ทุ่งหญ้า
ทั้งสี่คนรีบมุ่งหน้าไปที่เมืองมาร่า
อีโลแวนกับมิโรสอยู่ข้างหน้าลิงค์กับอวตาร์อยู่ข้างหลังพวกเขา ลิงค์ไม่ได้ถืออะไรอยู่ในมือในขณะที่อวตาร์ถือรูปปั้นของแอเรียลกับคาทูช่าเอาไว้คนละข้างในขณะที่เดินข้างๆลิงค์
ทั้งสี่คนเร็วมากสามนาทีต่อมา, พวกเขาก็มายืนอยู่เบื้องหน้ากำแพงดินที่แข็งแกร่งของเมืองมาร่า ที่นี่, ลิงค์บอกกับไฮเอลฟ์สองคน “เริ่มกันเถอะ”
ตอนนี้ไฮเอลฟ์กลัวลิงค์อยู่,ดังนั้นพวกเขาก็เลยเชื่อฟังมากๆ ในเมื่อลิงค์อยากให้พวกเขาล้างพิษ, พวกเขาจึงเริ่มร่ายเวทย์ในทันที พวกเขามีหน้าที่ในการสร้างพิษ, ดังนั้นพวกเขาก็เลยเชี่ยวชาญมากกว่าลิงค์
ไฮเอลฟ์ระดับตำนานทั้งสองคนได้ปล่อยเวทย์หมอกออกมาปกคลุมทั้งเมืองพร้อมกันแสงของเวทมนตร์นี้กวาดไปทั่วเมืองมาร่าเหมือนกับไม้กวาดและรักษามนุษย์สัตว์ทั้งหมดที่อยู่ภายในเมือง แม้กระทั่งคนที่ติดพิษหนักมากจนเป็นบ้าไปแล้วก็ยังได้รับการรักษาจนหายดีเช่นกัน ผลข้างเคียงเพียงอย่างเดียวก็คือพวกเขาจะอ่อนแอและต้องการการพักผ่อนในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
มนุษย์สัตว์ที่พึ่งติดพิษพากันเงยหน้าขึ้นแล้วยืนขึ้นมาแบบงงๆพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากผ่านไปซักพัก เสียงร้องด้วยความตกใจก็ดังไปทั่ว พูดให้ชัดกว่านี้ก็คือ ผู้คนต่างพากันนั้นตกใจกลัวศพที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น
แต่ก็แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย
เมื่อเห็นว่าไม่มีปัญหาใหญ่อะไรอวาตาร์ก็พูดอย่างเร่งเร้า “มีผู้คนหนีออกไปนอกเมืองอยู่หลายคน พวกเราต้องไปรักษาพวกเขาด้วย” อีโลแวนกับมิโรสพยักหน้าพลังธรรมชาติไหลผ่านตัวพวกเขา พวกเขากำลังจะกลายเป็นแสงและบินออกไปรักษาพิษ
พอเห็นว่าพวกเขากำลังจะออกไปอวาตาร์ก็เตือนพวกเขา “อย่าคิดที่จะหนีหล่ะ เจ้าหญิงแอเรียลของพวกเจ้ายังอยู่กับพวกข้า”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ลิงค์ก็ยิ้มออกมา เขาชี้ไปที่ทั้งสองคนและมีจุดแสงเล็กๆฝังเข้าไปในตัวพวกเขา
“จำเอาไว้นะ”เขาพูด “นี่เป็นคำสาป”
ไฮเอลฟ์ทั้งสองคนตัวสั่นโดยอัตโนมัติหลังจากนั้น โดยที่ไม่ส่งเสียง พวกเขาก็แปลงร่างเป็นแสงสีเขียวและแยกกันออกไปตามหาเหยื่อที่ต้องการความช่วยเหลือ
อวาตาร์มองพวกเขาออกไปจากกำแพงเมือง“ท่านมีแผนจะทำอะไรกับพวกมันหรอครับ?” เขาถามลิงค์
“หมายความว่ายังไง?”ลิงค์ถามกลับ
“แน่นอนว่าข้าอยากจะฆ่าพวกมันทีละคนพวกมันน่ารังเกียจ โดยเฉพาะไฮเอลฟ์ 3 คนนั่น ข้าหวังว่า ข้าจะได้สับพวกมันแล้วเอาไปให้หมากินซะ!” อวาตาร์โกรธ แต่หลังจากที่เขาพูดจบน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป และมองมาที่ลิงค์ “แต่ถึงยังไง ท่านมีส่วนช่วยในการจับไอ้พวกนั้นมากกว่า ดังนั้นข้าให้ท่านตัดสินใจได้เลยว่าจะลงโทษเชลยพวกนี้ยังไง ข้าจะเห็นด้วยกับทุกอย่าง แต่เพื่อความเหมาะสม ท่านก็ควรชดเชยให้ข้าอย่างเท่าเทียมเหมือนกันนะ”
มันจะเท่าเทียมอย่างแน่นอนลิงค์เห็นด้วยอย่างถึงที่สุด เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าจะเอาแบบนั้น ฉันขอทั้งสี่คนเลยแล้วกัน พวกเขามีความสำคัญมากในการใช้ต่อรองกับเกาะรุ่งอรุณ”
การฆ่าพวกเขาตรงนี้เลยจะทำให้รู้สึกสะใจก็จริงแต่นอกจากการทำให้เขาหายโกรธแล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์อย่างอื่นเลย ในฐานะลอร์ด เขาไม่สามารถเลือกตัวเลือกนี้ได้
ถ้าทั้งสี่คนนี้ยังมีชีวิตอยู่เฟิร์ดก็จะได้เปรียบอย่างมากในการจับพวกเขาเป็นตัวประกันหรือใช้พวกเขาในการแลกเปลี่ยนกับเกาะรุ่งอรุณ
ด้วยความคิดนั้นลิงค์ก็มองไปที่อวาตาร์และถาม “แล้ว องค์ราชา นายอยากจะได้อะไรจากฉันล่ะ?”
อวาตาร์ตกอยู่ในห้วงความคิด
ก่อนหน้านี้เขารู้อยู่แล้วว่าเวทมนตร์นั้นทรงพลัง แต่เขาก็มักจะคิดเสมอว่ามนุษย์สัตว์มีแค่หมอผีก็พอแล้ว เขาคิดว่าพวกเขาสามารถสู้กับนักเวทย์ได้ แต่ว่าหลังจากที่ได้เผชิญกับเหตุการณ์ในวันนี้ เขาก็ตระหนักได้แล้วว่าในตอนที่เวทมนตร์ไปถึงจุดๆหนึ่ง พวกหมอผีก็จะไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
เวทย์ศักดิ์สิทธิ์นั้นทรงพลังแต่พวกเขาก็ยังอ่อนแออยู่ พวกเขาไม่สามารถสู้กับพวกที่แข็งแกร่งจริงๆได้ และด้วยเหตุนั้นเอง อวาตาร์จึงค้นพบความจริงที่ว่ามนุษย์สัตว์จำเป็นต้องมีเวทมนตร์
พอคิดได้เช่นนี้อวาตาร์ก็พูด “เผ่าของข้าจำเป็นต้องมีนักเวทย์มนุษย์สัตว์ นักเวทย์ที่เป็นของพวกเราจริงๆ แต่ว่าเจ้าก็น่าจะรู้อยู่แล้วสินะว่าเผ่าของพวกเรานั้นไม่มีพื้นฐานด้านเวทมนตร์เลย ดังนั้นข้าก็เลยอยากให้เฟิร์ดจัดหาคนมาสอนให้กับพวกเรา”
“อืมม”ลิงค์มองอวาตาร์ด้วยสายตาแปลกๆ “การเรียนเวทมนตร์เป็นเรื่องที่ยากมาก ถ้านายอยากให้มันมีประสิทธิภาพ มันก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี ซึ่งในระหว่างนั้น ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับการเรียนเวทมนตร์จะอยู่ที่ประมาณ 5,000 เหรียญทองต่อคน”
อวาตาร์ยักไหล่“ข้าต้องการฝึกนักเวทย์มนุษย์สัตว์อย่างน้อย 200 คน ข้าจะทำตามที่ท่านว่าแล้วให้พวกเขาเรียนเป็นเวลา 5 ปี สำหรับค่าเล่าเรียนนั้น พวกเราไม่มีเงิน ข้าจะขอจ่ายด้วยผลประโยชน์ที่ข้าได้ในครั้งนี้ก็ละกันนะครับ”
ลิงค์หัวเราะแหยงๆ“นั่นมันเงินหนึ่งล้านเหรียญทองเลยนะ องค์ราชา นายขอเยอะเกินไปแล้วฉันสามารถฝึกให้ได้แค่ 100 คนเท่านั้นไม่มีมากกว่านี้”
“มาสเตอร์ครั้งนี้ท่านได้นักสู้ระดับตำนานไปตั้ง 4 คนเลยนะ” อวาตาร์เรียกร้อง “นี่ไม่ใช่สิ่งที่ท่านจะใช้เงินซื้อได้ 200 คนไม่มีมากหรือน้อยไปกว่านี้ และจะไม่มีการต่อรองอีกแล้ว”
ลิงค์คิดหนักและต่อรองอีกเล็กน้อย“ถ้างั้น เลิกคุยเรื่องจำนวนที่แน่นอนของนักเวทย์ฝึกหัดและมาคุยกันแค่เรื่องค่าใช้จ่ายอย่างเดียวดีกว่า ในเวลา 5 ปี ฉันจะทำให้แน่ใจว่าเงินหนึ่งล้านเหรียญทองนี้จะถูกใช้สำหรับนักเวทย์มนุษย์สัตว์ฝึกหัดจริงๆ จนกว่าเงินตรงนี้จะหมด ส่วนเรื่องจำนวนนักเรียนที่คุณอยากจะส่งมานั้น คุณสามารถเลือกได้เลย”
ข้อเสนอนี้ไม่ได้เลวร้ายอะไรอวาตาร์คำนวณอยู่ในใจและคิดว่ามันเพียงพอแล้ว ด้วยวิธีนี้ เขาสามารถส่งมนุษย์สัตว์ที่มีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์ไปที่เฟิร์ดได้ เขาสามารถใช้เงินเยอะๆกับคนที่มีพรสวรรค์สูงและใช้น้อยลงกับคนที่ด้อยลงมาได้ เงินทุนของเผ่าเขานั้นไม่ได้น้อยจนถึงขั้นไม่มีใช้ ถ้าเกิดว่าหนึ่งล้านเหรียญถูกใช้หมดแล้ว เขายังสามารถจ่ายได้อีกสองสามพันเหรียญ และหลังจากนั้น เขาก็จะใช้เงินของเขาเองในการช่วยเหลือคนที่มีพรสวรรค์มากจริงๆ
หลังจากผ่านไปไม่กี่ปีชนเผ่าของเขาก็จะมีนักเวทย์เป็นของตัวเอง มันคงจะไม่เยอะมากในตอนแรก แต่ในเมื่อเมล็ดถูกปลูกลงไปแล้ว มันก็จะเติบโตขึ้นมาเองตามธรรมชาติ
พอคิดได้เช่นนี้อวาตาร์ก็เห็นด้วยกับข้อเสนอของลิงค์ แต่ในเมื่อพวกเขากำลังคุยต่อรองกันอยู่ เขาจึงคิดจะขอเพิ่มอีก “หนึ่งล้านไม่พอหรอก อย่างน้อยต้อง 1.5 ล้าน” ไอลีนโนเวล
“1.1ล้านไม่มีมากไปกว่านี้” เงินหนึ่งแสนเหรียญทองตรงนี้สามารถทำให้ประชากรอื่นอิ่มไปได้หลายเดือน เห็นได้ชัดว่าลิงค์อยากให้น้อยที่สุดเท่าที่เขาจะให้ได้
“1.4ล้าน ถ้าน้อยไปกว่านี้ข้าจะไม่ตกลง!” อวาตาร์ต่อรองอีกเล็กน้อย เขาไม่ได้โง่ “1.15”
“1.3.”
“1.15.”
“1.25…นี่ท่านกำลังเอาเปรียบข้าอยู่นะ”
“โอเคงั้น1.25 ล้าน”
“1.3!”อวาตาร์ส่งเสียงฮึดอัด
“ก็ได้ๆ”ลิงค์ยอมรับ “งั้นเจอกันครึ่งทางแล้วกัน 1.27 เป็นไง?”
อวาตาร์ยังรู้สึกขัดใจแต่ถ้าพวกเขายังเถียงกันต่อไป มันคงจะต่างจากเดิมไม่กี่พันเหรียญ มนุษย์สัตว์เป็นพวกหยาบกระด้างโดยสันดานอยู่แล้ว และเขาก็ขี้เกียจจะเถียงไปมากกว่านี้ “มาสเตอร์ เอาเป็น 1.27 ล้านก็ได้ แต่พูดตามตรงนะ, ข้าคิดว่าท่านขี้งกกว่าพวกพ่อค้าหน้าเลือดอีกนะเนี่ย”
ลิงค์หัวเราะดังลั่น“โอเค หลังจากที่ฉันกลับไปที่เฟิร์ด ฉันจะส่งนักเวทย์มาเลือกคนหนุ่มสาวที่มีพรสวรรค์และพากลับไปที่เฟิร์ด ส่วนเรื่องค่าเดินทางนั้นเฟิร์ดจะออกให้เองนายคิดว่ายังไงหล่ะ?”
“ถ้าได้แบบนั้นก็ช่วยได้มากเลยครับว่าแต่ผู้ใหญ่ไม่สามารถไปเรียนได้หรอครับ?” อวาตาร์ไม่อยากจะส่งเด็กๆไป พวกเขายังไม่ได้รับการพัฒนาด้านบุคลิคภาพ ถ้าเกิดว่าพวกเขาไปอยู่ที่เฟิร์ดนานเกินไป พวกเขาอาจจะไม่อยากกลับมาได้
ลิงค์หัวเราะแล้วยักไหล่“เอาจริงๆผู้ใหญ่ก็ได้หล่ะ แต่ว่าร่างกายของพวกเขาได้รับการฝึกฝนไปแล้ว ซึ่งมันจะทำให้ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการฝึกฝนเวทย์ในหลายๆด้าน และจิตใจของพวกเขาก็ถูกปลูกฝังไปแล้วด้วยก็เลยจะทำให้ขาดความคิดสร้างสรรค์ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเรียนเวทมนตร์ได้ แต่พวกเขาก็อาจจะเรียนไม่สำเร็จ องค์ราชา ถ้านายกลัวว่าเด็กๆจะลืมทุ่งหญ้าแห่งนี้ไปหล่ะก็ นายจะส่งนักรบมาสอนประเพณีให้กับพวกเขาก็ได้นะ”
เขาเป็นคนมีเหตุผลอวาตาร์คิดหนักและไม่สามารถหาข้อโต้แย้งได้เลย และในที่สุดเขาก็พยักหน้า “ก็ได้ ถือว่าเป็นอันตกลง”
พอตกลงกันได้แล้วตอนนี้ตัวประกันระดับตำนานทั้งสี่คนก็ตกเป็นของลิงค์
หลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกันเรื่องการตั้งพันธมิตรและเริ่มการต่อรองกันอีกครั้งในที่สุด อวาตาร์ก็ยอมตกลงเอาทหารระดับสูง 100,000 คนไปทางเหนือ ซึ่งข้อแลกเปลี่ยนก็คือมนุษย์จะต้องจัดหาอาหารที่จำเป็นและจัดเตรียมอุปกรณ์ 10,000 ชุดที่เหมือนกับอุปกรณ์ที่ทหารอย่างเป็นทางการของนอร์ตันมี
มันเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากทางฝั่งมนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัยเลยแต่พวกเขาต้องการพลังของมนุษย์สัตว์จริงๆ ลิงค์กัดฟันและยอมรับเงื่อนไข
หลังจากพูดคุยกันเสร็จแล้วพวกเขาทั้งคู่ก็อยู่ที่กำแพงเมืองต่ออีก 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นอีโลแวนกับมิโรสก็กลับมาอย่างรวดเร็ว
“เป็นยังไงบ้าง?”ลิงค์ถาม อีโลแวนตอบอย่างรวดเร็ว“ทุกคนได้รับการรักษาแล้ว แม่น้ำเองก็ถูกชำระล้างให้สะอาด จะไม่มีใครติดพิษได้อีกต่อไปแล้ว”
อวาตาร์จ้อง“แล้วถ้ามีคนติดอีกหล่ะ?”
อีโลแวนรีบควักขวดยาสีแดงเข้มอันใหญ่ออกมามันมีประมาณ 1 ลิตร “องค์ราชา นี่คือยาแก้พิษ ท่านแค่หยดมันลงในน้ำสะอาดให้คนที่ติดพิษกิน จากนั้นพวกเขาก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง”
อวาตาร์รับยามาเขารู้สึกพึงพอใจ และเขาก็ชี้ไปที่ลิงค์ “โอเค ข้าหมดเรื่องกับพวกเจ้าแล้ว ตอนนี้พวกเจ้าสองคนเป็นเชลยของลอร์ดเฟิร์ด เขาจะลงโทษพวกเจ้าเอง”
พอได้ยินแบบนี้อีโลแวนกับมิโรสก็โล่งใจมันเป็นข่าวดีมากๆ มนุษย์สัตว์นั้นป่าเถื่อนและไร้เหตุผลมากเกินไป การทำข้อตกลงกับลิงค์นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า เท่าที่พวกเขารู้มา ลิงค์ไม่ใช่พวกที่ชอบทรมานเชลย ถ้าเกิดว่าพวกเขาถูกพาไปที่เฟิร์ด พวกเขาก็จะได้อยู่ดีกินดี หลังจากนั้นในตอนที่เกาะรุ่งอรุณรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว พวกเขาก็จะเข้ามาช่วยเหลือ
พวกเขาจะสามารถหนีไปจากสถานที่แห่งนี้ได้
ทั้งสองคนรีบไปอยู่ฝั่งลิงค์ในทันทีและพยายามถอยห่างจากอวาตาร์
อวาตาร์มองพวกเขาอย่างดูถูกและพูดเยาะเย้ย“ไอ้พวกลูกแกะที่ไม่รู้จักโต พวกเจ้าโชคดีมากเลยนะที่ยังมีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอนนี้!”
หลังจากนั้นเขาก็พูดกับลิงค์ “มาสเตอร์ ข้าขอตัวไปจัดเตรียมทหารให้ท่านก่อนนะ”
“เชิญเลยฉันเองก็ต้องกลับไปที่เฟิร์ดเหมือนกัน ฝากทักทายโฮลุนแทนฉันด้วยนะ” ลิงค์ยิ้ม โฮลุนเองก็เป็นขุนศึก แต่เขามีนิสัยตรงไปตรงมาและคุยด้วยง่ายกว่าอวาตาร์
อวาตาร์รู้สึกได้ว่าลิงค์มีความสุขมากกว่าในตอนที่พูดถึงโฮลุน“เดี๋ยวข้าบอกให้ เขาเองก็ชอบพูดถึงท่านอยู่บ่อยๆ”
ลิงค์พยักหน้าแสงสีขาวปรากฏขึ้นรอบตัวเขา ภายใต้แสงสีขาวนี้ ลิงค์ ไฮเอลฟ์ทั้งสองคน และรูปปั้นทั้ง 2 ก็หายไปพร้อมกัน พริยตาต่อมา ทั้งห้าคนก็ปรากฏตัวขึ้นที่ระยะไกลออกไปหลายหมื่นไมล์
ที่ตรงนี้สีหน้าของลิงค์ก็จริงจังขึ้น เขาเดาะลิ้นแล้วพูดเยาะเย้ย เขามองไปที่อีโลแวนกับมิโรส “สุภาพบุรุษทั้งหลาย พวกนายคิดว่าจะได้กลับไปที่เกาะรุ่งอรุณใช่มั้ยหล่ะ?”
Advent of the Archmage – 566: คิดว่าปลอดภัยแล้วรึไง
566: คิดว่าปลอดภัยแล้วรึไง
Posted by ? Views, Released on กันยายน 13, 2022
, Advent of the Archmage
ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG
มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น
“ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?”
ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์
“จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ
“ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี”
และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน