขาก็ยังตัดสินใจโจมตีอวตาร์อย่างเต็มกำลัง
การโจมตีของนักเวทย์ตัวคนเดียวนั้นมักจะแสดงร่องรอยที่ชัดเจนออกมาก่อนมันไม่ได้มาเร็วเหมือนนักรบ และในตอนนั้น, สมาชิกทุกคนของกองทัพเทพแห่งการทำลายก็มั่นใจว่าพวกเขาจะตอบสนองได้ทันเวลา
พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าจอมเวทย์ที่ลอบโจมตีนั้นจะเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ด้วย
อีโลแวนถาม“ลิงค์เจ้าอยากเริ่มสงครามระหว่างเฟิร์ดกับเกาะรุ่งอรุณจริงๆหรอ?”
มิโรสพูดเสริม“ถ้าเจ้าฆ่าพวกเราที่นี่, เจ้าไม่กลัวรึไงว่าเกาะรุ่งอรุณจะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกองทัพของเทพแห่งการทำลาย?”
ลิงค์ยิ้มอ่อนๆ“ฉันกลัวอยู่แล้ว และนั่นก็คือเหตุผลที่พวกนายสามคนยังมีชีวิตอยู่”
ไฮเอลฟ์ทั้งคู่มองหน้ากันลิงค์ยอมรับว่ากลัวการตอบโต้จากเกาะรุ่งอรุณ, แต่รอยยิ้มก็ยังไม่เลือนหายไปจากใบหน้าของเขา เขาดูไม่กลัวเลยซักนิด และใครก็ตามที่เห็นเขาก็คงจะหนาวไปจนถึงกระดูกดำ
ด้วยบรรยากาศที่เงียบอยู่ประมาณสองสามวินาที,อีโลแวนก็ถามขึ้นมาในที่สุด “เจ้าต้องการอะไร?”
Advent of the Archmage – 564: พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์
564: พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์
Posted by ? Views, Released on กันยายน 11, 2022
, Advent of the Archmage
ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG
มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น
“ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?”
ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์
“จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ
“ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี”
และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน