Chapter
ภพอารากู่
ลิงค์ไม่ได้รีบกลับเลยหลังจากที่ฆ่าอาร์คเมจเพลิงได้แล้ว
ผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดนั้นเป็นที่รู้จักกันในชื่อจอมเขมือบภพบุคคลที่แข็งแกร่งในภพนี้ได้ตายไปจนเกือบหมดแล้ว ถ้าตอนนี้เขาปล่อยเอาไว้, ภพอารากู่จะถูกทำลายในทันทีที่ผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดมาถึง
เขาไม่ได้เป็นห่วงภพอารากู่แต่ที่เขาห่วงก็คือมันจะไปเพิ่มพลังให้ผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืด และถ้าเป็นแบบนั้น, ฟิรุแมนก็อาจจะไม่สามารถต้านทานเขาได้ต่อให้เตรียมการมาอย่างดีแล้วก็ตาม
มีฝูงชนยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆอาร์คเมจเพลิง,ส่วนลิงค์นั้นกำลังตกอยู่ในห้วงความคิด
ในอดีตกาล,ภพฟิรุแมนเคยเป็นภพที่แข็งแกร่งมาก แม้กระทั่งผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดก็ยังไม่สามารถกลืนกินมันได้, แต่ตอนนี้, มันได้ผ่านภัยพิบัติมามากมายแถมยังถูกแบ่งเป็นสองภพด้วย มันอ่อนแอลงอย่างมหาศาล ถึงจะไม่มั่นใจเกี่ยวกับพลังของผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืด, แต่มันก็กลืนเฟดาโร่ไปแล้ว ถ้ามันได้อารากู่ไปอีก, ฟิรุแมนก็คงจะไม่รอดแน่ๆ…ดังนั้นไม่ว่ายังไง, ฟิรุแมนก็ต้องแข็งแกร่งขึ้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้!
แล้วเขาจะทำให้ฟิรุแมนแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไงหล่ะ?
ในขณะที่กำลังต่อยอดความคิดนี้,หัวใจของลิงค์ก็เต้นรัวขึ้นมา มีบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวของเขา ไฮเอลฟ์ที่เกาะรุ่งอรุณพยายามจะรวมภพอยู่นี่ พวกนั้นตั้งใจจะทำมันเพื่อทำลายฟิรุแมน, แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะกลายเป็นโอกาสเพิ่มความแข็งแกร่งให้ภพแทนแล้วสินะ!
ด้วยความคิดนี้,ลิงค์ก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขาเจอกุญแจทองที่จะไขปัญหาทั้งหมดนี้ ตอนนี้สถานการณ์สามารถคลี่คลายได้แล้ว
ในฟิรุแมน,ไฮเอลฟ์มีหน้าที่ในการรวมภพ แต่ในอารากู่, มิลด้ารับหน้าที่นั้นมาโดยตลอด มันต้องมีผนึกเวทย์เฉพาะอยู่ที่นี่แน่ๆ, และมันก็มีโอกาสสูงมากที่จะอยู่ในเขตแดนของลัทธิเพลิง ฉันคงต้องออกตามหาดูแล้วหล่ะ!
พอคิดได้แบบนี้,ลิงค์ก็เดินไปเอาศพของอาร์คเมจเพลิง จากนั้นพลังในตัวเขาก็พุ่งพล่าน, และมิติรอบตัวเขาก็เกิดเป็นระลอกเหมือนกับน้ำ จากนั้นตัวลิงค์กับอาร์คเมจก็เริ่มเลือนลางและหายไปในที่สุด
ปีศาจยอมจากไปด้วยตนเองทุกคนในเมืองต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก พวกเขามองหน้ากันด้วยความรู้สึกโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่
ครู่ต่อมา,นักบวชคนนึงในวิหารก็พูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน “ท่านเทพพ่ายแพ้แล้ว ตอนนี้พวกเราจะเอายังไงกันดี?”
“เจ้าปีศาจนั่นจะกลับมารึเปล่า?”คนที่ถามมีสีหน้าหวาดกลัว ส่วนคนที่ได้ยินเขาก็พากันตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว
ปีศาจที่สูบวิญญาณของผู้คนมาแปลงเป็นพลังได้นี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าอาร์คเมจอีกพอคิดถึงก็ทำให้คนรู้สึกสิ้นหวังได้เลย
“ผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดที่ปีศาจนั่นพูดถึงคืออะไรกัน?”มีคนนึงที่อยู่ในฝูงชนถามขึ้นมาอย่างอ่อนแรง, ก่อนหน้านี้, แซสเตอร์กับปีศาจคุยกันดังมากจริงๆ มันได้ยินไปทั่วทั้งเมืองเลย
ในตอนที่ปีศาจอยู่ที่นี่,มนุษย์ทุกคนก็กลัวจนสมองไม่ทำงาน แต่ตอนนี้พอปีศาจไปแล้ว, คนที่ฉลาดขึ้นมาหน่อยก็รู้สึกตัวในทันทีว่าเรื่องมันไม่ง่ายอย่างที่คิด
แต่ก็แน่นอนว่า,มนุษย์ธรรมดานั้นมีมุมมองความคิดที่จำกัดเพราะระดับพลังที่น้อยของพวกเขา ต่อให้พวกเขาฉลาด, พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจความจริงทั้งหมดอยู่ดี
มันเหมือนกับมดที่คลานขึ้นมาบนพื้นแล้วมองเห็นขาของช้างด้วยความที่มันอยู่ต่ำมาก,ต่อให้มดลองแหงนหน้าขึ้นไปดู, มันก็ยังไม่มีวันเห็นช้างทั้งตัวได้อยู่ดี
อย่างไรก็ตามนี่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับลิงค์สองวินาทีต่อมาหลังจากที่ใช้เวทย์เทเลพอร์ท, เขาก็มาปรากฎขึ้นเหนือเกาะเหมันต์นิรันดร์ ลิงค์เป็นผู้เชี่ยวชาญเวทย์มิติ, และตอนนี้เขาก็อยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 18 สำหรับตอนนี้การเทเลพอร์ทนั้นเป็นเรื่องง่ายๆเหมือนกับการใช้ก้าวพริบตา
ลิงค์โยนร่างของอาร์คเมจเพลิงไปยังเสาหินที่เสียหายร่างนั้นไปหยุดอยู่ที่หน้าวัง, ที่ซึ่งมีศพของอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งยืนอยู่อย่างยิ่งใหญ่
ในเมื่อเขาทำตามคำขอก่อนตายของแซสเตอร์แล้ว,ลิงค์ก็ไม่เสียเวลาอีก เขาใช้เทเลพอร์ทอีกครั้งและไปปรากฎตัวขึ้นที่วิหารที่ใหญ่ที่สุดของลัทธิเพลิงในอีกห้าวินาทีต่อมา
ครืน,ครืน, ครืน
ลิงค์ได้ยินเสียงกระหึ่มของมานาในอากาศจากที่ไกลๆมันทุ้มมากและเป็นคลื่นความถี่ต่ำ ด้วยความที่มันมีความถี่ต่ำเกินกว่าที่คนธรรมดาจะได้ยินได้, พวกเขาจึงไม่รู้สึกถึงมานาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่นี้เลย
ตอนนี้ประสาทสัมผัสของลิงค์พัฒนาขึ้นอย่างมหาศาลถ้าเขาใช้เวทย์สนับสนุนด้วย, เขาสามารถมองเห็นได้แม้กระทั่งกระแสเวลา และด้วยเหตุนี้เอง, เขาจึงมองเห็นปรากฎการณ์มานาที่ผิดปกตินี้ได้อย่างง่ายดาย
พอเงยหน้ามองวิหาร,เขาก็เห็นเสาแสงสีขาวทองพุ่งขึ้นมาจากศูนย์กลางของวิหาร มันมีความกว้างเกือบ 300 ฟุต แม้ว่าจะอยู่ห่างออกไปไม่กี่ไมล์, แต่ลิงค์ก็ยังรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงพลังที่น่าเกรงขามข้างในนั้น
พอสัมผัสดูดีๆ,ลิงค์ก็รู้รายละเอียดมากขึ้น
เสาแปลกๆนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากด้ายพลังเล็กๆจำนวนนับไม่ถ้วน กลุ่มด้ายส่วนนึงถูกยิงออกมาจากแก่นของภพอารากู่ ในขณะที่อีกส่วนมาจากทะเลแห่งความว่างเปล่า…ไม่สิ, ถ้าพิจารณาจากออร่าแล้ว, มันน่าจะมาจากภพฟิรุแมน
ภายใต้ความพยายามของไฮเอลฟ์และลัทธิเพลิง,แก่นของทั้งสองภพก็ได้เชื่อมต่อกันแล้ว ลิงค์รู้สึกได้ว่าการเชื่อมต่อกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภายนอก, แก่นทั้งสองนี้ก็จะกลายเป็นหนึ่งเดียวกันหลังจากที่เวลาผ่านไป
แต่ถ้าพวกมันใช้แค่แรงดึงดูดตามธรรมชาติโดยไม่มีความช่วยเหลืออื่น,มันก็จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยพันปี
หลังจากที่สังเกตจากระยะไกลอยู่เป็นเวลาประมาณสิบนาที,ลิงค์ก็พอเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆแล้ว แต่ด้วยความที่มิติรอบวิหารถูกปิดกั้นเอาไว้อยู่, ลิงค์จึงไม่สามารถเทเลพอร์ทเข้าไปได้ เขาทำได้แค่เดินตรงเข้าไปเอง
ที่ทางเข้า,เขาเจอนักรบเพลิงนรก 200 คนกำลังรออยู่ด้วยสีหน้าจริงจัง ในตอนที่เห็นลิงค์, สีหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เทพของพวกเขาตายแล้วเหล่าผู้ที่ศรัทธาอย่างแรงกล้าเป็นกลุ่มแรกที่รู้สึกถึงเรื่องนี้ ลิงค์เองก็ยังเก็บเกี่ยวพลังแห่งความมืดของเขาไม่สมบูรณ์ ในตอนที่เข้ามาใกล้วิหาร, คลื่นพลังแห่งความมืดอันบ้าคลั่งก็ปรากฎขึ้นในอากาศในทันที มีแสงสีเงินดำอันหนักอึ้งเปล่งออกมารอบตัวเขา
ตอนนี้เขาดูเหมือนปีศาจอย่างแท้จริง!
“เจ้าปีศาจ,ถอยออกไปซะ! ที่นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์! ผู้ที่ดูหมิ่นจะถูกเทพลงทัณฑ์!” ผู้นำของนักรบเพลิงนรกตะโกน เขาอยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 14 และหน้าจะเป็นหัวหน้า
มีนักบวชอยู่ข้างหลังกลุ่มนักรบอีกหลายคนณ ตอนนี้, พวกเขากำลังร่ายเวทย์ศักดิ์สิทธิ์เตรียมเอาไว้อยู่โดยไม่สนใจถึงพลังที่ต้องเสียไปเลย เห็นได้ชัดว่า, พวกเขารู้ดีว่าคำพูดแค่นี้คงขับไล่ปีศาจไปไม่ได้
พอเห็นผู้ที่ศรัทธาอย่างแรงกล้าเหล่านี้,ลิงค์ก็ถอนหายใจเล็กน้อย “เสียใจด้วยนะ, เทพของพวกนายตายไปแล้ว!” เขาก้าวมาข้างหน้าและตะวัดดาบลำนำจันทร์เต็มดวงมีวงแหวนแสงสีเงินดำถูกปล่อยออกมา และเวทย์ที่สัมผัสโดนมันก็สลายไปเหมือนกับฟองน้ำ โล่ของพวกนักรบเองก็ดูอ่อนยวบเหมือนกับกระดาษ, ดาบของพวกเขาเหมือนกับใบหญ้า และร่างของพวกเขาก็ดูเหมือนกับโดมิโน่ที่ถูกวางเรียงซ้อนกันเอาไว้, พวกเขาค่อยๆล้มลงไปทีละคน
ร่างของพวกเขาถูกทำลายไปแล้ว,วิญญาณของพวกเขาเองก็ไม่รอดเหมือนกัน
ด้วยการเปิดใช้เปลวเพลิงวิญญาณไฟวิญญาณก็ร้องออกมาในขณะที่ลอยมาหาลิงค์, และกลายเป็นส่วนหนึ่งของพลังของเขา
ซึ่งนี่ก็ได้ผลักดันลิงค์เข้าสู่เลเวล19 ตอนนี้, เขาไม่มีศัตรูเหลืออยู่แล้ว ถ้าเขาเจอประชาชนทั่วๆไป, เขาจะไม่ใช้เปลวเพลิงวิญญาณอย่างแน่นอน, แต่เขาไม่สามารถปล่อยให้พวกคนที่มีความศรัทธาอย่างแรงกล้ามีชีวิตรอดต่อไปได้ พวกเขาเสียสติไปหมดแล้วผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดกำลังจะมาถึง, ภพต้องรวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อต่อกรกับจอมเขมือบภพนี้ ซึ่งมันจะมีความไม่มั่นคงอยู่ไม่ได้
วิธีการแก้ปัญหาที่รวดเร็วที่สุดก็คือการกำจัดผู้ศรัทธาเหล่านี้
หลังจากกำจัดผู้ต่อต้านทั้งหมดที่อยู่ในวิหารด้วยการโจมตีเดียว,ลิงค์ก็ไม่สนใจกองศพและเดินตรงไปที่ผนึกเวทย์รวมภพ
ถัดออกไปไม่กี่ร้อยฟุต,เขาเห็นคนกลุ่มนึง มีพวกนักบวชที่ไม่สามารถต่อสู้ได้อยู่ ส่วนใหญ่นั้นเป็นคนใช้ในขณะที่มีบางส่วนเป็นเด็ก พวกเขาถูกฝึกให้เป็นนักรบหรือนักบวชตามพรสวรรค์ของพวกเขา
คนพวกนี้ซ่อนตัวอยู่ที่มุมๆนึงพอเห็นลิงค์, พวกเขาก็ร้องโอดครวญด้วยความสิ้นหวัง ในขณะที่รีบหนีไป, มีบางคนสะดุดล้มและวิ่งไปต่อหลังจากที่ลุกขึ้นมา มีเด็กบางคนนั่งอยู่กับพื้น, และร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว และก็มีอีกบางกลุ่มที่ตกอยู่ในสภาพสับสน,สายตาของพวกเขาดูเหม่อลอย
ในตอนที่ลิงค์เดินเข้ามา,เขาเดินผ่านเด็กสาวคนนึงที่กำลังร้องไห้อย่างน่าสงสาร เขาก้มตัวลงไปเล็กน้อยและลูบศรีษะของเด็กสาวคนนี้, พร้อมกับร่ายเวทย์จิตใจสงบ จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายของเขาต่อ
ด้วยเวทย์จิตใจสงบ,เด็กสาวก็รู้สึกว่าความกลัวของเธอลดลงไปแล้ว เธอหยุดร้องไห้ พอเงยหน้าขึ้นมา, เธอก็เห็นว่าปีศาจจากไปแล้ว เขาไม่ได้กินเธอเหมือนที่พวกผู้ใหญ่พูดเอาไว้ ดวงตาที่กลมโตของเด็กสาวเต็มไปด้วยความสับสน นี่พวกผู้ใหญ่โกหกเธอรึเปล่านะ?
ในอีกด้านนึง,ลิงค์ได้มายืนอยู่เบื้องหน้าผนึกเวทย์รวมภพแล้ว เขาเดินวนรอบผนึกนี้อยู่สองสามรอบและทำความเข้าใจมัน
มันคือเวทย์ผนึกเลเวล19 ที่มีการผสมผสานอย่างละเอียดอ่อน ด้วยความเร็วนี้, ภพจะหลอมรวมกันในอีกหนึ่งปีให้หลัง…แต่หนึ่งปีมันนานเกินไป ฉันคงต้องช่วยกระตุ้นมันซักหน่อย
ภพอารากู่
ลิงค์ไม่ได้รีบกลับเลยหลังจากที่ฆ่าอาร์คเมจเพลิงได้แล้ว
ผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดนั้นเป็นที่รู้จักกันในชื่อจอมเขมือบภพบุคคลที่แข็งแกร่งในภพนี้ได้ตายไปจนเกือบหมดแล้ว ถ้าตอนนี้เขาปล่อยเอาไว้, ภพอารากู่จะถูกทำลายในทันทีที่ผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดมาถึง
เขาไม่ได้เป็นห่วงภพอารากู่แต่ที่เขาห่วงก็คือมันจะไปเพิ่มพลังให้ผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืด และถ้าเป็นแบบนั้น, ฟิรุแมนก็อาจจะไม่สามารถต้านทานเขาได้ต่อให้เตรียมการมาอย่างดีแล้วก็ตาม
มีฝูงชนยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆอาร์คเมจเพลิง,ส่วนลิงค์นั้นกำลังตกอยู่ในห้วงความคิด
ในอดีตกาล,ภพฟิรุแมนเคยเป็นภพที่แข็งแกร่งมาก แม้กระทั่งผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดก็ยังไม่สามารถกลืนกินมันได้, แต่ตอนนี้, มันได้ผ่านภัยพิบัติมามากมายแถมยังถูกแบ่งเป็นสองภพด้วย มันอ่อนแอลงอย่างมหาศาล ถึงจะไม่มั่นใจเกี่ยวกับพลังของผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืด, แต่มันก็กลืนเฟดาโร่ไปแล้ว ถ้ามันได้อารากู่ไปอีก, ฟิรุแมนก็คงจะไม่รอดแน่ๆ…ดังนั้นไม่ว่ายังไง, ฟิรุแมนก็ต้องแข็งแกร่งขึ้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้!
แล้วเขาจะทำให้ฟิรุแมนแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไงหล่ะ?
ในขณะที่กำลังต่อยอดความคิดนี้,หัวใจของลิงค์ก็เต้นรัวขึ้นมา มีบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวของเขา ไฮเอลฟ์ที่เกาะรุ่งอรุณพยายามจะรวมภพอยู่นี่ พวกนั้นตั้งใจจะทำมันเพื่อทำลายฟิรุแมน, แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะกลายเป็นโอกาสเพิ่มความแข็งแกร่งให้ภพแทนแล้วสินะ!
ด้วยความคิดนี้,ลิงค์ก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขาเจอกุญแจทองที่จะไขปัญหาทั้งหมดนี้ ตอนนี้สถานการณ์สามารถคลี่คลายได้แล้ว
ในฟิรุแมน,ไฮเอลฟ์มีหน้าที่ในการรวมภพ แต่ในอารากู่, มิลด้ารับหน้าที่นั้นมาโดยตลอด มันต้องมีผนึกเวทย์เฉพาะอยู่ที่นี่แน่ๆ, และมันก็มีโอกาสสูงมากที่จะอยู่ในเขตแดนของลัทธิเพลิง ฉันคงต้องออกตามหาดูแล้วหล่ะ!
พอคิดได้แบบนี้,ลิงค์ก็เดินไปเอาศพของอาร์คเมจเพลิง จากนั้นพลังในตัวเขาก็พุ่งพล่าน, และมิติรอบตัวเขาก็เกิดเป็นระลอกเหมือนกับน้ำ จากนั้นตัวลิงค์กับอาร์คเมจก็เริ่มเลือนลางและหายไปในที่สุด
ปีศาจยอมจากไปด้วยตนเองทุกคนในเมืองต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก พวกเขามองหน้ากันด้วยความรู้สึกโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่
ครู่ต่อมา,นักบวชคนนึงในวิหารก็พูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน “ท่านเทพพ่ายแพ้แล้ว ตอนนี้พวกเราจะเอายังไงกันดี?”
“เจ้าปีศาจนั่นจะกลับมารึเปล่า?”คนที่ถามมีสีหน้าหวาดกลัว ส่วนคนที่ได้ยินเขาก็พากันตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว
ปีศาจที่สูบวิญญาณของผู้คนมาแปลงเป็นพลังได้นี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าอาร์คเมจอีกพอคิดถึงก็ทำให้คนรู้สึกสิ้นหวังได้เลย
“ผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดที่ปีศาจนั่นพูดถึงคืออะไรกัน?”มีคนนึงที่อยู่ในฝูงชนถามขึ้นมาอย่างอ่อนแรง, ก่อนหน้านี้, แซสเตอร์กับปีศาจคุยกันดังมากจริงๆ มันได้ยินไปทั่วทั้งเมืองเลย
ในตอนที่ปีศาจอยู่ที่นี่,มนุษย์ทุกคนก็กลัวจนสมองไม่ทำงาน แต่ตอนนี้พอปีศาจไปแล้ว, คนที่ฉลาดขึ้นมาหน่อยก็รู้สึกตัวในทันทีว่าเรื่องมันไม่ง่ายอย่างที่คิด
แต่ก็แน่นอนว่า,มนุษย์ธรรมดานั้นมีมุมมองความคิดที่จำกัดเพราะระดับพลังที่น้อยของพวกเขา ต่อให้พวกเขาฉลาด, พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจความจริงทั้งหมดอยู่ดี
มันเหมือนกับมดที่คลานขึ้นมาบนพื้นแล้วมองเห็นขาของช้างด้วยความที่มันอยู่ต่ำมาก,ต่อให้มดลองแหงนหน้าขึ้นไปดู, มันก็ยังไม่มีวันเห็นช้างทั้งตัวได้อยู่ดี
อย่างไรก็ตามนี่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับลิงค์สองวินาทีต่อมาหลังจากที่ใช้เวทย์เทเลพอร์ท, เขาก็มาปรากฎขึ้นเหนือเกาะเหมันต์นิรันดร์ ลิงค์เป็นผู้เชี่ยวชาญเวทย์มิติ, และตอนนี้เขาก็อยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 18 สำหรับตอนนี้การเทเลพอร์ทนั้นเป็นเรื่องง่ายๆเหมือนกับการใช้ก้าวพริบตา
ลิงค์โยนร่างของอาร์คเมจเพลิงไปยังเสาหินที่เสียหายร่างนั้นไปหยุดอยู่ที่หน้าวัง, ที่ซึ่งมีศพของอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งยืนอยู่อย่างยิ่งใหญ่
ในเมื่อเขาทำตามคำขอก่อนตายของแซสเตอร์แล้ว,ลิงค์ก็ไม่เสียเวลาอีก เขาใช้เทเลพอร์ทอีกครั้งและไปปรากฎตัวขึ้นที่วิหารที่ใหญ่ที่สุดของลัทธิเพลิงในอีกห้าวินาทีต่อมา
ครืน,ครืน, ครืน
ลิงค์ได้ยินเสียงกระหึ่มของมานาในอากาศจากที่ไกลๆมันทุ้มมากและเป็นคลื่นความถี่ต่ำ ด้วยความที่มันมีความถี่ต่ำเกินกว่าที่คนธรรมดาจะได้ยินได้, พวกเขาจึงไม่รู้สึกถึงมานาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่นี้เลย
ตอนนี้ประสาทสัมผัสของลิงค์พัฒนาขึ้นอย่างมหาศาลถ้าเขาใช้เวทย์สนับสนุนด้วย, เขาสามารถมองเห็นได้แม้กระทั่งกระแสเวลา และด้วยเหตุนี้เอง, เขาจึงมองเห็นปรากฎการณ์มานาที่ผิดปกตินี้ได้อย่างง่ายดาย
พอเงยหน้ามองวิหาร,เขาก็เห็นเสาแสงสีขาวทองพุ่งขึ้นมาจากศูนย์กลางของวิหาร มันมีความกว้างเกือบ 300 ฟุต แม้ว่าจะอยู่ห่างออกไปไม่กี่ไมล์, แต่ลิงค์ก็ยังรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงพลังที่น่าเกรงขามข้างในนั้น
พอสัมผัสดูดีๆ,ลิงค์ก็รู้รายละเอียดมากขึ้น
เสาแปลกๆนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากด้ายพลังเล็กๆจำนวนนับไม่ถ้วน กลุ่มด้ายส่วนนึงถูกยิงออกมาจากแก่นของภพอารากู่ ในขณะที่อีกส่วนมาจากทะเลแห่งความว่างเปล่า…ไม่สิ, ถ้าพิจารณาจากออร่าแล้ว, มันน่าจะมาจากภพฟิรุแมน
ภายใต้ความพยายามของไฮเอลฟ์และลัทธิเพลิง,แก่นของทั้งสองภพก็ได้เชื่อมต่อกันแล้ว ลิงค์รู้สึกได้ว่าการเชื่อมต่อกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภายนอก, แก่นทั้งสองนี้ก็จะกลายเป็นหนึ่งเดียวกันหลังจากที่เวลาผ่านไป
แต่ถ้าพวกมันใช้แค่แรงดึงดูดตามธรรมชาติโดยไม่มีความช่วยเหลืออื่น,มันก็จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยพันปี
หลังจากที่สังเกตจากระยะไกลอยู่เป็นเวลาประมาณสิบนาที,ลิงค์ก็พอเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆแล้ว แต่ด้วยความที่มิติรอบวิหารถูกปิดกั้นเอาไว้อยู่, ลิงค์จึงไม่สามารถเทเลพอร์ทเข้าไปได้ เขาทำได้แค่เดินตรงเข้าไปเอง
ที่ทางเข้า,เขาเจอนักรบเพลิงนรก 200 คนกำลังรออยู่ด้วยสีหน้าจริงจัง ในตอนที่เห็นลิงค์, สีหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เทพของพวกเขาตายแล้วเหล่าผู้ที่ศรัทธาอย่างแรงกล้าเป็นกลุ่มแรกที่รู้สึกถึงเรื่องนี้ ลิงค์เองก็ยังเก็บเกี่ยวพลังแห่งความมืดของเขาไม่สมบูรณ์ ในตอนที่เข้ามาใกล้วิหาร, คลื่นพลังแห่งความมืดอันบ้าคลั่งก็ปรากฎขึ้นในอากาศในทันที มีแสงสีเงินดำอันหนักอึ้งเปล่งออกมารอบตัวเขา
ตอนนี้เขาดูเหมือนปีศาจอย่างแท้จริง!
“เจ้าปีศาจ,ถอยออกไปซะ! ที่นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์! ผู้ที่ดูหมิ่นจะถูกเทพลงทัณฑ์!” ผู้นำของนักรบเพลิงนรกตะโกน เขาอยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 14 และหน้าจะเป็นหัวหน้า
มีนักบวชอยู่ข้างหลังกลุ่มนักรบอีกหลายคนณ ตอนนี้, พวกเขากำลังร่ายเวทย์ศักดิ์สิทธิ์เตรียมเอาไว้อยู่โดยไม่สนใจถึงพลังที่ต้องเสียไปเลย เห็นได้ชัดว่า, พวกเขารู้ดีว่าคำพูดแค่นี้คงขับไล่ปีศาจไปไม่ได้
พอเห็นผู้ที่ศรัทธาอย่างแรงกล้าเหล่านี้,ลิงค์ก็ถอนหายใจเล็กน้อย “เสียใจด้วยนะ, เทพของพวกนายตายไปแล้ว!” เขาก้าวมาข้างหน้าและตะวัดดาบลำนำจันทร์เต็มดวงมีวงแหวนแสงสีเงินดำถูกปล่อยออกมา และเวทย์ที่สัมผัสโดนมันก็สลายไปเหมือนกับฟองน้ำ โล่ของพวกนักรบเองก็ดูอ่อนยวบเหมือนกับกระดาษ, ดาบของพวกเขาเหมือนกับใบหญ้า และร่างของพวกเขาก็ดูเหมือนกับโดมิโน่ที่ถูกวางเรียงซ้อนกันเอาไว้, พวกเขาค่อยๆล้มลงไปทีละคน
ร่างของพวกเขาถูกทำลายไปแล้ว,วิญญาณของพวกเขาเองก็ไม่รอดเหมือนกัน
ด้วยการเปิดใช้เปลวเพลิงวิญญาณไฟวิญญาณก็ร้องออกมาในขณะที่ลอยมาหาลิงค์, และกลายเป็นส่วนหนึ่งของพลังของเขา
ซึ่งนี่ก็ได้ผลักดันลิงค์เข้าสู่เลเวล19 ตอนนี้, เขาไม่มีศัตรูเหลืออยู่แล้ว ถ้าเขาเจอประชาชนทั่วๆไป, เขาจะไม่ใช้เปลวเพลิงวิญญาณอย่างแน่นอน, แต่เขาไม่สามารถปล่อยให้พวกคนที่มีความศรัทธาอย่างแรงกล้ามีชีวิตรอดต่อไปได้ พวกเขาเสียสติไปหมดแล้วผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดกำลังจะมาถึง, ภพต้องรวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อต่อกรกับจอมเขมือบภพนี้ ซึ่งมันจะมีความไม่มั่นคงอยู่ไม่ได้
วิธีการแก้ปัญหาที่รวดเร็วที่สุดก็คือการกำจัดผู้ศรัทธาเหล่านี้
หลังจากกำจัดผู้ต่อต้านทั้งหมดที่อยู่ในวิหารด้วยการโจมตีเดียว,ลิงค์ก็ไม่สนใจกองศพและเดินตรงไปที่ผนึกเวทย์รวมภพ
ถัดออกไปไม่กี่ร้อยฟุต,เขาเห็นคนกลุ่มนึง มีพวกนักบวชที่ไม่สามารถต่อสู้ได้อยู่ ส่วนใหญ่นั้นเป็นคนใช้ในขณะที่มีบางส่วนเป็นเด็ก พวกเขาถูกฝึกให้เป็นนักรบหรือนักบวชตามพรสวรรค์ของพวกเขา
คนพวกนี้ซ่อนตัวอยู่ที่มุมๆนึงพอเห็นลิงค์, พวกเขาก็ร้องโอดครวญด้วยความสิ้นหวัง ในขณะที่รีบหนีไป, มีบางคนสะดุดล้มและวิ่งไปต่อหลังจากที่ลุกขึ้นมา มีเด็กบางคนนั่งอยู่กับพื้น, และร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว และก็มีอีกบางกลุ่มที่ตกอยู่ในสภาพสับสน,สายตาของพวกเขาดูเหม่อลอย
ในตอนที่ลิงค์เดินเข้ามา,เขาเดินผ่านเด็กสาวคนนึงที่กำลังร้องไห้อย่างน่าสงสาร เขาก้มตัวลงไปเล็กน้อยและลูบศรีษะของเด็กสาวคนนี้, พร้อมกับร่ายเวทย์จิตใจสงบ จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายของเขาต่อ
ด้วยเวทย์จิตใจสงบ,เด็กสาวก็รู้สึกว่าความกลัวของเธอลดลงไปแล้ว เธอหยุดร้องไห้ พอเงยหน้าขึ้นมา, เธอก็เห็นว่าปีศาจจากไปแล้ว เขาไม่ได้กินเธอเหมือนที่พวกผู้ใหญ่พูดเอาไว้ ดวงตาที่กลมโตของเด็กสาวเต็มไปด้วยความสับสน นี่พวกผู้ใหญ่โกหกเธอรึเปล่านะ?
ในอีกด้านนึง,ลิงค์ได้มายืนอยู่เบื้องหน้าผนึกเวทย์รวมภพแล้ว เขาเดินวนรอบผนึกนี้อยู่สองสามรอบและทำความเข้าใจมัน
มันคือเวทย์ผนึกเลเวล19 ที่มีการผสมผสานอย่างละเอียดอ่อน ด้วยความเร็วนี้, ภพจะหลอมรวมกันในอีกหนึ่งปีให้หลัง…แต่หนึ่งปีมันนานเกินไป ฉันคงต้องช่วยกระตุ้นมันซักหน่อย