บทที่ 263-264 : ปลาติดเบ็ดแล้ว, หน้าก็ หมาป่าหลังก็เสือ
ซูม่านเอ่อระงับความกระตือรือร้นที่จะดําเนินการในใจของเธอ และถามอย่างไม่แน่ใจว่า “งั้นเธอโกหกใช่ไหม?”
“ใช่เธอแน่นอน!” ราวกับว่าฉางกวนซีถูกดูถูกและเธอถามด้วยท่าทางดุดันว่า “คนนั้นคือใคร?”
“เธอมีชื่อว่า หลินว่านว่าน นักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมีผลงาน ตอนนี้เธอเป็นนักเรียนชั้นปีที่ 3 โรงเรียนมัธยมอิมพีเรียลแคปปิตอล” ซูม่านเอ่อพูดขยายความ จากนั้นแสดงท่าทางทําอะไรไม่ถูก
“เธอบอกว่าเธอใส่ผลงานของอาจารย์เจนนิเฟอร์ ฉันหวังดี เตือนเธอว่าเป็นการดีกว่าเธอควรอยู่บนความจริงอย่าโอ้อวดและอย่าโกหก แต่เธอยืนยันว่าสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง ฉันทําอะไรไม่ถูกเพราะไม่สามารถแสดงหลักฐานเพื่อโต้แย้งเธอได้”
ปังงง!
ฉางกวนซีตบโต๊ะเสียงดังอีกครั้งอย่างแรงจนกระดาษร่างแบบบนโต๊ะสั่น
“ไร้ยางอาย!”
เธอลุกขึ้นยืนและมองไปที่ซูม่านเอ่อ “ตอนนี้หลินว่านว่านอยู่ที่ไหน”
“อาจารย์ถามทําไมคะ?”
่ ่
“ฉันจะเผชิญหน้ากับเธอเอง!” ฉางกวนซีหัวเราะอย่างเย็นชา “ฉันอยากเห็นว่าผลงานที่ได้รับการออกแบบเฉพาะของอาจารย์เจนนิเฟอร์จะเป็นอย่างไรในสายตาของหญิงสาวที่ถูกสาปนั้น!”
เมื่อเห็นว่าฉางกวนซี กําลังจะทําให้หลินวานว่านมีปัญหา ซูม่านเอ่อแทบไม่สามารถควบคุมปากที่ยกโค้งขึ้นด้วยความสมใจได้ อย่างไรก็ตามเธอต้องควบคุมมันและสวมหน้ากากแห่งความเห็นใจผู้อื่น
“ทําไมไม่ลืมมันไปล่ะ? เธอยังเด็ก เป็นเรื่องปกติที่เธอจะทะนงตัว ไปยุ่งกับเธอทําไม?”
“ไม่!” ฉางกวนซีปฏิเสธทันที “ฉันจะไม่ให้ใครสร้างข่าวลือเกี่ยวกับท่านอาจารย์เจนนิเฟอร์ได้ ถ้าเธอเอาชุดธรรมดามาใส่และบอกว่ามันเป็นผลงานของอาจารย์ นั้นเป็นการทําลายชื่อเสียงของเธอไม่ใช่หรือ!”
“เอ่อ…..
“บอกฉันมาเร็วๆว่าเธออยู่ที่ไหน ถ้าไม่ ฉันจะไปค้นหาเธอเอง!”
“น่าจะอยู่หอพักนักเรียน” ซูม่านเอ๋อดูราวกับว่าเธอถูกบังคับให้พูดความจริง
ฉางกวนซีหยิบกระเป๋าอของเธอแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
มองไปที่ด้านหลังเธอ ในขณะที่เธอจากไปพร้อมด้วยอารมณ์ที่น่ากลัว ใบหน้าของซูม่านเอ๋อที่ทําอะไรไม่ถูกค่อยๆแทนที่ด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
ปลาติดเบ็ดแล้ว ไม่เป็นการเสียเปล่าที่เธอยอมลงมือหลายเรื่อง
ตืดดด…
ซูม่านเอ๋อยกมือถือที่สั่นของเธอขึ้นมา เปิดข้อความที่เข้ามาใหม่
“ฉันเห็นฉางกวนซี่ขับรถออกไปแล้ว เราดําเนินการต่อได้เลยไหม?”
“เริ่มได้เลย!”
ซูม่านเอ๋อตอบสองคํานี้และโยนมือถือของเธอลง เธอรินไวน์แดงให้ตัวเองหนึ่งแก้วแล้วลูบริมฝีปากอย่างสง่างาม
ดังคํากล่าวที่ว่า ใช้กลยุทธ์สว่างเมื่อรักษาภาพลักษณ์อันสูงส่ง แต่ใช้กลยุทธ์ด้านมืดเมื่อรักษาภาพลักษณ์ต่ํา
“หลินวานว่าน…” ดวงตาของเธอเยือกเย็นขณะที่เธอพึมพํา “เธอจะเข้าใจในไม่ช้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเธอทําให้ฉันโกรธ!”
ทีมงานรายการ “ใกล้ชิดกับดาว” ขับรถเข้าไปใกล้วิลล่า แล้วขณะที่ผู้อํานวยการรายการต้องการให้เธอลงจากรถ เชี่ยอวี่ลี่ซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังก็หยุดเขาด้วยรอยยิ้ม
“ผู้กํากับคะ พี่ม่านเอ๋อติดธุระบางอย่างในตอนนี้ เธอไม่สะดวกให้เราถ่ายทํา ฉันมีข่าวใหญ่ให้ คุณต้องการตามที่ฉันพูดและลองดูไหม?”
ผู้กํากับขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ “ซูม่านเอ๋อไม่ยินดี และไม่อยากทํากับเราใช่ไหม? รายการของเราจะถ่ายทอดสดและภาพจะถูกตัดในเวลาครึ่งชั่วโมง หากมีบางอย่างผิดพลาดคุณต้องการให้ฉันรับผิดชอบกับมันอย่างไร?”
เชี่ยอวี่ลี่ยิ้มอย่างขอโทษ “พี่ม่านเอ๋อมีบางอย่างเกิดขึ้นในนาทีสุดท้าย เธอจะมาที่นี่เร็วๆนี้ ผู้กํากับคุณไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเนื้อหาออกอากาศ ฉันได้เตรียมเซอร์ไพรสที่ยิ่งใหญ่สําหรับพวกคุณแล้ว ฉันรับรองว่าจะต้องตื่นเต้นกว่าการไปดูบ้านของพี่ม่านเอ๋อแน่!”
ผู้กํากับก็สงสัย “จริงๆ? มันคืออะไร?”
“ตามฉันมาแล้วคุณจะรู้”
“คุณเป็นผู้นําทาง จะต้องไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ !”
บทที่ 264 : ข้างหน้าหมาปา ข้างหลังเสือ
รถของสถานีโทรทัศน์ได้ขับอ้อมไปทางโรงเรียนมัธยมอิมพีเรียลแคปปิตอลทันทีตามคําแสนอของเซี่ยอวี่ลี่
“ใกล้ชิดกับดาว” เป็นรายการวาไรตี้ที่ถ่ายทําชีวิตส่วนตัวของคนดังเพื่อให้ผู้ชมเข้าใจด้านความเป็นส่วนตัวของไอดอลของพวกเขา ดังนั้นเรตติ้งจึงดีมาโดยตลอด ไม่ต้องพูดถึงว่าเซียอวี่ลีได้นําซูม่านเอ๋อซึ่งเป็น “เทพธิดาประจําชาติ” มาด้วยในครั้งนี้
ซูม่านเอ๋อเพิ่งมีผลงานไม่กี่ปี ได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างดีในวงการบันเทิง เธอไม่มีข่าวลือเกี่ยวกับเธอมากนัก
ในใจของแฟนๆ เธอคือเทพธิดาหญิงที่สมบูรณ์แบบและบริสุทธิ์ ตอนนี้พวกเขาสามารถเข้าใจชีวิตประจําวันของเทพธิดาหญิงแล้ว แฟนๆทุกคนต่างคาดหวังมาก ผู้คนจํานวนมากมาประจําการที่หน้าทีวีหรือคอมพิวเตอร์แล้วตั้งแต่การถ่ายทอดสดยังไม่เริ่ม
หลินวานว่านยังคงไม่รู้ตัวว่ากําลังจะเกิดอะไรขึ้นและนอนหลับสบายในหอพัก
ปัง! ปัง! ปัง!
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกระแทกประตูอย่างบ้าคลั่งดังขึ้น
หลินวานว่านถูกปลุกด้วยเสียง ขณะที่เธอนั่งลงและแปรงผมของเธอ เธอมองไปที่ประตูซึ่งสั่นสะเทือนเบาๆจากการกระแทก
“มาแล้วค่ะ!” เธอใส่รองเท้าแตะและเปิดประตู เธอเห็นผู้หญิงที่แต่งตัวไม่คุ้นเคยและมีสไตล์ยืนอยู่หน้าประตูและถามด้วยความสงสัยว่า “คุณเป็นใคร?”
ฉางกวนชีไม่ตอบ แต่มองเธอทั่วตัวอย่างเย็นชา “เธอคือหลินวานว่านใช่ไหม?”
“ใช่ ฉันเอง”
เมื่อเห็นว่าเธอยอมรับมัน ใบหน้าของฉางกวนซีเย็นลง และดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ “ฉันได้ยินมาจากใครบางคนว่าเธอมีชุดที่ออกแบบเป็นการส่วนตัวโดยปรมาจารย์เจนนิเฟอร์ เธอช่วยเอาออกมาให้ฉันเพื่อที่ฉันจะได้ชื่นชมมันสักหน่อยสิ!”
ซูม่านเอ๋อ!
หลินว่านว่านเดาได้ทันทีว่าเป็นซูม่านเอ๋อที่เป็นคนกุข่าวเรื่องนี้ เธอแอบบ่นในใจ แต่ส่ายหัวลุแก่โทษ
“ขออภัยด้วย ชุดนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่”
โชคดีที่เธอมีไหวพริบและได้ส่งชุดนั้นให้สู่ชานเปยไปแล้ว
“ไม่อยู่ที่นี่อะไร?”
ฉางกวนซียิ้มเย็นและมองหลินว่านว่านหัวจรดเท้าราวกับว่ากําลังมองตัวอะไรที่น่ารังเกียจ
“สาวน้อย เธอเป็นคนฉลาดทีเดียว เธอรู้ว่าคําโกหกที่เธอบอกมันสามารถปัดไปได้ ดังนั้นจึงซ่อมมันไว้ก่อนแล้ว เธอคิดว่าทําแบบนั้นจะไม่สามารถยืนยันได้อีกต่อไปใช่ไหม?”
หลินวานว่านขมวดคิ้วและไม่ปฏิเสธ ท้ายที่สุด เธอทําความหมายมันเป็นอย่างนั้น
ฉางกวนซีมองว่าความเงียบของเธอมีความรู้สึกผิด เธอกําลังจะตําหนิตัวเองเมื่อมีเสียงดังก้องมาจากนอกหน้าต่าง เห็นรถของสถานีโทรทัศน์สองสามคันขับผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อรถหยุดลงกลุ่มคนก็ลงจากรถที่ละคน บางคนถืออุปกรณ์ในขณะที่บางคนถือกล้องและวิ่งแซง!
“มันคือหลินว่านว่าน!”
“ผู้หญิงที่อยู่ตรงข้ามเธอคือใคร? ทําไมเธอดูคุ้นๆ ?”
“ไปถ่ายเร็ว ๆ ถ้าไม่ เราจะไม่ทําการถ่ายทอดสด!
ในพริบตากลุ่มคนก็กระโจนเข้ามาเหมือนตั๊กแตนบิน พวกเขาไม่สนใจความพยายามของฝ่ายจัดการที่จะปิดกั้นพวกเขาและล้อมประตูโฮสเทลอย่างใกล้ชิด
หลินวานว่านรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เหตุใดทีมงานของรายการ “ ใกล้ชิดกับดาว” ถึงมาที่นี่ เซี่ยอวี่ลี่และซูม่านเอ๋อไม่ได้ถ่ายเหรอ? พวกเขามาที่นี่เพื่ออะไร?
“เปิดกล้องเร็ว ๆ แล้วตัดภาพเลย!”
ผู้กํากับสั่งให้คนอื่นเตรียมอุปกรณ์ถ่ายทอดสด เขาไม่มีทางเลือก ตอนนี้ที่เชี่ยอวี่ลี่ พาพวกเขามาที่นี่มันสายไป แล้วที่พวกเขาจะกลับไปปรับแผนการถ่ายทําใหม่
โชคดีที่หลินวานว่านตกเป็นจุดสนใจเมื่อเร็วๆนี้ การถ่ายทําของเธอก็น่าจะดึงดูดความสนใจได้เช่นกัน
มีเสียงดังโดยรอบ ฉางกวนซีขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ “ หยุดเสียงทั้งหมด!”
การตําหนิของเธอทําให้เกิดความไม่พอใจในหมู่คนไม่กี่คนและใครบางคนกําลังจะโต้แย้ง
“อ๊ะ!” มีคนร้องอุทานทันทีและจ้องตรงไปที่ฉางกวนซี “คุณไม่ใช่..อาจารย์ฉางกวนเหรอ?”
ประโยคนี้ทําให้เกิดความสับสนในที่เกิดเหตุ