บทที่ 522 ชีวิตที่ไร้ค่า
ในเวลาเดียวกัน นอกห้องผ่าตัดในโรงพยาบาลหยินหมิน
ทุกคนในตระกูลเย่ต่างก็มารวมตัวกันอย่างครบถ้วน เมื่อสักครู่โอหยางรั่วสุ่ยไม่เพียงแค่แจ้งลู่เสี้ยงหยาง แถมยังแจ้งกับตระกูลเย่ด้วย
ท่านย่าตระกูลเย่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ด้วยสีหน้าที่ยากจะคาดเดา
ส่วนเย่หยุนเทา เย่เชี่ยนและเย่ซวงพวกเขาทำหน้าดีอกดีใจ
ให้ตาย พวกเขาไม่ชอบเย่สวนมานานแล้ว คิดวางแผนเพื่อจัดการเธอมานาน ไม่คิดว่าไม่ต้องรอให้พวกเขาลงมือ ก็เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้นเอง
ฮ่าฮ่าฮ่า นางแพศยานี่ตายไปเสียได้ก็ดี
โอหยางรั่วสุ่ยยืนอยู่ที่ข้างประตูห้องผ่าตัด ดวงตาเสมือนกับว่าวที่สายขาด น้ำตาไหลพรากไม่หยุด
ในใจเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด หากเย่สวนไม่ใช่เพราะช่วยเธอ เลือกที่จะหลบไปเอง เย่สวนก็จะไม่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้นแบบนี้
“หือหือ เย่สวน ฉันขอโทษ เป็นความผิดของฉันเอง” เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ โอหยางรั่วสุ่ยน้ำตาแตกอย่างควบคุมไม่ได้
ท่านย่าตระกูลเย่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อได้ยินเสียงคร่ำครวญของโอหยางรั่วสุ่ย เธอกล่าวปลอบอย่างนึกสงสาร
หลังจากนั้นเธอทำตาขวางใส่ชายวัยรุ่นที่อายุราวยี่สิบห้ายี่สิบหก แต่งกายแปลกแหวกแนว หัวที่กระเซอะกระเซิงถูกย้อมเป็นสีเหลือง เจาะหูหลายรู เสื้อผ้าที่สวมใส่ค่อนข้างประหลาด
ตอนนี้เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นเล่นเกมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมด่ากราดกับเพื่อนในทีม
หนุ่มวัยรุ่นคนนี้เป็นเจ้าของรถเฟอร์รารี่ที่ชนเย่สวน
เมื่อเห็นทีท่าโอหังของชายหนุ่ม ไม่วางใครไว้ในสายตา คุณนายเย่ก็รู้สึกโมโห
แม้ว่าตระกูลเย่จะไม่ชอบเย่สวน เย่ยังไงซะเย่สวนก็เป็นคนของตระกูลเย่ ตอนนี้เธอถูกคนอื่นชนไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง แถมคนที่ก่อเรื่องเหล่านี้ยังไม่รู้สึกรู้สาอะไร ไม่เห็นหัวของตระกูลเย่บ้างเลยสักนิด
ยิ่งไปกว่านั้น การที่ตระกูลเย่สามารถร่วมงานกับหยูเม่ยหยินกรุ๊ปได้อีกครั้ง ก็เพราะเย่สวน หากเย่สวนเป็นอะไรไป หยู่เม่ยหยินกรุ๊ปจะยอมร่วมงานกับตระกูลเย่ต่อไปหรือไม่ คงจะพูดยาก
เมื่อคิดได้อย่างนั้น คุณนายตระกูลกัดฟันกรอดกล่าวกับชายหนุ่ม “แกหมายความว่ายังไง? นิสัยยังไงหันแน่? ชนคนของตระกูลเย่แล้วยังจะทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น แกอยากจะเข้าคุกเข้าตารางที่ปินเหอไปตลอดชีวิตใช่ไหม”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของคุณนายเย่ เหล่าเย่หยุนเทาเองก็ไม่กล้านิ่งเฉย ต่างรวมใจเป็นหนึ่งขึ้นมาเสียดื้อๆ
“นี่แก แกชนคนของตระกูลเย่ หากวันนี้แกไม่พูดให้รู้เรื่อง ตระกูลเย่จะฟ้องแก”
“นั่นสิ เป็นคนยังไงกันแน่ นิสัยแย่ชะมัด”
“ฮ่าฮ่า หากเย่สวนของเราเป็นอะไรขึ้นมา แกก็รอชดใช้ด้วยชีวิตได้เลย”
สมาชิกในตระกูลเย่ต่างโจมตีหนุ่มวัยรุ่นด้วยวาจา
ในที่สุดหนุ่มวัยรุ่นก็วางโทรศัพท์ลง แหงนหน้าขึ้นมองท่านย่าตระกูลเย่ กล่าวอย่างเฉยชา “ตระกูลคือใครกัน? คนใกล้ลงโลงอย่างแกกล้ามาโอหังใส่ฉัน เชื่อไหมว่ากูสามารถทำให้ตระกูลเย่หายไปจากปินเหอเดี๋ยวนี้เลย”
ประโยคที่เผด็จการ ทำให้ท่านย่าตระกูลเย่โมโหจนตัวสั่น
“ดี ดีมาก ก็แค่เด็กที่ยังไม่หย่าน้ำนมกล้าโอหังต่อหน้าฉัน” ท่านย่าตระกูลเย่หัวเราะด้วยความโกรธแค้น
ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ พ่นน้ำลายใส่ท่านย่าตระกูลเย่ “กูก็แค่ชนคนไม่ใช่หรือไง? จะอะไรนักหนา ชีวิตของลูกสาวตระกูลเย่มีค่าเท่าไหร่? กูจะชดใช้ให้ทุกบาททุกสตางค์”
ประโยคหลุดออกมาใช้คำว่าโอหังในการเปรียบเทียบไม่ได้อีกต่อไป นี่มันยโสโอหังถึงขั้นขีดสุด
ท่านย่าตระกูลเย่เกิดหวาดหวั่นขึ้นมา ไอ้หมอนี่มีความมั่นใจขนาดนี้ หรือว่าจะมีเส้นสายใหญ่โต?
เย่หยุนเทาและคนอื่นๆ ส่งสายตาให้กับท่านย่าตระกูลเย่ เพื่อบอกให้เธออย่าพูดอะไรที่เกินไปนัก เดี๋ยวอีกสักครู่จะเกิดเรื่องใหญ่เอา
บอกตามตรง เย่สวนไม่ได้เป็นที่รักใคร่อยู่แล้ว ถูกชนก็ถูกชนไปสิ ขอเพียงแค่หมอนี่ชดใช้มามากพอ ต่อให้เย่สวนตายไป ก็ถือว่าเสียสละเพื่อตระกูลเย่
ท่านย่าตระกูลเย่ไตร่ตรองอยู่สักพัก ก่อนที่จะหยั่งเชิงชายหนุ่ม “แกเป็นคุณชายตระกูลไหน?”
ชายหนุ่มแสยะยิ้ม ด้วยรอยยิ้มที่ภาคภูมิอย่างมาก พร้อมกล่าว “กูชื่อหยางหยูน”
หยางหยูน? ท่านย่าตระกูลเย่และสมาชิกตระกูลเย่ต่างทำหน้าประหลาดใจ ไม่เคยได้ยินว่าในปินเหอมรตระกูลหยางอยู่ด้วย
สี่ตระกูลใหญ่แห่งปินเหอในอดีตตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรต่างก็ตกต่ำล้มละลายไปจนสิ้น
แม้ว่าสี่ตระกูลใหญ่จะไม่มีอยู่แล้ว แต่กลับมีบริษัทอยู่4แห่งที่ยังอยู่ค้ำฟ้า
คือเฟยหยางกรุ๊ป หยูเม่ยหยินกรุ๊ป ร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง และอสังหาริมทรัพย์หลงเซิน
บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสี่แห่งนี้ผูกขาดความมั่งคั่งของปินเหอ2ใน3
เมื่อเห็นความประหลาดใจของตระกูลเย่ หยางหยูนหัวเราะออกมา “พวกกบในกะลาครอบ ไม่เคยได้ยินชื่อของผม ก็ต้องรู้จักชื่อของพี่สาวผมแน่ พี่สาวของผมคือหยางฉุนฉุน ดารารุ่นใหญ่มหาอำนาจของวงการบันเทิงในปัจจุบัน”
อะไรนะ?
หยางฉุนฉุน?
ตระกูลเย่สะดุ้งโหยงกับประโยคที่ได้ยิน
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักหยางหยูน แต่หยางฉุนฉุน แต่พวหเขากลับได้ยินชื่อของเธออยู่บ่อยครั้ง
หยางฉุนฉุนมีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อหนึ่งปีก่อน ครึ่งที่ก่อนเธอได้รับตำแหน่งราชินีเสียงเพลงด้วยความสามารถที่ไม่ธรรมดา
คนที่ฉลาดหลักแหลมอย่างท่านย่าตระกูลเย่ เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าอยากมีตำแหน่งในวงการบันเทิง ไม่มีเส้นสายจะเป็นไปได้อย่างไร?
หยางหยูนกล่าวเสริม “อีแก่ อย่าว่าแต่ชนคนในเมืองเล็กๆ อย่างปินเหอเลยต่อให้ชนคนในเมืองหลวง ผมก็สามารถอยู่รอดปลอดภัยได้อย่างสบาย ไม่รู้ซะบ้างเลยว่าพี่สาวของผมมีความสัมพันธ์กับใครบ้าง ช่วงนี้พี่สาวของผมตระเวนจัดคอนเสิร์ตไม่ทั่วประเทศ ทุกที่ จะมีเหล่าผู้มีอำนาจเชื้อเชิญให้เธอร่วมรับประทานอาหารด้วย ผู้มีอำนาจพวกนี้ต่างก็เป็นแฟนคลับของพี่สาวผม แค่พี่สาวผมประโยคเดียว พวกเขาต้องให้เกียรติอยู่แล้ว เหอะ พวกคุณเป็นชาวปินเหอ คงจะรู้จักคัยไท่กรุ๊ปสินะ เศรษฐีหมื่นล้านอย่างเขายังต้องคุกเข่าขอร้องให้พี่สาวของผมเซ็นสัญญาด้วย”
อะไรนะ?
ตระกูลเย่ต่างตกตะลึงจนพูดไม่ออก ใบหน้าตระหนกสุดขีด
อย่าว่าแต่หยางฉุนฉุนมีความสัมพันธ์กับเหล่าผู้มีอำนาจของแต่ละที่ แค่หยางฉุนฉุนรู้จักกับหูคัยไท่ ก็น่าตกใจมากพอแล้ว
หูคัยไท่ก็ถือว่าเป็นผู้มีอำนาจอันดับหนึ่งในวงการบังเทิง ตอนนี้หูคัยไท่มีความสามารถมากพอที่จะงัดข้อกับเฟยหยางกรุ๊ป
เศรษฐีระดับหมื่นล้านอย่างเขาสำหรับตระกูลเย่ คงไม่มีโอกาสได้สัมผัส
ตอนที่ตระกูลเย่รุ่งเรือง ตระกูลเย่กรุ๊ปมีมูลค่าเพียงพันล้านเท่านั้น
สมาชิกของตระกูลเย่ต่างหงอยไปตามๆ กัน ไม่กล้าแม้แต่จ้องมองหยางหยูน อย่าว่าแต่กล่าวโทษหยางหยูนเลย
เมื่อหยางหยูนเห็นว่าพวกเขาหวาดกลัว จึงหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น “ผมจะชดใช้ให้เดี๋ยวนี้”
เขากล่าวพลางควักโทรศัพท์ออกมาขอเลขบัญชีของท่านย่าตระกูลเย่ เพื่อที่จะโอนค่าเสียหายให้กับเธอ