“นายพูดเชี่ยอะไรกัน?!?” ไทเลอร์โกรธขึ้นมา มีคนรอบๆก่นด่าออกมา
“ความจริงก็คือแกคือตัวผิดพลาด ใบสูติบัตรของแกเป็นจดหมายขอโทษจากโรงงานถุงยาง!”
ใบหน้าของไทเลอร์กลายเป็นสีแดงด้วยความอับอายและความโกรธ
แม้ว่าเบ็นจะเป็นพวกหงิมๆ แต่เขาก็เก่งเรื่องการด่า ขนาดระบบยังชมเขาเรื่องสกิลด่ากราดที่เขาได้จากเกมเมื่อตอนคำอธิบายรอบแรกของค่าสถานะการสนทนา อย่างน้อยเขาก็แอบเห็นมันอยู่
เบ็นมองไปที่พุงห่วงยางของไทเลอร์ “เห็นอย่างงี้แล้ว นายน่าจะต้องการสูติบัตรอีกใบนะ”
*อึก!* เพื่อนของไทเลอร์พ่นเครื่องดื่มชูกำลังออกมาใส่ผู้หญิงที่กำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งข้างๆเขา เขาหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ และสถานการณ์ก็กลายเป็นโกลาหล!
ไทเลอร์แทบจะควันออกหู! แขนของเขาสั่น เขาชี้ไปที่เบ็น
เบ็นมองไปที่ส่วนกลางลำตัวของไทเลอร์ “ไม่ได้ท้องหรอกเหรอ? ถ้างั้นนายอาจจะต้องการใบรับรองขนาดเส้นรอบวงสินะ”
*โอ้ย!* ผู้ชายคนหนึ่งระเบิดเสียงหัวเราะออกมาขณะวิ่งอยู่บนลู่วิ่งและถูกเหวี่ยงลงมาจากลู่วิ่ง คนที่อยู่ในยิมส่วนใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆต่างระเบิดเสียงหัวเราะออกมาและจ้องไปที่ไทเลอร์!
ไทเลอร์นั้นทนต่อไปไม่ไหวแล้ว! เขาพุ่งไปที่เบ็นพร้อมเหวี่ยงหมัดอันรุงแรงออกมา! แม้ว่าเบ็นจะไม่ได้ต่อสู้มาหลายปีแล้วก็ตาม แต่เขาก็พบว่ามันง่ายมากที่จะหลบเจ้าอ้วนที่ทั้งช้าและหิวโหยนี่ เพราะเขานั้นตัวไม่สูงนักจึงเพียงแค่ก้าวหลบไปด้านข้างเท่านั้น
ด้วยแรงผลักจากหมัดอันป่าเถื่อนของไทเลอร์ ทำให้เขาสะดุดไปข้างหน้าจนล้มลงและหัวกระแทกเข้ากับชั้นวางน้ำหนัก! หนึ่งในดัมเบลหล่นลงมาใส่เท้าของเขา! “อ๊ากกกก!”
เบ็นเหลือบมองไปที่เพื่อนของไทเลอร์ที่ยังคงพยายามหยุดหัวเราะ เขายกมือขึ้นอย่างไม่ใส่ใจเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมการปะทะ ทุกคนที่นี่พึ่งรู้จักกันไม่ถึงสองสัปดาห์ยังไม่มีใครสนิทกันขนาดนั้น
เบ็นเดินเข้าไปหาไทเลอร์ที่นอนอยู่บนพื้นและกำลังจับเท้าของเขาอยู่ “ไทเลอร์บอกสิ ใครเป็นแด๊ดดี๊ของแกกัน?”
ไทเลอร์เหลือบมองไปที่เบ็น ‘ทรงผมนั่น…’ ในท้ายที่สุดเขาก็จำเบ็นได้ “แกไง…”
“ตอบได้เยี่ยม”
ไทเลอร์แทบกระอักเลือดออกมา
เบ็นไม่เคยคาดหวังว่าไทเลอร์จะยอมทำตามที่พนันกันไว้ แต่นี่ก็พอแล้วที่จะทำให้เขาอับอาย เมื่อมีคนมารังแกเบ็น เขานั้นไม่เคยยืนหยัดเพื่อตัวเองมาก่อน ไม่ใช่เพราะเขากลัวแต่เป็นเพราะว่าเขาไม่เห็นทางชนะต่างหาก ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและระบบ ตอนนี้เขามีอาวุธแล้ว แล้วทำไมเขาต้องยอมให้ใครมารังแกเขาได้อีก?
เมื่อเขาเห็นว่าเขาทำให้ไทเลอร์ได้อับอายเพียงพอแล้ว เบ็นจึงกลับไปที่หอของเขา ในขณะที่เขาเดินไปตามโถงทางเดินในชั้นของเขา ประตูด้านข้างถูกเปิดออกและมีเด็กสาวเดินออกมาพร้อมถือกระดาษปึกใหญ่ออกมาด้วย เธอนั้นกำลังเร่งรีบ เธอไม่ได้สังเกตุเห็นเบ็นที่เดินเงียบๆอยู่ด้านนอกประตู ผลคือเธอชนเข้ากับเขา เนื่องด้วยการชนกันทำให้เอกสารของเธอหลุดมือและกระจายไปกลางอากาศ
ในขณะที่เอกสารลอยอยู่เต็มห้องโถงราวกับก้อนเมฆทั้งคู่ก็หันมาสบตากัน
เบ็นหยุดหายใจไปชั่วขณะ
ดวงตาที่กระจ่างชัดของเธอเต็มไปด้วยความแน่วแน่และเด็ดเดี่ยว เหมือนกับว่าพวกมันมองข้ามไปที่อนาคตและปัจจุบัน ผมยาวดำของเธอห้อยลงมาอยู่ที่หน้าอก กลมเกลียวเข้าคู่กับกระโปรงสีดำแบบมืออาชีพ โหนกแก้มของเธอสูง ริมฝีปากชมพูเล็กของเธอกลายเป็นรูปตัว o เนื่องตกใจจากการที่ชนกัน
เมื่อเอกสารตกถึงพื้นทั้งคู่ก็ถอยออกจากกัน “โอ้…” หญิงสาวร้องออกมาขณะเริ่มเก็บเอกสาร เบนจามินคุกเข่าลงและช่วยเธอเก็บเอกสาร เขามองไปที่หญิงสาวที่งดงามและขยันขันแข็งนี้เป็นครั้งคราว
เธอนั้นกระพริบตาไปครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกบางสิ่งออก จากนั้นเธอมองไปที่เขา “คุณเบนจามิน โรมีโอ ใช่ไหม?” หญิงสาวถามออกมาด้วยเสียงหวานซึ่งมีสำเนียงเป็นภาษาญี่ปุ่น
เบ็นเลิกคิ้วขึ้น “ผมเอง”
เธอพูดต่อทันที “เรายังไม่ได้เจอกันเลย ฉันเป็น R.A ของคุณ ฉันมาหาคุณที่ห้องอยู่หลายครั้งแล้ว แต่เพื่อนร่วมห้องของคุณ คุณฟลิกมักจะบอกว่าคุณจะอยู่ที่ยิมหรือไม่ก็ในห้องเรียนตลอด…”
“R.A.?”
“หมายถึงผู้ช่วยเหลือด้านที่พักนะ ฉันเป็นนักศึกษาระดับปริญญาโท แต่ฉันได้รับที่พักอาศัยอยู่ฟรีจากการทำงานเพื่อช่วยเหลือนักศึกษาปริญญาตรีในทุกเรื่อง ฉันขอแนะนำตัวเองก่อนนะ ฉันชื่อ มิยูกิ ไซโตะ” เธอยื่นมือออกมาขณะที่เธอยังใช้อีกมือหนึ่งเก็บกระดาษ บ่งบอกให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่าเธอนั้นเร่งรีบขนาดไหน
เบ็นจับมือกับเธอและได้รับรู้ว่าเธอนั้นสุภาพขนาดไหน ‘ตอนที่ฉันมองไปที่เธอ ดูเหมือนว่าเธอนั้นจะแก่กว่าเล็กน้อย น่าจะประมาณ 20 ต้นๆ…’
“โอ้…” มิยูกินั้นส่งเสียงที่น่ารักออกมาอีกครั้งเธอนั้นนึกบางสิ่งออกมาได้ “ฉันต้องขอโทษด้วยนะที่ไม่ฉีกใบปลิวแย่ๆพวกนั้นให้เร็วกว่านี้”
เบ็นนั้นใช้เวลานึกไปสักพักก่อนจะตระหนักว่าเธอนั้นน่าจะเป็นหนึ่งในคนที่เห็นเขาตอนที่เข้ามาในหอพักเป็นครั้งแรก
มิยูกิพูดต่อว่า “ถึงแม้ว่า…ฉันจะไม่เข้าใจว่า ‘ราชาบูร์ริโต้’ หมายถึงอะไรก็เถอะ’ แต่คุณดูเหมือนจะไม่แม้แต่จะกินบูร์ริโต้ด้วยซ้ำ” เธอนั้นมองไปที่แขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเบ็นแก้มของเธอก็แดงขึ้นเล็กน้อย
“อ๋อ ไอนั่น…ก็แค่เรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย มันคือ…ธุรกิจการเดลิเวอรี่อาหารเม็กซิกันน่ะ ผมแค่ลองพยายามทำมันดู” เบ็นพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ‘ใครบอกกันละว่ามันไม่ใช่แบบนั้น? ขนาดฟลิกยังคิดว่าเป็นแบบนั้นได้เลย บางทีเธอก็อาจจะเหมือนกันก็ได้’
“อ่อ…ธุรกิจงั้นเหรอ?” เธอพยักหน้าออกมา
‘ขอบคุณนะฟลิก นางฟ้าของฉัน!’ เป็นโชคดีของเบ็นที่มีเขาเป็นรูมเมท
มิยูกิหยุดเก็บกระดาษ ก่อนจะนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ถ้าอย่างนั้น…ฉันก็เป็นคนทำลายธุรกิจของคุณสินะ?” ใบหน้าของเธอซีดลง จากนั้นเธอก็ก้มหัวให้เขา “โกเมน-นาไซ!” (ขอโทษ)
ดวงตาของเบ็นขยายกว้างขึ้น เขารีบยกตัวของเธอขึ้นมาโดยใช้ต้นแขน ใบหน้าซีดขาวของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงในพริบตา “ไม่เป็นไรคุณซื้อเหล้ามาให้ผมก็ได้” เบ็นไม่รู้ว่ามันมาจากไหน ทว่าหลังจากมีรูปร่างที่ดีและจัดการไทเลอร์ลงได้ ความมั่นใจของเขาก็เพิ่มมากขึ้น
“คุณไม่สามารถดื่มที่นี่ได้นะคุณเบนจามิน มันไม่ได้รับการอนุญาติ คุณยังอายุไม่ถึง 21 ปี หนึ่งในหน้าที่ของฉันก็คือการเฝ้าระวังการดื่มขณะที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ” เธอมองเขาด้วยสีหน้าดุดันราวกับมันเป็นปัญหาชี้เป็นชี้ตาย
“สาเกก็ไม่ได้เหรอ?”
“สาเกก็ไม่ได้ คุณเบนจามิน” มิยูกิมองไปที่นาฬิกาของเธอและตระหนักว่าเธอนั้นสายมากแล้ว เธอจึงรีบเก็บเอกสารทั้งหมด จากนั้นเธอก็บอกลาเบ็นและวิ่งไปที่ลิฟต์
เบ็นมองดูเธอจากไป ‘สาวน่ารักชาวญี่ปุ่นในตำแหน่ง R.A. ….’