Chapter
ข้ายังไม่ได้ตัดสินใจบางทีข้าอาจจะออกไปจากฟิรุแมนหลังจากที่ซ่อมเรือท่องความว่างเปล่าเสร็จแล้ว พิอาสเซ่ยักไหล่จากนั้นก็ถอนหายใจ
อันที่จริงณ ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะทำอะไรดี เขาไม่ใช่ครูสอนวิญญาณอีกต่อไปแล้ว เขาเป็นแค่คนที่ถูกเนรเทศออกมาจากเผ่าของตัวเอง สิ่งเดียวที่อยู่ในใจของเขาก็คือการเอาชีวิตรอด
ลิงค์เคาะโต๊ะเบาๆพลางใช้ความคิดไปด้วยทันใดนั้นเอง เขาก็นึกอะไรบางอย่างออก คนของนายรู้รึเปล่าว่านายเป็นเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการบุกรุกของปีศาจในโอเมียร์?
ทุกคนรู้เรื่องนี้ครับนี่เป็นเหตุผลที่ทำไมทุกคนถึงเกลียดข้า และเป็นเหตุผลที่ทำไมทุกคนถึงอยากจะฆ่าข้าด้วย
พิอาสเซ่หลับตาเห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกเจ็บปวดจากเหตุการณ์ในโอเมียร์ การที่ทุกคนมองมาที่เขาด้วยความเกลียดเข้าไส้นั้นยังคงตามหลอกหลอนเขาในทุกๆครั้งที่ลืมตาตื่นลูกศิษย์ของเขามีจำนวนมากกว่า 10,000 คน แต่ว่าหลังจากเหตุการณ์นั้น ทุกคนก็หลบเลี่ยงเขาเหมือนกับว่าเขาเป็นตัวเชื้อโรค
แม้กระทั่งลูกศิษย์ที่มาช่วยเขาแหกคุกก็ยังมองเขาด้วยความรังเกียจเหตุผลเดียวที่เขามาช่วยปล่อยพิอาสเซ่ออกไปนั้นก็เพราะเขาไม่อยากให้อดีตอาจารย์ของเขาต้องตายในคุก ยังไงก็ตาม มันก็เหมือนกับคนอื่นๆ คนที่ปล่อยเขาออกมาก็ไม่ได้ต้องการให้เขาอยู่ที่โอเมียร์ต่อ
คนทรยศ!
ฆาตกร!
ไอ้ใจโฉด!
ไอแก่โง่ตาบอด!
นี่เป็นฉายาบางส่วนที่คนของเขาใช้ในการเรียกแทนเขา แล้วนายคิดว่าภพโอเมียร์มีโอกาสที่จะต่อต้านพวกปีศาจได้รึเปล่า? ลิงค์ถาม
พิอาสเซ่ส่ายหัว แม้ว่าข้าจะแอบหวังอยู่ลึกๆ แต่ความจริงนั้นมักจะโหดร้ายเสมอ ผู้คนของข้าไม่ได้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ ซึ่งผลก็คือ พวกเขายอมจำนนต่อปีศาจอย่างง่ายดาย อาจจะมีบางภพที่รอดมาได้ แต่คงไม่ใช่ภพโอเมียร์อย่างแน่นอน
ฉันไม่เข้าใจถ้าเกิดพวกเขาไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ด้วยซ้ำ และมีโอกาสสูงมากที่พวกเขาจะถูกพวกปีศาจปกครองไปแล้ว แต่ทำไมพวกเขาถึงยังตามล่านายอยู่หล่ะ?
ลิงค์รู้สึกได้ว่ายังมีเรื่องบางอย่างที่ขาดหายไปในข้อมูลของพิอาสเซ่
พิอาสเซ่หัวเราะอย่างขมขื่น มันไม่ใช่เรื่องเข้าใจยากอะไรหรอกครับ ในตอนที่ภพโอเมียร์ถูกยึด ผู้คนของข้าน่าจะถูกฆ่าหรือถูกทำให้ปนเปื้อนและกลายเป็นหุ่นเชิดของปีศาจไปแล้ว แต่ไม่ว่าในกรณีไหนพวกเขาก็ยังคงเกลียดข้าอยู่ดี ที่โอเมียร์นั้นมีครูสอนวิญญาณอยู่ 3 คน ในตอนที่ข้าออกมา หนึ่งในพวกเขาได้ถูกความมืดกลืนกินไปแล้ว เขาฆ่าคนของตัวเอง และเขาก็ยังเกลียดข้าด้วย เขาคงจะทรมานข้าจนตายถ้าเกิดว่าเขาจับตัวข้าได้
ไม่ไม่ ไม่ ลิงค์ส่ายหัว นายถูกทุกคนเกลียด เรื่องนั้นฉันเข้าใจ แต่ว่านายก็ทิ้งภพโอเมียร์มาแล้วนี่ คนของนายจะไม่ได้อะไรเลยหลังจากที่ตามล่านายมาจนถึงที่นี่ ความเกลียดชังอย่างเดียวมันไม่มากพอที่จะทำให้นายถูกไล่ล่ามานานขนาดนี้หรอกนะ มันจะต้องมีเหตุผลอื่นที่พวกเขายังคงตามล่านายอยู่แน่ๆ!
ตอนนี้สายตาของลิงค์จ้องมาที่พิอาสเซ่เขายื่นมือมาหาเขา นายจะต้องเอาอะไรบางอย่างที่พวกเขาต้องการหรือกลัวมาด้วยใช่ไหม มันคืออะไร? เอาของที่นายพยายามซ่อนจากพวกเขาแล้วก็ฉันมาให้ดูซะ
เซลีนเองก็มองมาที่พิอาสเซ่ด้วยความสนใจและอยากรู้ว่าเขาจะตอบสนองยังไง นานะยังคงนิ่งอยู่ก่อนหน้านี้เธอแค่ว่างมือเอาไว้เหนือส่วนกลมที่ด้ามจับดาบ แต่ตอนนี้ เธอเลื่อนมือมาจับด้ามจับของดาบแล้ว และเตรียมพร้อมที่จะดึงออกมาถ้าเกิดว่าพิอาสเซ่พยายามจะทำอะไรโง่ๆ
พิอาสเซ่ตกตะลึงไปครู่นึงเขาไม่ขยับกล้ามเนื้อเลยในตอนที่เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ หลังจากผ่านไปซักพักเขาก็ถอนหายใจออกมา ลอร์ด ข้าไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังท่านนะ มันก็แค่…ข้าแค่คิดว่าระดับพลังของท่านในตอนนี้อาจจะไม่สามารถทนรับความหนักหน่วงของความลับของข้าได้ มันอาจจะนำอันตรายมาให้ท่านมากกว่าข้อดีถ้าเกิดว่าข้าเปิดเผยมันกับท่าน
งั้นหรอ?นายไม่คิดว่านายตัดสินพลังของฉันเร็วไปหน่อยหรอ?
ลิงค์นั่งลงและตั้งใจฟังสิ่งที่พิอาสเซ่กำลังจะพูดเขาสัมผัสได้ว่ามันมีอะไรมากกว่านี้ และเขาก็มีความรู้สึกว่าความลับใดก็ตามที่พิอาสเซ่เก็บงำเอาไว้จากลิงค์นั้นจะสามารถช่วยเขาได้
ดูเหมือนว่าพิอาสเซ่จะยังรู้สึกไม่มั่นใจที่จะเปิดเผยความลับ
จากนั้นเซลีนก็พูดออกมา คุณพิอาสเซ่ คุณอาจจะเป็นแขกของเรา แต่มันก็สามารถพูดได้อีกแบบว่าตอนนี้คุณคือนักโทษที่อยู่ภายใต้กำแพงนี้ ฉันเกรงว่าคุณจะไม่มีตัวเลือกในเรื่องนี้นะ
นานะดึงดาบออกมา1 นิ้วด้วยความรวดเร็ว เสียงเหล็กแหลมดังมาจากในฝัก ซึ่งบ่งบอกถึงความตั้งใจของพวกเขาที่มีต่อพิอาสเซ่อย่างชัดเจน
รอยยิ้มอย่างท้อใจผุดขึ้นมาบนใบหน้าของพิอาสเซ่เขามองมาที่ลิงค์ ลอร์ด นี่คือสิ่งที่ท่านกระทำกับแขกอย่างงั้นหรอ?
ลิงค์พยักหน้า พูดมาซะ
โอเคก็ได้ครับ พิอาสเซ่เอาสมุดที่มีหน้าปกสีน้ำเงินออกมา มีรูนเวทมนตร์อยู่ที่ปกของมัน และยังมีอัญมณีที่ส่องแสงสดใสฝังอยู่ด้วย ตัดสินจากลักษณะของมันแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะเป็นหนังสือเวทมนตร์บางอย่าง
นี่เป็นสมุดจดการฝึกซ้อมของข้า พิอาสเซ่ส่งสมุดให้กับลิงค์ อย่างที่ข้าเคยบอกไปก่อนหน้านี้ นักท่องวิญญาณนั้นสามารถทำสมาธิแทนการนอนหลับได้ ด้วยการตั้งสมาธิ วิญญาณของคนๆนั้นจะสามารถท่องไปในความว่างเปล่าอันไร้ที่สิ้นสุดได้อย่างอิสระ ก่อนที่จะพบกับโนโซม่า ข้าได้พบเจออะไรบางอย่างที่ดูมีค่ามากในความว่างเปล่า ซึ่งข้าได้จดมันเอาไว้ในหน้าที่189
ลิงค์รับสมุดและเปิดไปที่หน้า189 มันเป็นแผนภาพของเฟืองชนิดหนึ่ง เฟืองนั้นมีฟัน 8 ซี่ มันส่องแสงหลากสีออกมา และมีรูนเวทมนตร์ถูกสลักเอาไว้ที่กลางเฟือง มันมีรูปร่างคล้ายกับดวงตา แม้ว่ามันจะดูแปลก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ลิงค์รู้สึกคุ้นเคยกับมันมาก
แปลกจัง
ลิงค์ไม่สามารถบอกได้ว่าเขารู้สึกคุ้นกับของสิ่งนี้ได้ยังไงจากนั้นเขาก็เห็นว่ามีอะไรบางอย่างถูกเขียนเอาไว้ที่ด้านล่างของแผนภาพ
ในตอนแรกที่ข้าเห็นมัน,มันถูกห่อหุ้มด้วยแสงสดใส มันใหญ่มาก ในตอนนั้น ข้าเหมือนกับเศษฝุ่นที่อยู่เบื้องหน้าบอลเพลิงยักษ์ มันลอยอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า หมุนไปเรื่อยๆด้วยความเร็วอันคงที่ จากนั้นข้าก็เข้าไปหามัน ในตอนที่ข้าเข้าไปใกล้ มันก็มีเสียงดังเข้ามาในหูของข้า จากนั้นข้าก็รู้สึกแปลกๆ ด้วยเหตุผลบางประการ ข้าสัมผัสได้ว่าเฟืองนี้คือแกนกลางของความว่างเปล่าที่คอยรักษาสมดุลของทุกอย่างเอาไว้ ในตอนที่ข้าเข้าไปใกล้กว่าเดิม ดูเหมือนว่ามันจะสัมผัสถึงข้าได้ ในตอนที่ดวงตาเวทยมนตร์ที่อยู่ตรงกลางของเฟืองมองมาที่ข้า มันมองอย่างเฉยเมยราวกับว่าข้าเป็นมดตัวหนึ่ง จากนั้นความมืดก็กลืนกินข้า และข้าก็ถูกบังคับให้กลับมายังร่างของตัวเอง
เรื่องทั้งหมดนั้นแปลกประหลาดมากนอกจากการมีอยู่ของเฟืองลอยได้แล้ว ลิงค์ไม่ได้อะไรที่สำคัญจากมันเลย
จากนั้นลิงค์ก็เห็นชุดพิกัดในตอนที่เขาอ่านมันต่อ
พิกัดพวกนี้พาไปที่ไหน? ลิงค์ถามในตอนที่ชี้มันให้พิอาสเซ่ดู
เอ่อนั่นมัน พิอาสเซ่พูด หลังจากที่ข้าพบมันครั้งแรก ข้าก็กลับไปในจุดที่เฟืองอยู่อีกหลายครั้ง มันมักจะลอยอยู่ตรงนั้นทุกครั้ง ซึ่งข้าจะคอยรักษาระยะห่างเอาไว้เพื่อไม่ให้ถูกไล่กลับมาแบบครั้งที่แล้ว มันแค่หมุนอยู่กับที่ด้วยความเร็วปกติ ข้าสามารถคำนวณได้แม้กระทั่งความเร็วของมันด้วย มันจะหมุนครบรอบในทุกๆ 2.06721 วินาที ไม่เคยช้าหรือเร็วกว่านั้นเลย
ความแม่นยำของสิ่งที่พิอาสเซ่อธิบายนั้นดูน่าเหลือเชื่อดูเหมือนว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องจักรที่ใหญ่มากๆ ที่ซึ่งความแม่นยำนั้นมีความสำคัญต่อการทำงานของมันเป็นอย่างมาก เขาคิดเรื่องนี้อยู่พักนึกแล้วถาม นายบอกเรื่องนี้กับโนโซม่าใช่ไหม?
พิอาสเซ่ยิ้มเจื่อนๆ ข้าบอกเรื่องนี้กับเขา ในตอนนั้น ข้าคิดว่าเขาเป็นเพื่อน ดังนั้นข้าจึงแบ่งปันแผนภาพเฟืองที่ข้าวาดให้เขาดูด้วย เขาหลงใหลมันมากๆ หลังจากนั้นเขาก็ถามพิกัดที่อยู่ของเฟืองปริศนากับข้า แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ข้าไม่ได้บอกเขาว่ามันอยู่ที่ไหน หลังจากนั้นเขาก็พยายามถามข้าอยู่หลายครั้ง และตอนนั้นเองที่ข้าเริ่มจะสงสัยเขา ข้าคิดว่านั่นคือเหตุผลที่ทำไมโนโซม่าถึงตามล่าข้า
พอได้ยินแบบนี้ลิงค์ก็ยิ่งสงสัยเรื่องเฟืองมากขึ้น เขามองดูมันอย่างละเอียด และเขาก็รู้สึกเดจาวูขึ้นมา
เขารู้สึกเหมือนกับว่าเคยเห็นมันที่ไหนมาก่อน
เซลีนเองก็จ้องไปที่มันเหมือนกันจากนั้นเธอก็พูด แปลกจัง ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนกับว่าเคยเห็นมันที่ไหนมาก่อนเลยนะ? เธอก็ด้วยหรอ? ลิงค์ตกใจ จากนั้นเขาก็หันไปหานานะ นานะ แล้วเธอหล่ะ? เธอเคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนรึเปล่า?
นานะมีตัวตนอยู่ที่ภพฟิรุแมนมา800 ปีและอีก 100 ปีที่ภพอารากู่ เธอได้ยินและได้เห็นมากกว่าคนอื่นๆจากการผจญภัยของเธอ
ในตอนที่นานะมองแผนภาพเฟืองเธอก็หยุด เหมือนกับว่ากำลังพยายามนึกถึงอะไรบางอย่าง ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น เธอก็พยักหน้า ค่ะ นานะเคยเห็นมันมาก่อน มันคือสัญลักษณ์ของอาณาจักรอารากู่
อารากู่หรอ?และอยู่บนสัญลักษณ์ของอาณาจักรด้วยเนี่ยนะ? ลิงค์ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ว่ามันหมายความว่ายังไง
เหมือนกับเขาดูเหมือนว่าเซลีนก็จะคุ้นเคยกับเฟืองนี้เหมือนกัน ซึ่งนี่ก็หมายความว่ามันอาจจะเคยมีตัวตนอยู่ที่ฟิรุแมนมาก่อน ยังไงก็ตาม นานะบอกว่ามีบางอย่างที่เหมือนกับมันในภพอารากู่ และตอนนี้ ด้วยสมุดของพิอาสเซ่ พวกเขาพบว่ามันปรากฏตัวขึ้นที่ใจกลางของทะเลแห่งความว่างเปล่าด้วย มันคืออะไรกันนะ?