Chapter
คาร์โนสระมัดระวังตัวแต่ก็กล้าที่จะรับความเสี่ยงเขาเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ ในการเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้าที่แต่งตัวแปลกๆแบบนี้, เขาไม่ได้สูญเสียความเยือกเย็นเลยแม้จะถูกว่าแบบนั้นก็ตาม ไม่กี่วินาทีต่อมา, คาร์โนสก็พูด ตอนนี้ลอร์ดเฟิร์ดกำลังยุ่งอยู่ ข้าเกรงว่าเขาคงจะไม่มีเวลามาพบท่านหรอกนะ
ข้ารู้ ชายคนนั้นพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เขายุ่งอยู่กับการทำแขนเวทมนตร์ให้เจ้าใช่ไหมหล่ะ
นี่ทำให้คาร์โนสขมวดคิ้วมีไม่กี่คนที่รู้ว่าลิงค์กำลังทำอะไรอยู่ มันแทบจะเป็นความลับด้วยซ้ำ ดังนั้น, สิ่งที่คนแปลกหน้าคนนี้พูดจึงทำให้เขาตกตะลึง
ท่านเป็นใครกันแน่!? คาร์โนสขึ้นเสียง เหล่านักรบที่อยู่ข้างเขาพากันชักดาบออกมาถ้าชายลึกลับคนนี้ตอบไม่เข้าหู, พวกเขาจะตัดหัวเขาในทันที
กองทัพไม่ใช่สถานที่ที่เอาไว้เล่นตลก
บางทีชายคนนี้อาจจะรู้ว่าเขาเอาจริงด้วยการลบรอยยิ้มทิ้งไป, เขาก็พูดอย่างจริงจัง ข้าชื่อดิโลเซ่นเป็นนักเวทย์จากอารากู่ เท่าที่ข้ารู้มา..การสืบหาเรื่องพวกนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับนักเวทย์ระดับตำนานนะ
ในตอนที่ชายคนนี้บอกพื้นเพของตัวเอง,นักรบทุกคนก็พากันสับสน, โดยเฉพาะคำว่าอารากู่ อย่างไรก็ตาม, คาร์โนสรู้ว่าเรื่องต่อไปนี้ควรจะเป็นความลับ ด้วยหัวใจที่สั่นรัว, เขาก็ออกคำสั่งในทันที ทุกคนออกไปซะ ข้าขอคุยกับเขาแค่สองคน!
แต่ท่านแม่ทัพ,แล้วความปลอดภัยของท่านหล่ะครับ? หนึ่งในนักรบเป็นห่วง
คาร์โนสเข้าใจสถานการณ์ดี ท่านดิโลเซ่นเป็นแขก, ไม่ได้คิดจะมาทำอันตรายอะไรหรอก แถม, ต่อให้เขาทำจริงๆ, พวกเจ้าก็คงหยุดเขาไม่ได้หรอก ฉลาดมาก ดิโลเซ่นชื่นชม ความดูถูกในสายตาของเขาลดลงไปเล็กน้อย
ในตอนที่ทหารออกไปกันหมดและเหลือแค่คาร์โนสกับดิโลเซ่น,คาร์โนสก็พูดออกมาในที่สุด มาสเตอร์ลิงค์ยุ่งมาก ในฐานะที่เป็นนักเวทย์เหมือนกัน, ท่านก็น่าจะรู้นะว่านักเวทย์เกลียดการถูกรบกวนมากที่สุดในตอนที่พวกเขากำลังจดจ่ออยู่กับอะไรบางอย่าง
ดิโลเซ่นยิ้ม เจ้าพูดถูก และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำไมข้าถึงเลือกที่จะมาตอนนี้
ท่านหมายความว่ายังไง? นี่ได้เพิ่มความระมัดระวังในใจของคาร์โนส เขาตีความว่าอีกฝ่ายมาเพื่อใช้ประโยชน์จากช่องโหว่วที่ลิงค์ไม่ว่างนี้ แต่ทันใดนั้นเองเขาก็รู้สึกได้ถึงความวุ่นวายจากทางหอคอยเวทมนตร์ ดูเหมือนว่าลิงค์จะออกมาแล้ว
ดูเหมือนว่าดิโลเซ่นจะรู้ทุกอย่างดี ขอแสดงความยินดีด้วยนะท่านแม่ทัพ เขายิ้ม แขนของท่านเสร็จแล้วหล่ะ
ไม่ถึงสิบวินาทีหลังจากที่เขาพูดจบ,ลิงค์ก็ปรากฎตัวขึ้นที่ทางเข้า เขายังดูสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ผมของเขาผูกเอาไว้อย่างลวกๆ, เขาสวมชุดคลุมต่อสู้สีเงินเข้ม, และดาบเวทมนตร์ที่ดูธรรมดาแต่เปล่งแสงออกมาอ่อนๆที่เอวของเขา
ลิงค์ไม่ได้มาคนเดียวเอเลียร์ดกับเจ้าหญิงแอนนี่ตามเขามาด้วย หลังจากที่เข้ามาในห้องแล้ว, ลิงค์ก็ตัวแข็งทื่อในตอนที่เห็นดิโลเซ่น, แต่ความดีใจก็ผุดขึ้นมาที่ดวงตาของเขาหลังจากนั้น
อย่างไรก็ตาม,สำหรับตอนนี้เขาเลือกที่จะมองข้ามนักเวทย์ต่างถิ่นคนนี้ไปก่อน เขาโยนลูกบอลโลหะขนาดเท่านิ้วโป้งทั้งสองลูก จากนั้นพวกมันก็ลอยไปอยู่ที่ทั้งสองฝั่งของคาร์โนส ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, ลิงค์ก็แนะนำ แม่ทัพ, มันอาจจะเจ็บหน่อยนะ, แต่อย่าขัดขืนกลับ และพยายามอย่าขยับร่างกายของตัวเองด้วย
เห็นได้ชัดว่าคาร์โนสเชื่อใจลิงค์พอได้ยินแบบนี้, เขาก็นั่งอยู่บนเก้าอี้โดยไม่ขยับตัวบอลทั้งสองลูกลอยไปยังจุดที่แขนของเขาถูกตัดออกไป, มันเร่งความเร็วขึ้น, และฝังตัวเข้าไปในเนื้อที่ได้รับความเสียหาย
เห็นได้ชัดว่ามันเจ็บปวดมาก,แต่คาร์โนสก็แค่ทำเสียงฮึดฮัดทางจมูกโดยไม่ได้ขยับไปไหน หลังจากที่ลูกบอลเข้าไปในตัวเขา, พวกมันก็ขยายออก, เติบโต, และแปลงรูป กระบวนการนี้แม่นยำจนน่าเหลือเชื่อ หลังจากนั้นสักพัก, แขนสีเงินเหมือนเหล็กก็งอกออกมาจากไหล่ของคาร์โนสจริงๆ พวกมันมีขนาดเท่ากับแขนเดิมของคาร์โนสเลย
ลองขยับพวกมันดูซิ ลิงค์พูด
คาร์โนสพยายามขยับแขน,แต่ก็พบว่าเขาไม่สามารถควบคุมพวกมันได้ เขารู้สึกได้แค่ความเย็นที่ไหล่ของเขา ข้าควบคุมมันไม่ได้
ไม่หรอก,เมื่อกี้นิ้วของนายกระตุก นี่ก็หมายความว่ามันสำเร็จแล้ว ลิงค์พูดด้วยรอยยิ้ม
สำเร็จ?จริงหรอครับ? คาร์โนสยิ้มอย่างขมขื่น นี่มันดีกว่าก่อนหน้านี้แค่เล็กน้อย อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ดูเหมือนคนน่าสมเพศอีก
ลิงค์ยิ้มโดยไม่พูดอะไร,แล้วมองไปที่นักเวทย์ต่างถิ่น
ดิโลเซ่นมองอยู่จากด้านข้างตอนนี้, เขาพอจะรู้การทำงานส่วนใหญ่ของมันแล้ว ในตอนที่ลิงค์มองมาที่เขา, เขาก็เข้าใจแล้วอธิบาย ท่านแม่ทัพ, ส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดของแขนพวกนี้ก็คือมันจะเติบโตตามความปราถนาของท่าน ที่ท่านสามารถควบคุมมันได้แค่นิดเดียวก็เพราะมันยังถูกใช้มาไม่นานพอ ถ้าท่านไม่ถอดใจและใช้พวกมันอยู่เรื่อยๆ, พวกมันก็จะแข็งแกร่งขึ้นและคล่องแคล่วขึ้น พวกมันอาจจะแข็งแกร่งกว่าแขนเดิมของท่านด้วยซ้ำ!
ตอนนี้คาร์โนสเข้าใจแล้ว,แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะเชื่อ เขามองลิงค์เพื่อขอคำยืนยัน
ลิงค์พยักหน้า ตามนั้นแหล่ะ ถ้านายขยันพอ, พวกมันก็จะกลายเป็นของนายอย่างสมบูรณ์ ที่เขาไม่ได้สร้างแขนเทียมที่สามารถใช้งานได้ในทันทีก็เพราะแขนพวกนั้นแข็งเกินไปและจำกัดพื้นที่การพัฒนาของคาร์โนสอย่างมหาศาลซึ่งแขนที่ทำให้ในครั้งนี้มันมาจากความรู้เวทมนตร์ที่ก้าวหน้ากว่าแขนประเภทอื่นๆถึงสิบเท่า แถมเขายังใช้ความพยายามมากขึ้นอีก 100 เท่าด้วย และผลลัพธ์ที่ออกมาก็สมบูรณ์แบบจนน่าตกใจ
ตามที่ดิโลเซ่นพูด,ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือว่ามันจะเติบโตได้เหมือนแขนจริงๆ มันสามารถแข็งแกร่งขึ้นและตอบสนองได้ตามความต้องการของคาร์โนส
คาร์โนสหัวเราะอย่างเต็มที่ ข้าแค่ต้องพยายามเยอะๆสินะ นั่นงานถนัดข้าเลย! สำหรับเขา, การได้แขนกลับมาอีกครั้งก็เหมือนกับการเกิดใหม่ ด้วยการลุกขึ้นจากเก้าอี้, เขาก็โค้งคำนับลิงค์สุดตัว ขอบคุณมากครับ, มาสเตอร์
ลิงค์ยอมรับคำขอบคุณแล้วพูดออกมา นายสมควรได้รับมันแล้วและนี่ก็เป็นงานของฉันด้วย…เอาหล่ะ ท่านแม่ทัพ, ช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมว่าสุภาพบุรุษท่านนี้เป็นใคร?
เขารู้สึกได้ถึงคลื่นมานาที่แอบแฝงอยู่ในตัวของนักเวทย์คนนี้เขามีเลเวล 14 และเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด
คาร์โนสพยักหน้า เขามีชื่อว่าดิโลเซ่น เขาบอกว่าตัวเองมาจากอารากู่ครับ
งั้นหรอ ลิงค์รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น ถ้าเขามาจากอารากู่, เขาก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับลัทธิเพลิงของภพอารากู่แน่ๆ และตัดสินจากท่าทีของเขา, เขาก็น่าจะไม่ใช่ศัตรูด้วย
สำหรับตอนนี้,ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้พบพันธมิตรที่แข็งแกร่งอีกแล้ว
ตอนนี้,ความดูถูกในสายตาของดิโลเซ่นหายไป เขายิ้ม ข้าได้ยินเรื่องราวของท่านมามากมายในระหว่างที่มาที่นี่ ตอนแรกข้าคิดว่าพอจะเข้าใจระดับเวทมนตร์ของท่านแล้ว, แต่พอเห็นแขนพวกนี้, ข้าก็ตระหนักได้ว่าข้าคิดผิด ความสำเร็จในการเสริมพลังของท่านนั้น, อย่างน้อย, มันก็เหนือกว่าจินตนาการของข้าไปไกลโขเลยหล่ะ
ลิงค์มองนักเวทย์คนนี้ในฐานะพันธมิตรในอนาคตพอได้รับคำชมจากเขา, ลิงค์ก็เปลี่ยนท่าที พวกเราก็มีความพิเศษกันทั้งคู่นั่นแหล่ะ ยกตัวอย่างเช่นคทาของคุณ, ผมไม่เข้าใจมันเลย นี่ต้องเป็นผลงานชิ้นเอกแน่ๆ
555ไม่ขนาดนั้นหรอก ดิโลเซ่นสร้างคทานี้ขึ้นมาใช้เองและมันก็เป็นผลงานที่เขาภาคภูมิใจที่สุด คำพูดของลิงค์โดนใจเขาจริงๆ
การแลกเปลี่ยนนี้ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายขึ้นมาก
ด้วยความที่ได้แขนมาใหม่,คาร์โนสจึงกลับมามีความหวังในอนาคตอีกครั้งและกำลังอารมณ์ดีมาก องค์หญิง เขาพูดกับเจ้าหญิงแอนนี่ พวกมาสเตอร์มีเรื่องพูดคุยกัน ส่วนข้าไม่เข้าใจเวทมนตร์เลย, พวกเราไปเดินเล่นรอบๆป้อมกันดีกว่าไหมครับ?
แอนนี่ไม่มีข้อคัดค้านเธอพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่พวกเขาออกไป,ก็มีนักเวทย์ระดับตำนานเหลืออยู่แค่สามคน
ลิงค์สงบอารมณ์ของตัวเองแล้วร่ายกำแพงป้องกันเสียงจากนั้นเขาก็ถาม อาณาจักรอารากู่กำลังเจอปัญหาอยู่ใช่ไหม?
ดิโลเซ่นได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวลิงค์มาบ้างแล้วและพอรู้อดีตของลิงค์กับมิลด้า,สตรีศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเพลิง ในตอนที่ลิงค์ถามแบบนี้, เขาก็ตระหนักได้ว่าลิงค์พอเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆของอารากู่ ดังนั้นด้วยการข้ามเรื่องไร้สาระไป, เขาก็พูดออกมา ก็ไม่เชิงปัญหาหรอกครับ มันก็แค่พวกเราอยู่ในจุดเชื่อมต่อสุดท้ายระหว่างความเป็นกับความตาย!
ลิงค์ตกใจ เลวร้ายขนาดนั้นเลยหรอ? แล้วอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งหล่ะ?
เขาแก่แล้วครับ,ตอนนี้เขามีอายุ 596 ปีและสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ประมาณ 20 ถึง 50 ปีเท่านั้น ต่อให้พวกเราใช้เวทย์ลึกลับ,มันก็ยืดอายุของเขาออกไปได้แค่ประมาณสิบปี แถมเขาก็ใช้เวทมนตร์ไม่ค่อยไหวแล้วด้วย ถ้าเขาตาย, อาณาจักรอารากู่ล่มสลายแน่ และเมื่อถึงตอนนั้นก็คง… พอพูดถึงสถานการณ์ของอารากู่, สีหน้าของดิโลเซ่นก็ดูจริงจังมาก
ทำไมอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งถึงไม่ได้กลายเป็นเทพหล่ะ? ลิงค์ถาม
ดิโลเซ่นหัวเราะอย่างขมขื่น มันไม่ง่ายขนาดนั้นหน่ะสิครับ ที่อาร์คเมจเพลิงกลายเป็นเทพได้ก็เพราะเขาได้รับชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์จากเทพไฟโบราณตั้งแต่ตอนที่เขายังหนุ่มและมากไปด้วยกำลัง ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา, ในการจะกลายเป็นเทพได้นั้นมันต้องพึ่งปัจจัยภายนอกเสมอ ไม่เคยมีอาร์คเมจคนไหนที่เคยผ่านไปถึงขั้นนั้นด้วยตัวเองได้ ไม่เคยมีจริงๆครับ
จากด้านข้าง,เอเลียร์ดพูดขึ้นมา ในเมื่อการเอาชนะอาร์คเมจเพลิงมันทำไม่ได้, แล้วการมาขอความช่วยเหลือจากพวกเราจะมีประโยชน์อะไรหล่ะ
อาร์คเมจคือคนที่มีเลเวล19 และอาร์คเมจคนนี้ก็มีชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์ด้วย ซึ่งนี่ทำให้เขากลายเป็นครึ่งเทพ ในการจะต่อกรกับคนแบบนี้นั้นก็ไม่ต่างอะไรจากการฆ่าตัวตาย
ที่เห็นว่าเป็นไปไม่ได้แน่ๆก็มีแค่ท่านเท่านั้นแหล่ะ,แต่ฟิรุแมนมี่สิ่งที่พวกเราต้องการอยู่ พูดตามตรงนะ… ดิโลเซ่นมองไปที่ลิงค์, ด้วยความลังเลว่าเขาควรจะพูดรึเปล่า และในท้ายที่สุด, เขาก็พูดออกมา ฟิรุแมนเป็นภพที่เก่าแก่มากและเคยมียุคสมัยของเทพในอดีตกาล มีเทพมากมายตายที่นี่ และเห็นได้ชัดว่ามีอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์มากตามไปด้วย ถ้าเราหาเจอซักชิ้นแล้วส่งมันให้อาร์คเมจภูผาน้ำแข็ง, พวกเราจะต้องพลิกสถานการณ์ได้อย่างแน่นอน
แล้วคุณมีเป้าหมายรึยัง? ลิงค์ถามตรงๆ
ผู้ไล่ตามแห่งความมืดทางใต้ ดิโลเซ่นตอบสั้นๆ
ผู้ไล่ตามแห่งความมืดมอร์เฟียสมีเลเวล19 และเป็นครึ่งเทพ คุณเตรียมการมายังไงบ้าง? แล้วพวกเราจะได้ประโยชน์อะไร? ลิงค์ถามตรงๆ
ข้ามีอุปกรณ์โจมตีเลเวล19 จากอาร์คเมจภูผาน้ำแข็ง ถ้าท่านช่วยข้าเอาชนะผู้ไล่ตามแห่งความมืดและชิงชิ้นส่วนมาได้, อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในการหยุดพิธีกรรมรวมภพ แล้วท่านก็จะได้รับอุปกรณ์เวทมนตร์เลเวล 19 สามชิ้นด้วย
ของรางวัลช่างใจปล้ำจริงๆลิงค์กับเอเลียร์ดมองหน้ากัน เอเลียร์ดพยักหน้าเป็นการเห็นด้วย, แต่ลิงค์ก็ยังมีข้อสงสัยอยู่ คำถามสุดท้าย ทำไมอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งถึงมอบภารกิจที่สำคัญขนาดนี้ให้กับนักเวทย์เลเวล 14 หล่ะ?
หึหึ ดิโลเซ่นหัวเราะแห้ง ก็เพราะข้าเป็นคนเดียวที่โชคดีหนีรอดมาจากอาร์คเมจเพลิงแล้วก็นักเวทย์ของมันมาได้ยังไงหล่ะ คนที่แข็งแกร่งกว่าข้าถูกฆ่าตายหมดแล้ว และข้าก็ต้องขอบคุณพวกเขาที่ดึงดูดความสนใจให้ข้า
ด้วยการมองรอยขีดข่วนเล็กๆน้อยๆมากมายบนคทาของดิโลเซ่น,ลิงค์ก็ตัดสินใจที่จะเชื่อคำอธิบายนี้ เข้าใจหล่ะ, ถ้างั้นก็มาทำสัญญากันเถอะ