“หยุดมองอย่างกระหายได้แล้ว นายมันก็เป็นได้แค่ไอ้หนอนสกปรกสำหรับผู้หญิงอย่างเธอเท่านั้น” ไทเลอร์พูดดูถูกออกมาพร้อมก้าวมาข้างหน้ามายืนอยู่ข้างๆเบ็นพร้อมแสยะยิ้ม “นั่นเพเนโลพี นายไม่สามารถคุยกับเธอเพื่อช่วยชีวิตของนายได้หรอก ดังนั้นหยุดมองเธอได้แล้วก่อนที่แกจะทำให้ตัวเองน่าอับอายไปมากกว่านี้”
เบ็นกัดฟันเขาแน่น หญิงสาวคนนี้กำดังเดินออกจากคณะของเขาไปแล้ว ทำไมพวกสารเลวนี่ถึงต้องคอยทำให้ฉันขายหน้าตลอดเลยหะ?!? เบ็นนั้นมาจุดถึงแตกหัก
เขานั้นเดิมพันทุกอย่างและมาที่นิวยอร์กเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่เพียงเพื่อให้ตัวเองถูกทำให้เหมือนกับขยะงั้นเหรอ และเขานั้นโดนบอกให้ตายหากเขานั้นไม่ยอมทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้! เขานั้นทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว!
‘ฉันไม่สามารถพูดคุยกับเธอเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองได้งั้นเหรอ?!? ก็จริงว่าก่อนหน้านี้มันเป็นอย่างนั้น แต่ว่าทุกสิ่งมันเปลี่ยนกันได้ เขานั้นกำบัตรตกสาวระดับเทพไว้ในมือแน่น รู้สึกได้ถึงความแห้งกร้านของกระดาษถูไปกับผิวหนังของเขา
‘ไทเลอร์พูดถูกอย่างหนึ่งนี่เป็นการช่วยชีวิตของฉัน! เอาแม้งเลยละกัน!’ เบ็นนั้นวางแผนไว้ว่าจะหาโอกาสที่สมบูรณ์แบบที่จะหาสาวสวยจากสักที่และใช้บัตรตกสาวกับเธอ แต่ว่าระบบได้กล่าวไว้ว่ามันได้ผลกับผู้หญิงทุกคน ดังนั้นเธอที่สวยระดับท๊อปแบบนี้ก็ต้องได้รับผลจากมันเช่นกัน!
เขาหันหน้าไปหาไทเลอร์ “นายบอกฉันว่าฉันนั้นทำไม่ได้แม้แค่จะคุยกับเธอใช่ไหม? งั้นดูซะสิ!”
ไทเลอร์นั้นถอยหลังกลับไปเนื่องจากเสียงตะคอกของเขา ทว่าหลังจากนั้นเขาก็ยิ้มเยาะออกมา “นี่มันน่าจะสนุกแหะ”
เบ็นนั้นไม่สนใจเขา เมื่อเพเนโลพีวางสายจากโทรศัพท์ของเธอลง เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึก เขาบีบกระดาษในมือแน่นและเดินเข้าสู่กองเพลิง พังพินาศหรือเกิดใหม่
*อึก* ขอโทษนะครับ คือคุ…คุ..คุณ…” เขาพูดติดอ่างออกมา
ไทเลอร์และเพื่อนของเขาต่างชี้มาทางเขาพร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ และเตรียมพร้อมที่จะเยาะเย้ยเบ็นเมื่อเขาถูกเพเนโลพีปฎิเสธกลับมา พวกเขามั่นใจว่าหมอนั่นต้องอับอายต่อหน้าคนในโรงอาหารทั้งหมดแน่
เพเนโลพีนั้นไม่ได้ปฎิเสธเบ็นในทันที ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะเธอนั้นยังไม่ได้ยินเขาเสียด้วยซ้ำ! เธอนั้นกำลังพิมพ์ข้อความส่งทางโทรศัพท์อยู่ต่างหาก
“คุณครับ” เบ็นพูดขึ้นมาเสียงดังขึ้น
“อ๊า!” เพเนโลพีสะดุ่งไปทันที เธอนั่นวางโทรศัพท์ของตัวเองไว้บนอกราวกับท่าป้องกันตัวเธอมองไปยังเบ็นราวกับว่าเขาจะเข้ามาทำร้ายเธอ
ไทเลอร์นั้นล้มลงไปแล้วตอนนี้เขาหัวเราะเยาะเย้ยเบนราวกับว่าเขาเป็นตัวตลก
‘นี่มันไม่ดีแน่’ เบ็นรู้สึกใจตกลงไปยังตาตุ่ม มือของเขาสั่นเขาหยิบกระดาษขึ้นมาบนหน้าพร้อมอ่านมัน
‘เชี้ยแล้วไง’
เขานั้นคำนวนพลาด ตัวอักษรนั้นเล็กเกินไป เขานั้นยังไม่ได้ศึกษารายละเอียดในช่วงก่อนที่ฟลิกจะเข้ามา สิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้นั้นเป็นแค่ประโยคพล่อยๆเท่านั้น! มันดูเหมือนไม่ใช่ภาษาอังกฤษหรือภาษาใดๆที่เขาเคยได้ยินมาก่อนเลย!
‘ขยะนี่มันอะไรกัน?’ เขานั้นพยายามจะอ่านมัน ‘ดราฮิน…อุท…’
รูม่านตาของเบ็นขยายออกและร่างกายของเขาก็เกิดอาการแข็งตัวขึ้น ‘เกิดอะไรขึ้น?’ เขายังคงคิดได้อยู่ ทว่าเขานั้นไม่สามารถขยับหรือควบคุมร่างกายได้เลย เขากลายเป็นรูปปั้นงั้นเหรอหรือว่า….
ทันใดนั้น “เบ็น” ก็เกาไปที่คอของเขาพร้อมเดินเข้าไปหาเพเนโลพี ทว่านั้นมันไม่ใช่เบ็นตัวจริง ร่างกายของเขามันขยับไปเอง!
‘ฉันถูกสิง!’ “เบ็น” ที่อยู่ในโรงอาหารนั้นเดินอยู่ราวกับถูกควบคุมเหมือนตัวละครภายในเกม เบ็นยังคงมองทุกอย่างผ่านทางดวงตาของเขาเหมือนปกติ ทว่ากลับมีบางคนหรือบางสิ่งกำลังสั่งการร่างกายของเขาอยู่ เขารู้สึกว่าดวงตาของเขานั้นดูผ่อนคลาย ริมฝีปากติดกัน กลายเป็นรอยยิ้มสบายๆ เป็นท่าทีที่เหมือนกับ…มีความมั่นใจ?
“คุณหนังสือนั่นมันเศรษฐศาสตร์มหาภาคไม่ใช่เหรอครับ…” เบ็นชี้ไปยังหนังสือที่อยู่ใต้แขนของเพเนโลพี
เพเนโลพีดวงตาเบิกกว้างขึ้นด้วยอาการประหลาดใจ เบ็นนั้นประหลาดใจยิ่งกว่า มันไม่ใช่ว่าเพราะเขารู้จักหนังสือนั่น แต่เป็นเพราะว่าเขาสามารถพูดภาษาต่างประเทศได้!
เบ็นที่มองอยู่จากข้างในนั้นพูดได้เพียงแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น แล้วทำไมร่างกายของเขาถึงพูดภาษาอื่นได้ชำนาญขนาดนั้นกัน? กระทั่งเบ็นตัวจริงยังไม่สามารถพูดมันออกมาได้เสียด้วยซ้ำ ทันใดนั้นจู่ๆเขาก็เริ่มเข้าใจทุกสิ่ง และตระหนักได้ว่ามันเป็นภาษากรีก
ไทเลอร์และเพื่อนของเขาต่างเบิกตาโพล่งออกมา! พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอ้อ้วนเตี้ยนั่นจะชำนาญภาษาต่างประเทศที่พบเห็นได้ยากแบบนั้น
หลังจากตกใจเล็กน้อย เพเนโลพีก็ตอบกลับเป็นภาษากรีกไปว่า “มันคือ…”
เบ็นส่ายหัวออกมาพร้อมถอนหายใจ “แย่หน่อยนะ…หากคุณใช้หนังสือนั่นเข้าเรียนคุณจะพลาดโอกาสในการทำคะแนนได้ยอดเยี่ยมด้วยวิธีการที่ง่ายที่สุด…” จากนั้นเขาก็หันหลังและทำท่าทีจะจากไป
เบ็นตัวจริงก็กลายเป็นบ้าขึ้นมา ‘แกทำอะไรกันเจ้าโง่!?!’ หันหลังกลับมาแล้วจีบเธอซะ! แกขโมยร่างของแด๊ดดี้คนนี้ไปแล้วอย่างน้อยก็แสดงให้มันดีๆหน่อย!’
“รอเดี๋ยว!” เพเนโลพีตะโกนออกมา
เขาหันกลับมา พร้อมยิ้มกว้างอย่างคาดหวัง
“นายหมายความว่ายังไงงั้นเหรอ?” ความสนใจของเพเนโลพีได้ถูกกระตุ้นเรียบร้อยแล้ว
“หนังสือนั่นเป็นฉบับปีที่แล้ว มันมีฉบับใหม่ซึ่งเป็นฉบับพิเศษซึ่งมีแค่เพียงพวกอาจารย์เท่านั้นที่จะได้รับมันก่อน มันมีทั้งคำถามและคำตอบ พวกอาจารย์ที่นี่ใช้หนังสือนั่นในการออกแบบข้อสอบ ถ้าคุณมีมันก็จะเหมือนกับว่าคุณได้เปรียบในการสอบมากขึ้น”
เปลือกตาของเพเนโลพีเผยอขึ้นเล็กน้อย “ที่ร้านหนังสือ พวกเขานั้นบอกว่านี้เป็นฉบับล่าสุดแล้วนะ…”
“หนังสือฉบับใหม่จะปล่อยขายในเว็บไซค์ของผู้ผลิตเท่านั้นโดยจะปล่อยขายในไม่อีกกี่วันต่อจากนี้”
ดวงตาเพเนโลพีเป็นประกายขึ้น เธอนั้นตื่นเต้นขึ้นมา! ทุกคนนั้นต่างรู้ดีว่าคลาสเรียนในมหาลัยนี้ยากขนาดไหน ทั้งภาษาอังกฤษของเธอนั้นยังอยู่แค่ระดับกลางๆเท่านั้น ดังนั้นการเรียนจึงยากขึ้นไปอีกสำหรับเธอ การที่มีข้อสอบอยู่ในมือก่อนนี่มันราวกับพระเจ้าประทานมาให้ด้วยซ้ำ แต่ทว่าเธอเองก็ยังคงกังวลอยู่ในใจเล็กน้อย “นี่มัน…ไม่ใช่การโกงใช่ไหม?”
เบ็นยิ้มออกมา “มันไม่ใช่การโกงหรอกตราบใดที่คุณไม่ถูกจับได้” จากนั้นเขาก็หันหลังกลับไปพร้อมทำท่าจะเดินจากไปอีกครั้ง
‘อย่ามาล้อกันเล่นนะ! ส่ายก้นของแกกลับไปแล้วจบภารกิจของแกได้แล้ว!’ เบ็นตัวจริงนั้นกำลังฟูมฟายออกมา เขานั้นไม่สามารถรับมือเรื่องนี้ได้
เมื่อเพเนโลพีเห็นเบ็นกำลังเดินจากไป เธอก็ตื่นตระหนกทันที เธอนั้นมักจะกังวลเสมอมาที่มาที่ USA เพราะเธอนั้นไม่รู้จักใครที่นี่เลย เธอนั้นไม่คุ้นชินกับหญิงสาวที่เป็นชาวต่างชาติคนอื่นๆ , เธอนั้นไม่มีเพื่อน , และไม่มีคนที่สามารถพูดภาษากรีกกับเธอได้ แต่ในตอนนี้หมอนี่เดินมาจากไหนไม่รู้และพูดภาษาของเธอออกมา และที่สำคัญเขากระทั่งรู้เกี่ยวกับเคล็ดลับของโรงเรียนนี้ซึ่งดูน่าเชื่อถือได้ เธอนั้นไม่สามารถปล่อยให้เขาเดินจากไปอย่างนี้ได้! หมอนี่นั้นน่าสนใจเกินไป!
“อ๊า! เดี๋ยวก่อนสิ!” ในตอนนั้นเองเพเนโลพีนั้นวิ่งเข้าไปหาเขา ด้วยรอยยิ้มมุมปากของเธอและแก้มที่เริ่มขึ้นสี
ไทเลอร์ถึงกับต้องอ้าปากค้าง! นี่สาวสวยคนนั้นไล่ตามเจ้าราชาเบอริโต้นี่งั้นเหรอ? เขาเชื่อมันไม่ลงจริงๆ! พวกคนอื่นๆที่อยู่ภายในโรงอาหารต่างขยี้ตาออกมาเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้มองผิดไปจริงๆใช่ไหม
เพเนโลพีถามเขาออกมาว่า “ขอเบอร์นายหน่อยได้ไหม?”
ทันใดนั้นเบ็นก็รู้สึกราวกับว่าสมองของเขาได้รับการจัดระบบขึ้นมาใหม่ เขานั้นเคยเป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำที่สุดมาตลอด แต่ในตอนนี้มันเป็นเวลาที่แย่มากเมื่อเขากำลังจะเสียทุกอย่างที่เขาทำมา ‘ม่ายยยยย เอาคาสโนว่านั่นกลับมาที!’ เขาร่ำร้องออกมาทว่ามันกลับไร้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นภาษากรีกหรือท่าทางที่มีเสน่ห์ต่างก็หายไปทั้งหมด
“Tha mou dóseis loipón ton arithmó sou?” (ให้เบอร์นายกับฉันหน่อยได้ไหม?) เพเนโลพีมองไปทางเขาด้วยสายตาที่คาดหวัง
‘เชี่ย…เดี๋ยวก่อนนะเมื่อกี้เธอถามเบอร์ฉันใช่ไหม โอเครฉันทำมันได้น่า’ เขาหุบปากของเขาเงียบเบนนำโทรศัพท์ของเขาออกมาและโชว์หมายเลขให้เธอดูบนหน้าจอ หลังจากเขามั่นใจแล้วว่าเธอนั้นบันทึกเบอร์ติดต่อของเขาไว้แล้ว เขานั้นก็เปลี่ยนท่าทางพร้อมรีบเดินออกจากโรงอาหารไปในทันที
เมื่อเห็นทุกอย่างแล้ว ไทเลอร์ก็ยืนแข็งอยู่ราวกับเป็นรูปปั้นหน้าโง่ เขาและเพื่อนของเขานั้นต่างหมดคำพูด!
ระหว่างที่เบ็นนั้นเดินออกมา เบ็นมองไปทางพวกเขา ‘นายบอกว่าแด๊ดดี้คนนี้ไม่สามารถพูดกับเธอได้งั้นเหรอ? ใช่ฉันไม่ได้ทำมันก็จริง แต่เธอนั้นเดินเข้ามาหาฉันด้วยตัวเองต่างหาก! เธอกระทั่งถามเบอร์ฉันด้วยซ้ำ! นายทำแบบนี้ได้ไหมละ? ไม่! อย่าดูถูกชีวิตนักศึกษาที่น่าสดใสของฉันเป็นอันขาด เจ้าพวกโง่!’
เบ็นนั้นเดินออกจากห้องอาหารด้วยท่าทีที่มั่นใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้คุยกับผู้หญิงและได้รับการต้อนรับกลับมาอย่างอบอุ่น มันจะทำไมกันหากเขาเป็นแค่เจ้าของร่างกายส่วนคนที่พูดกลับเป็นปีศาจเจ้าเสน่ห์? นี่มันเรียกว่ามีตัวแทนต่างหากเว้ย ถ้าหากดาราฮอลลิวู๊ดมีได้ทำไมเขาจะมีมันไม่ได้กัน
จากนั้นเขาก็หยุดเดินเมื่อเดินไปครึ่งก้าว
ด้วยท่าทางที่ตื่นเต้นเขานั้นเดินออกจากโรงอาหารมา แต่มันมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือเขาลืมกิน!
‘ฉันควรกลับไปไหม? … ไม่มีท่างนั่นมันน่าอายเกินไป’
สุดท้ายเขาก็ต้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารเย็น