จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1408 ศิลาชีวิตนิจนิรันดร์
ตอนที่ 1408 ศิลาชีวิตนิจนิรันดร์
โดย
Ink Stone_Fantasy
กระแสพลังสายอุ่นไหลเวียนเข้าสู่ช่องท้องของเย่หยวน ณ ขณะนี้ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนกำลังขยายตัวขึ้นอย่างช้าๆ นี่เป็นผลวิญญาณร่ำไห้ลูกที่ห้าแล้วที่เขากลืนเข้าไป จนในที่สุดเขาก็เสาะพบโอกาสเลื่อนระดับชั้น ในตอนนี้เขากำลังฝ่าปัญหาคอขวดและขยับขยายทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ให้แผ่ไพศาลกว้างขึ้น! ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนมีกลิ่นอายประดุจบ่อน้ำบรรพกาลเก่าแก่ สื่อให้เห็นถึงความผันผวนของชีวิตเป็นอนันต์ ราวกับทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ข้ามกาลเวลามาจากสมัยโบราณบรรพชน
สรรพคุณของผลวิญญาณร่ำไห้ได้รับการขัดเกลาให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยบัญญัติเทพแห่งถงเทียน ก่อนจะหลั่งไหลเข้าสู่ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาในที่สุด
ปัจจุบันทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาเริ่มขยายกว้างขึ้น ส่งผลให้ขนาดจุดตันเถียนใหญ่ขึ้นเช่นกัน เนื่องด้วยการขยายตัวต่อเนื่อง จึงทำให้บริเวณที่ขยับกว้างออกเกิดช่องว่างปราศจากสิ่งใด เห็นเป็นแบบนั้น เย่หยวนจึงเริ่มดูดซับพลังวิญญาณจากโลกภายนอกอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกรอกเทเข้าเติมเต็มทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ในทันที
มิทราบว่าผ่านไปนานเพียงใด ในที่สุดทุกอย่างก็เงียบลง
“บัญญัติเทพแห่งถงเทียนนับเป็นความโชคดีของฟ้าดินอย่างแท้จริง! พลังปราณในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าค่อยๆหนาและเข้มข้นขึ้นต่อเนื่องประดุจชั้นแป้งบนชั้นแป้งอีกที! ความหนาแน่นของพลังปราณเทวะที่มากขนาดนี้ ทอดสายตาในบรรดาอาณาจักรพลังเดียวกัน ตัวเจ้าไร้เทียมทานเสมอฟ้า!” หวูเฉินกล่าวขึ้นพลางถอนหายใจด้วยความชื่นชม
หากให้เปรียบ ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของคนอื่นเสมือนดั่งมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ แต่ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนกลับทับถมเป็นชั้นหนาสุดข้นคลักจนเกือบจะกลายเป็นก้อนเนื้อก็ไม่ผิด สิ่งนี่บ่งบอกให้เห็นว่า พลังปราณเทวะในอาณาจักรพลังเท่ากัน ของเย่หยวนทรงประสิทธิภาพกว่าอย่างหาที่เปรียบไม่
เย่หยวนกล่าวว่า “เพียงพริบตาเดียว ข้าก็บ่มเพาะสำเร็จบทแรกโดยสมบูรณ์แบบ ภารกิจถัดจากนี้คือการหลอมสร้างบัญญัติเทพแห่งถงเทียนบทที่สอง แต่ข้าพยายามเสาะหาร่องรอยเชื่อมต่อแต่กลับทำไม่ได้เสียที กล่าวได้ว่าไม่เห็นแววสำเร็จแม้แต่เงา”
หลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าเย่หยวนจะพยายามหลอมสร้างบัญญัติเทพแห่งถงเทียนบทที่สองเท่าไหร่ แต่เขาจำต้องจบลงพร้อมคว้าน้ำเหลวซ้ำไป เย่หยวนตระหนักทราบดี ยิ่งอาณาจักรพลังสูงขึ้นเท่าใด ความยากเข็ญในการหลอมสร้างวรยุทธ์บ่มเพาะพลังก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบัญญัติเทพแห่งถงเทียน นี่เป็นวรยุทธ์บ่มเพาะพลังที่ไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อนบนมหาพิภพแห่งนี้ ระดับความยากจึงยิ่งทบทวีหลายเท่าตัว
อาณาจักรปฐมพระเจ้าของเย่หยวนในตอนนี้ยังไม่บรรลุถึงขั้นสุด ดังนั้นขอบเขตความเข้าใจต่อหุบเขาถงเทียนจำลองจึงยังจมอยู่กับระดับชั้นเก่าๆ และไม่สามารถหลอมสร้างบทที่สองได้โดยธรรมชาติ
ดังนั้นแล้ว ณ ปัจจุบันเย่หยวนจะต้องบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุดเสียก่อน จากนั้นเป้าหมายหลักต่อไปคือ การหลอมสร้างบัญญัติเทพแห่งถงเทียนบทที่สอง!
“เจ้าควรออกไปหาประสบการณ์บนโลกภายนอก อย่าเสียเวลาปลีกวิเวกเก็บตัวในห้องตามลำพัง การจะหลอมสร้างวรยุทธบ่มเพาะในส่วนที่สองยากกว่าส่วนแรกเป็นทวี หาใช่เรื่องง่ายจะนั่งเทียนคิดออก” หวูเมิ่งกล่าวชี้แนะเขา
เย่หยวนพยักหน้าและกล่าวว่า “ที่จริงแล้ว หลังจากงานชุมนุมร้อยเมือง ข้าเองก็ใช้เวลาง่วนอยู่กับการเก็บตัวมานานเกินไปเช่นกัน ตอนนั้นข้าเก็บเกี่ยวผลกำไรได้ค่อนข้างมากในตอนสัประยุทธ์กับจินอวี้ แต่การบ่มเพาะพลังอย่างโดดเดี่ยวเช่นนี้อาจไม่ประโยชน์อีกต่อไป”
หวูเฉินพยักหน้าก่อนจะเอ่ยปากขึ้นว่า “อืม นับเป็นเรื่องดีที่เจ้าคิดได้เช่นนี้ แต่ข้า…มีบางอย่างต้องบอกเจ้าไว้ก่อน”
เย่หยวนพลันนึกฉงนใจทันใด “ท่านอาวุโสโปรดกล่าว”
หวูเฉินกล่าวว่า “ไข่มุกสยบวิญญาณคือสิ่งปกป้องมิให้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของมู่หลินเสวียดับสลาย แต่นั่นมิได้หมายความว่าจิตใต้สำนึกภายในจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของนางจะไม่ดับสูญไปตลอดกาล! ด้วยสถานะของข้าในตอนนี้ เจ้าเองก็ทราบกระทั่งคงจิตวิญญาณให้นานที่สุดยังยาก ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงการจะคงรักษาจิตใต้สำนึกของนางได้เลย ปัจจุบันตัวข้ายังคงห่างไกลจากสถานะสูงสุดดั่งกาลอดีตมากโข”
เย่หยวนหน้าเสียในทันใด หัวคิ้วขมวดถักหนาแทบติดชนพร้อมกล่าวถามทันทีว่า “แล้วไฉนท่านเพิ่งบอกข้าตอนนี้?”
หวูเฉินยิ้มตอบ “บอกไปตอนนั้นเจ้าจะทำอะไรได้? หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของเจ้าคือการฝึกปรือ! บางสิ่งที่สมควร ข้าย่อมบอกเจ้าในยามที่เหมาะสม”
เย่หยวนสูดไอเย็นแช่มลึกอย่างช้าๆ และเอ่ยเสียงเคร่งขรึมขึ้นว่า “แล้วตอนนี้ข้าควรทำอย่างไรดี?”
หวูเฉินกล่าวว่า “จงไปตามหาศิลาชีวิตนิจนิรันดร์! เนื่องจากพลังที่หล่อเลี้ยงข้าอยู่ในตอนนี้เป็นจิตวิญญาณชั่วจำนวนมาก ดังนั้นพลังงานจึงไม่บริสุทธิ์เจือสิ่งสกปรกมากเกินไป สิ่งเหล่านี้จะส่งผลเสียต่อการคงรักษาจิตใต้สำนึกของมู่หลินเสวียมิให้คงรักษาได้เป็นเวลานาน ศิลาชีวิตนิจนิรันดร์เป็นหนึ่งในของวิเศษฟ้าดินเป็นยาบำรุงจิตวิญญาณเป็นอย่างดี หากได้รับมา มันจะช่วยหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของข้าจนกลับมาแข็งแกร่งขึ้น ยามนั้นการจะคงรักษาจิตใต้สำนึกของนางก็หาใช่เรื่องยากอีกต่อไป! อย่างน้อยก็ไม่ดับสูญแน่นอนไปอีกหมื่นปี!”
เย่หยวนที่ได้ยินดังนั้นหัวใจกระหน่ำเต้นแรงในทันที เขากล่าวว่า “เพียงหมื่นปี?”
เขารู้ดีว่า เส้นทางการฝึกฝนของตนในอนาคตต่อไปอาจต้องใช้เวลากว่าหลายร้อยหรือหลายพันปี ดังนั้นแล้วระยะเวลาแค่หมื่นปีพินิจได้ว่าไม่นานนัก
หวูเมิ่งพยักหน้าและกล่าวว่า “เมื่อคนเราล่วงลับจากไป จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จะแตกกระจายกลายเป็นความว่างเปล่า จุดสูงสุดคืนสู่ธรรมชาติ การจะรักษาจิตสำนึกของนางมิให้กลับคืนสู่จุดเริ่มต้นคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เว้นเสียแต่เจ้าจะสามารถบรรลุไปถึงอาณาจักรเต๋าบรรพกาล หากสำเร็จถึงระดับชั้นนั้น เจ้าสามารถคงรักษาจิตสำนึกของนางได้ตลอดกาล! แต่ความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเจ้ายังมิได้ก้าวย่างเข้าสู่โลกแห่งการต่อสู้ขนานแท้ด้วยซ้ำ และอีกอย่างหากตอนนั้นข้าบอกเรื่องนี้ไป ใจของเจ้าคงเอาแต่มุ่งเสาะหาศิลาชีวิตนิจนิรันดร์อย่างเดียว จนไปรบกวนการฝึกปรือของตัวเจ้าเอง!”
เย่หยวนยอมรับตามตรง หากหวูเฉินบอกเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนหน้า มันจะส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะพลังของเขาแน่นอน ลงมือให้มากเอ่ยปากให้น้อย เย่หยวนตระหนักชัด จิตสำนึกของมู่หลินเสวียไม่สามารถหลีกเลี่ยงกฎแห่งธรรมชาติได้ เขามีแต่จะต้องรีบเร่งพัฒนาฝีมือให้แกร่งกล้ายิ่งขึ้น ทั้งหมดก็เพื่ออนาคตอันยิ่งใหญ่เกินจินตนาการ
เย่หยวนพยักหน้าและกล่าวว่า “ท่านอาวุโส เช่นนั้นข้าจะไปรับภารกิจของสถานศึกษาและเข้าสู่พิภพยุทธจักร เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในนั้น!”
ศิษย์ชั้นในของสถานศึกษาสามารถเข้ารับภารกิจระยะยาวและออกไปฝึกปรือท่องพิภพได้ บางคนโชคดีอาจเป็นเหมือนหวังซ่งที่ได้รับการแต่งตั้งกลายมาเป็นเจ้าเมืองประจำอยู่เขตเมืองย่อย อย่างไรก็ตาม พวกหวังซ่งและโดยส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดกลับไม่กล้ารับภารกิจที่ต้องเดินทางเข้าสู่พิภพยุทธจักร แต่ยอดฝีมือที่แท้จริง ทุกคนล้วนเลือกที่จะเดินทางไปยังพิภพยุทธจักร เพื่อทำภารกิจตามที่สถานศึกษาจัดเตรียมและเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมายระหว่างการเดินทาง และดินแดนพฤกษานิรันดร์เองก็เป็นหนึ่งในพิภพยุทธจักรที่ว่าเช่นกัน!
มหาพิภพถงเทียนแห่งนี้ดำรงอยู่มาไม่รู้กี่แสนล้านปีแล้ว มียอดเซียนไม่รู้จำนวนคนานับเท่าใดที่สร้างพิภพยุทธจักรทิ้งเอาไว้มหาศาลนับไม่ถ้วน
สิ่งหนึ่งที่ควรทราบ ยามทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าได้ พวกเขาสามารถสร้างดินแดนขนาดเล็กส่วนตัวขึ้นมาได้ เพื่อฝึกปรือก็ดี เพื่อใช้ชีวิตอาศัยก็ดี และดินแดนเหล่านั้นถูกเรียกว่า พิภพยุทธจักร
ดังนั้นบนมหาพิภพถงเทียนแห่งนี้จึงมีรอยแยกมิติมากมายนับไม่ถ้วน และรอยแยกมิติเหล่านั้นเชื่อมต่อกับพิภพยุทธจักร ภายในพิภพยุทธจักรที่ไร้ซึ่งเจ้าของ สถานที่เหล่านั้นล้วนอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรหายากและสมบัติธรรมชาติมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งมันเป็นดั่งสรวงสวรรค์ของเหล่าเซียนของมหาพิภพถงเทียนโดยแท้
จุดที่น่าสนใจของพิภพยุทธจักรคือความหลากหลาย เพราะพิภพยุทธจักรแต่ละดินแดนกอปรขึ้นจากเต๋าที่มีลักษณะเฉพาะตัว จึงทำให้สมบัติที่กำเนิดเกิดขึ้นแตกต่างกันไป บางชนิดไม่เคยปรากฏบนมหาพิภพถงเทียนด้วยซ้ำ หากใครได้รับโชคสุดท้าทายสวรรค์ก็เป็นดั่งการกระโดดข้ามสู่ประตูมังกรไปได้
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสิ่งที่ทุกคนต่างปรารถนายิ่งจากพิภพยุทธจักร และมันก็คือผลวิญญาณเต๋า!
ผู้สร้างคนใดสามารถก้าวล้ำเหนือไปกว่าอาณาจักรราชันพระเจ้าได้ แนวคิดความเข้าใจทั้งหมดของพวกเขาจะถูกควบแน่นและตกผลึกลายเป็นผลวิญญาณเต๋า โดยปกติแล้ว พวกเขามักจะซ่อนผลวิญญาณเต๋านี้ไว้บนพิภพยุทธจักรของตัวเองเพื่อบ่มเพาะเลี้ยงดู ยามใดที่ผู้เข้าสำรวจเสาะพบผลวิญญาณเต๋า นี่ยิ่งกว่าทะยานสู่สวรรค์ในอึดใจเดียว!
เฉกเช่นเดียวกับจักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชาง ที่สามารถทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้ก่อนจอมเทพนิรันดร์ก้าวหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้เขาได้รับผลวิญญาณเต๋าโดยบังเอิญ
แน่นอนว่า ภายในพิภพยุทธจักรเหล่านี้เต็มไปด้วยภัยอันตรายมากมายเช่นกัน หากพลาดท่าเกินอุบัติเหตุขึ้นเพียงครั้งเดียว ชีวิตของพวกเขาที่เข้าสำรวจอาจพินาศได้ในทันที ไฉนจึงฟังเหมือนว่าพิภพยุทธจักรอันตรายได้มากขนาดนี้?
ประกายแรก พิภพยุทธจักรที่ยังมีเซียนอาณาจักรพระเจ้าดำรงอยู่ พวกเขาบางคนอาจทรงพลังยิ่งกว่าเซียนจากมหาพิภพถงเทียนด้วยซ้ำ
ประกายที่สอง ยังมีเขตอันตรายภายในพิภพยุทธจักรอีกมากซุกซ่อนอยู่ ตัวอย่างเช่น หุบเขาเหวพระเจ้าของดินแดนพฤกษานิรันดร์ มีเหล่าเซียนจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปแล้วไม่เคยออกมาอีกเลย
หวูเมิ่งกล่าวว่า “ไม่จำต้องรีบร้อนไป ข้าทราบว่าเจ้ากังวลเรื่องความปลอดภัยของสาวน้อยนางนี้ แต่ข้ายังมีฤทธิ์เดชอยู่บ้าง สามารถประคองสถานการณ์ได้อีกสักพัก ก่อนอื่นเจ้าต้องเลื่อนระดับชั้นขึ้นเป็นอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าให้ได้เสียก่อน และสิ่งที่สำคัญที่สุด ก่อนจะเดินทางไปยังพิภพยุทธจักร ขอบเขตศาสตร์แห่งดาบของเจ้าจำเป็นต้องสำเร็จถึงจุดสูงสุดแห่งชั้นสวรรค์ระดับแรก และหลอมสร้างสยบดารานี้ให้สมบูรณ์แบบ!”
………………………………………………………..