Chapter
ป้อมโอริด้า
ในตอนที่อุกกาบาตเลเวล14 ปรากฎขึ้นบนฟ้า, สีหน้าของคาร์โนสก็ซีดเผือดในทันที
ท่านแม่ทัพ,พวกเราหยุดมันไม่ได้ครับ! สีหน้าของกุนซือขาวเหมือนกับกระดาษ
ถ้ากระโจมแสงยังอยู่,พวกเขาคงจะสามารถป้องกันเวทย์เลเวล 14 ได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้, กระโจมพังไปแล้วและไม่สามารถใช้การได้เป็นการชั่วคราว ถ้าเวทย์นี้ตกลงมาใส่พวกเขา, การที่มีทหารในป้อมรอดได้ถึงหนึ่งในสิบก็ถือว่าโชคดีมากๆแล้ว
แต่ว่าหนึ่งในสิบนั้นก็คงจะได้รับบาดเจ็บสาหัสเหมือนกันแล้วถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ, ด้วยจำนวนทหารเพียงแค่นั้นจะเอาชนะกองทัพ 200,000 ได้ยังไง?
อุกกาบาตสิ้นโลกกำลังจะถึงพื้นแล้วมันไม่มีเวลามาพิจารณาหรือลังเลอีก คาร์โนสคว้าดาบความพิโรจน์ของราชสีแล้วรีบวิ่งออกไปจากกองบัญชาการ
ท่านแม่ทัพ!? ลูกนองของเขาตะโกน
นับจากนี้ไป,เจ้าเป็นแม่ทัพแทนนะ! คาร์โนสตะโกนกลับไป สายตาของเขาจดจ่อไปที่อุกกาบาตสิ้นโลกในขณะที่กำลังวิ่งไปหามัน เขาจะไปหยุดมัน, ต่อให้นั่นจะหมายถึงการสละชีวิตของเขาก็ตาม!
…
กองทัพมนุษย์สัตว์ที่อีกฝั่งนึงของป้อม
อวาตาร์,ขุนศึกแห่งความรุ่งโรจน์และราชามนุษย์สัตว์, เห็นคาร์โนสที่หางตา เขาเงยหน้าขึ้นมองอุกกาบาตสิ้นโลกด้วยความลังเลอยู่ครู่นึง, และจากนั้นก็วิ่งตามคาร์โนสไป
ไอ้พวกซุ่มโจมตีชั้นต่ำ,ถ้าข้ารอดไปได้, ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ! ราชามนุษย์สัตว์ไม่เคยพูดอะไรที่ซับซ้อน, แต่เขารู้ว่าถ้าอุกกาบาตตกลงมา, นักรบของเขาจะตายกันหมด
นักรบเหล่านี้คือสิ่งประกันความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ถ้าพวกเขาตายกันหมด, ชะตากรรมของมนุษย์สัตว์ก็คงจะน่าอดสู อวตาร์ไม่สามารถปล่อยให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นได้
ที่บนกำแพงป้อม,แจ็คเกอร์, ที่สวมชุดเกราะระดับตำนานเองก็กำลังเฝ้าดูอุกกาบาต จากจุดที่เขาอยู่, เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามันจะตกลงมาบนกำแพงที่เขายืนอยู่
ถ้าเขาไม่หลบ,เขาก็คงจะเป็นคนแรกที่ถูกฆ่า แล้วเขาก็เห็นคาร์โนสกับอวตาร์ เขารู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่เพราะเขาก็กำลังคิดแบบเดียวกัน
ถอย,ทุกคนถอย! ไปหาที่ซ่อนซะ! แจ็คเกอร์แผ่พลังแสงอรุณออกมา เขาโยนดาบทิ้งแล้วจับโล่หนักของเขาด้วยสองมือ
ในจังหวะสุดท้าย,เขาเห็นเด็กหนุ่มคนนึงกำลังมองเขาจากระยะใกล้ๆ เขารู้จักชายคนนี้ เขาคือโทรอ, นักรบผู้มากพรสวรรค์ แค่อายุ19, เขาก็มาถึงเลเวล 9 แล้วและมีศักยภาพไร้ขีดจำกัด
จงมีชีวิตอยู่แล้วบอกลอร์ดว่าข้าตายโดยไม่มีความเสียใจอะไรทั้งนั้น! แจ็คเกอร์ตะโกน
โทรอฝืนพยักหน้า,มีน้ำตาไหลลงมาอาบใบหน้าของเขา
ในระหว่างนี้เอง,หอคอยเวทมนตร์ของป้อมโอริด้าก็ได้เปิดใช้โล่คลุมป้อมใหม่ แต่มันมีแค่เลเวล 10 เท่านั้น มันไม่สามารถหยุดอุกกาบาตสิ้นโลกได้เลย
นักเวทย์,นักธนู, และพลโจมตีระยะไกลทั้งหมดต่างก็โจมตีใส่อุกกาบาตอย่างต่อเนื่อง, พยายามทำให้มันสลายไปก่อน, แต่มันก็เปล่าประโยชน์
โครงสร้างของอุกกาบาตสิ้นโลกนี้เสถียรกว่าเวทย์เลเวล14 ทั่วๆไปถึงสิบเท่า แล้วก็มีโล่พิเศษคลุมมันไว้ซึ่งน่าจะมีเลเวลประมาณ 12 และโล่นี้เองที่เป็นตัวขัดขวางการรบกวนทั้งหมด พูดให้ชัดกว่านี้คือ,นี่เป็นเวทย์เลเวล 14 ที่มีโล่เลเวล 12! มีคนพยายามใช้อุกกาบาติสิ้นโลกนี้เพื่อเปลี่ยนป้อมโอริด้าให้เป็นพื้นที่แห่งความตาย
ตอนนี้,คาร์โนสกับอวตาร์มาถึงแจ็คเกอร์แล้ว ทั้งสามคนไม่ได้พูดอะไร แค่มองตาพวกเขาก็เข้าใจกันแล้ว
นักรบระดับตำนานทั้งสามเงยหน้าขึ้นแล้วเปิดใช้พลังของพวกเขาคาร์โนสแผ่ออร่าสีเงินออกมา, แจ็คเกอร์สีทอง, และอวตาร์เป็นสีแดงเลือด ออร่าต่อสู้ของพวกเขาหลอมรวมกันเป็นสีแดงเข้มที่มีความกว้างกว่า 15 ฟุต
ณตอนนี้, อุกกาบาตสิ้นโลกอยู่ห่างจากป้อมประมาณ 600 ฟุต สำหรับนักรบระดับตำนาน, นี่เพียงพอแล้วที่จะให้พวกเขาโจมตีใส่ได้!
นักรบในป้อมได้ยินเสียงแหลมและเสียงโครมครามจากนั้นแสงสีแดงเข้มก็พุ่งขึ้นมาจากกำแพงและยิงไปทางอุกกาบาตสิ้นโลกสีฟ้าเหมือนกับจรวด ในพริบตาต่อมา,พวกมันก็ปะทะกัน มีแสงแสบตาสว่างขึ้นบนฟ้า ทุกคนที่อยู่ข้างในและข้างนอกป้อมต่างก็มองดูการปะทะนี้ตาไม่กระพริบ
ภายใต้แสงจ้านี้,อุณหภูมิได้เพิ่มขึ้นถึง 30 องศา แต่เดิมนั้นทางเหนือมีอากาศหนาว, แต่ตอนนี้มันกำลังอุ่นขึ้น และหิมะทั้งหมดก็ละลาย
ตูม,เสียงระเบิดดังไปทุกสารทิศเหมือนกับฟ้าฝ่า หลังจากนั้น, ก็มีเสียงระเบิดขึ้นอีกจุด ครั้งนี้มันดังมาจากทางป้อม มีบางอย่างไปชนมันเข้า
มีควันลอยขึ้นมาปกคลุมท้องฟ้า
ในตอนที่ควันเบาบางลง,ทุกคนก็มองเห็นกำแพงอย่างชัดเจน ตอนนี้กำแพงที่ทนทานมีรูลึก 30 ฟุต กว้าง 90 ฟุตอยู่
มีร่างถูกเผาสามคนอยู่ในหลุมนั้นตัดสินจากรูปร่างและชุดเกราะของพวกเขา, มันก็พอเดาได้คร่าวๆ ร่างกายของแม่ทัพคาร์โนสไม่ได้สมบูรณ์อีกแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รอดแน่ๆ ในส่วนของมนุษย์สัตว์อวตาร์กับแม่ทัพแสงอรุณแจ็คเกอร์นั้น, ร่างของพวกเขายังเชื่อมติดกันครบ, แต่พวกเขาไม่ขยับเลย ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่รึเปล่า
มีศพนับพันอยู่รอบๆหลุมด้วยพวกเขาคือนักรบที่ถอยทัพไปไม่ทันเวลา แต่ความสูญเสียเหล่านี้ก็ไม่ได้สาหัสอะไรเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าอุกกาบาตหล่นลงมาในสภาพสมบูรณ์
ในตอนที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น,เจ้าหญิงแอนนี่ได้ซ่อนตัวอยู่ที่มุมนึงของป้อม ตอนนี้เธออยู่ระดับตำนานแล้ว ในตอนที่เธอเห็นร่างของคาร์โนส, เธอก็เอามือปิดปาก, พยายามที่จะไม่ร้องไห้
แม่ทัพและเทพสงครามของอาณาจักรนอร์ตัน,ชายผู้ที่มอบรอยยิ้มอันอ่อนโยนให้เธอมาโดยตลอด, ได้จากไปแล้ว
เธอเห็นพวกนักรบรีบวิ่งไปที่หลุมและไปตรวจสอบร่างทั้งสามเธอได้ยินเสียงตะโกนด้วยความดีใจที่มีคนยังมีชีวิตรอดอยู่, แต่เธอก็ได้ยินเสียงร้องห่มร้องไห้ด้วย แม่ทัพคาร์โนสยังคงไม่รอดอยู่ดี
…
ข้างนอกป้อมโอริด้า
นักเวทย์แห่งความมืดยูจินรู้สึกดีใจมาก!
กองทัพมนุษย์ได้สูญเสียนักรบระดับตำนานถึงสามคนในคราเดียวภัยคุกคามของเธอได้หายไปในทันที; ตอนนี้เธอสามารถสำแดงพลังของตัวเองได้แล้ว นอกจากนี้ป้อมโอริด้ายังสูญเสียแม่ทัพและมีรูที่ใหญ่ขนาดนั้นอยู่บนกำแพงด้วย ถ้าพวกเขายังเอาชนะไม่ได้, กองทัพแห่งการทำลายก็สมควรจะเปลี่ยนชื่อเป็นกองทัพแห่งความล้มเหลวได้แล้ว
เธอลุกขึ้นออกคำสั่ง ทัพหน้าบุกด้วยกำลังทั้งหมดที่มี! ข้าจะเคลียร์เส้นทางให้!
พอพูดจบ,เธอก็แปลงเป็นควันสีดำและลอยขึ้นไปบนฟ้า ด้วยการเล็งไปยังหลุมที่อยู่ตรงกำแพง, เธอก็ร่ายเวทย์ลำแสงตัดขาดเลเวล 10
ครืนน!รอยแยกกว้างขึ้น หลังจากที่มีหินไถลลงมาเพิ่ม, ปลายหลุมก็อยู่ห่างจากพื้นไม่ถึง 150 ฟุต
แข็งชะมัดน่าเสียดายจริงๆ! ยูจินอดชื่นชมมันไม่ได้ ในเมื่อมันแข็งขนาดนี้, ข้าก็จะไม่เสียเวลากับมันอีก
ถ้ามันเป็นกำแพงทั่วๆไป,เวทย์ของเธอคงจะทำลายได้ทั้งกำแพง แม้ว่าเธอจะเป็นนักเวทย์เลเวล 14, แต่เธอก็พึ่งพัฒนาขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้และยังไม่ได้เรียนรู้เวทย์เลเวล 14 เลย เธอสามารถใช้ได้สูงสุดแค่เลเวล 13 เท่านั้น แต่ด้วยความที่ไม่มีภัยคุกคามจากนักรบระดับตำนาน, เวทย์เลเวล 13 เพียงเวทย์เดียวก็สามารถจัดการนักรบได้มากมายแล้ว
ยูจินขยับคทาเพื่อเตรียมร่ายเวทย์เลเวล13
องค์หญิงเดี๋ยวก่อนค่ะ โมลิน่าพูด
อะไร? ยูจินก้มไปมอง มีมนุษย์สัตว์อยู่ข้างในป้อมกว่า40,000 คน พวกนั้นต่างก็เป็นนักรบที่แข็งแกร่ง พวกเรากำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบและมันก็คงจะน่าเสียดายถ้าจัดการพวกนั้นทั้งหมด เอางี้เป็นไงค่ะ, พวกเราลองโน้มน้าวให้พวกนั้นมาเข้าร่วมกับเราดีไหมคะ? โมลิน่าถาม
ยูจินพิจารณาข้อเสนอนี้แล้วพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม น่าสนใจนี่, แต่พวกเราก็ยังต้องให้พวกมันได้ลิ้มรสชาติพลังของพวกเราอยู่ดี ข้าจะจัดการฆ่าพวกมนุษย์, ในส่วนของมนุษย์สัตว์นั้น, หึหึหึ
ในเรื่องนี้,โมลิน่าไม่คัดค้านอะไร
ยูจินกลับมาจดจ่อกับการร่ายเวทย์อย่างไรก็ตาม, เธอดูถูกพลังและความอันตรายของกองทัพนี้มากเกินไป มีสายตาและพวกระดับสูงอยู่นับไม่ถ้วนในสนามรบนี้ พวกเขาจะไม่มีทางปล่อยให้เธอได้ร่ายเวทย์ง่ายๆอย่างแน่นอน
ในตอนนั้นเอง,ริ้วแสงกว่า 500 เส้นก็ถูกยิงออกมาจากป้อมโอริด้า พลหน้าไม้กับพลปืนเวทมนตร์ดูเหมือนจะวางแผนยิงพร้อมกัน พวกเขามีเป้าหมายเดียวกันคือ—ยูจิน, ที่กำลังร่ายเวทย์อยู่บนฟ้า, และระยะ 60 ฟุตรอบตัวเธอ
ยูจินกำลังอยู่ในระหว่างการร่ายเวทย์ในตอนที่การโจมตีนี้เกิดขึ้นการโจมตีที่เบาที่สุดคือเลเวล 8, และมีประมาณ 500 นัด เธอหน้าซีดเผือดด้วยความกลัวในทันที
นี่เป็นการโจมตีที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดเธอไม่มีที่หนี, และโล่ธรรมดาก็ไม่สามารถหยุดพวกมันได้เลย ยูจินไม่มีเวลาร่ายโล่ป้องกันที่แข็งแกร่งด้วยซ้ำ
ไม่นะ,ข้าสะเพร่าเกินไป! ข้าหล่ะเกลียดสันดานโง่ๆของตัวเองจริงๆ! ยูจินอยากจะตบหน้าตัวเอง แต่ว่าเธอเป็นนักสู้ระดับสูงของฟิรุแมนมาเป็นร้อยปีแล้วและยังมีเทคนิคการเอาตัวรอดอยู่
เธอหยุดร่ายเวทย์ในทันทีและในเวลาเดียวกันนั้นเอง, หินรูนชิ้นนึงที่อยู่ในมือเธอก็สว่างวาบเหมือนกับสายฟ้า ด้วยการเปิดใช้มัน, ยูจินก็หายไปในแสงสีขาว เธอไปปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งที่ระยะห่างออกไปไม่กี่ร้อยฟุต
เธอไม่ใช่นักเวทย์มิติและร่ายเวทย์เทเลพอร์ทได้ไม่ดีเท่าไหร่ระยะไม่กี่ร้อยฟุตนี้คือขีดจำกัดของเธอแล้ว
แต่หหลังจากนั้นเองก็มีบางอย่างเกิดขึ้น!
ก่อนที่เธอจะปรากฎตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์,เธอก็เห็นเงากำลังพุ่งมาหาเธอด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ เงานี้อยู่ในระยะ 15 ฟุตจากตัวเธอแล้ว
ความคิดนึงผุดขึ้นมาในหัวของเธอไม่นะ, นักฆ่า!
มันเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าหญิงแอนนี่!
เธอเปลี่ยนความเศร้าและความโกรธที่มีต่อการตายของคาร์โนสเป็นพลังด้วยการไม่สนใจชีวิตของตัวเอง, เธอก็แอบเข้าไปในค่ายของกองทัพแห่งการทำลายเพื่อลอบสังหารแม่ทัพ นี่เป็นความรับผิดชอบของเธอในฐานะนักฆ่าระดับตำนานและเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยป้อมโอริด้าได้
คาร์โนส,ช่วยคุ้มครองข้าจากสวรรค์ด้วยนะ แอนนี่อยู่ห่างจากยูจินเก้าฟุตแล้ว