Chapter
ราเซอร์กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นในคุกใต้ดินที่อยู่ใต้หอคอยเวทมนตร์ของเฟิร์ด
คุกนี้ลิงค์เป็นคนออกแบบขึ้นมาเองเป็นพิเศษเวทมนตร์ป้องกันเลเวล 19 ที่ติดตั้งกับคุกนี้ได้รับพลังมาจากบ่อมานากลางของหอคอยเวทมนตร์โดยตรง ซึ่งลิงค์ก็เป็นคนลงมือติดตั้งซะส่วนใหญ่, รวมทั้งวงเวทย์ปิดกั้นมิติ, วงเวทย์พันธนาการชั่วคราว, และวงเวทย์ดูดมานาด้วย
พูดง่ายๆก็คือ,ต่อให้อยู่ในสภาพที่เพียบพร้อม, ราเซอร์ก็ไม่สามารถหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้
ที่ฝั่งหนึ่งของคุกมีสภาพโปร่งแสงที่นั่น, ลิงค์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หยกซึ่งเขาปั้นขึ้นมาเองโดยใช้เวทย์ดิน ตอนนี้เขากำลังดื่มน้ำชาอยู่เบื้องหน้าราเซอร์ นานะก็อยู่กับเขาเหมือนกัน เธอยืนอยู่ข้างหลังลิงค์อย่างเงียบๆ, และหลบซ่อนอยู่ในความมืดอย่างสมบูรณ์ หลักฐานเดียวที่บ่งบอกว่าเธอยังอยู่ในห้องนี้ก็คือประกายอันหนาวเหน็บจากดาบฝันร้านสิ้นสุดของเธอ
ณตอนนี้, ราเซอร์ได้ถูกถอดอุปกรณ์เวทมนตร์ออกจนหมดตัวแล้ว เขาสวมชุดนักโทษ, และข้อมือกับข้อเท้าของเขาก็ถูกล่ามเอาไว้ด้วยโซ่ที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ เมื่อนำภาพเหล่านี้มารวมกับบาดแผลบนร่างของเขามันก็ทำให้เขาดูมีสภาพเหมือนไอ้ขี้คุกน่าสมเพชอย่างแท้จริง
ถ้ามีพวกระดับสูงของลัทธิเพลิงอยู่ที่นี่ในตอนนี้,เขาหรือเธอคนนั้นก็คงจะไม่คิดว่าชายฉกรรจ์หนวดเครารุงรังคนนี้จะเป็นคนเดียวกับอัศวินเพลิงนรกผู้น่าเกรงขามของลัทธิเพลิง
กริ้ง!ลิงค์เอาฝามาปิดแก้วของเขาก่อนที่จะเอาวางไว้ด้านข้าง หลังจากนั้น, เขาก็ถามขึ้นมา “นักบวชมิลด้าสบายได้ไหม?”
“เฮอะ!”ราเซอร์หันหน้าหนีลิงค์ ไม่กี่วินาทีต่อมา, เขาก็พูดขึ้น “เธอจะเป็นยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า” ลิงค์ยิ้ม“ส่วนใหญ่ฉันจะหลีกเลี่ยงการทรมานนักโทษนะ, โดยเฉพาะพวกตัวเบ้งๆแบบนายเนี่ย แต่ว่า, ฉันก็ไม่ได้รังเกียจที่จะใช้วิธีการรุนแรงแบบนั้นหรอกถ้าเกิดว่ามันจำเป็น”
ชิ้นส่วนเงาศักดิ์สิทธิ์ยังอยู่ในการครอบครองของเขาแม้ว่าอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งจะลดความสามารถที่ส่งผลต่อจิตใจของผู้คนไประดับนึงแล้ว แต่มันก็ยังสามารถดึงดูดความสนใจของมาสเตอร์คนอื่นๆได้นับไม่ถ้วน การที่เขาเก็บมันเอาไว้ที่นี่นั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย เขาต้องรีบส่งชิ้นส่วนนี้คืนอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ปัญหาก็คือตอนนี้อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งอยู่ในภพอารากู่,ซึ่งถูกอาร์คเมจเพลิงผนึกและถูกลัทธิเพลิงปิดกั้นเอาไว้ การบุกเข้าไปในอารากู่โดยไม่ทำความเข้าใจและวางแผนให้ดีก่อนก็คงไม่ต่างอะไรจากการฆ่าตัวตาย
จากนั้นลิงค์ก็พูดต่อ“ฉันอยากจะถามนายซักสองสามคำถาม ถ้านายตอบมาตามตรง, ฉันสัญญาเลยว่าจะปล่อยนายไปพร้อมกับอาวุธและอุปกรณ์ทั้งหมดโดยไม่ทำอะไรรุนแรงทั้งนั้น แล้วฉันก็จะเปิดประตูพานายไปอารากู่ให้ด้วย คิดว่ายังไงหล่ะ?”
ราเซอร์อึ้งจนพูดไม่ออกไปพักนึง“เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโดนหลอกง่ายขนาดนั้นเลยรึไง?”
“ถ้าคำพูดมันยังไม่น่าเชื่อถือพอ,งั้นก็มาทำพันธะวิญญาณกันเลยไหมจะได้พิสูจน์ความจริงใจของฉัน” ลิงค์พูดด้วยรอยยิ้ม
ราเซอร์เงียบไปพักนึง,เขาขมวดคิ้วแน่น จากนั้นก็พูดขึ้นมา “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังวางแผนจะส่งชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์ไปให้อาร์คเมจภูผาน้ำแข็ง ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้เลยนะ, มันไม่ใช่งานง่ายๆแน่ ถ้าเจ้าปล่อยข้าไป, มั่นใจได้เลยว่ามันจะเป็นความผิดพลาดสุดท้ายที่เจ้าจะได้ก่อขึ้นมา”
“เดี๋ยวเราจะได้เห็นกัน…แล้วสรุปจะรับข้อเสนอของฉันไหม?”
ราเซอร์เขม่นตามองไปที่ลิงค์“เจ้าถามได้มากที่สุดสามคำถาม และคำถามใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับนักบวชและลอร์ดของพวกเราข้าจะไม่ตอบอะไรทั้งนั้น”
“เฮ้อ,เรื่องมากจังเลยนะ เอาเถอะ, ฉันยอมรับเงื่อนไขของนายก็ได้” ลิงค์พูดพร้อมพยักหน้า
“ถ้างั้นก็รีบถามมา”อารมณ์ของราเซอร์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด, เพราะรู้ว่ามันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่ลอร์ดเฟิร์ดจะปล่อยเขาออกจากคุกตามสัญญา
“ข้อแรก,ฉันอยากได้แผนที่ของภพอารากู่อย่างละเอียด จุดสำคัญทั้งหมดต้องอธิบายเอาไว้ในแผนที่ด้วย”
ราเซอร์ส่ายหัว“ข้าไม่ค่อยคุ้นเคยกับภูมิประเทศของทั้งภพเท่าไหร่…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ,ลิงค์ก็พูดขัดเขา “อย่ามาเฉไฉหน่า, จริงๆแล้วนายรู้ไม่ใช่หรอ ฉันรู้ความจริงมาว่าแผนที่ของอารากู่จะถูกแจกจ่ายให้กับสมาชิกระดับสูงทุกคนในลัทธิเพลิง, และด้วยเหตุนี้นายก็น่าจะจำทั้งหมดใส่หัวเอาไว้แล้วแน่ๆ แล้วก็ไม่ต้องตกใจด้วยฉันรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ฉันมีวิธีการของฉัน นายหน่ะแค่จดจ่ออยู่กับการเขียนแผนที่นั้นให้ฉันก็พอ”
แผนที่ทั่วๆไปของอารากู่นั้นไม่ใช่ของหายากอย่างไรก็ตาม, สิ่งที่ลิงค์ต้องการจริงๆก็คือแผนที่สำหรับใช้ทางการทหาร ด้วยสิ่งนี้, เขาจะเห็นภาพรวมทางภูมิศาสตร์ของอารากู่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
แม้จะรู้ว่าแผนที่แบบนั้นมีประโยชน์กับลิงค์อย่างมหาศาล,แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามคำขอนี้ ถึงยังไง, นี่ก็เป็นราคาที่เขาต้องจ่ายสำหรับอิสรภาพของเขา
ด้วยการถอนหายใจ,ราเซอร์ก็พยักหน้าในที่สุด “ก็ได้เจ้าจะได้แผนที่นั่น แต่ว่า, ข้อมูลตรงนี้มีความสำคัญมากเกินไป, ข้าจะอนุญาติให้เจ้าถามอีกแค่ข้อเดียวเท่านั้น ถ้าเจ้าไม่ตกลง, ข้าก็จะถือซะว่าการเจรจาเป็นอันยุติ”
“ไม่มีปัญหา”ลิงค์ไม่ได้คัดค้านในเรื่องนี้ การพยายามบีบบังคับคนอย่างราเซอร์นั้นมีแต่จะทำให้เสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์แถมมันอาจจะจบที่มีปัญหาย้อนกลับมาที่เขาเองด้วย
จากนั้นเขาก็พูดต่อ“ฉันอยากรู้ประวัติศาสตร์ของอารากู่ในช่วง 100 ปีมานี้, โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่มีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์โดยรวม, พร้อมกับความลับสำคัญอื่นๆที่นายได้รับฝากฝังให้เก็บเอาไว้ด้วย แล้วก็แน่นอนว่า, นายสามารถเลือกที่จะละเว้นข้อมูลใดก็ตามที่โยงไปถึงนักบวชกับลอร์ดของนายได้”
“เจ้าคิดจะเอาข้อมูลพวกนี้ไปทำอะไรกัน?”ราเซอร์ถามด้วยความงุนงง
“ฉันมีเหตุผลของฉันหน่าแล้วสรุป, นายจะเอายังไง?”
“ก็ได้ข้าตกลง” ราเซอร์พยักหน้า เขาแค่จำเป็นต้องอธิบายประวัติศาสตร์ของอารากู่ให้ลิงค์ฟัง แล้วเขาก็ไม่มีปัญหากับการเปิดเผยความลับใดก็ตามที่เขาเก็บตลอดหลายปีมานี้ด้วย เขาคิดว่ามันไม่น่าจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อแผนการหลัก
ในเมื่อการเจรจาลงตัวแล้ว,หลังจากทำพันธะวิญญาณกับราเซอร์, ลิงค์ก็ส่งกองคำภีร์หนังแกะให้เขาพร้อมกับอุปกรณ์ทำแผนที่เพื่อให้เขาร่างแผนที่ของอารากู่ออกมา
ในระหว่างนี้เอง,เขาก็ตัดสินใจว่าจะไปเยี่ยมราชินีมังกรแดงเกรเทล
เกรเทลนั้นถือเป็นภรรยาอย่างเป็นทางการของลอร์ดเฟิร์ดอย่างไรก็ตาม, หลังจากที่แต่งงานกันแล้วลิงค์ก็มีเรื่องที่ต้องจัดการด้วยตัวเองมากมาย ดังนั้นเมื่อพิจารณาถึงการใช้ชีวิตอันแสนดุเดือดของเขาในช่วงนี้, เขาก็รู้สึกตัวขึ้นมาได้ว่าเขาหาเวลาให้ภรรยาที่แต่งงานตามกฎหมายของเขาไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้เขายังพอพักกำหนดการของตัวเองได้อยู่ เขาสามารถใช้เวลานี้ไปหาเธอได้ เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่อยากถูกบอกเลิกเหมือนที่โดนกับเซลีนอีก
เขามีคฤหาสน์อยู่ในเทือกเขามอดไหม้มันมีสวน, น้ำพุ, และทะเลสาบเล็กๆอยู่ ที่นั่นมีทัศนียภาพที่งดงาม อย่างไรก็ตาม, ด้วยความที่ลิงค์ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหมกตัวอยู่ในหอคอยเวทมนตร์, เขาจึงแทบไม่มีโอกาสได้กลับมาที่คฤหาสน์เลย
แทนที่จะใช้เวทย์เทเลพอร์ทไปที่นั่น,ลิงค์ตัดสินใจว่าจะเดินทางด้วยการขี่ม้าผ่านเทือกเขามอดไหม้ตรงไปทางคฤหาสน์
หน้าตาของลิงค์นั้นได้ถูกฝังลึกเอาไว้ในใจของผู้คนในเทือกเขามอดไหม้แล้วอย่างไรก็ตาม, เห็นได้ชัดว่าทุกคนต่างก็พากันตกใจกับการที่เห็นเขาออกมาโชว์ตัวข้างนอก, เพราะเขาไม่ค่อยโผล่ออกมาให้เห็นข้างนอกหอคอยเวทมนตร์เลย ซึ่งนี่ก็ทำให้ชาวเมืองทุกคนรีบกรูกันมาหมอบกราบเขาทั้งสองฝั่งถนนในขณะที่ม้าค่อยๆเดินไปตามทาง
ลิงค์พยักหน้ากลับไปให้พวกเขาเล็กน้อยและด้วยความที่ชาวเมืองตามท้องถนนมีเยอะเกินไป, เขาจึงทำได้แค่สื่อสารทางสายตากับพวกเขาบางส่วน ซึ่งพวกที่ถูกสบตาด้วยนั้นต่างก็รู้สึกดีใจจนลมจับ สำหรับพวกเขา, ไม่มีอะไรที่เป็นเกียรติไปกว่าการถูกรับรู้จากลอร์ดเฟิร์ดแล้ว มันถือเป็นเรื่องที่พวกเขาสามารถเอาไปขิงเพื่อนกับครอบครัวในช่วงเวลาบนโต๊ะอาหารระหว่างวันได้เลย
ลิงค์ไม่ได้คิดจะไปทำความเข้าใจกับสิ่งที่คนพวกนี้คิดอยู่เขาเดินไปตามท้องถนน, พร้อมกับชื่นชมเมืองที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง
ในขณะที่ลิงค์มุ่งหน้าไปทางคฤหาสน์อย่างเรื่อยๆเฉื่อยๆ,ข่าวการมาอย่างกระทันหันของเขาก็ไปถึงที่นั่นแล้ว
การ์ดที่ถูกมอบหมายให้ประจำการที่คฤหาสน์เป็นนักรบมังกรทุกคนแม้กระทั่งคนรับใช้ก็ยังมีเลือดมังกรไหลเวียนอยู่ในร่าง ตั้งแต่ตอนที่ราชินีของพวกเขากลายเป็นภรรยาของลอร์ดเฟิร์ดอย่างเป็นทางการ, ความจริงที่ตัวลอร์ดนั้นไม่เคยกลับมาที่คฤหาสน์ของตัวเองเลยก็ได้ทำให้พวกมังกรตกอยู่ในจุดที่น่ากระอักกระอ่วน แม้ว่าราชินีจะสูญเสียพลังส่วนใหญ่ไปแล้ว,แต่ความงดงามของเธอก็ยังคงเป็นที่จับต้องได้ยาก แต่ถึงอย่างนั้น, มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะดึงลอร์ดเฟิร์ดออกมาจากการวิจัยเวทมนตร์ และด้วยเหตุนี้เอง, ราชินีมังกรจึงถูกทิ้งไว้ให้ใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยตัวคนเดียว ซึ่งนี่อาจทำให้สายเลือดราชวงศ์มังกรมาถึงจุดสิ้นสุดเร็วกว่าที่พวกเขากลัวก็ได้
ด้วยลอร์ดที่แข็งแกร่งระดับนี้และหอคอยเวทมนตร์ที่เติบโตและมีศักยภาพสูงขึ้นในทุกๆวันเฟิร์ดจึงไม่ได้ยืนอยู่ในจุดๆเดียวกับเผ่ามังกรอีกต่อไปแล้ว และนี่ก็หมายความว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เฟิร์ดเจอภัยคุกคามที่เกี่ยวพันธ์ถึงความอยู่รอด, เรื่องที่เกี่ยวกับเผ่ามังกรนั้นก็จะถูกพักเอาไว้ทั้งหมด
ผู้อาวุโสเพทตาลอง,ที่ได้รับหน้าที่ดูแลเทือกเขามอดไหม้นั้น, ดีดตัวขึ้นมาอย่างตื่นเต้นในตอนที่เขาได้ยินว่าตอนนี้ลิงค์กำลังเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์ จากนั้นเขาก็ถามขึ้นมา “เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ใช่ข่าวลวง?” “ครับ,ข้ามั่นใจ ไม่มีทางที่ข้าจะจำลอร์ดเฟิร์ดผิดกับคนอื่นแน่นอนครับ” คนรับใช้ที่นำข่าวดีมาให้เพทตาลองตอบกลับ
ดูเหมือนว่าเขาจะพูดความจริงแม้ว่าเขาจะเป็นคนหน้าโหล, แต่ลิงค์ก็เป็นคนที่ถ้าใครเห็นก็สามารถจดจำได้อย่างง่ายดาย บรรยากาศอันลึกลับที่เขาแผ่ออกมานั้นไม่ใช่สิ่งที่คนส่วนใหญ่จะสามารถลอกเลียนได้ แม้กระทั่งคนตาบอดก็ยังสามารถจำเขาได้จากเสียงฝีเท้าของเขา
เพทตาลองเดินไปรอบห้อง,จากนั้นเขาก็เอาหมัดขวาทุบไปที่ฝ่ามือข้างซ้ายแล้วพูดออกมา “เอาข่าวนี้ไปบอกราชินีเดี๋ยวนี้เลย ข้าจะรอให้การต้อนรับเขาเอง”
“รับทราบครับ”คนใช้รีบวิ่งออกไปจากห้องเพื่อทำตามคำสั่ง จากนั้นเพทตาลองก็เดินตรงไปที่ประตูคฤหาสน์เพื่อรอต้อนรับการมาถึงของลิงค์
ข่าวที่ลิงค์จะกลับมาที่คฤหาสน์ไปถึงหูของราชินีมังกรแดงเกรเทลในเวลาไม่นาน เกรเทลกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ในตอนที่ได้ยินข่าวนี้เธอปลูกพืชเอาไว้ในสวนอยู่จำนวนนึงเพื่อที่จะใช้ฆ่าเวลาในแต่ละวัน
หลังจากที่แต่งงานกับลิงค์,เกรเทลก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองในฐานะภรรยาของลอร์ดเฟิร์ดให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในบางครั้ง, เธอจะพาแขกคนสำคัญจากอาณาจักรอื่นมาให้การต้อนรับที่คฤหาสน์ด้วย
อย่างไรก็ตาม,เมือไหร่ที่เธออยู่คนเดียว, เธอก็มักจะฝันหวานถึงอดีตที่ผ่านมานานหรือไม่ก็สวดภาวนาให้ลิงค์กลับมาอย่างปลอดภัย ในบางคืน, เธอจะร้องไห้อยู่เงียบๆไปจนหลับในห้องนอนที่มืดมิดของเธอ
ตั้งแต่ที่เธอสูญเสียพลังไป,เธอก็กลายเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวขึ้นมาก
ในตอนที่คนใช้เอาข่าวนี้มาบอกเธอ,เธอก็หลุดส่งเสียง “ห้ะ!” ออกมาแล้วเผลอทิ้งการดน้ำที่อยู่ในมือ จากนั้นเธอก็หันไปหาคนใช้คนนึงที่ยืนอยู่ตรงมุมสวนด้วยความตกตะลึงแล้วพูดออกมา “รีบกลับไปที่ห้องของข้ากันเถอะ ข้าต้องรีบเปลี่ยนชุดแล้ว แถมผมของข้าก็ยุ่งอยู่ด้วย”
คนรับใช้รีบตามเกรเทลกลับไปที่ห้องของเธอซึ่งเธอต้องเร่งฝีเท้าตามด้วย
อย่างไรก็ตาม,ราชินีมังกรแดงที่อยู่ข้างหน้านั้นก็หยุดลงอย่างกระทันหัน แล้วคนใช้คนนั้นก็เห็นชายผมดำยืนพิงที่ฝั่งนึงของทางเข้าสวนอยู่ ชายคนนั้นกำลังมองมาที่พวกเธอด้วยรอยยิ้ม
คนรับใช้หน้าแดงในทันทีตอนนี้ความคิดของเธอสับสนไปหมด ขาของเธออ่อนยวบด้วยความสงสัยว่าลอร์ดเฟิร์ดยิ้มให้เธอทำไม จากนั้นเธอก็ตระหนักได้ว่ารอยยิ้มนี้ต้องมีไว้ให้ราชินีแน่ๆ
คนรับใช้รู้สึกตัวขึ้นมาในทันทีว่านี่มันถึงเวลาที่เธอควรจะออกจากฉากแล้วดังนั้นเธอจึงออกจากสวนไปอย่างเงียบๆด้วยความรู้สึกหดหู่เล็กน้อย
ราเซอร์กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นในคุกใต้ดินที่อยู่ใต้หอคอยเวทมนตร์ของเฟิร์ด
คุกนี้ลิงค์เป็นคนออกแบบขึ้นมาเองเป็นพิเศษเวทมนตร์ป้องกันเลเวล 19 ที่ติดตั้งกับคุกนี้ได้รับพลังมาจากบ่อมานากลางของหอคอยเวทมนตร์โดยตรง ซึ่งลิงค์ก็เป็นคนลงมือติดตั้งซะส่วนใหญ่, รวมทั้งวงเวทย์ปิดกั้นมิติ, วงเวทย์พันธนาการชั่วคราว, และวงเวทย์ดูดมานาด้วย
พูดง่ายๆก็คือ,ต่อให้อยู่ในสภาพที่เพียบพร้อม, ราเซอร์ก็ไม่สามารถหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้
ที่ฝั่งหนึ่งของคุกมีสภาพโปร่งแสงที่นั่น, ลิงค์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หยกซึ่งเขาปั้นขึ้นมาเองโดยใช้เวทย์ดิน ตอนนี้เขากำลังดื่มน้ำชาอยู่เบื้องหน้าราเซอร์ นานะก็อยู่กับเขาเหมือนกัน เธอยืนอยู่ข้างหลังลิงค์อย่างเงียบๆ, และหลบซ่อนอยู่ในความมืดอย่างสมบูรณ์ หลักฐานเดียวที่บ่งบอกว่าเธอยังอยู่ในห้องนี้ก็คือประกายอันหนาวเหน็บจากดาบฝันร้านสิ้นสุดของเธอ
ณตอนนี้, ราเซอร์ได้ถูกถอดอุปกรณ์เวทมนตร์ออกจนหมดตัวแล้ว เขาสวมชุดนักโทษ, และข้อมือกับข้อเท้าของเขาก็ถูกล่ามเอาไว้ด้วยโซ่ที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ เมื่อนำภาพเหล่านี้มารวมกับบาดแผลบนร่างของเขามันก็ทำให้เขาดูมีสภาพเหมือนไอ้ขี้คุกน่าสมเพชอย่างแท้จริง
ถ้ามีพวกระดับสูงของลัทธิเพลิงอยู่ที่นี่ในตอนนี้,เขาหรือเธอคนนั้นก็คงจะไม่คิดว่าชายฉกรรจ์หนวดเครารุงรังคนนี้จะเป็นคนเดียวกับอัศวินเพลิงนรกผู้น่าเกรงขามของลัทธิเพลิง
กริ้ง!ลิงค์เอาฝามาปิดแก้วของเขาก่อนที่จะเอาวางไว้ด้านข้าง หลังจากนั้น, เขาก็ถามขึ้นมา “นักบวชมิลด้าสบายได้ไหม?”
“เฮอะ!”ราเซอร์หันหน้าหนีลิงค์ ไม่กี่วินาทีต่อมา, เขาก็พูดขึ้น “เธอจะเป็นยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า” ลิงค์ยิ้ม“ส่วนใหญ่ฉันจะหลีกเลี่ยงการทรมานนักโทษนะ, โดยเฉพาะพวกตัวเบ้งๆแบบนายเนี่ย แต่ว่า, ฉันก็ไม่ได้รังเกียจที่จะใช้วิธีการรุนแรงแบบนั้นหรอกถ้าเกิดว่ามันจำเป็น”
ชิ้นส่วนเงาศักดิ์สิทธิ์ยังอยู่ในการครอบครองของเขาแม้ว่าอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งจะลดความสามารถที่ส่งผลต่อจิตใจของผู้คนไประดับนึงแล้ว แต่มันก็ยังสามารถดึงดูดความสนใจของมาสเตอร์คนอื่นๆได้นับไม่ถ้วน การที่เขาเก็บมันเอาไว้ที่นี่นั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย เขาต้องรีบส่งชิ้นส่วนนี้คืนอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ปัญหาก็คือตอนนี้อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งอยู่ในภพอารากู่,ซึ่งถูกอาร์คเมจเพลิงผนึกและถูกลัทธิเพลิงปิดกั้นเอาไว้ การบุกเข้าไปในอารากู่โดยไม่ทำความเข้าใจและวางแผนให้ดีก่อนก็คงไม่ต่างอะไรจากการฆ่าตัวตาย
จากนั้นลิงค์ก็พูดต่อ“ฉันอยากจะถามนายซักสองสามคำถาม ถ้านายตอบมาตามตรง, ฉันสัญญาเลยว่าจะปล่อยนายไปพร้อมกับอาวุธและอุปกรณ์ทั้งหมดโดยไม่ทำอะไรรุนแรงทั้งนั้น แล้วฉันก็จะเปิดประตูพานายไปอารากู่ให้ด้วย คิดว่ายังไงหล่ะ?”
ราเซอร์อึ้งจนพูดไม่ออกไปพักนึง“เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโดนหลอกง่ายขนาดนั้นเลยรึไง?”
“ถ้าคำพูดมันยังไม่น่าเชื่อถือพอ,งั้นก็มาทำพันธะวิญญาณกันเลยไหมจะได้พิสูจน์ความจริงใจของฉัน” ลิงค์พูดด้วยรอยยิ้ม
ราเซอร์เงียบไปพักนึง,เขาขมวดคิ้วแน่น จากนั้นก็พูดขึ้นมา “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังวางแผนจะส่งชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์ไปให้อาร์คเมจภูผาน้ำแข็ง ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้เลยนะ, มันไม่ใช่งานง่ายๆแน่ ถ้าเจ้าปล่อยข้าไป, มั่นใจได้เลยว่ามันจะเป็นความผิดพลาดสุดท้ายที่เจ้าจะได้ก่อขึ้นมา”
“เดี๋ยวเราจะได้เห็นกัน…แล้วสรุปจะรับข้อเสนอของฉันไหม?”
ราเซอร์เขม่นตามองไปที่ลิงค์“เจ้าถามได้มากที่สุดสามคำถาม และคำถามใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับนักบวชและลอร์ดของพวกเราข้าจะไม่ตอบอะไรทั้งนั้น”
“เฮ้อ,เรื่องมากจังเลยนะ เอาเถอะ, ฉันยอมรับเงื่อนไขของนายก็ได้” ลิงค์พูดพร้อมพยักหน้า
“ถ้างั้นก็รีบถามมา”อารมณ์ของราเซอร์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด, เพราะรู้ว่ามันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่ลอร์ดเฟิร์ดจะปล่อยเขาออกจากคุกตามสัญญา
“ข้อแรก,ฉันอยากได้แผนที่ของภพอารากู่อย่างละเอียด จุดสำคัญทั้งหมดต้องอธิบายเอาไว้ในแผนที่ด้วย”
ราเซอร์ส่ายหัว“ข้าไม่ค่อยคุ้นเคยกับภูมิประเทศของทั้งภพเท่าไหร่…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ,ลิงค์ก็พูดขัดเขา “อย่ามาเฉไฉหน่า, จริงๆแล้วนายรู้ไม่ใช่หรอ ฉันรู้ความจริงมาว่าแผนที่ของอารากู่จะถูกแจกจ่ายให้กับสมาชิกระดับสูงทุกคนในลัทธิเพลิง, และด้วยเหตุนี้นายก็น่าจะจำทั้งหมดใส่หัวเอาไว้แล้วแน่ๆ แล้วก็ไม่ต้องตกใจด้วยฉันรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ฉันมีวิธีการของฉัน นายหน่ะแค่จดจ่ออยู่กับการเขียนแผนที่นั้นให้ฉันก็พอ”
แผนที่ทั่วๆไปของอารากู่นั้นไม่ใช่ของหายากอย่างไรก็ตาม, สิ่งที่ลิงค์ต้องการจริงๆก็คือแผนที่สำหรับใช้ทางการทหาร ด้วยสิ่งนี้, เขาจะเห็นภาพรวมทางภูมิศาสตร์ของอารากู่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
แม้จะรู้ว่าแผนที่แบบนั้นมีประโยชน์กับลิงค์อย่างมหาศาล,แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามคำขอนี้ ถึงยังไง, นี่ก็เป็นราคาที่เขาต้องจ่ายสำหรับอิสรภาพของเขา
ด้วยการถอนหายใจ,ราเซอร์ก็พยักหน้าในที่สุด “ก็ได้เจ้าจะได้แผนที่นั่น แต่ว่า, ข้อมูลตรงนี้มีความสำคัญมากเกินไป, ข้าจะอนุญาติให้เจ้าถามอีกแค่ข้อเดียวเท่านั้น ถ้าเจ้าไม่ตกลง, ข้าก็จะถือซะว่าการเจรจาเป็นอันยุติ”
“ไม่มีปัญหา”ลิงค์ไม่ได้คัดค้านในเรื่องนี้ การพยายามบีบบังคับคนอย่างราเซอร์นั้นมีแต่จะทำให้เสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์แถมมันอาจจะจบที่มีปัญหาย้อนกลับมาที่เขาเองด้วย
จากนั้นเขาก็พูดต่อ“ฉันอยากรู้ประวัติศาสตร์ของอารากู่ในช่วง 100 ปีมานี้, โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่มีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์โดยรวม, พร้อมกับความลับสำคัญอื่นๆที่นายได้รับฝากฝังให้เก็บเอาไว้ด้วย แล้วก็แน่นอนว่า, นายสามารถเลือกที่จะละเว้นข้อมูลใดก็ตามที่โยงไปถึงนักบวชกับลอร์ดของนายได้”
“เจ้าคิดจะเอาข้อมูลพวกนี้ไปทำอะไรกัน?”ราเซอร์ถามด้วยความงุนงง
“ฉันมีเหตุผลของฉันหน่าแล้วสรุป, นายจะเอายังไง?”
“ก็ได้ข้าตกลง” ราเซอร์พยักหน้า เขาแค่จำเป็นต้องอธิบายประวัติศาสตร์ของอารากู่ให้ลิงค์ฟัง แล้วเขาก็ไม่มีปัญหากับการเปิดเผยความลับใดก็ตามที่เขาเก็บตลอดหลายปีมานี้ด้วย เขาคิดว่ามันไม่น่าจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อแผนการหลัก
ในเมื่อการเจรจาลงตัวแล้ว,หลังจากทำพันธะวิญญาณกับราเซอร์, ลิงค์ก็ส่งกองคำภีร์หนังแกะให้เขาพร้อมกับอุปกรณ์ทำแผนที่เพื่อให้เขาร่างแผนที่ของอารากู่ออกมา
ในระหว่างนี้เอง,เขาก็ตัดสินใจว่าจะไปเยี่ยมราชินีมังกรแดงเกรเทล
เกรเทลนั้นถือเป็นภรรยาอย่างเป็นทางการของลอร์ดเฟิร์ดอย่างไรก็ตาม, หลังจากที่แต่งงานกันแล้วลิงค์ก็มีเรื่องที่ต้องจัดการด้วยตัวเองมากมาย ดังนั้นเมื่อพิจารณาถึงการใช้ชีวิตอันแสนดุเดือดของเขาในช่วงนี้, เขาก็รู้สึกตัวขึ้นมาได้ว่าเขาหาเวลาให้ภรรยาที่แต่งงานตามกฎหมายของเขาไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้เขายังพอพักกำหนดการของตัวเองได้อยู่ เขาสามารถใช้เวลานี้ไปหาเธอได้ เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่อยากถูกบอกเลิกเหมือนที่โดนกับเซลีนอีก
เขามีคฤหาสน์อยู่ในเทือกเขามอดไหม้มันมีสวน, น้ำพุ, และทะเลสาบเล็กๆอยู่ ที่นั่นมีทัศนียภาพที่งดงาม อย่างไรก็ตาม, ด้วยความที่ลิงค์ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหมกตัวอยู่ในหอคอยเวทมนตร์, เขาจึงแทบไม่มีโอกาสได้กลับมาที่คฤหาสน์เลย
แทนที่จะใช้เวทย์เทเลพอร์ทไปที่นั่น,ลิงค์ตัดสินใจว่าจะเดินทางด้วยการขี่ม้าผ่านเทือกเขามอดไหม้ตรงไปทางคฤหาสน์
หน้าตาของลิงค์นั้นได้ถูกฝังลึกเอาไว้ในใจของผู้คนในเทือกเขามอดไหม้แล้วอย่างไรก็ตาม, เห็นได้ชัดว่าทุกคนต่างก็พากันตกใจกับการที่เห็นเขาออกมาโชว์ตัวข้างนอก, เพราะเขาไม่ค่อยโผล่ออกมาให้เห็นข้างนอกหอคอยเวทมนตร์เลย ซึ่งนี่ก็ทำให้ชาวเมืองทุกคนรีบกรูกันมาหมอบกราบเขาทั้งสองฝั่งถนนในขณะที่ม้าค่อยๆเดินไปตามทาง
ลิงค์พยักหน้ากลับไปให้พวกเขาเล็กน้อยและด้วยความที่ชาวเมืองตามท้องถนนมีเยอะเกินไป, เขาจึงทำได้แค่สื่อสารทางสายตากับพวกเขาบางส่วน ซึ่งพวกที่ถูกสบตาด้วยนั้นต่างก็รู้สึกดีใจจนลมจับ สำหรับพวกเขา, ไม่มีอะไรที่เป็นเกียรติไปกว่าการถูกรับรู้จากลอร์ดเฟิร์ดแล้ว มันถือเป็นเรื่องที่พวกเขาสามารถเอาไปขิงเพื่อนกับครอบครัวในช่วงเวลาบนโต๊ะอาหารระหว่างวันได้เลย
ลิงค์ไม่ได้คิดจะไปทำความเข้าใจกับสิ่งที่คนพวกนี้คิดอยู่เขาเดินไปตามท้องถนน, พร้อมกับชื่นชมเมืองที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง
ในขณะที่ลิงค์มุ่งหน้าไปทางคฤหาสน์อย่างเรื่อยๆเฉื่อยๆ,ข่าวการมาอย่างกระทันหันของเขาก็ไปถึงที่นั่นแล้ว
การ์ดที่ถูกมอบหมายให้ประจำการที่คฤหาสน์เป็นนักรบมังกรทุกคนแม้กระทั่งคนรับใช้ก็ยังมีเลือดมังกรไหลเวียนอยู่ในร่าง ตั้งแต่ตอนที่ราชินีของพวกเขากลายเป็นภรรยาของลอร์ดเฟิร์ดอย่างเป็นทางการ, ความจริงที่ตัวลอร์ดนั้นไม่เคยกลับมาที่คฤหาสน์ของตัวเองเลยก็ได้ทำให้พวกมังกรตกอยู่ในจุดที่น่ากระอักกระอ่วน แม้ว่าราชินีจะสูญเสียพลังส่วนใหญ่ไปแล้ว,แต่ความงดงามของเธอก็ยังคงเป็นที่จับต้องได้ยาก แต่ถึงอย่างนั้น, มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะดึงลอร์ดเฟิร์ดออกมาจากการวิจัยเวทมนตร์ และด้วยเหตุนี้เอง, ราชินีมังกรจึงถูกทิ้งไว้ให้ใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยตัวคนเดียว ซึ่งนี่อาจทำให้สายเลือดราชวงศ์มังกรมาถึงจุดสิ้นสุดเร็วกว่าที่พวกเขากลัวก็ได้
ด้วยลอร์ดที่แข็งแกร่งระดับนี้และหอคอยเวทมนตร์ที่เติบโตและมีศักยภาพสูงขึ้นในทุกๆวันเฟิร์ดจึงไม่ได้ยืนอยู่ในจุดๆเดียวกับเผ่ามังกรอีกต่อไปแล้ว และนี่ก็หมายความว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เฟิร์ดเจอภัยคุกคามที่เกี่ยวพันธ์ถึงความอยู่รอด, เรื่องที่เกี่ยวกับเผ่ามังกรนั้นก็จะถูกพักเอาไว้ทั้งหมด
ผู้อาวุโสเพทตาลอง,ที่ได้รับหน้าที่ดูแลเทือกเขามอดไหม้นั้น, ดีดตัวขึ้นมาอย่างตื่นเต้นในตอนที่เขาได้ยินว่าตอนนี้ลิงค์กำลังเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์ จากนั้นเขาก็ถามขึ้นมา “เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ใช่ข่าวลวง?” “ครับ,ข้ามั่นใจ ไม่มีทางที่ข้าจะจำลอร์ดเฟิร์ดผิดกับคนอื่นแน่นอนครับ” คนรับใช้ที่นำข่าวดีมาให้เพทตาลองตอบกลับ
ดูเหมือนว่าเขาจะพูดความจริงแม้ว่าเขาจะเป็นคนหน้าโหล, แต่ลิงค์ก็เป็นคนที่ถ้าใครเห็นก็สามารถจดจำได้อย่างง่ายดาย บรรยากาศอันลึกลับที่เขาแผ่ออกมานั้นไม่ใช่สิ่งที่คนส่วนใหญ่จะสามารถลอกเลียนได้ แม้กระทั่งคนตาบอดก็ยังสามารถจำเขาได้จากเสียงฝีเท้าของเขา
เพทตาลองเดินไปรอบห้อง,จากนั้นเขาก็เอาหมัดขวาทุบไปที่ฝ่ามือข้างซ้ายแล้วพูดออกมา “เอาข่าวนี้ไปบอกราชินีเดี๋ยวนี้เลย ข้าจะรอให้การต้อนรับเขาเอง”
“รับทราบครับ”คนใช้รีบวิ่งออกไปจากห้องเพื่อทำตามคำสั่ง จากนั้นเพทตาลองก็เดินตรงไปที่ประตูคฤหาสน์เพื่อรอต้อนรับการมาถึงของลิงค์
ข่าวที่ลิงค์จะกลับมาที่คฤหาสน์ไปถึงหูของราชินีมังกรแดงเกรเทลในเวลาไม่นาน เกรเทลกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ในตอนที่ได้ยินข่าวนี้เธอปลูกพืชเอาไว้ในสวนอยู่จำนวนนึงเพื่อที่จะใช้ฆ่าเวลาในแต่ละวัน
หลังจากที่แต่งงานกับลิงค์,เกรเทลก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองในฐานะภรรยาของลอร์ดเฟิร์ดให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในบางครั้ง, เธอจะพาแขกคนสำคัญจากอาณาจักรอื่นมาให้การต้อนรับที่คฤหาสน์ด้วย
อย่างไรก็ตาม,เมือไหร่ที่เธออยู่คนเดียว, เธอก็มักจะฝันหวานถึงอดีตที่ผ่านมานานหรือไม่ก็สวดภาวนาให้ลิงค์กลับมาอย่างปลอดภัย ในบางคืน, เธอจะร้องไห้อยู่เงียบๆไปจนหลับในห้องนอนที่มืดมิดของเธอ
ตั้งแต่ที่เธอสูญเสียพลังไป,เธอก็กลายเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวขึ้นมาก
ในตอนที่คนใช้เอาข่าวนี้มาบอกเธอ,เธอก็หลุดส่งเสียง “ห้ะ!” ออกมาแล้วเผลอทิ้งการดน้ำที่อยู่ในมือ จากนั้นเธอก็หันไปหาคนใช้คนนึงที่ยืนอยู่ตรงมุมสวนด้วยความตกตะลึงแล้วพูดออกมา “รีบกลับไปที่ห้องของข้ากันเถอะ ข้าต้องรีบเปลี่ยนชุดแล้ว แถมผมของข้าก็ยุ่งอยู่ด้วย”
คนรับใช้รีบตามเกรเทลกลับไปที่ห้องของเธอซึ่งเธอต้องเร่งฝีเท้าตามด้วย
อย่างไรก็ตาม,ราชินีมังกรแดงที่อยู่ข้างหน้านั้นก็หยุดลงอย่างกระทันหัน แล้วคนใช้คนนั้นก็เห็นชายผมดำยืนพิงที่ฝั่งนึงของทางเข้าสวนอยู่ ชายคนนั้นกำลังมองมาที่พวกเธอด้วยรอยยิ้ม
คนรับใช้หน้าแดงในทันทีตอนนี้ความคิดของเธอสับสนไปหมด ขาของเธออ่อนยวบด้วยความสงสัยว่าลอร์ดเฟิร์ดยิ้มให้เธอทำไม จากนั้นเธอก็ตระหนักได้ว่ารอยยิ้มนี้ต้องมีไว้ให้ราชินีแน่ๆ
คนรับใช้รู้สึกตัวขึ้นมาในทันทีว่านี่มันถึงเวลาที่เธอควรจะออกจากฉากแล้วดังนั้นเธอจึงออกจากสวนไปอย่างเงียบๆด้วยความรู้สึกหดหู่เล็กน้อย