หนุ่มเศรษฐีลึกลับ – ตอนที่ 560

ตอนที่ 560

บทที่ 560 ศิษย์พี่มู่หรง

ลู่เสี้ยงหยางเดินเข้าประตูใหญ่ ตรงหน้าเป็นสนามขนาดใหญ่ ตอนนี้ในสนามเต็มไปด้วยผู้คนกว่าร้อยชีวิต ลู่เสี้ยงหยางนึกตระหนก คนที่มาเพื่อทดสอบด้านนอกเยอะแยะนับไม่ถ้วน แต่คนที่ผ่านการทดสอบ กลับเล็กน้อยเสียยิ่งกว่าอะไรดี น้อยยิ่งว่าน้อย

เขากวาดสายตาไปรอบๆ ก็ได้พบกับฟ้านเจาที่อยู่ในกลุ่มฝูงชน ชายหนุ่มจึงสาวเท้าเดินเข้าไป ยืนข้างกายเขา ยืนรอการจัดการรอบต่อไปอย่างเงียบๆ

…..

ในเวลาเดียวกัน บนหุบเขาลึกสุดลูกหูลูกตา วังหลังหนึ่งตั้งตระหง่าน

ครึ่งหนึ่งของวังขนาดใหญ่ อยู่เหนือเมฆ เจิดจ้าเรืองรองภายใต้การสาดส่องของดวงตะวัน เสมือนกับวังบนสวรรค์

ภายในวัง ห้องโถงหนึ่ง บุคคลทั้งเก่านั่งสงบนิ่งราวกับเงาร่างที่น่าสยดสยอง

ลมหายใจของพวกเขาลึกล้ำเหนือกำหนด ยากที่จะหยั่งรู้

ในเวลานี้เอง ชายชราคนที่ที่เส้นผมถูกย้อมเป็นสีขาว กล่าวขึ้นเป็นคนแรก “ตอนนี้ห้าสำนักใหญ่ได้เป็นพันธมิตรกันแล้ว และกำลังเตรียมการ และได้มีข่าวที่น่าเชื่อถือ ว่าสำนักกวางหมิงและสำนักจิ่วโยวจะส่งสารท้ารบในเร็วๆ นี้ ฉันคิดว่าถึงเวลาแล้ว ที่เราควรจะออกโรงได้แล้ว”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น บุคคลที่มีเส้นผมสีขาวหัวเราะอย่างเย็นชา “ฉันได้รับข่าวที่แน่นอนมาแล้ว สามวันให้หลัง เทพเทียนหัวจะเดินทางไปทางตอนใต้ปินเหอ ถึงตอนนั้นเราผู้อาวุโสทั้งเก้าแห่งซี่ฟางโหลวออกโรง ต้องสังหารเขาได้แน่”

“ฮ่าฮ่า” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งหัวเราะลั่น “หากคิดจะทำแบบนั้นจริงๆ ละก็ เราสังหารผู้เก่งกาจอย่างเทพเทียนหัวก่อนวันเปิดสงครามละก็ นั่นจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อจิ่วโยวและกวางหมิง”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น เหล่าคนที่ไม่ออกความเห็นเมื่อสักครู่ต่างพยักหน้ารับ ด้วยใบหน้าได้ใจและโหดเหี้ยม

ถึงตอนนั้น ขอเพียงแค่จัดการเทพเทียนหัวได้ เด็ดหัวมันออกมา สำ นักกวางหมิงและสำนักจิ่งโยวต้องสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ถึงตอนนั้นสำนักใหญ่ทั้งห้าจะทำอะไรก็ได้

ตึกตึกตึก!

ทันใดนั้น

ฝีเท้าที่เร่งรีบดังขึ้น แล่นผ่านมาทางประตู ก่อนที่ชายเคราแพะคนหนึ่งจะยิ่งเข้ามาด้วยความเร่งรีบ

“ท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย เกิดเรื่องใหญ่แล้ว” ชายเคราแพะกล่าวอย่างร้อนรน

ชายชราผมหงอกไม่สบอารมณ์ พลันถลึงตา “ตื่นตูมอะไรกัน ต่อให้ฟ้าถล่มลงมาเราก็ต้องตั้งมั่น แกจะกลัวอะไร?”

ชายเคราแพะถูกเอ็ดจนใบหน้าใบหูแดงก่ำ พลันกล่าวอย่างกล้าๆ กลัวๆ “ครับครับ เป็นความผิดความของผมเอง”

“เหอะ” ชายผมหงอกไม่พอใจ ก่อนที่จะกล่าวถาม “มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ว่ามา”

ชายเคราแพะกัดฟันพูดออกไป “หัวหน้าสาขาของเราที่ปินเหอ ขุยกางเกิดอุบัติเหตุขึ้น ตอนนี้เขาเสียชีวิตไปแล้ว”

อะไรนะ?

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผู้อาวุโสทั้งเก้าลุกขึ้นยืน สีหน้าดำทะมึน

ในซี่ฟางโหลว แม้ว่าขุยกางจะไม่ใช่ระดับผู้อาวุโส แต่ความสามารถของเขาไม่ด้อยเลย เขาเป็นถึงนักบู๊ระดับเก้า จะเกิดความผิดพลาดขึ้นได้อย่างไร?

ชายชราผมหงอกคนหนึ่งจับจ้องไปที่ชายเคราแพะ “เรื่องนี้แกมั่นใจใช่ไหมว่าเป็นเรื่องจริง? หากข่าวกรองผิดพลาด ฉันจะสังหารแกเป็นคนแรก”

ชายเคราแพะคุกเข่าลงกับพื้นทันที พร้อมกับเหงื่อที่ผุดไหลไปทั่ว กล่าวอย่างระแวดระวัง “ผู้อาวุโสสาม เรื่องนี้จริงแท้แน่นอน แผ่นป้ายชีวิตหยกของขุยกางที่อยู่ในห้องบรรพบุรุษได้แตกเป็นเสี่ยงแล้ว”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผู้อาวุโสทั้งเก้าต่างนิ่งเงียบ

ในซี่ฟางโหลว ทุกคนจะมีแผ่นป้ายหยกชีวิตไว้ที่ห้องโถงบรรพบุรุษ แผ่นป้ายหยกนี้สร้างขึ้นผ่านวิชาลับ ขอเพียงแค่ยังมีชีวิตอยู่ แผ่นป้ายหยกชีวิตก็จะยังอยู่ดี หากแต่ เจ้าของเป็นอะไรไปละก็ แผ่นป้ายหยกก็จะถูกทำลายไปด้วย

“เหอะ ใครกันช่างบังอาจ ที่กล้าลงมือกับคนของซี่ฟางโหลว”

ตอนนี้เองชายที่มีท้องใหญ่ตบโต๊ะเสียงดัง ความอาฆาตเผยขึ้นบนชัดเจน

ขุยกางเป็นผู้ดูแลระดับสูงของซี่ฟางโหลว ลงมือกับเขา ก็เท่ากับเป็นการเปิดศึกต่อซี่ฟางโหลว

ชายผมหงอกขมวดคิ้วแน่น “ก่อนหน้านี้ ขุยกางไปที่ปินเหอนอกจากเป็นผู้ดูแลสาขาแล้ว ก็เพื่อไปสังหารลู่เสี้ยงหยาง เรื่องนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับเขาหรือไม่?”

เมื่อกล่าวประโยคนั้นออกมา ชายชราผิวคล้ำคนหนึ่งขัดขึ้นทันที “จะเป็นไปได้ยังไง ไอ้หมอนั่นเป็นแค่นักบู๊ระดับแปดเท่านั้น การที่ขุยกางจะฆ่าเขาง่ายกว่าบี้มดเสียอีก ฉันคิดว่าคนที่กล้าทำแบบนี้ ต้องเป็นชนชั้นสูงของสำนักกวางหมิงหรือสำนักจิ่วโยวแน่”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ทุกคนต่างพยักหน้า เห็นด้วยกับหลักการนี้

ไอ้ลู่เสี้ยงหยาง ก็แค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น อย่างเขาจะงัดข้อกับขุยกางที่เป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งได้อย่างไร

“เหอะ เรื่องนี้ต้องสืบหาความจริง” ชายชราผมหงอกทั้งหัวจับจ้องขุยกางพร้อมกล่าว “ตอนนี้แกส่งสารของเหล่าผู้อาวุโสลงไป ต้องสืบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด”

“ครับ” ชายเคราแพะตอบรับ ก่อนที่จะถอยออกไปอย่างร้อนรน

…..

ปินเหอ

ห้องโถงสาขาสำนักกลั่นอาวุธ

ลู่เสี้ยงหยางและคนอื่นๆ ยืนรอการจัดการขั้นต่อไปเป็นเวลากว่าชั่วโมง

ตอนนี้ ไม่มีศิษย์ที่เดินเข้ามาใหม่จากด้านนอกแล้ว ดูเหมือนว่า การทดสอบของสำนักกลั่นอาวุธของวันนี้ได้สิ้นสุดลงแล้วสินะ

หลายคนต่างกวาดสายตามองไปยังรอบด้าน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทุกคนเริ่มหมดความอดทน อยากจะได้รับการคัดเลือกต่อไปจะแย่

ไม่นาน ชายวัยกลางคนร่างสูงผอมเดินเข้ามา พร้อมกล่าวเสียงเรียบ “ขอแสดงความยินดีกับทุกคน ที่ผ่านการทดสอบการรับศิษย์ของสำนักกลั่นอาวุธของเรา หลังจากนี้ ทุกคนจะเป็นหนึ่งเดียวกับเรา ตอนนี้ผมจะบอกกฎของสำนักกลั่นอาวุธให้กับทุกคนได้ทราบ”

“เมื่อทุกคนได้เป็นศิษย์ของสำนักกลั่นอาวุธแล้ว หวังว่าทุกคนจะตั้งใจฝึกฝนวิชา ตอนนี้ห้าสำนักใหม่กับสำนักกวางหมิงและสำนักจิ่วโยวกำลังจะทำศึกสงครามในเร็วๆ นี้ เพื่อชัยชนะของการรบในครั้งนี้ เราต้องพยายามให้ถึงที่สุด ช่วยสำนักใหญ่ทั้งห้ากลั่นอาวุธ เพราะงั้นทุกคนแบกรับหน้าที่อันใหญ่หลวง…..”

หลังจากนั้น ชายวัยกลางคนกล่าวอีกหลายอย่าง

ลู่เสี้ยงหยางไม่สนใจ การที่เขาเข้าร่วมสำนักกลั่นอาวุธมีเพียงแค่เป้าหมายเดียวเท่านั้น คือการหาค้นหาการจดบันทึก ได้ยาวิเศษที่กงหยู่หนิงว่ามา เพื่อช่วยเย่สวนตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล

“โอเค พูดมามากแล้ว หวังว่าทุกคนจะจำเอาไว้ นอกจากนี้ผมจะพูดอีกหนึ่งเรื่อง ศิษย์พี่ของพวกแกมู่หรงชิวหัวตอนนี้เธอต้องการผู้ช่วย อีกเดี๋ยวจะมีการทดสอบ รุ่นพี่ของพวกแกจะเป็นคนเลือกเอง หากพวกแกโชคดีได้ร่ำเรียนวิชากลั่นอาวุธกับรุ่นพี่ของพวกแก ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตัวพวกแกเองอย่างมาก”

กล่าวถึงประโยคนี้ ในกลุ่มฝูงชนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้น

“ให้ตายสิ ศิษย์พี่มู่หรงคนนี้ ฉันได้ข่าวว่าเธอเป็นศิษย์ที่เก่งกาจที่สุด ได้ข่าวว่าเธอถูกแต่งตั้งให้เป็นเจ้าสำนักคนต่อไป”

“ฮ่าฮ่า ใช่แล้ว ศิษย์พี่มู่หรงไม่เพียงแต่มีความสามารถในด้านกลั่นอาวุธเท่านั้น เธอยังเป็นหญิงสาวที่งดงามที่หาได้ยากยิ่ง หากใครโชคดีได้เป็นผู้ช่วยของเธอละก็ นั่นถือเป็นบุญที่สั่งสมมาหลายชาติภพเลยล่ะ”

“หวังว่าศิษย์พี่มู่หรงจะไม่รังเกียจฉัน แล้วเลือกฉันเป็นผู้ช่วยของเธอ”

“โถ่ อย่างแกเนี่ยนะ ศิษย์พี่มู่หรงจะเลือกแกได้ยังไง? เมื่อกี้ฉันได้ข่าวว่าในฝูงชนของเรามีคนหนึ่งที่ชื่อว่าหยางซ่าวฝัน เขาจุดประกายลูกหินได้ทั้งลูกเลย ความสามารถร้ายกาจมากเลย ศิษย์พี่มู่หรงต้องเลือกเขาเป็นผู้ช่วย และต้องเลือกเขาเป็นแน่”

ภายใต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ หญิงสาวที่สวยสดงดงามคนหนึ่งเกินเข้ามา

หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง หนุ่มเศรษฐีลึกลับ ฟรี ได้ที่ novel-fast 


เรื่องย่อ

โดย เรื่อง หนุ่มเศรษฐีลึกลับ บ้างส่วนของนิยาย

บทนำ ช็อค!ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ได้รับได้รับความอัปยศ อดสู่การเหยียดหยาม หลังจากที่เปิดเผยฐานะตัวเองแล้ว แม่ ภรรยาตั้งเงื่อนไข่ที่น่าอับอาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

เมืองปินเหอ ภายในคฤหาสน์หรูหรา

ลู่เสี้ยงหยางกำลังล้างมือ ชโลมน้ำมันนวดไปทั่วมือ

บนโซฟามีสาวงามรุ่นใหญ่คนหนึ่งกับสาวน้อยสองคนนอนอยู่

สาวงามรุ่นใหญ่คือหลิวจิ้งแม่ยายของลู่เสี้ยงหยาง ถึงแม้จะอายุได้ 30กว่าปีแล้ว แต่กลับดูผ่อนคลาย ราวกลับได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทรวดทรงก็ผอมเพรียว

สาวน้อยผู้งดงามอีกสองคนคือเย่สวนภรรยาของลู่เสี้ยงหยางและไป๋สู้สู้เพื่อนสนิทของเธอ

“ไอ้ขยะ นานขนาดนี้แล้ว ยังเตรียมไม่เสร็จอีกหรอ?” ในเวลานี้เย่สวนพูดเร่งลู่เสี้ยงหยางอย่างไม่อดทน

ลู่เสี้ยงหยางตอบด้วยน้ำเสียงร้อนรนแผ่วเบา “เสร็จแล้วเสร็จแล้ว”

วิ่งถือผ้าขนหนูมายืนข้างเย่สวน

เย่สวนสวมชุดอยู่บ้าน นอนอยู่บนโซฟา สัดส่วนเว้าโค้งงามชดช้อย

ลู่เสี้ยงหยางเริ่มลงมือนวดให้เย่สวนอย่างชำนาญ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า หุ่นของเย่สวนเซ็กซี่มากเหลือเกิน

อึก!

เสียงลู่เสี้ยงหยางกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่

ไป๋สู้สู้เห็นลู่เสี้ยงหยางว่านอนสอนง่ายแบบนี้ ก็หัวเราะขึ้นมา “สวนจื่อ ผู้ชายของเธอชำนาญน่าดูเลยนะ แต่สายตาของเขาดูไม่จริงใจเท่าไหร่ แอบมองฉันหลายครั้งแล้ว!”

เย่สวนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คางคกอยากกินเนื้อหงส์ ขยะอย่างเขามานวดให้ฉัน ฉันยังรังเกียจมือสกปรกของเขาเลย”

ลู่เสี้ยงหยางก้มหัวลง ไม่กล้าพูดอะไร

เขาเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเย่ แต่งเข้าบ้านนี้มาสามปี ไม่มีใครในตระกูลเย่มองเขาเป็นคน ใช้ชีวิตอยู่ไม่ต่างกับสุนัขตัวหนึ่ง

แต่โชคชะตาก็ยังเล่นตลกกับเขา ยามเขาถูกคนในตระกูลเย่รังแก คนเหล่านั้นล้วนเป็นสาวงามทั้งสิ้น

“ผลั่ก!” คิ้วของเย่สวนก็ขมวดขึ้นเล็กน้อยทันที ดูเหมือนว่าลู่เสี้ยงหยางจะใช้แรงเยอะเกินไป ไม่พูดไม่จา คำพูดทั้งหมดถูกใส่ลงบนหน้าของลู่เสี้ยงหยาง

ใบหน้าครึ่งหนึ่งของลู่เสี้ยงหยางถูกทิ้งรอยฝ่ามือแดงก่ำไว้

“ไอ้ขยะไร้ประโยชน์ ถ้ากล้าทำให้ฉันเจ็บอีกครั้งเดียว ฉันทุบหน้านายเละแน่” เย่สวนจ้องตาเขม็งอย่างคุกคาม

ลู่เสี้ยงหยาง รีบร้อนขอโทษขอโพย เบาน้ำหนักมือลง

ไม่นาน หลังนวดให้เย่สวนเสร็จ เขาก็เริ่มนวดให้แม่ยายหลิวจิ้ง

ปัก!

หลิวจิ้งง้างมือขึ้นฝากรอยไว้บนหน้าอีกข้างของลู่เสี้ยงหยาง

“ไอ้เศษสวะ ไม่รู้จักการใช้ใจหน่อยรึไง?” หลิวจิ้งโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ ชี้หน้าถามลู่เสี้ยงหยาง

ลู่เสี้ยงหยางไม่กล้าตอบกลับ ถัดจากนั้น เมื่อนวดให้หลิวจิ้งเสร็จ ลู่เสี้ยงหยางก็เข้าไปซักเสื้อผ้าในห้องน้ำ

ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น หยิบขึ้นมาดูจึงเห็นว่าเป็นแม่ของเขาโทรมาหา

ตั้งแต่เขาแต่งงานเข้ามา แม่ก็โทรหาเขาน้อยมาก เพราะกลัวจะถูกปฏิเสธและเป็นตัวถ่วง ทำให้ฝ่ายหญิงไม่พอใจ ในตอนนี้อยู่ๆกลับติดต่อมา

เขาเครียดนิดหน่อย คงไม่ใช่เกิดเรื่องอะไรขึ้นนะ?

ลู่เสี้ยงหยางรีบกดรับสาย ไม่รอเขาพูดก่อน น้ำเสียงตื่นเต้นของแม่ก็เอ่ยขึ้น “ลูกแม่ ลุงของลูกเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ พ่อของลูกออกมาจากคุกแล้ว ตอนนี้ได้สานต่อกิจการทั้งหมดของตระกูลลู่ อีกหน่อยลูกไม่ต้องใช้ชีวิตลำบากแล้ว พ่อให้เงินลูกหนึ่งพันล้านเป็นค่าชดเชย จากนี้อยากใช้เงินยังไงก็ใช้ได้เลย”

พอได้ฟัง ภายในหัวของลู่เสี้ยงหยางก็ส่งเสียงพึมพำ

ต่อจากนั้นเสียงของแม่ก็ไม่อาจฟังได้ชัดเจน ในสมองมีเพียงคำว่า “หนึ่งพันล้าน” ลอยไปลอยมา

น้ำตาเขาเริ่มคลอ หลังจากนั้นพักใหญ่ ถึงเช็ดน้ำออกจากตา

วันนี้ นานเกินไปแล้ว นานจนเมื่อมันมาถึงจริงๆ เขากลับรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

เดิมทีเขาเป็นนายน้อยแห่งตระกูลลู่ที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆในเมืองหลวง พ่อของเขาพ่ายแพ้ให้กับลุงในการแย่งชิงตำแหน่งทายาทในตระกูล สุดท้ายถูกคุมขัง แม่ของเขาก็ถูกขับไล่ออกจากบ้าน

ลิ้มลองสีหน้าของคนอื่น เนื่องจากอำนาจของลุง ทำให้เขาหางานที่มั่นคงทำไม่ได้สักงาน

แม้กระทั่งตอนนี้ แม่ของเขาก็ยังอยู่ในห้องใต้ดินเล็กๆ เพียงเพื่อให้เขาได้แต่งเข้าสำเร็จ ให้เขาได้มีที่ซุกหัวนอนหลบลมฝน

ในวันนี้พ่อของเขาได้รับการปล่อยตัว กลายเป็นผู้สืบทอดตระกูลลู่ ในที่สุดเขาก็ได้รับในสิ่งที่ต้องการ ยืดเส้นยืดสายได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า สองสามปีมานี้ ฉันต้องได้รับความยุติธรรม!” ลู่เสี้ยงหยางสาบานในใจเงียบๆ ในขณะเดียวกัน สามคนในห้องรับแขกกำลังพูดคุยกัน ไม่มีใครสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของลู่เสี้ยงหยาง

ไป๋สู้สู้ขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยขึ้น “สวนจื่อ บริษัทของเธอเกิดเรื่อง สายเงินทุนถูกทำลาย เรื่องนี้อาจมีทางหนีทีไล่ที่วนเวียนอยู่นะ”

“เอ๋ จริงหรอ?” เย่สวนตาเป็นประกาย เติมเต็มการรอคอยเธอได้ สายเงินทุนในบริษัทของเธอแย่ลงมาเดือนกว่าแล้ว เงินเดือนของพนักงานไม่สามารถออกให้ได้ ทุกวันนี้แทบจะล้มละลาย

“คืออย่างนี้ แฟนของฉันไม่ใช่ทำงานอยู่ที่หย่งหยวนกรุ๊ปหรอ? เขากับประธานจางเจ้าของหย่งหยวนกรุ๊ปมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พูดคุยสถานการณ์บริษัทของเธอให้เขาฟัง ประธานจางตกลงที่จะเพิ่มเงินทุนให้กับบริษัทของเธอ” ไป๋สู้สู้กล่าว

“อะไรนะ? นี่…นี่เป็นเรื่องจริงหรอ?” เย่สวนร้องออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ

หย่งหยวนกรุ๊ปเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเมืองปินเหอ ว่ากันว่าเจ้าของจางติ่งเทียนมีมูลค่าเกือบหนึ่งพันล้าน หากเขาสัญญาว่าจะสนับสนุนเงินทุนให้บริษัทของเย่สวน งั้นบริษัทของเย่สวนก็กลับมามีชีวิตได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

“เป็นเรื่องจริงแน่นอนสิ พวกเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันที่สุด ฉันจะโกหกเธอได้ยังไงล่ะ” ไป๋สู้สู้พูดพร้อมยิ้มให้ แต่ในใจกลับรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ประธานจางจะช่วยเย่สวนฟรีๆได้ยังไง เงื่อนไขของประธานจางคือให้เย่สวนไปนอนกับเขาหนึ่งคืน

แต่เงื่อนไขนี้ไป๋สู้สู้ไม่ได้พูดออกไป

ช่วงนี้แฟนของเธอก็มีปัญหากวนใจที่บริษัท จำเป็นต้องใช้ผู้หญิงแบบเย่สวนเข้าหากับประธานจาง ถึงได้ให้ไป๋สู้สู้มาหลอกล่อเย่สวน

“งั้นตกลง ฉันจะไปเจอประธานจาง” เย่สวนตอบตกลงทันที

“อืม งั้นฉันให้แฟนฉันเอาคำพูดของเธอไปบอกประธานจาง ถ้าไม่ผิดพลาดอะไร พรุ่งนี้ประธานจางก็จะมาเจอเธอ อย่างช้าสุดมะรืนนี้เงินทุนสนับสนุนก็จะไปถึงบริษัทของเธอ” ไป๋สู้สู้บอก

ในเวลานี้ ลู่เสี้ยงหยางที่เดินเข้ามาในห้องรับแขกพอดีก็ได้ยินบทสนทนาของพวกเธอ เดินไปสองสามก้าว ก็ถึงข้างกายเย่สวน พูดกับเธออย่างจริงจังว่า “ที่รัก คุณต้องการความช่วยเหลือไม่จำเป็นต้องไปขอร้องคนอื่น ตอนนี้คุณขาดเงินไม่ใช่หรอ ผมสามารถหาวิธีช่วยคุณได้…”

“คิกคิกคิก…”เขายังไม่ทันพูดจบ ไป๋สู้สู้ก็หัวเราะขึ้นมา มองไปที่ลู่เสี้ยงหยางด้วยความดูถูกเหยียดหยามแล้วพูดขึ้น “ให้พึ่งนาย? ทั้งเนื้อทั้งตัวนายตอนนี้มีเงินถึง100ไหม? เหมือนตัวตลกเสียจริง ไปเอาความกล้าจากไหนมาคุยโม้ขนาดนี้?”

ใบหน้าสวยงามของเย่สวนก้มลงต่ำ พูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความดูหมิ่น “นายกล้าดียังไงจะมาช่วยฉัน? ไสหัวไป เห็นหน้านายแล้วจะอ้วก”

คิ้วของหลิวจิ้งขมวดเป็นเส้นตรง ง้างมือขึ้นเตรียมจะฝากรอยไว้ที่หน้าของลู่เสี้ยงหยางอีกครั้ง

แต่ลู่เสี้ยงหยางไม่ขยับหนี พูดอย่างสงบว่า “ผมช่วยคุณได้จริงๆ”

ไป๋สู้สู้หัวเราะจนน้ำตาไหล มองลู่เสี้ยงหยางเหมือนกับมองคนโง่เง่า เอื้อมมือชี้ไปที่หน้าอกเขา แล้วพูดทีล่ะคำ “บริษัทของสวนจื่อต้องใช้เงินทุนอย่างน้อย10ล้านหยวนถึงรอดตาย 10ล้านหยวน! ขยะอย่างนายชั่วชีวิตนี้สามารถทำเงินได้มากขนาดนี้ไหม? ใครให้นายมาเสนอหน้าพูดวางท่าที่นี่”

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มตอบ “ก็แค่10ล้านไม่ใช่หรอ?”

“โอ้โห น้ำเสียงโอหัง ก็แค่10ล้าน? ขยะอย่างนายหามาได้สักแสนนึง ฉันไป๋สู้สู้ยอมให้นายออกคำสั่งเลย!” ไป๋สู้สู้หัวเราะขึ้นมาอย่างดูถูก


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท