The Man from Hell – ตอนที่ 146 : โครงข่ายโลหิตสังหาร!

ตอนที่ 146 : โครงข่ายโลหิตสังหาร!

TMFH ตอนที่ 146 : โครงข่ายโลหิตสังหาร!

หลังจากคําพูดของเฒ่าล่องหน เหล่าผู้มีพลังทั้งหมดของสี่ตระกูลใหญ่ก็มองออกไปข้างนอกทันที!

ด้วยเสียงฝีเท้าที่ดังมาจากด้านนอก เหล่าผู้มีพลังจากสี่ตระกูลใหญ่ที่อยู่นอกประตูคฤหาสน์ต่างหลีกทางให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญเหล่านี้

ชายหนุ่มในชุดดําเดินเข้ามายังที่คฤหาสน์ของตระกูลอย่างช้า ๆ ตามด้วยกลุ่มชายในชุดสีดํา

พวกเขาทั้งหมดอยู่ในเสื้อผ้าสีดําและสวมหน้ากาก ทั้งหมดที่เข้ามานั้นมี 40 คน!

ส่วนเดียวของร่างกายที่พวกเขามองเห็นได้ก็คือดวงตาของพวกเขา ซึ่งดูน่ากลัวอย่างมาก!

ด้วยพลังฉีที่น่าสะพรึงกลัว พวกเขาเหมือนกองทัพปีศาจที่พึ่งจะโผล่ขึ้นมาจากนรก

“ความมืด!”

เมื่อเห็นเครื่องแบบของผู้คนเหล่านั้น เหล่าผู้มีพลังทั้งหมดของสี่ตระกูลใหญ่ต่างก็ลุกขึ้นยืน สีหน้าของเขาฉายแววโหดเหี้ยมและขับแค้นใจอย่างยิ่งออกมา

พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นองค์กรลึกลับนี้!

จากนั้นผู้มีพลังระดับ S ที่ยืนอยู่ในลานคนหนึ่งก็พุ่งไปข้างหน้า

เมื่อเขาเห็นเย่เฟิงเดินผ่านไป เขาก็แทงเข้าที่คอของเย่เฟิงด้วยมีดอย่างเกรี้ยวกราด!

“ไปตายซะ!”

ด้วยลมที่พัดอย่างรวดเร็ว เขานั้นเคลื่อนไหวด้วยความเร็วเท่ากับเสียง!

ทว่าเย่เฟิงไม่สนใจการลอบโจมตีนี้ เขายังคงเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เช่นเดิม

เมื่อมองดูเขาเดินผ่านไปเฉยๆ ชายคนนั้นก็มีความสุขอย่างมาก ขณะตั้งใจโถมแรงของของเขาลงไปที่มีดให้ยิ่งกว่าเดิม

ขณะที่มีดของเขาอยู่ห่างจากคอของเย่เฟิงประมาณ 3 ซม. ประกายของวัตถุบางอย่างก็พุ่งเข้าใส่เขา!

หลังจากนั้น ชายผู้มีพลังระดับ S คนนี้ก็ตัวแข็งทื่อไปทันที

เขาค่อยๆ หันกลับมาและมองไปที่ชายในชุดดําที่อยู่ด้านหลังเย่เฟิงด้วยสายตาไม่เชื่อ

รอยเลือดปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขาซึ่งแบ่งร่างของเขาออกเป็นสองซีก!

เขาไม่เห็นคนที่จะเข้ามาโจมตีเขาแม้แต่น้อยแม้จนกระทั่งตอนที่จะตาย!

ทุกคนของทั้งสี่ตระกูลใหญ่ในลานของคฤหาสน์ต่างก็ตกใจ

รวดเร็ว!

แม่นยํา!

รุนแรง!

ทุกคนต่างมองชายชุดดําด้วยความตกใจและหวาดกลัวอย่างมาก!

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าคนที่มีพลังระดับ S จะสามารถโดนฟันออกเป็นสองซีกได้อย่างง่ายดายเช่นนี้

อย่างไรก็ตามชายในชุดดําไม่สนใจท่าทางของคนอื่นๆ ในขณะที่เขายังเดินหน้าต่อไป

หลังจากเก็บกระบี่เหล็กของเขา เขายังคงติดตามเย่เฟิงอย่างช้า ๆ และเงียบราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อเย่เฟิงและสมาชิกคนอื่น ๆ ของกลุ่มความมืดมาถึงใจกลางลาน เหล่าผู้มีพลังของสี่ตระกูลใหญ่ก็ออกมาจากห้องโถง

“หึหึ…ฉันไม่คิดเลยว่าไอ้เด็กเวรคนนี้จะกล้ามาจริง ๆ!”

เฒ่าชะตาสวรรค์พึมพําขณะที่เขาจ้องมองไปที่เย่เฟิงด้วยสายตาเหยียดหยาม “เย่เฟิ ง ดูเหมือนว่าแกจะเป็นสมาชิกของกลุ่มความมืด! ไม่น่าแปลกใจที่แกสามารถฆ่าเขมือบใจได้!”

“แต่แล้วไงล่ะ!”

จากนั้นเฒ่าชะตาสวรรค์ก็ชี้ไปที่ลานของคฤหาสน์และพูดต่อด้วยท่าทางดูถูกยิ่งกว่าเดิม “มองไปรอบ ๆ สิ พวกเรามีคนที่มีพลังระดับ SSS 5 คน พลังระดับ SS 10 คนและพลังระดับ S อีกมากมาย! นอกจากนี้เรายังมีคนพลังชั้นหนึ่งกับพลังชั้นหนึ่งยอดเยี่ยมอีกหลายร้อยคน!”

“แต่แกมีแค่ 40 คน แกคงอยากตายมากสินะ ?”

หลังจากได้ยินคําพูดของเฒ่าชะตาสวรรค์สมาชิกของสี่ตระกูลหลักในบริเวณนั้นต่างหัวเราะเสียงดังออกมา

ตระกูลหลักทั้งสี่สามารถกลืนกินกลุ่มความมืดได้อย่างง่ายดายด้วยจํานวนของคนที่มากกว่าหลายเท่าของพวกเขา!

พวกเขามั่นใจว่าเย่เฟิงและคนของเขาทุกคนจะต้องตาย

ในวันนี้

“แกพล่ามมากเกินไปแล้ว!”

เย่เฟิงตวาดออกมาอย่างไม่หวั่นเกรง นั่นทําให้สมาชิกของทั้งสี่ตระกูลแปลกใจ

“ถ้าอยากจะจัดการฉันมากนัก ก็ส่งพวกแกทุกคนเข้ามาได้เลย!”

“อะไรนะ!?

หลังจากได้ยินคําพูดของเย่เฟิง เหล่าผู้มีพลังอํานาจของทั้งสี่ตระกูลก็ตกตะลึงในทันที

“อืม ในเมื่อแกรู้แล้ว!” เฒ่าชะตาสวรรค์ตอบด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัวขณะที่เขาพูดต่อไปว่า

“ดี! ฉันจะตอบสนองความต้องการของแกเอง!”

หลังจากพูดแล้วเฒ่าชะตาสวรรค์ก็สะบัดมือของเขา!

จากนั้นผู้คนเกือบ 100 คนก็กรูกันออกมาจากแต่ละมุมของคฤหาสน์ในทันที

แต่ละคนมีพลังฉีที่ทรงพลังและแข็งแกร่งมาก!

เมื่อกู๋หยูที่อยู่ข้างๆ เย่เฟิงเห็นคนเหล่านั้นก็ขนลุกไปทั่ว ทั้งร่างกายของเขาในทันที “ตระกูลฉีและตระกูลเจิ้งตระกูล ระดับหนึ่ง! ตระกูลกงและตระกูลเฟยตระกูลระดับสอง!”

“พวกตระกูลใหญ่เกือบทั้งหมดในเมืองเจียงเป่ยต่างส่งผู้มีพลังอํานาจมารวมกันที่นี่แล้ว!”

ใบหน้ากู๋หยูนั้นมืดมนและหวาดกลัวอย่างมาก

“มีตระกูลชั้นหนึ่ง 3 ตระกูล และตระกูลรองระดับหนึ่ง 1 ตระกูลและตระกูลระดับสองอีก 4 ตระกูลในเมืองเจียงเป่ย!”

“แต่พวกเขาเกือบทั้งหมดได้มารวมกันอยู่ที่นี่!”

“นั่นหมายความว่ากลุ่มความมืดที่มีคน 40 คนจะต้องต่อสู้กับตระกูลใหญ่ทั้งหมดในเมืองเจียงเป่ย!”

‘นั่นเป็นไปไม่ได้!’

หลังจากเหล่าผู้มีพลังมากมายของ 8 ตระกูลใหญ่มาถึง ปริมาณของผู้มีพลังในลานแห่งนี้ก็มหาศาลอย่างมาก!

พลังระดับ SSS 8 คน!

พลังระดับ SS 15 คน!

พลังระดับ S อีกเกือบ 100 คน!

นอกจากนั้นยังมีพลังชั้นหนึ่งและพลังชั้นหนึ่งยอดเยี่ยมอีกหลายร้อย!

พวกเขาเกือบทั้งหมดล้วนเป็นผู้มีอํานาจอย่างมากในเมืองเจียงเป่ย!

แม้แต่สมาชิกของกลุ่มความมืดก็เริ่มรู้สึกใจสั่น

พวกเขาไม่คิดเลยว่าตระกูลใหญ่ทั้งหมดในเมืองเจียงเป่ยจะมารวมตัวกันแบบนี้

“ฮ่า ฮ่า…. เย่เฟิง แกเห็นหรือยัง ? แกมาถึงทางตันแล้ว! วันนี้คือวันตายของแก!”

เฒ่าชะตาสวรรค์และคนอื่น ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ ตัวเขาหัวเราะออกมาอย่างมั่นใจ

มันเป็นสถานการณ์ที่พวกเขาได้เปรียบอย่างแน่นอน ขณะที่พวกเขารวบรวมผู้มีพลังระดับสูงทั้งหมดในเมืองเจียงเป่ย พวกเขาก็มั่นใจว่าพวกเขาจะกวาดล้างกลุ่มความมืดได้อย่างราบคาบ

ในเสี้ยววินาที่กู๋หยูและสมาชิกทุกคนของกลุ่มความมืดก็รู้สึกถึงแรงกดดันที่พุ่งเข้ามาจากรอบด้านอย่างรุนแรง

พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน!

“พวกเราถูกกําหนดให้แพ้แล้ว!!

ใบหน้าของธกู๋หยูและสมาชิกของกลุ่มความมืดนั้นมืดมนและหดหูอย่างมาก

ขณะนั้นเองเย่เฟิงก็เหลือบตามองไปที่รอบ ๆ ลานกว้างอย่างช้าๆ ขณะที่เขากล่าวว่า “8 ตระกูลใหญ่ รวมกันก็ 842 คน! ดี! ดีมาก!”

ดวงตาของเย่เฟิงเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เขาพูดต่อ “ตอนนี้พวกแกฆ่าพี่น้องของฉันไป 109 คน ฉันจะสังเวยพวกเจ้าทุกคนเพื่อพี่น้องของฉัน!”

“อะไร!”

หลังจากได้ยินคําพูดของเย่เฟิง เฒ่าชะตาสวรรค์และคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงในทันที จากนั้นพวกเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ไอ้นี้เป็นบ้าไปแล้ว!

ในสายตาของพวกเขาเย่เฟิงคงกําลังคลั่งจนแทบจะบ้า!

“เขาต้องการฆ่าคน 842 คนด้วยกลุ่มคนแค่ 40 คน นี้มันเป็นการได้เปรียบอย่างเห็นได้ อย่าแม้แต่จะฝันเลย”

สมาชิกของ 8 ตระกูลใหญ่กําลังจ้องมองเย่เฟิงราวกับว่าเขาเป็นคนโง่

แม้แต่กู๋หยูและสมาชิกของกลุ่มความมืดเองก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะทําได้สักนิด

จากนั้นเย่เฟิงก็ค่อยๆ หยิบลูกบอลออกมาจากกระเป๋าของเขา!

ลูกบอลนั้นทําจากหินสลักที่มีอักษรรูนจํานวนมาก

“นั่นมัน….มันคืออุปกรณ์เวทมนตร์ ?”

เมื่อเห็นลูกบอลนั่น เฒ่าชะตาสวรรค์และคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงในทันที สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก!

“ไม่! หยุดมันเดี๋ยวนี้!”

เฒ่าชะตาสวรรค์และคนอื่น ๆ รีบก้าวไปข้างหน้าและตั้งใจจะหยุดยั้งเย่เฟิง

จากนั้นเย่เฟิงพูดออกมาเบา ๆ พลางแสยะยิ้ม “ฉันจะฆ่าพวกแกทุกคน ไม่ว่าแกจะตระกูลเดียวหรือ 8 ตระกูลก็ตาม!”

หลังจากพูดแล้วเย่เฟิงก็โยนมันขึ้นไปในอากาศ

ด้วยลมที่พัดแรง ลูกบอลก็เปล่งแสงสีแดงเลือดออกมา!

จากแสงสีแดงเลือดกลายเป็นตาข่ายเลือดขนาดใหญ่และปกคลุมพื้นที่ด้านบนครอบไปทั่วทั้งลาน

สนามพลังเวทมนตร์

มันคือสนามพลังเวทมนตร์ซึ่งทําจากศิลาอมตะต้องห้าม บนสรวงสวรรค์ที่เรียกกันว่าโครงข่ายโลหิตสังหาร!

“ฉันจะสังเวยชีวิตของพวกแก เพื่อเซ่นวิญญาณของพี่น้องผู้ล่วงลับของฉัน! ไปตายซะ!”

หลังจากพูดจบ ทันใดนั้นเย่เฟิงก็ชี้ไปที่ลูกบอลในอากาศ

ตูม!

ตาข่ายสีแดงเลือดเปล่งแสงสว่างออกมา!

จากนั้นกระบี่เลือดก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้าเหมือนหยดฝนในทันที

การสังหารหมู่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!

The Man from Hell

The Man from Hell

Status: Ongoing

จักรวรรดิปีศาจได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งในจักรวาลแห่งนี้ เหล่าศัตรูต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา แลเหล่าหญิงงามควรสยบแทบเท้าของเขา

“ข้าคือปีศาจ ผู้ที่เหล่าทวยเทพเทวาทั้งหลายต่างยอมศิโรราบ หากเจ้าไม่ยอมก้มหัวให้ข้า ข้าจักบังคับเจ้าด้วยกำลัง” — เย่เฟิง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท