Advent of the Archmage – 570: พวกเราต้องการพลัง

570: พวกเราต้องการพลัง

Chapter
เกาะรุ่งอรุณลานพระราชวังของไฮเอลฟ์, อันวาร์
มีลำธารใสอยู่ข้างพระราชวังใต้ต้นไม้โลกมันถูกเรียกว่าลำธารแห่งความเงียบสงบ น้ำที่นี่มักจะใสอยู่ตลอดเวลา มันไหลอย่างช้าๆ ในเวลากลางคืน ทั่วทั้งลำธารนี้ส่องแสงงดงามอยู่ใต้แสงจันทร์
มีดอกไม้ขนาดเท่ากำปั้นลอยอยู่บนผิวน้ำแสงสีม่วงอ่อนเปล่งออกมาจากดอกไม้ทุกดอก มีเสียงกริ๊งดังอยู่เบาๆจากพวกมันเหมือนกับเสียงระฆัง เสียงนั้นใสและระรื่นหูมาก ใครก็ตามที่ได้ยินจะรู้สึกเหมือนกับถูกปลดปล่อยออกจากความกังวลและความแปรปรวนทางอารมณ์ของตัวเอง
ในวันนี้ผู้อาวุโสไฮเอลฟ์ 10 คนได้มาที่ลำธารพร้อมกับราชินีไฮเอลฟ์ เธอกำลังถือดอกไม้ที่ส่องแสงสีทองอยู่ เธอค่อยๆเดินไปที่ลำธาร คุกเข่าลงและวางดอกไม้ลงบนน้ำ  น้ำได้ไหลไปโดยพัดพาดอกไม้ไปด้วยแสงสีทองนั้นเริ่มก่อร่างขึ้นเป็นภาพของไฮเอลฟ์สาวที่ใจกลางดอกไม้ เธอคือแอเรียลที่กำลังถือดาบเรียวยาวอยู่ในมือ เธอเต้นรำและกวัดแกว่งดาบอยู่ที่ใจกลางของดอกไม้ และก็วนท่าเดิมซ้ำไปเรื่อยๆโดยไม่แสดงท่าทีเหนื่อยล้าเลย
ดอกไม้ลอยตามลำธารออกไปไกล
ราชินีเหม่อมองดอกไม้จนกระทั่งมันหายไปท่ามกลางแสงสลัวๆของดวงจันทร์
สายลมพัดผ่านและเธอก็หดตัวลงเพราะลมที่หนาวเหน็บ
ไฮเอลฟ์ชายวัยกลางคนที่มีจอนสีขาวได้เข้ามายืนข้างๆเธอและเอาเสื้อคลุมสีเขียวมาคลุมที่ไหล่ของเธอจากนั้นเขาก็กระซิบ “ที่รัก ตอนนี้แอเรียลได้พักผ่อนแล้ว กลับกันเถอะ”
ชายคนนี้คือสามีขององค์ราชินี,พระราชามอร์เดอน่า พระองค์นั้นเป็นหนึ่งในมาสเตอร์ของสังคมไฮเอลฟ์ที่เลือกใช้ชีวิตอย่างสันโดษ  ผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าไบรอันเป็นมาสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ไฮเอลฟ์ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดไปซะทีเดียว ในด้านของพลังเพียงอย่างเดียวนั้น ไบรอันมีพลังเลเวล 12 การที่จะบอกว่าเขาเป็นไฮเอลฟ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเกาะรุ่งอรุณนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิดเลย ยังไงก็ตาม ในด้านของความรู้ทางด้านเวทมนตร์และความสามารถที่แท้จริงในสนามรบ ตำแหน่งอันดับหนึ่งของไบรอันอาจจะไม่มั่นคงอย่างที่ทุกคนคิด
ในตอนที่เขายังหนุ่มมอร์เดน่าเป็นอัจฉริยะของไฮเอลฟ์ที่โดดเด่นที่สุด ในช่วงนั้น ไบรอันเคารพเขาและได้ปฏิญาณกับตัวเองว่าซักวันนึงเขาจะเป็นเสาหลักของสังคมของไฮเอลฟ์เหมือนกับมอร์เดอน่า
และก็ด้วยเหตุนี้เองถึงแม้ว่าเขาจะเติบโตมาแบบเจียมเนื้อเจียมตัว มอร์เดอน่าก็ถูกเลือกให้เป็นชายในฝันของราชินีไฮเอลฟ์ ที่ ณ เวลานั้นยังเป็นเจ้าหญิงไฮเอลฟ์อยู่ที่พระราชวังหลวง ทั้งสองคนตกหลุมรักกันและหลังจากนั้นไม่นานก็แต่งงานกัน
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามอร์เดอน่าก็คอยยืนอยู่ในเงาของราชินี ลดบทบาทของตัวเองลงจนหายไปจากโลกภายนอก ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้เวลาก็ผ่านมา 30 ปีแล้ว แม้กระทั่งไฮเอลฟ์ในทุกๆวันนี้ก็ยังไม่ค่อยมีใครจดจำช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของมอร์เดอน่าได้เลย
แม้ว่าจะปลีกตัวไปอยู่อย่างสันโดษแต่มอร์เดอน่าก็ไม่เคยทอดทิ้งการฝึกเวทมนตร์ ไม่มีใครรู้ว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหน เพราะไม่มีใครเคยเห็นผลการฝึกซ้อมของเขาผ่านตาของตัวเองเลยในช่วง 30 ปีที่ผ่านมานี้
สิ่งเดียวที่ผู้คนสามารถสัมผัสได้จากเขาก็คือพลังที่อยู่ภายในร่างด้วยความที่เขาไปถึงเลเวล 11 แล้ว มอร์เดอน่าจึงมักจะซ่อนพลังของตัวเองเอาไว้ที่ส่วนลึกภายในร่าง ในตอนที่ได้เจอกับเขาตัวเป็นๆ นักเวทย์ธรรมดาจะรู้สึกประทับใจเหมือนกับได้พบมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ที่ทอดยาวไปจนถึงเส้นขอบฟ้า
ราชินีไม่ได้พยายามทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าสามีของเธอหลังจากที่สวมเสื้อคลุม เธอก็หันกลับมาและเอาศรีษะของเธอพิงที่หน้าอกของเขา เธอเริ่มจะร้องไห้ออกมาเบาๆ
มอร์เดอน่าลูบหลังของเธออย่างเงียบๆหลังจากนั้นเขาก็พูดปลอบใจ “ราชินี, ทุกอย่างจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี”
เขามองดอกไม้สีทองที่ค่อยๆลอยออกไปและกำลังจากพวกเขาไปไกลขึ้นเรื่อยๆทัศนวิสัยของเขานั้นดีกว่าราชินีไฮเอลฟ์ ที่ยังคงเป็นนักเวทย์เลเวล 9 อยู่ เขายังคงเห็นภาพลูกสาวของตัวเองกำลังกวัดแกว่งดาบอยู่บนดอกไม้
ในตอนที่มองภาพอันคุ้นเคยที่อยู่ไกลออกไปมอร์เดอน่าก็ถอนหายใจออกมา ความสงบที่เขาเฝ้ารักษามาตลอดหลายปีนั้นในที่สุดก็ถูกความกระหายเลือดที่พุ่งขึ้นมาในตัวเขาทำลายไม่เหลือซาก
เขาลดบทบาทของตัวเองลงเพื่อราชินีเป็นเวลาอย่างน้อย10 ปี โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเกาะรุ่งอรุณและมีสมาธิกับการฝึกเวทมนตร์ของเขา แต่ตอนนี้ เกาะรุ่งอรุณกำลังมีภัยคุกคาม แม้กระทั่งลูกสาวของเขาก็โดนฆ่า เขาไม่สามารถทนดูอยู่ข้างๆได้อีกต่อไปแล้ว
ราชินีไม่เคยรู้ว่าจริงๆแล้วสามีของเธอเป็นคนยังไงในฐานะบุคคล พวกเขารักกันและใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาวร่วมกันมานานภายใต้การกัดเซาะของเวลาอย่างช้าๆ ก่อนที่แอเรียลจะตาย ราชินีไม่ได้เห็นเขามาเกือบครึ่งปีแล้วและไม่รู้ด้วยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ในช่วงเวลานั้น
ทันใดนั้นเองราชินีก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างภายในตัวเขาเพราะเธอกำลังซบเขาอยู่ เธอตัวสั่นและเงยหน้าขึ้นมองมอร์เดอน่า “นี่คุณ”
เธอสัมผัสได้ถึงความกระหายเลือดของเขา
“องค์ราชินีข้าเป็นพ่อของแอเรียล ข้าจะต้องทำสิ่งที่จำเป็น” มอร์เดอน่ากระซิบ
“แต่คุณสู้เขาไม่ไหวหรอก”   “เรื่องนั้นไม่ลองไม่รู้หรอก”มอร์เดอน่ายิ้มอ่อนๆ เขายื่นมือออกมา และด้วยความคิดของเขา รอยโค้งของอากาศที่สามารถรู้สึกได้ก็เกิดขึ้นบนมือของเขา “ข้าเองก็สามารถใช้เวทย์มิติได้เหมือนกันเหมือนกัน ส่วนเรื่องศิลปะการต่อสู้ ข้าเคยพเนจรไปทั่วเกาะในฐานะอัศวินพเนจรในตอนที่ข้ายังหนุ่ม ถ้าเป็นเรื่องฝีมือดาบ ไม่มีใครเทียบข้าได้ หรือว่าเจ้าจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว?”
“นี่คุณ”ราชินีรู้สึกเหมือนกับว่าเธอไม่รู้จักชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเลย
มอร์เดอน่าพูดอีกครั้ง“องค์ราชินี ตอนนี้เกาะรุ่งอรุณต้องการพลังของข้ามากกว่าครั้งไหนๆ ในตอนที่มันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากข้าแล้ว ข้าก็จะกลับไปยังที่ของข้าและอยู่ข้างหลังเจ้าอีกครั้ง”
ตามประเพณีของเกาะรุ่งอรุณนั้นพระราชาจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง มันเป็นแบบนี้มานานกว่า 10,000 ปีแล้วไอลีนโนเวล
ผู้อาวุโสที่อยู่ด้านหลังราชินีได้ยินสิ่งที่มอร์เดอน่าพูดออกมาถ้าเกิดว่ามันเป็นภายใต้สถานการณ์อื่นๆ พวกเขาก็คงจะเป็นกลุ่มแรกที่โต้แย้ง แต่ตอนนี้ ไฮเอลฟ์กำลังประสบกับปัญหาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต พวกผู้อาวุโสจึงไม่พูดอะไร มีบางคนพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในท้ายที่สุด พวกเขาก็ทำได้แค่ถอนหายใจออกมา
มอร์เดอน่านั้นมาจากจุดเริ่มต้นที่ต่ำต้อยแต่ตอนนี้ เขามีพลังที่เกาะรุ่งอรุณต้องการเป็นอย่างมาก ในตอนที่เขาทำสิ่งที่ต้องทำเสร็จสิ้นแล้ว ทุกอย่างก็ยังคงสามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ นอกจากนี้การแหกกฎโบราณครั้งสองครั้งก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ราชินีเองก็มีความคิดแบบเดียวกัน เธอถอนหายใจและสัมผัสใบหน้าของมอร์เดอน่า “มันช่างยาวนานจริงๆ แต่เจ้าไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ข้ายอมอนุญาตในเรื่องนี้ แต่ระวังตัวด้วยนะที่รัก ถ้าต้องเสียเจ้าไปอีกคนข้าคงรับไม่ไหว”
ในตอนที่ราชินีพูดจบทุกอย่างก็ลงตัว  มอร์เดอน่าพยักหน้า“ข้าจะไม่ประเมินศัตรูต่ำหรือสูงเกินไปหรอก และข้าจะไม่พยายามเผชิญหน้ากับเขาตรงๆด้วย ข้าจะทำทุกอย่างที่ช่วยให้เหล่าเอลฟ์รวมตัวกันได้ง่ายขึ้น” การรวมตัวเหล่าเอลฟ์นั้นเป็นแผนการบางอย่างของผู้อาวุโสไฮเอลฟ์ที่มีขึ้นหลังจากการตายของแอเรียล
ไฮเอลฟ์กับดาร์คเอลฟ์มีตัวตนอยู่ในทวีปฟิรุแมนมาเป็นเวลานานแล้วและเมื่อ 3,000 ปีก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติมานานั้น ทั้งสองชนเผ่าก็เคยเป็นหนึ่งเดียวกัน ความจริงที่ว่าทั้งสองชนเผ่านั้นมีบรรพบุรุษร่วมกันเป็นเหตุผลที่มากพอจะทำให้พวกเขาร่วมมือกันในช่วงเวลานี้
ด้วยสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้เกาะรุ่งอรุณไม่สามารถกดเฟิร์ดไว้ใต้เท้าโดยไม่เสี่ยงที่จะโดนตอบโต้ได้อีกแล้ว พวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากภายนอก
และการช่วยเหลือจากภายนอกนั้นก็คือกองทัพของเทพแห่งการทำลายทางตอนเหนือ
นี่คือการพยายามเพื่อรักษาความสมดุลของเกาะรุ่งอรุณที่พวกเขาทุ่มเทมาอย่างหนักในช่วงเวลา3,000 ปีมานี้ ไม่กี่ปีก่อน ไฮเอลฟ์ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับมนุษย์เพื่อต้านทานกองกำลังแห่งความมืด แต่ตอนนี้ พวกเขาถูกบังคับให้ต้องเข้าร่วมกับกองทัพของเทพแห่งการทำลายเพื่อกดมนุษย์ให้ลงไป
ถ้าเกิดว่าพันธมิตรของพวกเขามีทีท่าว่าจะกวาดล้างมนุษย์และคิดจะทำลายความสมดุลอีกครั้งไฮเอลฟ์ก็แค่ต้องสลับฝั่งอีกครั้ง
ยังไงก็ตามครั้งนี้ เหตุการณ์มันต่างกัน ศัตรูที่เกาะรุ่งอรุณกำลังเผชิญอยู่นั้นมีพลังอันมหาศาล ซึ่งผลก็คือ ไฮเอลฟ์ถูกบังคับให้ต้องรับมือกับภัยคุกคามนี้
ราชินีไฮเอลฟ์พูดด้วยเสียงต่ำ“ไม่ได้นะ การรวบรวมเหล่าเอลฟ์ในตอนนี้มันอันตรายเกินไป ข้าจะทิ้งเรื่องนี้ให้ไบรอันจัดการ และอีกอย่างนึง นี่เป็นแค่การแก้ปัญญาชั่วคราวของพวกเราเท่านั้น เกาะรุ่งอรุณยังคงต้องการพลังที่จะพาไปถึงจุดจบ ข้าต้องการให้เจ้าทำการรวมภพ”
การรวมภพนั้นเป็นอีกแผนการหนึ่งที่พวกผู้อาวุโสเสนอขึ้นมา
ในตอนที่ทั้งสองภพฟิรุแมนและอารากู่รวมกัน โดยที่มีมิลด้าเป็นศูนย์กลาง เกาะรุ่งอรุณก็จะสามารถเสริมความแข็งแกร่งของกองทัพได้ด้วยเอลฟ์จำนวนมากที่อาศัยอยู่ในภพอารากู่
ถ้าเกิดว่าพวกเขาสามารถรวมทั้งสองภพเข้าด้วยกันได้มนุษย์ก็จะสูญเสียข้อได้เปรียบที่ว่าพวกเขามีจำนวนมากกว่าไฮเอลฟ์ และไฮเอลฟ์ก็จะสามารถสู้กับมนุษย์ได้อย่างสุดความสามารถด้วยความเท่าเทียมกัน
ในตอนที่ได้ฟังราชินีพูดมอร์เดอน่าก็ขมวดคิ้ว
“ลิงค์เป็นคนให้พิกัดภพอารากู่กับพวกเราดังนั้นถ้าเขารู้พิกัดอยู่แล้ว เขาจะต้องวางแผนตอบโต้กับใครก็ตามที่พยายามจะใช้มันแน่ การสร้างประตูมิติมันอันตรายเกินไป”
“ข้ารู้และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำไมข้าถึงฝากให้เจ้าจัดการเรื่องนี้ ที่รัก ลูกสาวของพวกเรามิลด้ายังติดอยู่ที่ภพอารากู่อยู่เลยนะ”
มอร์เดอน่าถูกกระตุ้นด้วยชื่อนี้เขาพยักหน้า “ข้าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อสร้างประตูมิติขึ้นมา” ด้วยความที่เขาออกห่างจากเรื่องการเมืองของไฮเอลฟ์ไปนาน มอร์เดอน่าจึงไม่ค่อยเข้าใจความคิดในเรื่องการรวมมิติซักเท่าไหร่ เขาคิดเอาเองว่ามันคือการสร้างประตูมิติ แต่ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น
“ไม่ไม่ใช่ประตูมิติ เจ้าจะต้องทำการรวมทั้งสองภพเข้าด้วยกันอีกครั้ง!”
มอร์เดอน่าตกตะลึง“เป็นไปไม่ได้หรอก การรวมภพทั้งสองเข้าด้วยกันจะต้องใช้แหล่งพลังงานที่เป็นอนันต์!”
“อย่าลืมสิพวกเรามีต้นไม้โลกอยู่ข้างเรานะ” ราชินีไฮเอลฟ์พูด
“ก็ได้ข้าจะทำตามที่เจ้าขอ!” มอร์เดอน่าพยักหน้า และถอนหายใจยาวออกมา

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG

มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น

“ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?”

ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์

“จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ

“ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี”

และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท