Chapter
ตั้งแต่ที่กลับมาที่เฟิร์ดโดยส่วนใหญ่แล้วนานะมักจะเก็บตัวอยู่เงียบๆ
นอกจากการออกไปทำภารกิจที่ลิงค์มอบให้เป็นครั้งคราว,นานะจะไม่ค่อยแสดงตัวออกมาเท่าไหร่จนทุกคนแทบจะลืมตัวตนของเธอไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม,เธอเป็นคนแรกที่ก้าวขึ้นมาปกป้องเฟิร์ดในตอนที่เมืองตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามอีกครั้ง เธอมักจะชอบปรากฎตัวขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญเสมอ, เหมือนกับตอนที่ลิงค์กำลังอับจนหนทางในตอนที่อยู่ป่าทมิฬ
ราเซอร์หยุดการกระทำของเขาในทันทีที่เห็นนานะ
เขาไม่ได้หยุดอยู่เบื้องหน้าเธอเพราะความเคารพที่มีอยู่ในฐานะอดีตผู้คุ้มกันของนักบวชของพวกเขาแต่มันเป็นเพราะเขากลัวพลังของเธอต่างหาก ในฐานะหัวหน้าของอัศวินลาวาในลัทธิเพลิง, เขารู้ความลับส่วนตัวของทุกคนในลัทธิดี อย่างไรก็ตาม, มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ยังมีความลึกลับปกคลุมอยู่อย่างกว้างขวาง และด้วยความที่เขาไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับคนที่ว่านี้เอง, เขาจึงอดรู้สึกระวังไม่ได้
และตอนนี้,คนๆนั้นก็กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าเขา
“นานะ,เจ้าทรยศลัทธิ!” ราเซอร์ตะโกน เขากำดาบในมือแน่น ตอนนี้กล้ามเนื้อทุกมัดของเขากำลังสั่นอย่างเป็นจังหวะในขณะที่เขาเริ่มปรับท่าทางสำหรับเตรียมพร้อมต่อสู้
แม้ว่าเขาจะต้องทำตามกำหนดการ,แต่ราเซอร์ก็รู้ว่าการวิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจอะไรเลยนั้นไม่ใช่การกระทำที่ฉลาดเลย
ตลอดกว่าหนึ่งศตวรรษของความขัดแย้งระหว่างอาณาจักรอารากู่กับอาณาจักรหยาง,มีมาสเตอร์เก่งๆอยู่นับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตาม, มีคนกำลังไล่กำจัดมาสเตอร์เหล่านี้ไปทีละคน ในม่านหมอกของประวัติศาสตร์, ทุกๆครั้งที่มาสเตอร์เหล่านี้ตายไปอย่างเป็นปริศนา, มันมักจะมีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับนานะอยู่เสมอ
ถ้ามองเพียงผิวเผิน,พลังของนานะนั้นอยู่แค่เลเวล 13 ไม่สิ, ตอนนี้เธอใกล้จะไปถึงเลเวล 15 แล้ว ราเซอร์ไม่รู้ว่านานะไปเจอกับอะไรในเฟิร์ด อย่างไรก็ตาม, เขามั่นใจว่าตอนนี้นานะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ
นานะยืนอยู่เบื้องหน้าราเซอร์โดยสวมชุดเกราะหนังสีดำเธอกำลังถือดาบมือเดียวที่ลิงค์สร้างขึ้นมาให้เธอ, ดาบฝันร้ายสิ้นสุด ในตอนที่เธอพึ่งกลับมาถึงเฟิร์ดใหม่ๆ, ดาบเล่มนี้ใกล้จะพังแล้ว อย่างไรก็ตาม, ลิงค์ได้ซ่อมแซมมันให้เธอแถมเขายังปรับปรุงเพิ่มขึ้นด้วย ตอนนี้ดาบมีสีฟ้าขุ่น และรอบๆคมดาบยาวสี่ฟุตก็มีออร่าสีฟ้าที่ดูลึกลับกำลังหมุนวนอยู่
พอเห็นราเซอร์,นานะก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “มันก็ผ่านมาซักพักแล้วนะ, ราเซอร์ ตอนนี้นายเป็นหัวหน้าของอัศวินลาวาแล้วนี่ ไม่เลวเลย แต่ว่านะ, วันนี้นายทำผิดมหันต์แล้วหล่ะ”
ในขณะที่พูด,ตอนนี้ออร่าสีฟ้าก็ค่อยๆปกคลุมร่างของนานะเอาไว้ ในบางครั้ง, จะมีจุดแสงสีฟ้าอ่อนสว่างออกมาด้วย ส่วนนอกเหนือจากนั้น, นานะยังคงสงบเสงี่ยมในขณะที่อยู่เบื้องหน้าราเซอร์
อย่างไรก็ตาม,พอเห็นแบบนี้, ราเซอร์ก็กางเขตแดนของเขาออกมาในทันทีราวกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง มีเปลวเพลิงสีดำพุ่งพล่านอยู่ในสวรรค์, และเสียงโหยหวนก็ดังไปทั่วผืนฟ้าราวกับว่าวิญญาณจากนรกได้ถูกปล่อยเข้ามาในโลกนี้ ตอนนี้ท้องฟ้ากำลังมืดลงเรื่อยๆด้วยการบุกรุกของหมอกสีดำ
ค่ำคืนได้คืบคลานมาถึงเฟิร์ดแล้ว!
เขตแดนของราเซอร์นั้นไปถึงตัวนานะ,ที่ไม่ได้พยายามขัดขืนอะไรเลยอย่างรวดเร็ว แต่ก็น่าแปลก, หมอกสีฟ้ารอบตัวเธอไม่ได้หมองลงซักนิดเดียวแม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางความมืดนี้ก็ตาม
ตอนที่อยู่ในป่าทมิฬ,นานะก็เคยแสดงพลังสีฟ้าอ่อนแบบนี้ออกมา ด้วยพลังนี้, เธอจึงสามารถทะลวงการป้องกันของอสรพิษทมิฬและฆ่าผู้ถือครองอุปกรณ์ระดับพระเจ้าได้
แม้ว่าตอนนั้นจะมีเลเวล8, เธอก็สามารถประสบความสำเร็จได้มากขนาดนั้นแล้ว พอมาตอนนี้, เธออยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 14 ซึ่งพลังของเธอได้ถูกทำให้บริสุทธิ์มากขึ้นหลังจากผ่านการเปลี่ยนแปลงและพัฒนามานับครั้งไม่ถ้วน
ที่ภายนอก,มันอาจจะดูไม่อลังการเท่ากับเขตแดนของราเซอร์ อย่างไรก็ตาม, พลังของนานะที่ขาดเรื่องระยะนั้น, มันก็ถูกชดเชยด้วยความบริสุทธิ์ของมัน
“ราเซอร์,นานะจะไปหาแล้วนะ!” นานะประกาศออกมา แม้ว่ารอบตัวเธอจะเปลี่ยนเป็นนรกไปแล้ว, แต่น้ำเสียงของเธอก็ยังคงราบเรียบเหมือนเช่นเคย
โดยไม่คิดอะไรอีก,ราเซอร์ก็วิ่งเข้ามาหานานะด้วยดาบที่ชี้ตรงมาที่เธอ!
การโจมตีนี้มาพร้อมกับการผสานเสียงของลมและสายฟ้าจากนั้นหมอกสีดำก็เริ่มมาหมุนวนรอบตัวราเซอร์จนก่อตัวขึ้นมาเป็นงูยักษ์ งูตัวนี้กำลังพุ่งเข้าหานานะอย่างรวดเร็ว, และเหมือนตั้งใจจะกลืนเธอทั้งตัว
อย่างไรก็ตาม,ไม่ว่าหมอกงูยักษ์นี้จะเร็วแค่ไหน, นานะก็ยังเร็วกว่า
ในที่สุดงูก็ไปถึงหอระฆังซึ่งเป็นจุดที่นานะยืนอยู่และกัดตึกเข้าไปจนแปรสภาพมันเป็นฝุ่น,อย่างไรก็ตาม, ท่ามกลางความวุ่นวายนี้, นานะก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ในหอคอยเวทมนตร์,เอเลียร์ดกับคนอื่นๆต่างก็เฝ้าดูการต่อสู้ที่เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกที่ทั้งหวาดกลัวและประหลาดใจ
“นานะอยู่ไหนแล้ว?ไม่เห็นเธอเลย”
“อย่าบอกนะว่าเธอตายไปแล้วจริงๆ?”
“ข้าคิดว่าเธอคงเอาตัวรอดจากการโจมตีของมาสเตอร์เลเวล16 ไม่ไหวหรอก!”
พวกเขาทุกคนต่างก็ตามการเคลื่อนไหวของนานะไม่ทัน
ราเซอร์เป็นแค่คนเดียวที่เหลือบเห็นออร่าสีฟ้าอ่อนของนานะ
ในตอนที่งูกัดหอระฆัง,เขาก็เห็นร่างสีฟ้ากระโดดออกไปจากหอด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ ซึ่งนี่ทำให้เขาสั่นไปทั้งตัว
พอสัมผัสได้ว่าตอนนี้ชีวิตของตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย,เขาก็เปลี่ยนไปตั้งท่าป้องกันในทันทีและเหวี่ยงดาบไปด้านข้าง
ซึ่งดาบของเขาก็มาได้ทันเวลาพอดีเขาสัมผัสถึงพลังอันคมกริบที่แผ่ออร่าออกมาอย่างท่วมท้นตามความยาวของคมดาบได้อย่างกระทันหัน จากนั้นก็มีเสียงเกร๊งดังก้องไปทั่วฟ้า เสียงนี้แหลมมากจนราเซอร์รู้สึกอยากจะปิดหูเอาไว้
สายตาของเขาแทบจะตามร่างสีฟ้าอ่อนที่แวบไปแวบมารอบตัวเขาเหมือนกับผีไม่ทันและการโจมตีต่อเนื่องก็ถาโถมมาที่เขาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย
เกร๊ง,เกร๊ง, เกร๊ง, เกร๊ง… ราเซอร์ไม่สามารถเสียเวลาไปกับการวางแผนตอบโต้ได้เลย ถ้าเขาตอบสนองช้าแม้เพียงแค่นิดเดียวนั่นก็อาจจะทำให้ชีวิตของเขาต้องจบลงได้ ตอนนี้เขากำลังป้องกันการโจมตีของนานะด้วยสัญชาตญาณ
ตั้งแต่ที่เขากลายเป็นอัศวินลาวานี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เผชิญกับสถานกาณณ์เป็นตายเท่ากันแบบนี้เขารู้มาโดยตลอดว่านานะเป็นคนที่แข็งแกร่งคนนึงในลัทธิเพลิงที่เลือกจะไม่เปิดเผยพลังที่แท้จริงของตัวเองให้โลกรู้, แต่เขาก็คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะแข็งแกร่งขนาดนี้
นักบวชคงไม่รู้เรื่องนี้แน่ๆไม่อย่างนั้น, เธอคงจะไม่ส่งเขามาที่นี่คนเดียว
เกร๊ง,เกร๊ง, เกร๊ง…ในเวลาแค่สามวินาที, ราเซอร์สามารถปัดดาบของนานะไปได้ 70 ครั้ง ตอนนี้เขารู้สึกชาไปทั้งแขน จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าหูของเขาไม่สามารถใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว แก้มของเขารู้สึกอุ่น, และเขาก็รู้สึกได้ว่ามีเลือดกำลังไหลออกมาจากหูของเขา แก้วหูของเขาถูกเสียงดาบของนานะโจมตีอย่างต่อเนื่องจนเสียหายอย่างสมบูรณ์แล้ว
ตอนนี้ราเซอร์รู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นสัตว์ป่าตัวนึงที่กำลังถูกนักล่าตามฤดูล่า
ถ้าให้พูดก็เหมือนกับนักล่าที่ไม่สามารถจัดการเหยื่อด้วยการโจมตีครั้งเดียวได้ดังนั้นเขาต้องพึ่งพาวิธีอื่น ซึ่งนั่นก็คือการบังคับให้เหยื่อไปติดกับดักที่เขาวางเอาไว้ก่อนหน้านี้อย่างเป็นระบบ
ตอนนี้,ราเซอร์รู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังจะก้าวเข้าไปเหยียบกับดักแห่งความตายที่นานะออกแบบเอาไว้ แต่ที่แย่ยิ่งกว่านั้นก็คือ, ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ถึงตัวตนของกับดักนี้, แต่เขาก็หาทางออกจากมันไม่ได้เลย
เธอแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป, ข้าถูกเธอฆ่าทิ้งแน่ๆ! ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวของเขาเหมือนกับกระแสไฟฟ้า เขาต้องทำอะไรซักอย่าง, ไม่อย่างนั้น, เขาคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
สำหรับตอนนี้,ข้อได้เปรียบเดียวที่เขาเหนือกว่านานะก็คือพลังอันมหาศาลที่เขาครอบครองอยู่
ราเซอร์ส่งเสียงคำรามออกมาในตอนนั้นเอง, พลังในร่างของเขาก็เริ่มเดือด แล้วเพลิงนรกก็แผ่ออกมาจากร่างของเขาในลักษณะคลื่น, พร้อมกับปกคลุมพื้นที่ 15 ฟุตรอบตัวเขา
นี่คือพลังสูงสุดของเขา
ในชั่วพริบตา,เพลิงนรกของราเซอร์ก็เผาผลาญทุกสิ่งจนเป็นขี้เถ้าตามเส้นทางที่มันผ่าน ความร้อนที่น่าเหลือเชื่อนี้เผาได้แม้กระทั่งหลุมมิติที่อยู่รอบตัวเขา
ณตอนนี้, ราเซอร์รู้สึกได้ว่าการโจมตีที่โหมกระหน่ำรอบตัวเขาเริ่มช้าลง เขาทำการค้นหาร่างสีฟ้าอ่อนของนานะในทันทีและเห็นว่าเธอกำลังถอย แม้ว่าเพลิงนรกนี้จะแผ่ออกมาอย่างรวดเร็ว, แต่มันก็ยังไม่เร็วพอที่จะตามร่างสีฟ้าอ่อนทัน, ซึ่งนี่ก็ทำให้เกิดช่องว่าง 0.1 ฟุตระหว่างร่างสีฟ้าอ่อนกับเปลวเพลิงกัดกร่อนนี้
ช่องว่าง0.1 ฟุตนี้เป็นสิ่งเดียวที่ขั้นระหว่างชีวิตและความตายที่แน่นอนของนานะ
จากนั้นราเซอร์ก็ถอนหายใจออกมา,เขารู้ว่ามันมีโอกาสน้อยมากที่เขาจะสามารถฆ่านานะได้ในตอนนี้ แล้วเขาก็ตัดสินใจว่าการฝืนบุกเฟิร์ดต่อนั้นไม่มีความหมายอะไรแล้ว
เขาทำภารกิจลอบสังหารลอร์ดเฟิร์ดล้มเหลวอย่างไรก็ตาม, มันก็ยังไม่เป็นไร เขายังมีชีวิตอยู่, เพราะฉะนั้นเขาก็ยังคงมีโอกาสในครั้งหน้า
ตลอดเวลามานี้,เขายังคงเข้าใจว่าลอร์ดเฟิร์ดซ่อนตัวอยู่ที่ไหนซักแห่งในหอคอยเวทมนตร์
เหมือนกับสายฟ้าฟาด,เขาหนีออกจากฉากและไปถึงบาเรียของเมืองมอดไหม้ในเวลาไม่นาน จากที่นั่น, เขามุ่งหน้าไปทางทะเลต่อจนไปถึงเรือรบนกกระจอกวายุเงินในที่สุด
ครึ่งวินาทีต่อมา,เขาก็ขึ้นมาบนเรือนกกระจอกวายุเงินแล้ว จากนั้นด้วยการถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่, เขาก็พูด “เดินทางกลับเกาะรุ่ง…อรุณ” ทันใดนั้นเอง,ขาของเขาก็อ่อนแรงขึ้นมา, แล้วเขาก็คุกเข่าลงกับพื้น จากนั้น, เขาก็รู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอกขึ้นมาอย่างกระทันหัน
ในขณะที่กำลังส่งเสียงหอบอยู่,เขาก็ก้มลงไปดูและตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
ชุดเกราะสีทองดำที่เขาสวมอยู่นั้นเป็นอุปกรณ์คุณภาพสูงเลเวล17 ซึ่งอาร์คเมจเพลิงสร้างขึ้นมาให้เขาโดยเฉพาะในฐานะหัวหน้าของอัศวินลาวา อย่างไรก็ตาม, การโจมตีของนานะนั้นได้ทิ้งรูขนาดเท่านิ้วโป้งเอาไว้ที่พื้นที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายของเขา ซึ่งตอนนี้กำลังมีเลือดไหลพรากออกมา
ไฮเอลฟ์กลุ่มนึงรีบวิ่งเข้ามาช่วยเหลือเขา“มาสเตอร์, ท่านบาดเจ็บนี่!”
หมอไฮเอลฟ์รีบเข้ามาตรวจดูบาดแผลในทันทีไม่กี่นาทีต่อมา, เขาก็ขมวดคิ้ว “มาสเตอร์, ซี่โครงของท่านหักไปหนึ่งซี่, และหัวใจของท่านก็รั่วอยู่ แถมข้ายังสัมผัสได้ถึงพลังลึกลับที่วนเวียนอยู่รอบหัวใจของท่านด้วยครับ มันน่าจะใช้เวลาซักพักกว่าจะลบล้างมันได้อย่างสมบูรณ์, ข้าเกรงว่าท่านจะ…”
“รีบๆอธิบายมาให้หมดซะ!”ราเซอร์ตะคอก ไม่มีความตื่นตระหนกอยู่ในน้ำเสียงของเขาเลย ในการประลองระหว่างมาสเตอร์สองคนนั้นการบาดเจ็บเป็นเรื่องที่มักจะเกิดขึ้นอยู่แล้ว ราเซอร์โชคดีที่ยังรอดมาได้ ข้าไม่เคยเห็นทักษะดาบแบบเธอเลย, เขาคิดในใจ
เขาตระหนักได้ว่ามันไม่มีทางเลยที่ทักษะดาบของเขาจะเทียบเคียงกับของนานะได้เขาจำเป็นต้องใช้เทคนิคที่ให้ผลเป็นวงกว้างเพื่อจัดการคนอย่างเธอที่เห็นได้ชัดว่าเชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด วันนี้, เขาดูถูกคู่ต่อสู้เกินไปหน่อย ดังนั้นความพ่ายแพ้จึงเป็นสิ่งที่สมควรได้รับแล้ว
หมอไฮเอลฟ์พ่ายแพ้ต่อบรรยากาศอันน่าเกรงขามของราเซอร์ในทันที,เขาคุกเข่าลงกับพื้นแล้วพูดตะกุกตะกัก “มะ มาสเตอร์, ขะ ข้าเกรงว่าท่านจะไม่สามารถต่อสู้ได้ด้วยพลังเต็มที่เป็นเวลาหนึ่งเดือนครับ” “หนึ่งเดือนหรอ?”แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อใจการวินิจฉัยของหมอ, แต่เขาก็รู้ถึงสภาพร่างกายของตัวเองดี จากนั้นเขาก็ตัดสินใจว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับตอนนี้ก็คือการให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูร่างกายตัวเอง
“เอาเถอะ,มุ่งหน้ากลับไปที่เกาะรุ่งอรุณได้แล้ว!” นี่คือทั้งหมดที่พวกเขาทำได้สำหรับตอนนี้
ในตอนนั้นเอง,ไฮเอลฟ์คนนึงก็ชี้ไปบนฟ้าทางใต้แล้วตะโกนออกมา “ดูนั่นสิครับ, มีเมฆสีทองอยู่บนฟ้าด้วย”
ราเซอร์หันกลับไปแล้วใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดในทันที
ตั้งแต่ที่กลับมาที่เฟิร์ดโดยส่วนใหญ่แล้วนานะมักจะเก็บตัวอยู่เงียบๆ
นอกจากการออกไปทำภารกิจที่ลิงค์มอบให้เป็นครั้งคราว,นานะจะไม่ค่อยแสดงตัวออกมาเท่าไหร่จนทุกคนแทบจะลืมตัวตนของเธอไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม,เธอเป็นคนแรกที่ก้าวขึ้นมาปกป้องเฟิร์ดในตอนที่เมืองตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามอีกครั้ง เธอมักจะชอบปรากฎตัวขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญเสมอ, เหมือนกับตอนที่ลิงค์กำลังอับจนหนทางในตอนที่อยู่ป่าทมิฬ
ราเซอร์หยุดการกระทำของเขาในทันทีที่เห็นนานะ
เขาไม่ได้หยุดอยู่เบื้องหน้าเธอเพราะความเคารพที่มีอยู่ในฐานะอดีตผู้คุ้มกันของนักบวชของพวกเขาแต่มันเป็นเพราะเขากลัวพลังของเธอต่างหาก ในฐานะหัวหน้าของอัศวินลาวาในลัทธิเพลิง, เขารู้ความลับส่วนตัวของทุกคนในลัทธิดี อย่างไรก็ตาม, มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ยังมีความลึกลับปกคลุมอยู่อย่างกว้างขวาง และด้วยความที่เขาไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับคนที่ว่านี้เอง, เขาจึงอดรู้สึกระวังไม่ได้
และตอนนี้,คนๆนั้นก็กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าเขา
“นานะ,เจ้าทรยศลัทธิ!” ราเซอร์ตะโกน เขากำดาบในมือแน่น ตอนนี้กล้ามเนื้อทุกมัดของเขากำลังสั่นอย่างเป็นจังหวะในขณะที่เขาเริ่มปรับท่าทางสำหรับเตรียมพร้อมต่อสู้
แม้ว่าเขาจะต้องทำตามกำหนดการ,แต่ราเซอร์ก็รู้ว่าการวิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจอะไรเลยนั้นไม่ใช่การกระทำที่ฉลาดเลย
ตลอดกว่าหนึ่งศตวรรษของความขัดแย้งระหว่างอาณาจักรอารากู่กับอาณาจักรหยาง,มีมาสเตอร์เก่งๆอยู่นับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตาม, มีคนกำลังไล่กำจัดมาสเตอร์เหล่านี้ไปทีละคน ในม่านหมอกของประวัติศาสตร์, ทุกๆครั้งที่มาสเตอร์เหล่านี้ตายไปอย่างเป็นปริศนา, มันมักจะมีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับนานะอยู่เสมอ
ถ้ามองเพียงผิวเผิน,พลังของนานะนั้นอยู่แค่เลเวล 13 ไม่สิ, ตอนนี้เธอใกล้จะไปถึงเลเวล 15 แล้ว ราเซอร์ไม่รู้ว่านานะไปเจอกับอะไรในเฟิร์ด อย่างไรก็ตาม, เขามั่นใจว่าตอนนี้นานะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ
นานะยืนอยู่เบื้องหน้าราเซอร์โดยสวมชุดเกราะหนังสีดำเธอกำลังถือดาบมือเดียวที่ลิงค์สร้างขึ้นมาให้เธอ, ดาบฝันร้ายสิ้นสุด ในตอนที่เธอพึ่งกลับมาถึงเฟิร์ดใหม่ๆ, ดาบเล่มนี้ใกล้จะพังแล้ว อย่างไรก็ตาม, ลิงค์ได้ซ่อมแซมมันให้เธอแถมเขายังปรับปรุงเพิ่มขึ้นด้วย ตอนนี้ดาบมีสีฟ้าขุ่น และรอบๆคมดาบยาวสี่ฟุตก็มีออร่าสีฟ้าที่ดูลึกลับกำลังหมุนวนอยู่
พอเห็นราเซอร์,นานะก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “มันก็ผ่านมาซักพักแล้วนะ, ราเซอร์ ตอนนี้นายเป็นหัวหน้าของอัศวินลาวาแล้วนี่ ไม่เลวเลย แต่ว่านะ, วันนี้นายทำผิดมหันต์แล้วหล่ะ”
ในขณะที่พูด,ตอนนี้ออร่าสีฟ้าก็ค่อยๆปกคลุมร่างของนานะเอาไว้ ในบางครั้ง, จะมีจุดแสงสีฟ้าอ่อนสว่างออกมาด้วย ส่วนนอกเหนือจากนั้น, นานะยังคงสงบเสงี่ยมในขณะที่อยู่เบื้องหน้าราเซอร์
อย่างไรก็ตาม,พอเห็นแบบนี้, ราเซอร์ก็กางเขตแดนของเขาออกมาในทันทีราวกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง มีเปลวเพลิงสีดำพุ่งพล่านอยู่ในสวรรค์, และเสียงโหยหวนก็ดังไปทั่วผืนฟ้าราวกับว่าวิญญาณจากนรกได้ถูกปล่อยเข้ามาในโลกนี้ ตอนนี้ท้องฟ้ากำลังมืดลงเรื่อยๆด้วยการบุกรุกของหมอกสีดำ
ค่ำคืนได้คืบคลานมาถึงเฟิร์ดแล้ว!
เขตแดนของราเซอร์นั้นไปถึงตัวนานะ,ที่ไม่ได้พยายามขัดขืนอะไรเลยอย่างรวดเร็ว แต่ก็น่าแปลก, หมอกสีฟ้ารอบตัวเธอไม่ได้หมองลงซักนิดเดียวแม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางความมืดนี้ก็ตาม
ตอนที่อยู่ในป่าทมิฬ,นานะก็เคยแสดงพลังสีฟ้าอ่อนแบบนี้ออกมา ด้วยพลังนี้, เธอจึงสามารถทะลวงการป้องกันของอสรพิษทมิฬและฆ่าผู้ถือครองอุปกรณ์ระดับพระเจ้าได้
แม้ว่าตอนนั้นจะมีเลเวล8, เธอก็สามารถประสบความสำเร็จได้มากขนาดนั้นแล้ว พอมาตอนนี้, เธออยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 14 ซึ่งพลังของเธอได้ถูกทำให้บริสุทธิ์มากขึ้นหลังจากผ่านการเปลี่ยนแปลงและพัฒนามานับครั้งไม่ถ้วน
ที่ภายนอก,มันอาจจะดูไม่อลังการเท่ากับเขตแดนของราเซอร์ อย่างไรก็ตาม, พลังของนานะที่ขาดเรื่องระยะนั้น, มันก็ถูกชดเชยด้วยความบริสุทธิ์ของมัน
“ราเซอร์,นานะจะไปหาแล้วนะ!” นานะประกาศออกมา แม้ว่ารอบตัวเธอจะเปลี่ยนเป็นนรกไปแล้ว, แต่น้ำเสียงของเธอก็ยังคงราบเรียบเหมือนเช่นเคย
โดยไม่คิดอะไรอีก,ราเซอร์ก็วิ่งเข้ามาหานานะด้วยดาบที่ชี้ตรงมาที่เธอ!
การโจมตีนี้มาพร้อมกับการผสานเสียงของลมและสายฟ้าจากนั้นหมอกสีดำก็เริ่มมาหมุนวนรอบตัวราเซอร์จนก่อตัวขึ้นมาเป็นงูยักษ์ งูตัวนี้กำลังพุ่งเข้าหานานะอย่างรวดเร็ว, และเหมือนตั้งใจจะกลืนเธอทั้งตัว
อย่างไรก็ตาม,ไม่ว่าหมอกงูยักษ์นี้จะเร็วแค่ไหน, นานะก็ยังเร็วกว่า
ในที่สุดงูก็ไปถึงหอระฆังซึ่งเป็นจุดที่นานะยืนอยู่และกัดตึกเข้าไปจนแปรสภาพมันเป็นฝุ่น,อย่างไรก็ตาม, ท่ามกลางความวุ่นวายนี้, นานะก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ในหอคอยเวทมนตร์,เอเลียร์ดกับคนอื่นๆต่างก็เฝ้าดูการต่อสู้ที่เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกที่ทั้งหวาดกลัวและประหลาดใจ
“นานะอยู่ไหนแล้ว?ไม่เห็นเธอเลย”
“อย่าบอกนะว่าเธอตายไปแล้วจริงๆ?”
“ข้าคิดว่าเธอคงเอาตัวรอดจากการโจมตีของมาสเตอร์เลเวล16 ไม่ไหวหรอก!”
พวกเขาทุกคนต่างก็ตามการเคลื่อนไหวของนานะไม่ทัน
ราเซอร์เป็นแค่คนเดียวที่เหลือบเห็นออร่าสีฟ้าอ่อนของนานะ
ในตอนที่งูกัดหอระฆัง,เขาก็เห็นร่างสีฟ้ากระโดดออกไปจากหอด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ ซึ่งนี่ทำให้เขาสั่นไปทั้งตัว
พอสัมผัสได้ว่าตอนนี้ชีวิตของตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย,เขาก็เปลี่ยนไปตั้งท่าป้องกันในทันทีและเหวี่ยงดาบไปด้านข้าง
ซึ่งดาบของเขาก็มาได้ทันเวลาพอดีเขาสัมผัสถึงพลังอันคมกริบที่แผ่ออร่าออกมาอย่างท่วมท้นตามความยาวของคมดาบได้อย่างกระทันหัน จากนั้นก็มีเสียงเกร๊งดังก้องไปทั่วฟ้า เสียงนี้แหลมมากจนราเซอร์รู้สึกอยากจะปิดหูเอาไว้
สายตาของเขาแทบจะตามร่างสีฟ้าอ่อนที่แวบไปแวบมารอบตัวเขาเหมือนกับผีไม่ทันและการโจมตีต่อเนื่องก็ถาโถมมาที่เขาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย
เกร๊ง,เกร๊ง, เกร๊ง, เกร๊ง… ราเซอร์ไม่สามารถเสียเวลาไปกับการวางแผนตอบโต้ได้เลย ถ้าเขาตอบสนองช้าแม้เพียงแค่นิดเดียวนั่นก็อาจจะทำให้ชีวิตของเขาต้องจบลงได้ ตอนนี้เขากำลังป้องกันการโจมตีของนานะด้วยสัญชาตญาณ
ตั้งแต่ที่เขากลายเป็นอัศวินลาวานี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เผชิญกับสถานกาณณ์เป็นตายเท่ากันแบบนี้เขารู้มาโดยตลอดว่านานะเป็นคนที่แข็งแกร่งคนนึงในลัทธิเพลิงที่เลือกจะไม่เปิดเผยพลังที่แท้จริงของตัวเองให้โลกรู้, แต่เขาก็คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะแข็งแกร่งขนาดนี้
นักบวชคงไม่รู้เรื่องนี้แน่ๆไม่อย่างนั้น, เธอคงจะไม่ส่งเขามาที่นี่คนเดียว
เกร๊ง,เกร๊ง, เกร๊ง…ในเวลาแค่สามวินาที, ราเซอร์สามารถปัดดาบของนานะไปได้ 70 ครั้ง ตอนนี้เขารู้สึกชาไปทั้งแขน จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าหูของเขาไม่สามารถใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว แก้มของเขารู้สึกอุ่น, และเขาก็รู้สึกได้ว่ามีเลือดกำลังไหลออกมาจากหูของเขา แก้วหูของเขาถูกเสียงดาบของนานะโจมตีอย่างต่อเนื่องจนเสียหายอย่างสมบูรณ์แล้ว
ตอนนี้ราเซอร์รู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นสัตว์ป่าตัวนึงที่กำลังถูกนักล่าตามฤดูล่า
ถ้าให้พูดก็เหมือนกับนักล่าที่ไม่สามารถจัดการเหยื่อด้วยการโจมตีครั้งเดียวได้ดังนั้นเขาต้องพึ่งพาวิธีอื่น ซึ่งนั่นก็คือการบังคับให้เหยื่อไปติดกับดักที่เขาวางเอาไว้ก่อนหน้านี้อย่างเป็นระบบ
ตอนนี้,ราเซอร์รู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังจะก้าวเข้าไปเหยียบกับดักแห่งความตายที่นานะออกแบบเอาไว้ แต่ที่แย่ยิ่งกว่านั้นก็คือ, ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ถึงตัวตนของกับดักนี้, แต่เขาก็หาทางออกจากมันไม่ได้เลย
เธอแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป, ข้าถูกเธอฆ่าทิ้งแน่ๆ! ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวของเขาเหมือนกับกระแสไฟฟ้า เขาต้องทำอะไรซักอย่าง, ไม่อย่างนั้น, เขาคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
สำหรับตอนนี้,ข้อได้เปรียบเดียวที่เขาเหนือกว่านานะก็คือพลังอันมหาศาลที่เขาครอบครองอยู่
ราเซอร์ส่งเสียงคำรามออกมาในตอนนั้นเอง, พลังในร่างของเขาก็เริ่มเดือด แล้วเพลิงนรกก็แผ่ออกมาจากร่างของเขาในลักษณะคลื่น, พร้อมกับปกคลุมพื้นที่ 15 ฟุตรอบตัวเขา
นี่คือพลังสูงสุดของเขา
ในชั่วพริบตา,เพลิงนรกของราเซอร์ก็เผาผลาญทุกสิ่งจนเป็นขี้เถ้าตามเส้นทางที่มันผ่าน ความร้อนที่น่าเหลือเชื่อนี้เผาได้แม้กระทั่งหลุมมิติที่อยู่รอบตัวเขา
ณตอนนี้, ราเซอร์รู้สึกได้ว่าการโจมตีที่โหมกระหน่ำรอบตัวเขาเริ่มช้าลง เขาทำการค้นหาร่างสีฟ้าอ่อนของนานะในทันทีและเห็นว่าเธอกำลังถอย แม้ว่าเพลิงนรกนี้จะแผ่ออกมาอย่างรวดเร็ว, แต่มันก็ยังไม่เร็วพอที่จะตามร่างสีฟ้าอ่อนทัน, ซึ่งนี่ก็ทำให้เกิดช่องว่าง 0.1 ฟุตระหว่างร่างสีฟ้าอ่อนกับเปลวเพลิงกัดกร่อนนี้
ช่องว่าง0.1 ฟุตนี้เป็นสิ่งเดียวที่ขั้นระหว่างชีวิตและความตายที่แน่นอนของนานะ
จากนั้นราเซอร์ก็ถอนหายใจออกมา,เขารู้ว่ามันมีโอกาสน้อยมากที่เขาจะสามารถฆ่านานะได้ในตอนนี้ แล้วเขาก็ตัดสินใจว่าการฝืนบุกเฟิร์ดต่อนั้นไม่มีความหมายอะไรแล้ว
เขาทำภารกิจลอบสังหารลอร์ดเฟิร์ดล้มเหลวอย่างไรก็ตาม, มันก็ยังไม่เป็นไร เขายังมีชีวิตอยู่, เพราะฉะนั้นเขาก็ยังคงมีโอกาสในครั้งหน้า
ตลอดเวลามานี้,เขายังคงเข้าใจว่าลอร์ดเฟิร์ดซ่อนตัวอยู่ที่ไหนซักแห่งในหอคอยเวทมนตร์
เหมือนกับสายฟ้าฟาด,เขาหนีออกจากฉากและไปถึงบาเรียของเมืองมอดไหม้ในเวลาไม่นาน จากที่นั่น, เขามุ่งหน้าไปทางทะเลต่อจนไปถึงเรือรบนกกระจอกวายุเงินในที่สุด
ครึ่งวินาทีต่อมา,เขาก็ขึ้นมาบนเรือนกกระจอกวายุเงินแล้ว จากนั้นด้วยการถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่, เขาก็พูด “เดินทางกลับเกาะรุ่ง…อรุณ” ทันใดนั้นเอง,ขาของเขาก็อ่อนแรงขึ้นมา, แล้วเขาก็คุกเข่าลงกับพื้น จากนั้น, เขาก็รู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอกขึ้นมาอย่างกระทันหัน
ในขณะที่กำลังส่งเสียงหอบอยู่,เขาก็ก้มลงไปดูและตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
ชุดเกราะสีทองดำที่เขาสวมอยู่นั้นเป็นอุปกรณ์คุณภาพสูงเลเวล17 ซึ่งอาร์คเมจเพลิงสร้างขึ้นมาให้เขาโดยเฉพาะในฐานะหัวหน้าของอัศวินลาวา อย่างไรก็ตาม, การโจมตีของนานะนั้นได้ทิ้งรูขนาดเท่านิ้วโป้งเอาไว้ที่พื้นที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายของเขา ซึ่งตอนนี้กำลังมีเลือดไหลพรากออกมา
ไฮเอลฟ์กลุ่มนึงรีบวิ่งเข้ามาช่วยเหลือเขา“มาสเตอร์, ท่านบาดเจ็บนี่!”
หมอไฮเอลฟ์รีบเข้ามาตรวจดูบาดแผลในทันทีไม่กี่นาทีต่อมา, เขาก็ขมวดคิ้ว “มาสเตอร์, ซี่โครงของท่านหักไปหนึ่งซี่, และหัวใจของท่านก็รั่วอยู่ แถมข้ายังสัมผัสได้ถึงพลังลึกลับที่วนเวียนอยู่รอบหัวใจของท่านด้วยครับ มันน่าจะใช้เวลาซักพักกว่าจะลบล้างมันได้อย่างสมบูรณ์, ข้าเกรงว่าท่านจะ…”
“รีบๆอธิบายมาให้หมดซะ!”ราเซอร์ตะคอก ไม่มีความตื่นตระหนกอยู่ในน้ำเสียงของเขาเลย ในการประลองระหว่างมาสเตอร์สองคนนั้นการบาดเจ็บเป็นเรื่องที่มักจะเกิดขึ้นอยู่แล้ว ราเซอร์โชคดีที่ยังรอดมาได้ ข้าไม่เคยเห็นทักษะดาบแบบเธอเลย, เขาคิดในใจ
เขาตระหนักได้ว่ามันไม่มีทางเลยที่ทักษะดาบของเขาจะเทียบเคียงกับของนานะได้เขาจำเป็นต้องใช้เทคนิคที่ให้ผลเป็นวงกว้างเพื่อจัดการคนอย่างเธอที่เห็นได้ชัดว่าเชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด วันนี้, เขาดูถูกคู่ต่อสู้เกินไปหน่อย ดังนั้นความพ่ายแพ้จึงเป็นสิ่งที่สมควรได้รับแล้ว
หมอไฮเอลฟ์พ่ายแพ้ต่อบรรยากาศอันน่าเกรงขามของราเซอร์ในทันที,เขาคุกเข่าลงกับพื้นแล้วพูดตะกุกตะกัก “มะ มาสเตอร์, ขะ ข้าเกรงว่าท่านจะไม่สามารถต่อสู้ได้ด้วยพลังเต็มที่เป็นเวลาหนึ่งเดือนครับ” “หนึ่งเดือนหรอ?”แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อใจการวินิจฉัยของหมอ, แต่เขาก็รู้ถึงสภาพร่างกายของตัวเองดี จากนั้นเขาก็ตัดสินใจว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับตอนนี้ก็คือการให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูร่างกายตัวเอง
“เอาเถอะ,มุ่งหน้ากลับไปที่เกาะรุ่งอรุณได้แล้ว!” นี่คือทั้งหมดที่พวกเขาทำได้สำหรับตอนนี้
ในตอนนั้นเอง,ไฮเอลฟ์คนนึงก็ชี้ไปบนฟ้าทางใต้แล้วตะโกนออกมา “ดูนั่นสิครับ, มีเมฆสีทองอยู่บนฟ้าด้วย”
ราเซอร์หันกลับไปแล้วใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดในทันที