เมื่อระบบได้มอบแต้มให้เบ็นอีก 200 แต้มโดยไม่คาดคิด เขาคิดว่าบางทีมันอาจจะเป็นเงินรีฟันด์ที่ได้มาจากเจ้าเปลือกกล้วยนั่นก็ได้ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ เขาหวังว่ามันน่าจะเป็นแบบนั้น…
เบ็นออกจากสถานีรถไฟใต้ดินและเดินทางไปยังยูเนียนสแควร์ มันเป็นห้างที่มีชื่อเสียงในแมนแฮตตัน เรียกได้ว่ามันเป็นแลนด์มาร์คของเมือง เขาเดินไปรอบๆและมองไปยังที่หนึ่ง: มีชายแก่กำลังนั่งเล่นหมากรุกอยู่, มีจิตรกรกำลังขายภาพวาดของเขา, มีศิลปินกำลังบรรเลงเพลง ในจุดศูนย์กลางของการเผยแพร่ศิลปะและวัฒนธรรมนี้ มีเจ้าม่วงเกรมัสจากแมคโดนัลยืนอยู่หรือเรียกในอีกชื่อหนึ่งก็คือเบลูก้า
อันโตนิโอก็อยู่ที่นี่เช่นกัน เขาสวมเสื้อลายขาวดำ
‘อันโตนิโอ…เป็นแฮมเบอเกอร์ใช่ไหม?’ เบ็นมองลงมาที่เสื้อผ้าของตัวเอง เขาอยู่ในเสื้อแขนยาวสีเหลืองขอบสีแดง… ‘เชี่ย…ฉันแม่งดูเหมือนเจ้างั่งโรนาร์ด แมคโดนัลเลยนี่หว่า’ นี่มันเป็นคืนของการแต่งตัวในธีมแมคโดนัลโดยบังเอิญชัดๆ เขาส่ายหน้าออกมาโดยไม่แน่ใจว่ามันเป็นเรื่องที่ดีหรือแย่กันแน่
พวกเขาทั้งสามเจอกันและเบ็นก็ถามเกี่ยวกับปัญหาที่เขามี จากคำแนะนำของเบลูก้า เบ็นเลยไม่ได้โทรไปหาเคธี่ แม่สาวผมชมพูที่เขาได้เบอร์มาเมื่อหลายวันก่อน และเขาก็ไม่ได้โทรไปจริงๆ เขาคุยกับเธอผ่านข้อความมาเมื่อ 3 วันที่แล้ว ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็มักจะคุยกันเล็กๆน้อยๆ
เบ็นไม่ได้ขอให้เธอออกมาเที่ยวกับเขาเพราะเธอบอกไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนนั้นเธอยุ่งมาก ดังนั้นเขาเลยวางแผนมาเป็นสัปดาห์นี้แทน ส่วนอีกสองคนที่เขามีเบอร์นั้น คนแรกได้ปฎิเสธเขาและอีกคนไม่ได้ตอบกลับมาเลยแม้แต่น้อย เขาเลยมาถามเบลูก้าว่ามันเป็นเพราะอะไร
เบลูก้าตอบกลับมาว่า “เป็นเรื่องธรรมดา ผู้หญิงเป็นพวกที่ประหลาด แม้ว่าเธอจะดูเข้ากันได้กับนายมากแค่ไหนก็ตาม แต่ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นแบบนั้นเสมอไป พวกเธอก็เหมือนกับแมวนั่นแหละ และในเมืองนิวยอร์ค…มันมีเรื่องน่าสนใจล่องลอยอยู่ในทั่วสารทิศนั่นแหละ”
เขาถอนหายใจออกมา “มันเป็นธรรมชาติของเกม อย่างแรกก็คือทำให้มั่นใจว่าโชคจะอยู่ข้างนายและไม่มีอะไรมาขวางทาง ส่วนอีกอย่างคือ…นายไม่ควรรีบร้อนเกินไปแต่นายก็ไม่ควรปล่อยเวลาทิ้งไว้นานเช่นกัน นายมีเวลาจำกัดที่จะเปลี่ยนจากเบอร์เป็นการนัดเจอกัน เพราะอายุขัยของเบอร์โทรศัพท์ที่ได้มานั้นจะลดลงเรื่อยๆ ถ้าหากนายรอนานเกินไป มันจะตาย”
“นานแค่ไหนงั้นเหรอก่อนที่มันจะตาย?” เบ็นถาม
เบลูก้ายักไหล่ “ขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางทีก็ 1-2 อาทิตย์ บางทีก็แค่ไม่กี่ชั่วโมง ผู้หญิงความจำสั่น นอกเสียจากว่าเธอนั้นชอบในตัวนายจริงๆ จะพูดพวกผู้หญิงมักจะ ‘ปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตา’ ก็ว่าได้ หากไม่ได้นัดเจอกันก่อนบางทีความน่าประทับใจของเธอในตัวนายอาจจะลดลงด้วยก็ได้ พวกเขาจะจัดนายไว้ในจำพวกโชคชะตาที่ไม่ได้เรื่องและจะเริ่มลืมตัวตนของนายลงในที่สุด มันไม่สำคัญว่าทำไมพวกเธอถึงไม่นัดเจอกับนาย พวกผู้หญิงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเหตุผลอยู่แล้ว พวกเธอให้ความสำคัญกับอารมณ์ หากมีอะไรเกิดขึ้นพวกเธอก็มักจะมีเหตุผลเพื่อเข้าข้างตัวเองเสมอ”
เบ็นเข้าใจทันทีว่าเขาต้องรีบนัดเดทกับเคธี่และมิยูกิ ถ้าหากเขาปล่อยให้มันยืดเยื้อไป เขาจะสูญเสียความได้เปรียบและชีวิตของเขาจะจบลงในที่สุด
จากนั้นอันโทนิโอก็พูดเสริมขึ้นมา “นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการเดทเร่งด่วนถึงดีที่สุด”
“เดทแบบเร่งด่วน?” เบ็นถามขึ้นมา
“แทนที่จะได้เบอร์มาและรอดูว่าจะถูกปฎิเสธหรือปล่อยให้ตายไปเฉยๆ นายก็สามารถลองเดททันทีเลยก็ได้”
หูของเบ็นผึ่งขึ้นมา “แล้วจะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน?”
อันโตนิโอพูดว่า “มองไปรอบๆสิ นายเห็นอะไรที่ด้านนอกสแควร์นั่นไหม?”
เบ็นมองไปยังทางเดินที่อยู่ด้านข้าง มันมีร้านค้ามากมาย, ร้านอาหาร, บาร์, ร้านกาแฟ ดวงตาเขาเป็นประกายราวกับเข้าใจในอะไรบางอย่าง
อันโตนิโอพยักหน้า “นายเข้าใจแล้วสินะ ตัวเลือกแรกเลยก็คือชวนสาวมาดื่มกาแฟกับนาย นี่ก็นับว่าเป็นเดทแรกเหมือนกัน โดยข้ามขั้นตอนยุ่งยากอย่างการขอเบอร์ไปและพูดคุยกันไปเลย”
เบ็นถาม “แล้วพวกเธอจะยอมงั้นเหรอ?”
เบลูก้าตอบ “หากพวกเธอไม่ได้รีบไปที่ไหน มันก็ไม่ยากหรอกที่จะชวนพวกเธอ ปัจจัยหลักคือต้องดูจริงใจ แต่ห้ามแสดงออกว่าต้องการนัก อันโตนิโอนายฝึกมันมาแล้วนี่ ทำไมนายไม่ทำเป็นตัวอย่างให้เบ็นดูสักหน่อยล่ะ?”
ดวงตาของอันโตนิโอเป็นประกาย เขาเดินเข้าไปหาสาวคนหนึ่งที่กำลังชื่นชมงานศิลปะอยู่ หลังจากผ่านไปหลายนาทีเขาก็ชี้ไปยังสตาร์บัคที่อยู่ด้านหลังของเขา เธอมีท่าทีลังเลเล็กน้อยก่อนพยักหน้าตอบรับพร้อมรอยยิ้ม ทั้งคู่เข้าไปยังร้านกาแฟและเข้าแถว
ดวงตาของเบ็นเบิกกว้างขึ้น ครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นอันโตนิโอเข้าหาสาว มันจบลงที่เขาร้องออกมาเหมือนเหยี่ยวขาวและผู้หญิงก็หนีไปหัวซุกหัวซุน อันโตนิโอต้องฝึกมาเป็นอย่างดีแน่ๆเพราะการเข้าหาสาวในครั้งนี้ของเขานั้นยอดเยี่ยมเลยทีเดียว เขาพาเธอเข้าสู่เดทแบบเร่งด่วนได้ตั้งแต่การลองครั้งแรก เบ็นและเบลูก้าเดินเข้าไปยังสตาร์บัค พร้อมนั่งลงบนโต๊ะเพื่อจะสังเกตุได้ง่าย
ท่าทางของอันโตนิโอจัดได้ว่ายอดเยี่ยม ขณะที่พวกเขากำลังต่อแถวกันอยู่ เขาก็ทำให้หญิงสาวหัวเราะจากนั้นไม่นานพวกเขาก็รับกาแฟและนั่งลง
หนึ่งนาทีถัดมา หญิงสาวก็ขอตัวพร้อมเดินออกไปทันที เหลือทิ้งไว้เพียงอันโตนิโอที่จ้องกาแฟของเขาอย่างโศกเศร้า
“สิ่งต่างๆแย่ลงอย่างรวดเร็ว…” เบ็นแทบไม่อยากจะเชื่อ
เบลูก้าเสริมเข้าไปว่า “ใช่ ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพราะกลยุทธ์ของเขา…การสั่งน้ำเปล่าแก้วใหญ่เพิ่มซอสฟักทอง 7 ปั๊ม และวิปปิ้งครีม มันคือจุดเริ่มต้นของจุดจบ…”
เบ็นขมวดคิ้วด้วยความแขยง “อย่าลืมสเปนด้า (1) อีก 8 ซองที่หมอนั่นใส่เข้าไปด้วยตัวเองอีก ตอนที่พวกเขานั่งลง…”
เบลูก้าส่ายหัวออกมา “นั่นไม่น่ามองเลยแม้แต่น้อย ฟางเส้นสุดท้ายก็คือ…หมอนั่นหยิบหลอดออกแล้วเริ่มเลียวิปปิ้งครีมอย่างช้าๆด้วยลิ้นพร้อมหลับตา…”
เบ็นพยักหน้า “แถมหมอนั่นยังส่งเสียงครางออกมาระหว่างเลียอีกด้วย…”
ทั้งคู่ต่างตัวสั่น
‘หมอนั่นคิดอะไรอยู่กันแน่?’ พวกเขาต่างประหลาดใจ
พวกเขาทั้งสามคนนั่งอยู่เงียบๆเป็นเวลานาน
***
-มุก Mc Donald
การแต่งตัวของทั้งสามคนจะเหมือนตัวละครของแบรนด์ Mc Donald
เบลูก้า แต่งตัวเป็น Grimace
อันโตนิโอ แต่งตัวเป็น Hamburger (เป็นตัวละคร)
เบ็น แต่งตัวเป็น Ronald Mc Donald เป็นตัวตลกตัวเหลืองของแบรนด์ Mc
-Splenda สเปนด้า = สารให้ความหวานยี่ห้อดัง