Advent of the Archmage – 593: ช่วงเวลาแห่งการทดสอบจิตใจ

Chapter
ภายใต้แสงจันทร์,มียอดภูเขาหิมะตั้งตระหง่านอยู่ลางๆ
ที่ตีนภูเขามีคน 6 คนปรากฏตัวขึ้น ได้แก่, ลิงค์ นักเวทย์แห่งความมืดยูจิน นักเวทย์แห่งแสงฮาลิโน่ เอเลียร์ด นานะ แล้วก็นักรบคนนึงที่สวมชุดเกราะขาดๆสีแดงพร้อมกับดาบโค้งหนึ่งเล่ม
ไม่สิมีลำแสงปรากฏขึ้นอีกจุดนึงที่ระยะประมาณ 1,500 ฟุตจากทางซ้ายของลิงค์ หลังจากที่แสงหายไป มันก็เผยให้เห็นราชินีมังกรแดงเกรเทล
สรุปก็คือมีทั้งหมด7 คน
เกรเทลนั้นดูเหมือนว่าจะมีสภาพไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่เธอมีบาดแผลเต็มตัว และชุดเดรสสีแดงเพลิงของเธอก็ขาดเล็กน้อย หลังจากที่เธอปรากฏตัวขึ้น พลังสีแดงสดใสก็พุ่งออกมา และบาดแผลของเธอก็เริ่มรักษาด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แม้กระทั่งชุดของเธอก็ได้รับการซ่อมแซมด้วย
ในตอนที่เห็นลิงค์เธอก็ตกใจและเบือนหน้าหนีเธอไม่ได้พูดอะไรออกมา
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครปรากฏตัวขึ้นอีกแล้วมิโรสไม่ได้มา ลิงค์คิดว่าเขาน่าจะไม่ผ่านการทดสอบ ตอนนี้ชิ้นส่วนหนังสือแห่งการรังสรรค์อยู่ไม่ไกลจากทั้ง 7 คน
เกรเทลอยู่ห่างจากลิงค์1,500 ฟุตทางฝั่งซ้าย นักเวทย์แห่งความมืดยูจีนอยู่ทางขวาของเขา ถัดจากนั้นก็มีนักเวทย์แห่งแสง นักรบ และท้ายที่สุดก็คือเอเลียร์ดและนานะ
ตำแหน่งของลิงค์นั้นเสียเปรียบมากๆเขาอยู่ตรงกลางระหว่างคนนอก 3 คน
สมบัติอยู่ตรงหน้าพวกเขาและสถานการณ์ก็ไม่แน่นอน ดังนั้นทุกคนจึงตื่นตัวเต็มที่ ไม่มีใครอยากจะออกไปก่อน
อย่างไรก็ตาม,สภาพนี้อยู่ได้ไม่นานนัก นักเวทย์แห่งแสงฮาลิโน่พูดออกมาเป็นคนแรก“ลอร์ดเฟิร์ด ชิ้นส่วนนั้นไม่มีประโยชน์สำหรับท่านหรอก…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบก็มีเสียงดังออกมาจากภูเขาอีกครั้งนึง “สวัสดี, เหล่าคนหนุ่มสาวทั้งหลาย ข้ามีความสุขมากที่พวกเจ้าทุกคนผ่านการทดสอบได้ เหตุผลที่พวกเจ้าได้มายืนอยู่ตรงนี้ก็พวกเจ้าทุกคนมีความสามารถที่คนอื่นไม่มี มันอาจจะเป็นพลัง, ความรู้, สายเลือดหรือแม้กระทั่งโชคล้วนๆก็ได้ พวกเจ้าทุกคนล้วนเป็นอัจฉริยะชั้นนำของยุคนี้ ตอนนี้ พวกเจ้าทุกคนมาเพื่อเอาชิ้นส่วนของหนังสือแห่งการรังสรรค์ แต่ช่างน่าเสียดาย ที่มันมีแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น ซึ่งก็หมายความว่าจะมีแค่คนเดียวที่ได้รับมันไป”
“เจ้าเป็นใคร?” ยูจีนพูดขึ้นมา
“ข้าเหรอ?ข้าเป็นเพียงเศษเสี้ยววิญญาณที่เหลืออยู่จากอดีตกาล ข้าเป็นผู้พิทักษ์ความรู้ของราชันย์ในอดีต”
“ชิ้นส่วนนี้มันมีประโยชน์อะไรกันแน่?”ยูจีนถามอีกครั้ง　　“ประโยชน์หรอ?เจ้ามาที่นี่ก็เพราะรู้อยู่แล้วไม่ใช่รึไง? มันคือกุญแจที่จะเปิดใช้พลังของต้นไม้โลก และด้วยความที่มันเป็นชิ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุด มันจึงประกอบไปด้วยรูนแห่งการรังสรรค์ของหนังสือมากกว่า 50% ด้วยสิ่งนี้ เจ้าจะสามารถควบคุมต้นไม้โลกและกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในภพนี้ เจ้าจะสามารถปกครองชีวิตทั้งหลายในฟิรุแมนได้”
ควบคุมต้นไม้โลกหรอ?แล้วก็ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่สามารถปกครองคนอื่นได้อีก?
นอกจากนานะแล้วทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็ลืมหายใจไปชั่วขณะ แม้กระทั่งลิงค์ก็ใจเต้นแรงกับสิ่งนี้
ลิงค์ไม่ได้อยากได้พลังอันไร้ขีดจำกัดที่สามารถปกครองได้ทุกชีวิตที่หัวใจของเขาเต้นแรงนั้นเป็นเพราะความสามารถที่ชิ้นส่วนนี้ทำได้ มันสามารถช่วยให้คนๆนึงกลายเป็นผู้ปกครองสูงสุดและควมคุมโชคชะตาของคนมากมายได้ ความจริงที่ว่ามันมีตัวตนอยู่นั้นก็ทำให้น่ากลัวแล้ว
ลองคิดดูสิถ้ามีคนได้มันไปและพวกเขาสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างที่ผู้พิทักษ์พูด ถ้าเป็นแบบนั้น ลิงค์ คนรักของเขา และเพื่อนๆของเขาก็จะถูกปกครองโดยคนๆนั้น และถ้าเกิดว่าเขาไม่ชอบสถาบันเวทมนตร์ใหม่ที่เขาก่อตั้งขึ้นที่เฟิร์ด เขาก็สามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดาย
ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของเขาในชั่วพริบตาลิงค์พบว่าเขามีแต่จะต้องต่อสู้เพื่อชิงชิ้นส่วนนี้มาให้ได้เท่านั้น
ลิงค์ไม่ได้ลดการป้องกันลงในตอนที่เขาคิดเขาคอยสังเกตคนอื่นที่อยู่รอบตัวเขาด้วยหางตา โดยเฉพาะยูจีน
นอกจากนี้เขายังถามวิญญาณดาบในใจด้วยชิ้นส่วนนี้ทรงพลังขนาดนั้นเลยหรอ? Aileen-novel
ถ้าเป็นในอดีตก็คงไม่ขนาดนั้นหรอกเพราะลอร์ดเลเวล 19 ยังรวมพลังเอาชนะผู้ปกครองได้ แต่ตอนนี้, แทบจะไม่มีผู้แข็งแกร่งอยู่เลย บางทีมันอาจจะจริงก็ได้มั้ง? 　　วิญญาณดาบพูดมีเหตุผล
ในตอนนั้นเองลิงค์ก็เห็นข้อความที่อยู่ๆก็เด้งขึ้นมาในทัศน์วิสัยของเขา เขาตรวจดูและพบว่ามันมาจากระบบเกม
เปิดใช้งานภารกิจ:ชิ้นส่วนที่ไม่ควรมีอยู่
เนื้อหาภารกิจ:ชิ้นส่วนของหนังสือแห่งการรังสรรค์นั้นทรงพลังเกินไป การมีอยู่ของมันมีแต่จะทำให้ภพฟิรุแมนเข้าสู่อันตรายมากขึ้น จงทำลายมันซะจะได้ไม่มีราชันคนใหม่ถือกำเนิดขึ้นบนโลก
รางวัลภารกิจ1: มงกุฎดวงดาวสุกสกาว (เลเวล19)
รางวัลภารกิจ2: ค่าโอมนิ 1,000 แต้ม
บทลงโทษสำหรับความล้มเหลว:คำสาปแห่งแสง
คำสาปแห่งแสง
เทคนิคระดับเทพเจ้า
ผล:การลงโทษของเทพแห่งแสง ผู้ที่ถูกสาปจะถูกเทพแห่งแสงผนึกพลังไปตลอดกาลและจะตายภายในเวลา 3 ปี
(หมายเหตุ:เทพเจ้าสามารถทำลายพลังของมนุษย์ได้ในทันทีและทำให้พวกเขาตกลงจากก้อนเมฆ เพื่อให้พวกเขาได้ลิ้มรสความสิ้นหวัง!)
ภารกิจนี้โหดร้ายมากลิงค์อ่านและเลิกสนใจมัน เขาไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาอีกต่อไปแล้ว เขารู้สิ่งที่ตัวเองจำเป็นต้องทำและไม่ต้องการให้ใครเข้ามายุ่ง ต่อให้เทพเอาอุปกรณ์เลเวล 19 มาล่อ เขาก็ยังไม่หวั่นไหว
ในตอนนี้เองราชินีมังกรแดงก็พูดกับทุกคนที่อยู่ที่นี่“ชิ้นส่วนนี้จะทำลายสมดุลย์พลังของโลกแห่งนี้อย่างรุนแรง ข้าไม่ต้องการให้ใครได้มันไป ดังนั้นข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อทำลายมัน! ถ้าข้าทำสำเร็จ โลกก็จะยังมีโชคอยู่ แต่ถ้าไม่ ข้าหวังว่าฟิรุแมนจะยังคงอยู่ต่อไปได้นะ!”
ในตอนที่เธอพูดแสงสีแดงเข้มก็ปรากฏขึ้นบนตัวเธอ มันกลายเป็นภาพมังกร ครึ่งวินาทีต่อมา เธอก็แปลงร่างเป็นมังกร　　พอได้ฟังแบบนี้นักเวทย์แห่งความมืดยูจีนก็ตะโกนออกมา “เกรเทล เจ้าเป็นบ้าอะไรกัน? เจ้าบอกว่าพวกเราจะใช้มันหยุดพวกไฮเอลฟ์ไม่ใช่หรอ? เจ้ามาเปลี่ยนใจแบบนี้ได้ยังไง?”
นักเวทย์แห่งแสงฮาลิโน่เองก็พูด“องค์ราชินีข้าเห็นด้วยกับท่านนะ แต่ว่ามาใช้มันหยุดพวกไฮเอลฟ์ก่อน จากนั้นค่อยทำลายมันจะดีกว่านะ”
ราชินีมังกรแดงส่ายหัวอย่างเด็ดขาด“ไม่ได้ ถ้าชิ้นส่วนนี้ไปถึงต้นไม้โลก คงไม่มีใครหยุดยั้งแรงดึงดูดจากมันได้หรอก เพราะฉะนั้น ข้าจะทำลายมันเดี๋ยวนี้!”
“ยัยบ้าเอ้ย!”ยูจีนตะโกน เปลวเพลิงสีดำพุ่งเข้าออกรอบตัวเขาในตอนที่เขาเปล่งเสียง
“ถึงไม่มีมันพวกเราทุกคนก็ตายอยู่ดีในตอนที่เกิดการรวมภพและระเบิดมานา”
“แล้วยังไงหล่ะ?ทุกชีวิตล้วนต้องดับสิ้น แต่ว่าภารกิจของชนเผ่าข้าในการรักษาสมดุลพลังนั้นเป็นงานชั่วนิรันดร์” เสียงของเกรเทลนิ่งมาก สายตาของเธอก็เช่นกัน เธอเห็นทุกอย่างในโลกมาแล้ว
ที่ระยะไกลออกไปนักรบเพลิงนรกฮามิลตันที่เห็นทุกอย่างได้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ช่างข่าขัน ช่างน่าขันเสียจริง พวกเจ้ายังไม่ได้ชิ้นส่วนมาเลย นี่พวกเจ้ามาแตกคอกันเองซะแล้วหรอ? มันจะต้องเป็นการแสดงที่สุดยอดแน่ๆเลย อย่ามองมาที่ข้าสิ ข้าเทียบกับพวกเจ้าไม่ได้หรอก พวกเจ้าเอามันไปได้เลยเพราะข้าจะหาทางออกจากที่นี่ ข้าได้เห็นมันแค่นี้ก็พอแล้ว”
หลังจากนั้นเขาก็หันหลังและเดินจากไปแม้กระทั่งออร่าของเขาก็หายไปด้วย เขาไม่อยากจะต่อสู้แล้วจริงๆ
ตอนนี้ก็เหลืออยู่แค่6 คน
เอเลียร์ดมองมาที่ลิงค์“เราจะเอายังไงกันดีหล่ะ?”
เขาไม่ได้สนใจในเรื่องการปกครองสำหรับเขา สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตคือการเรียนเวทมนตร์อย่างเงียบๆและใช้เวลากับคนที่เขารัก ซึ่งมันเกือบจะเป็นจริงแล้วในเฟิร์ด
ตอนนี้ชิ้นส่วนนี้เป็นภัยต่อชีวิตแสนสุขของเขา ความตั้งใจของเขาเหมือนกับราชินีมังกรแดง เขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อทำลายชิ้นส่วน ยังไงก็ตาม ถ้าลิงค์ต้องการมัน เขาก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเอามันมาให้ลิงค์ เขารู้ว่าโลกนี้ไม่ได้สวยงามอย่างที่เขาคิด เขาอาจจะไม่ต้องการมัน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่อยากได้มัน ดังนั้นการที่ลิงค์ได้ชิ้นส่วนไปนั้นดีกว่าการที่คนอื่นได้ไปอย่างแน่นอน
และในส่วนของนานะเธอจะทำอะไรก็ตามที่ลิงค์สั่ง
ฮาลิโน่มองมาที่ลิงค์และรีบพูด“ลอร์ดโมรานี่ อย่าลืมเรื่องแผนการบ้าๆของไฮเอลฟ์นะ ข้าเชื่อว่าทางเลือกที่ฉลาดที่สุดก็คือการเอาชิ้นส่วนมาหยุดพวกไฮเอลฟ์ จากนั้นค่อยทำลายมัน ถ้าท่านตกลงจะช่วยพวกเรา ข้าจะให้หินอวกาศจากคลังส่วนตัวของข้า 3 ชิ้นเป็นการตอบแทน”
หลังจากที่เขาพูดจบยูจินก็พูดเสริม “ลอร์ดโมรานี่ เจ้าเป็นคนมีเหตุผล แผนของฮาลิโน่ดีที่สุดแล้ว ถ้าเจ้าเห็นด้วย ข้าจะเพิ่มหินอวกาศให้อีก 3 ชิ้น”
ในอีกด้านนึงราชินีมังกรแดงไม่ได้พูดอะไร เธอแค่มองมาที่ลิงค์เฉยๆ เห็นได้ชัดว่าเธอจะทำลายชิ้นส่วนที่น่ากลัวนี้ได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับลิงค์ล้วนๆ
ซึ่งเขาก็มีแผนอยู่ในใจแล้วเขามองไปที่ชิ้นส่วนบนยอดเขาแล้วยิ้มออกมา “อันที่จริง ฉัน…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบก็มีแสงส่องมาอีกครั้ง ในตอนที่แสงหายไป คนแคระก็ปรากฏตัวขึ้น เขาคือนักปราชญ์แห่งขุนเขาฮีโรโตะ
มีตัวแปรเพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้ว