บทที่ 507 จ่ายหนัก
แทบทุกคนภายในโรงแรมต่างไม่ทันมอง ว่าลู่เสี้ยงหยางทำยังไง ถึงได้ทำให้การ์ดสิบกว่านายพุ่งลงจากเวทีอย่างพร้อมเพรียงกัน
ฉากนี้เสมือนกับภาพในจินตนาการ ราวกับว่าจะเกิดขึ้นได้เพียงแค่ในหนังเท่านั้น
คุณนายตระกูลเย่และเย่หยุนเทาเบิกตาโตจนแทบถลน ด้วยความตกตะลึง ยากที่จะเชื่อ หรือไอ้ไร้ประโยชน์อย่างลู่เสี้ยงหยางจะได้วิชาบู๊มาจากสถาบันหลงเสินงั้นเหรอ
“ให้ตาย เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?” เย่หยุนเทาอึ้งไป ก็แค่ไอ้หน้าละอ่อนที่เกาะผู้หญิงกินเท่านั้นเองไม่ใช่หรือไง? ทำไมถึงได้บู๊เก่งขนาดนี้? การ์ดสิบกว่านายเขาแค่กระทืบเท้าก็ต่างปลิวออกไปไกล ความสามารถที่น่ากลัวแบบนี้ เกินความคาดหมายของเขานัก
เซี่ยงเทียนไห่และจางซูฟางต่างก็ตัวแข็งทื่อ แต่ไม่นานทั้งคู่ก็เผยสีหน้าเยาะเย้ย ที่แท้ไอ้หมอนี่ก็แค่มีความสามารถอยู่บ้าง ก็เลยคิดที่จะพังงานแต่งของลูกชายเขา ไอ้คิดสิ้นดี
เย่สวนไม่รู้สึกตื่นเต้น ดีใจแม้แต่น้อย เธอเต็มไปด้วยความกังวล ในเมื่อเขาลงมือแล้ว ก็เท่ากับว่าเปิดศึกกับตระกูลเซี่ยงอย่างเป็นทางการ
ภายใต้ความกังวล น้ำตาที่ราวกับไข่มุก ล่วงรินไหลไม่หยุด พลางกล่าวกับลู่เสี้ยงหยาง “เลิกก่อความวุ่นวายได้แล้ว นายรีบออกไปซะ ฉันดูออก ว่ากงหยู่หนิงชอบนายมาก ต่อจากนี้นายอยู่กับเธอ เธอจะให้ความสุขแก่นาย รักษาเธอเอาไว้ให้ดี”
คำพูดที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ทำให้ลู่เสี้ยงหยางเจ็บปวด
เผยรอยยิ้มยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้า ลู่เสี้ยงหยางเอ่ยกับเย่สวน “การที่ผมมาที่นี่ในวันนี้ เพื่อพาคุณออกไปจากที่นี่ เธอเป็นได้เพียงผู้หญิงของผมลู่เสี้ยงหยางคนเดียวเท่านั้น หากใครที่กล้าทำให้คุณแปดเปื้อน ผมจะฆ่ามันทิ้งซะ”
ประโยคสุดท้าย ลู่เสี้ยงหยางปกคลุมไปด้วยความอาฆาตทั่วร่าง
เย่สวนรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ความรักที่ลู่เสี้ยงหยางมีต่อเธอ คุ้มค่าแล้วกับความเสียสละทุกสิ่งที่ผ่านมา ลู่เสี้ยงหยางได้ตอบแทนเธอด้วยการกระทำแล้ว
เซี่ยงหยู่โม่ที่อยู่อีกด้าน ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว โหดเหี้ยม ต่อหน้าเขาและบรรดาแขกทั้งหลาย ลู่เสี้ยงหยางยังกล้าสามหาว มองข้ามตระกูลเซี่ยงมากเกินไปแล้ว
หากวันนี้ลู่เสี้ยงหยางทำลายงานแต่งของเขาละก็ ต่อจากนี้เขาและตระกูลเซี่ยงจะอยู่ยังไงต่อไป คงได้ถูกสังคมตราหน้าขบขันเป็นแน่
เมื่อคิดได้อย่างนั้น ดวงตาของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นทั้งดุกร้าวและมืดมน จับจ้องลู่เสี้ยงหยางกล่าวอย่างเน้นย้ำ “ไอ้หนู หากวันนี้ไม่ฆ่าแกทิ้งซะ คนนอกจะคิดว่าตระกูลเซี่ยงถูกรังแกได้ง่ายๆ วันนี้แกรนหาที่ตายเองนะ ถ้างั้นก็โทษตระกูลเซี่ยวของเราแล้วกัน”
ลู่เสี้ยงหยางไม่แยแสเซี่ยงหยู่โม่ พลางหันไปกล่าวกับเซี่ยงเทียนไห่ “ก่อนหน้านี้พวกคุณให้ยาพลิกสวรรค์แก่เย่สวนไปหนึ่งเม็ด ตอนนี้ผมจะคืนให้ตระกูลเซี่ยงสิบเม็ด ถือว่าคืนทั้งต้นทั้งดอก จากนี้บุญคุณของตระกูลเซี่ยงที่มีต่อเย่สวนหายกัน”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เซี่ยงเทียนไห่เผยสายตาเยาะเย้ย ดูยังไงลู่เสี้ยงหยางก็แค่ไอ้ปัญญาอ่อน
ก็แค่ยาจกที่เกาะผู้หญิงกิน จะไปเอายาพลิกสวรรค์มาตากไหนได้ตั้งสิบเม็ด?
“ฮ่าฮ่า แกฝันกลางวันอยู่หรือไง? ยาพลิกสวรรค์10เม็ด แกคิดว่าแกเป็นใคร?”
“นั่นสินั้นสิ ต่อให้เป็นประธานสโมสรกลั่นยา ก็ไม่กล้าพูดอะไรที่บ้าบิ่นขนาดนี้”
“ให้ตาย ไอ้ผู้ชายขี้โม้ หากแกเอายาพลิกสวรรค์สิบเม็ดออกมาได้จริงๆ ฉันจะคุกเข่าแล้วเรียกแกว่าคุณปู่เลย”
ไม่นาน เหล่าบรรดาผู้ชมต่างรือกันให้แซด ต่างไม่เห็นดีในลู่เสี้ยงหยาง
ต่อให้เป็นเย่สวน ในสถานการณ์แบบนี้ เธอเองก็ไม่เชื่อคำพูดของลู่เสี้ยงหยาง
ยาพลิกสวรรค์เพียงแค่หนึ่งเม็ด เธอก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดที่มีกว่าจะได้มาจากตระกูลเซี่ยง สิบเม็ดมันเป็นยังไง? เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิด
ลู่เสี้ยงหยางแน่วแน่ หยิบถุงพลาสติกสีดำสีดำออกมาจากกระเป๋า โยนไปทางเซี่ยงหยู่โม่
เมื่อเห็นถุงพลาสติกสีดำตุงอ้วน เสมือนกับว่ามีอะไรอยู่ด้านใน เซี่ยงหยู่โม่จึงเอื้อมมือไปหยิบมาไว้
ทันใดนั้น คำถามมากมายปรากฏขึ้นชัดเจนบนใบหน้าของเขา
ลู่เสี้ยงหยางกล่าวเสียงเรียบ “ยาพลิกสวรรค์สิบเม็ด ไม่ขาดแม้แต่เม็ดเดียว ผมคืนให้ทั้งต้นทั้งดอก ต่อจากนี้เย่สวนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเซี่ยงอีก”
เซี่ยงหยู่โม่ไม่พอใจ “มึง แกคิดว่าสร้างเรื่องหลอกเด็กแล้วจะหลอกตระกูลเซี่ยงได้อย่างนั้นหรือ?”
เขาไม่มีทางเชื่อว่าในถุงพลาสติกสีดำจะมียาพลิกสวรรค์สวรรค์อยู่สิบเม็ดจริงๆ
ยาพลิกสวรรค์เม็ดหนึ่งมีค่ามหาศาล สิบเม็ดรวมกัน ความร่ำรวยระดับนี้หาคำเปรียบมิได้
แต่ลู่เสี้ยงหยางกลับใช้ถุงพลาสติกในการใส่ยาพลิกสวรรค์ ใครจะไปเชื่อ?
ก็ไม่ต่างอะไร กับการใช้ผ้าขี้ริ้วจากกองขยะมาห่อทองซึ่งเป็นไปได้ไหม?
จางซูฟางถลึงตาโตใส่ลู่เสี้ยงหยาง “ไม่มีความจริงหลุดออกจากปากแกสักคำ ในเมื่อแกอยากขายขี้หน้ามากนัก ฉันก็จะจัดให้”
เธอเอ่ยพลางหยิบถุงพลาสติกสีดำมาจากมือของเซี่ยงหยู่โม่ ก่อนที่จะเปิดออกต่อหน้าต่อตาของทุกคน
ทันใดนั้น ทุกคนต่างตาโตเป็นไข่ห่าน จับจ้องของที่อยู่ในมือของจางซูฟางนิ่ง
เมื่อเธอเปิดถุงพลาสติกออก ภาพของยาพลิกสวรรค์สิบเม็ดก็เข้าไปอยู่ในสายตาของทุกคน
ลายเส้นที่พันเกี่ยวกันบนพื้นผิวยา ดูยังไงก็ไม่เหมือนกับของธรรมดา
และบุคคลปริศนาที่มีอยู่ฝูงชนที่จ้องตาไม่กะพริบตะโกนขึ้น “นี่เป็นยาพลิกสวรรค์ของจริง”
“ให้ตาย ของจริงหรือนี่” คนในฝูงชนตะโกนขึ้น
“อะไรนะ? จริงหรือ? พูดแกให้รู้เรื่อง” ใครบางคนกล่าวถามอย่างไม่เข้าใจ
“ยังจะอะไรอีกล่ะ นี่เป็นยาพลิกสวรรค์ของจริงแท้แน่นอน”
“บัดซบ ยาพลิกสวรรค์ของจริงงั้นหรือ! ตั้งสิบเม็ด?!” หลายคนต่างอึ้งทึ่งกับสิ่งที่เห็น สมองขาวโพลน จับจ้องลู่เสี้ยงหยางอย่างเหลือเชื่อ ไอ้หมอนี่เกาะผู้หญิงกินไม่ใช่หรือไง? ทำไมถึงได้มียาพลิกสวรรค์ตั้งสิบเม็ด?
“นี่มัน นี่มัน นี่มันอะไรกัน?” เซี่ยงหยู่โม่และจางซูฟางหายใจติดขัด ด้วยความอึ้ง
ไม่คิดเลยว่าลู่เสี้ยงหยางจะทำได้อย่างที่พูดจริงๆ เขาเอายาพลิกสวรรค์สิบเม็ดออกมาได้จริงๆ แล้วแบบนี้เขายังจะควบคุมเย่สวนได้อยู่อีกหรือ?
“บัดซบ ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” น้ำชาที่เพิ่งถูกกรอกเข้าปากของเย่หยุนเทาถูกพ่นออกมา
ไอ้ง่อยอย่างลู่เสี้ยงหยางไปเอายาพลิกสวรรค์มาตากไหนตั้งสิบเม็ด
ทุกคนยังคงตกอยู่ในภวังค์ ลู่เสี้ยงหยางกล่าวเสียวเรียบ “ที่รักเราไปกันเถอะ”
จบประโยค เขาเดินไปที่ข้างเย่สวน เอื้อมมือจูงแขนของเย่สวน ก่อนที่จะพาเธอเดินลงจากเวที
แต่ในเวลานี้เอง เซี่ยงหยู่โม่กล่าวอย่างเป็นนัย “คิดจะออกไปงั้นเหรอ? แกคิดง่ายเกินไปรึเปล่า ยาพลิกสวรรค์สิบเม็ดของแก เป็นได้แค่ของกำนัลในการที่แกมาก่อความวุ่นวายเท่านั้น หากแกต้องการให้เย่สวนหมดความสัมพันธ์กับตระกูลเซี่ยงละก็ แกก็ต้องนำยาพลิกสวรรค์100เม็ดมาให้ฉัน!”
อะไรนะ? ยาพลิกสวรรค์100เม็ด?
ฝีเท้าที่ก้าวออกไป ค้างเติ่งกลางอากาศ ตระกูลเซี่ยงได้ยาพลิกสวรรค์ไป10เม็ดแล้วยังไม่พออีกหรือ!