เมื่อเสียงพูดเบาลง เวลานี้ทุกอย่างก็เงียบไปหมด
ทุกคนตะลึงไปครู่หนึ่ง เมื่อมองไปที่ฉินจุนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ภาพวาดปลอมงั้นเหรอ?
ตอนนี้สีหน้าของซูเหวินหมิงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ
“โอหัง! คุณกล้าดียังไงมาหาว่านี่เป็นภาพวาดปลอม? คุณมีหลักฐานอะไรไหม? คุณคิดว่าคุณเป็นใคร กล้าที่จะมาพูดว่านี่เป็นภาพวาดปลอม คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
“ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม มันเป็นที่ที่คุณควรพูดเหรอ? ดูแล้วคุณมันก็แค่พวกไร้ประโยชน์ ยังมีน่าจะมาพูดอะไรต่อหน้าฉันอีกงั้นเหรอ?”
เมื่อเสียงของซูเหวินหมิงเบาลง คนอื่นๆ ก็พูดตามทีละคน
“ใช่แล้ว ตระกูลซูเป็นถึงตระกูที่เก่าแก่ พวกเขาประกอบธุรกิจซื้อขายของเก่า โบราณวัตถุ และสิ่งประดิษฐ์โบราณ ถ้าคุณบอกว่าของโบราณที่คนอื่นซื้อเป็นของปลอมฉันก็คงทนฟังได้อยู่ แต่ที่คุณบอกว่าของที่คุณชายซูซื้อเป็นของปลอม ซึ่งค่อนข้างที่จะเกินไปนะ !”
ตระกูลซูหากินโดยประกอบธุรกิจซื้อขายของเก่า โบราณวัตถุ และสิ่งประดิษฐ์โบราณมานาน และตอนนี้ก็เป็นตัวแทนจำหน่ายของเก่าที่มีชื่อเสียงอย่างมากในจังหวัด ซูเหวินหมิงเองก็อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่ครึ่งหนึ่งของเขาก็ถือเป็นปรมาจารย์ด้านการประเมินได้อย่างแน่นอน
โดยพื้นฐานแล้วแค่มองแวบเดียวก็สามารถบอกได้แล้วว่าเป็นของจริงหรือไม่
ดังนั้น ถ้าบอกว่าคนอื่นให้ของโบราณปลอม นั่นอาจจะถูกคนอื่นหลอกขายให้แล้วจริงๆ ซึ่งเทคนิคมีไม่เพียงพอ
แต่ถ้าบอกว่าของโบราณที่ซูเหวินหมิงให้มาเป็นของปลอม นั่นก็แปลว่าเขาจงใจให้ของปลอม ซึ่งนี่เป็นท่าทีที่ใช่ไม่ได้เลยจริงๆ
แล้วในงานเลี้ยงวันเกิดของชายชราฝู จงใจให้ของปลอม นี่มันจะน่าเกลียดเกินไปหน่อยรึเปล่า?
ดังนั้นเมื่อฉินจุนกล่าวเช่นนี้ ซูเหวินหมิงจึงไม่พอใจในทันที
แม้แต่ชายชราฝูก็ดูอารมณ์เสียเล็กน้อย
“นี่คุณฉิน อย่าพูดเหลวไหลไปหน่อยเลย คุณชายซูอุส่าให้เกียรติมาหาฉันแล้ว ด้วยฐานะและความมั่งคั่งของคุณชายซูแล้ว คุณจะมาหาว่าของที่คุณชายซูให้เป็นของปลอมได้อย่างไรกัน? ยังไม่รีบขอโทคุณชายซูอีกหรือ?!”
ฝูหรงหรงขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ใช่ คุณชายซูมาจากตระกูลที่ค้าของโบราณระดับโลก รู้เรื่องโบราณวัตถุมากมาย ยังต้องให้คนอย่างคุณมาพูดอะไรแบบนี้อีกเหรอ? คุณควรรีบขอโทษคุณชายซูซะ! คุณเป็นคนทำผิด คุณก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาด้วย!”
คนอื่นๆก็เริ่มกล่าวตาม
“ใช่ คุณไม่ควรพูดแบบนี้ในโอกาสที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ แบบนี้มันไม่ใช่การดูหมิ่นคุณชายซูหรอกหรือ?”
“รีบขอโทษคุณชายซูเสี่ยวซะ อย่าให้ตระกูลฝูของเราต้องเสียหน้า”
“รีบขอโทษซิ อย่ามัวโอ้เอ้!”
“……”
กลุ่มคนรอบๆบอกให้ฉินจุนขอโทษ ราวกับว่าพวกเขากำลังบีบบังคับเขาและพวกเขาแต่ละคนก็ดูเกลียดชังฉินจุนอย่างมาก
ซูเหวินหมิงเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาดูหยิ่งผยอง และเขามองไปที่ฉินจุนเหมือนมังกรที่มองดูมด
ซูเหวินหมิงหัวเราะเยาะ รอดูเรื่องน่าขำของฉินจุน
ฉินจุนเองก็รูสึกว่ามันน่าขำ
“เมื่อกี้เขาบอกว่าฉันไร้ประโยชน์ เรียกฉันว่าเด็กไม่สิ้นกินน้ำนม แต่กลับไม่มีใครแก้ต่างอะไรให้ฉัน”
“ฉันแค่บอกว่า ภาพวาดของเขาเป็นของปลอม ฉันต้องขอโทษด้วยเหรอ? คนรวยอย่างพวกคุณ ช่างเย่อหยิ่งกันจริงๆ”
คำพูดนี้ของฉินจุนทำให้การแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“คุณมันโอหัง!”
ตอนนี้ฉินจุนกำลังทำให้พวกเขาต้องอับอายต่อหน้าคนอื่น ในความเห็นของพวกเขา ฉินจุนเป็นเพียงนายน้อยตกอับเท่านั้น แต่ยังกล้าพูดกับพวกเขาแบบนี้ นี่ไม่ใช่ว่าเขากำลังรนหาที่ตายหรอกเหรอ?
ใบหน้าของฝูเสี่ยวเฟิงเปลี่ยนไปเล็กน้อยและเขาก็รีบออกมาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
“เหอะๆ ทุกคนอย่าตื่นตระหนกกันไปนะ วันนี้เป็นวันดี ดังนั้นควรฉลองวันเกิดให้ผู้เฒ่าฝูก่อน”
ฝูเสี่ยวเฟิงเป็นหัวหน้าครอบครัวและคำพูดของเขานั้นก็ยังคงมีพลังมากและ หลังจากพูดแล้วทุกคนก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก
แต่ซูเหวินหมิงนั้นถอนหายใจและกล่าวว่า
“เรื่องอื่นฉันไม่สนใจหรอก แต่เรื่องเกี่ยวกับโบราณวัตถุของฉัน ฉันต้องคุณกับคุณให้ชัดเจน”
“คุณไม่ได้บอกว่าภาพวาดของฉันเป็นของปลอมหรอกเหรอ เอาสิ บอกฉันทีว่ามันปลอมยังไง ฉันเองก็อยากรู้”
“ถ้าวันนี้คุณบอกไม่ได้ละก็ คุณต้องก้มหัวขอโทษฉัน!”
ซูเหวินหมิงมีสีหน้าที่เย็นชา หากฉินจุนต้องก้มหน้าก้มหัวขอโทษเขาจริงๆ งั้นเขาจะหน้าตาเข้ามาร่วมกับตระกูลฝูและเป็นสามีของฝูหรงหรงได้อย่างไร?
ฝูเสี่ยวเฟิงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ซูเหวินหมิงคนนี้เป็นถึงปรมาจารย์ของโบราณ เขาอยู่ในแวดวงโบราณตั้งแต่ยังเป็นเด็ก วิสัยทัศน์ของเขาดีกว่าคนอื่นๆ อย่างแน่นอน
พูดก็พูดเถอะ แม้ว่าของเก่าที่ซูเหวินหมิงมอบให้จะเป็นของปลอมจริงๆ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่ฉินจุนเองจะมองออก
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินจุนก็ยิ้มจาง ๆพรางกล่าวว่า “ท่านผู้เฒ่าฝูมองไม่ออกหรือว่าภาพวาดนี้เป็นของปลอม?”
ชายชราฝูขมวดคิ้ว และมองอย่างระมัดระวังอีกครั้ง แตะอย่างระมัดระวัง และส่ายหัว
“มองไม่ออกเลย นี่มันเป็นของแท้ ไม่เหมือนจะเป็นของปลอมได้”
ชายชราฝูเองก็อยู่ในโลกของโบราณวัตถุมาหลายปีเช่นกัน แปลว่าสิ่งที่เขามองไม่ออกนั้น ต้องเป็นของจริงอย่างแน่นอน
ฉินจุนหัวเราะเยาะ เดินไปหาซูเหวินหมิง ดูภาพวาดเหยียดสองนิ้วออกแล้วถูเบาๆ เหลือบมองที่ฐานของม้วนภาพและยิ้มเยาะออกมา
“ภาพวาดนี้ ได้รับการรักษาที่ดีจริงๆเลยนะ”
หลังจากพูดจบ ฉินจุนก็ดึงภาพขึ้น
เสียงแขวกดังขึ้น และปรากฎว่าฉินจุนได้ฉีกภาพวาดนั้น
ทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมาก
“คุณทำอะไรน่ะ! คุณมันบ้าไปแล้ว!”
ดวงตาของซูเหวินหมิงเบิกกว้างและใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
“โอหัง! คุณทำลายภาพวาดของฉัน คุณมัปัญญาชดใช้มันไหม!”
ชายชราฝูก็ลุกขึ้นด้วยความโกรธ กำหมัดของเขาและตอนนี้ดูเหมือนว่าเขากำลังโกรธจัด
“คุณฉิน! คุณ…คุณ…”
ด้วยความตระหนกชายชราพูดไม่ออก
ภาพวาดที่ดีเช่นนี้ถูกเขาฉีกทำลาย! นี่มันเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก!
ทุกคนจ้องมาที่เขา อยากจะขึ้นไปตบฉินจุนสักฝ่ามือ
ฝูหรงหรงรู้สึกอับอายอย่างยิ่ง นี่เป็นการสร้างเรื่องในงานเลี้ยงวันเกิดที่ยิ่งใหญ่!
ทันทีที่ฝูหรงหรงกำลังจะดุเขา ฉินจุนก็ย่อลงและดึงเส้นบาง ๆ ออกจากม้วนภาพ
เส้นบาง ๆนี้ มันยึดภาพวาดกับด้ามไม้ทั้งสองด้านไว้
ฉินจุนหยิบด้ายเส้นเล็กนี้ออกมาแล้วแสดงให้ทุกคนเห็นและพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“นี่คือด้ายไนลอน ถ้าจำไม่ผิด ด้ายไนล่อนถูกประดิษฐ์ขึ้นในปี 2471 คิดไม่ถึงว่าในสมัยของถังโปหู จะมีด้ายไนลอนแบบนี้ด้วย? ”
เมื่อเสียงของฉินจุนลดลง ทุกคนต่างก็ตกตะลึง
นี่… นี่คือข้อพิสูจน์ที่แข็งแกร่งจริงๆ!
ด้ายไนลอนก็ถูกฉีกออกมาแสดงให้ทุกคนเห็นหมดแล้ว นี่มันจะยังเป็นของโบราณอะไรกันอีก?
ฝีมือการวาดภาพทั้งหมดค่อนข้างยอดเยี่ยม แม้ถึงจะเป็นของปลอม ก็เป็นผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ เป็นผลงานของซูเหวินหมิงเอง ในความเห็นของเขา ของเป็นของปลอมที่เหมือนของจริงเอามากๆ
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญโบราณตัวจริงก็ยังแยกแยะไม่ได้ง่ายๆ เว้นแต่คุณจะแยกชิ้นส่วนภาพวาดเพื่อดูโครงสร้างภายใน
แต่ช่างภาพวาดที่มีชื่อเสียงเช่นนี้ หากไม่แน่ใจว่าเป็นของจริงหรือปลอม จะมีใครกันที่กล้าจะแยกชิ้นส่วนของมันออก?
ไม่คาดคิดเลยว่าฉินจุนจะสามารถบอกได้ทันทีว่าภาพวาดนี้เป็นของปลอม เด็กคนนี้เป็นใครกันแน่? ถ้ามีความสามารถนี้อยู่จริงๆ ก็ต้องดังในแวดวงของโบราณแล้ว! เด็กชายนิรนามคนนี้ดูไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
ด้ายไนลอนในมือของฉินจุนแวววาวเป็นพิเศษ และการแสดงออกของซูเหวินหมิงนั้นก็ดูน่าอายอย่างยิ่ง
เวลานี้ท่าทางชายชราฝูไม่ค่อยจะดีนัก ตอนแรกเขานั้นชอบของเก่าของโบราณอยู่แล้ว และยิ่งเป็นคนที่ชอบของเก่ายิ่งเกลียดของปลอม
และซูเหวินหมิงคนนี้เพิ่งจะมอบของปลอมมาให้เขาในวันเกิดอายุครบเจ็ดสิบปีของเขา ซึ่งมันเหมือนเขาโดนตบหน้าอย่างจัง
ถ้าเกิดว่าเขารับสิ่งนี้ไว้ เขาจะต้องเก็บมันไว้ที่บ้านอย่างแน่นอน ราวกับว่าเขาได้รับสมบัติอันล้ำค่ามา และถ้าหากหลังจากผ่านไปหลายปีมีคนมองออก ชายชราฝูก็คงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว!
ซูเหวินหมิงยิ้มอย่างอึดอัด “เหอะๆ ฉันคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่ามันจะกลายเป็นของปลอม ฉันก็ยังรู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อยเลย เมื่อเทียบกับพ่อของฉันแล้ว ฉันยังถือว่าอ่อนหัดมาก ยังมองมองออกอีกว่านี่เป็นของปลอม”
“พี่ชายฉินคนนี้มีสายตาเฉียบแหลมนัก คุผู้เฒ่าฟู ฉันขอเก็บภาพวาดนี้ออกไปก่อนนะครับ กลับไปฉันจะมอบภาพวาดจริงให้คุณในภายหลัง คุณไม่ต้องกังวลนะครับ!”
ตอนนี้ไม่มีใครเชื่อคำพูดของซูเหวินหมิงอีกต่อไปแล้ว