ตอนที่ 262 ไม่เกี่ยวกับเจ้า
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นัยน์ตาของเกอซีพลันมืดหม่น นางหันกายเดินกลับไปหากู้หลิวเฟิ่ง
“นั่น-เจ้า-คิด-จะ-ไป-ไหน ?!!”
เสียงร้องคํารามประดุจจะฉีกท้องนภาทลายผืนปฐพี่ดังก้องในโสตประสาททุกผู้คน พร้อมกันนั้นคลื่นพลังกดอัดมหาศาลไร้ขีดจํากัดระเบิดท่วมออกจากร่างของหนานกงยวี่
เฟิ่งเหลียนอิ่งผู้อยู่ข้างกายยังไม่ทันตั้งตัวจึงถูกคลื่นพลังนั้นอัดลอยกระเด็นไปดั่งว่าวที่สายขาด เสียงกรีดร้องตื่นผวาลอยไปพร้อมร่างนั้น
เนียจินเฉินรีบเข้ามารับนางไว้ในอ้อมแขน เขาเอ่ยถามด้วยสุ่มเสียงที่ห่วงใย “น้องหญิงเหลียนอิ่ง ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ทว่าเฟิ่งเหลียนอิ่งกลับผลักไสเขาออกก่อนจะหันกลับไป หาหนานกงยวี่อีกครา
“ท่านพี่ยวี่ ท่านพี่ยวี่ ข้าเหลียนอิ่ง ! ให้ข้าช่วยดูบาดแผลให้ท่านเถิด !”
เพียงยังไม่ทันได้เข้าใกล้ชายหนุ่ม นางก็ถูกคลื่นพลังอัดกระเด็นลอยเข้าสู่อ้อมอกของเนียจินเฉินอีกครา
เฟิ่งเหลียนอิ่งงงเป็นไก่ตาแตกเมื่อได้พบว่า ยามนี้หนานกงยวี่กําลังอยู่ในใจกลางของม่านปราการที่ไม่อาจแลเห็นซึ่ง เขาเป็นผู้รวบรวมก่อขึ้นขณะที่เกอซีก็อยู่ในม่านปรา การนั้นด้วยเช่นกัน ไม่มีผู้ใดสามารถล่วงเลยเข้าใกล้พวกเขาทั้งสอง ทั้งเกอซีก็ไม่อาจหลีกหนีออกไปได้เช่นกัน
ยามนี้ นอกเสียจากเกอซีผู้นี้แล้วไม่มีผู้ใดอื่นที่อยู่ในสายตาขององค์ราชันมัจจุราชหนานกงยวี่อีกเลย !
เหตุใด ? เหตุใดท่านพี่ยวจึงสนใจแค่เพียงเจ้าสารเลวนั่น?!
เจ้าเด็กบ้านั่นมีอะไรดี ? มันทําร้ายพี่ยว ทว่าแทนที่พี่ยวี่จะสังหารมัน เขากลับทําทุกวิถีทางเพื่อเหนี่ยวรั้งเจ้าคนชั่วช้านั่นไว้ข้างกาย !
เฟิ่งเหลียนอิ่งกัดปากแน่น แน่นกระทั่งนางไม่รู้ตัวว่าเลือดเริ่มไหลซึมลงถึงปลายคาง
ยามนี้ที่เกอซีถูกกักอยู่ในม่านพลังของหนานกงยวี่ ยังมีทันที่นางจะเคลื่อนไหว เพียงพริบตาร่างของหนานกงยวี่ ก็ขยับเคลื่อนเข้ามาปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขาค่อย ๆ ก้าวตรงเข้ามาหานางอย่างเชื่องช้า ที่ละก้าวทีละก้าว
ร่างสูงสง่ากํายําได้สัดส่วนที่งดงาม ผนวกเข้ากับดวงหน้าอันหล่อเหลาอย่างร้ายกาจนั้นสามารถสยบสตรีทั่วผืนฟ้าให้หลงใหลใฝ่ปอง ยามนี้กลับเย็นยะเยือกด้านชาประดุจแห่งน้ําแข็งที่ก่อตัวมาเนิ่นนานนับพันปี ประสานรับได้ดีกับอายพลังที่หม่นมัวน่าสะพรึงอย่างเหลือแสนที่แผ่ซ่านออกทั่วทุกรูขุมขนในกายเขายามนี้
ขณะที่ชายหนุ่มขยับกายเข้าหาอีกฝ่าย หยาดโลหิตที่ไหลทะลักจากแผงอกยังคงปลดปล่อยกลิ่นธาตุเหล็กในเม็ดโลหิต ที่เข้มข้นอย่างรุนแรง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าช่างขัดแย้งกับใบหน้าหล่อเหลาซีดเซียว เขาในยามนี้ประดุจราชันมัจจุราช ผู้ย่างกรายลงสู่พื้นพิภพ
“ซีเอ๋อเจ้าคิดจะไปไหน ? จะไปหาบุรุษผู้นั้นหรือ ? มันสําคัญสําหรับเจ้านักหรือ ?”
ใบหน้าของเกอซีซีดเผือด คลื่นพลังอัดดันที่แผ่ซ่านออกจากร่างของชายหนุ่มสร้างความอึดอัดกระทั้งนางแทบไม่อาจหายใจ
หากแต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแววตาที่เกรี้ยวกราดของหนานกงยวี่ ความหัวแข็งของเกอซีกลับถูกปลุกเร้า หญิงสาวเชิดคางน้อย ๆ เปล่งน้ําเสียงเย็นชาออกไป “ข้าจะไปหาผู้ใด เกี่ยวอะไรกับเจ้า !”
“ไม่เกี่ยวกับข้า ?” เขาสืบฝ่าเท้าก้าวเข้าหา เพียงพริบตาก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาวแล้ว ชายหนุ่มกุมไหล่แน่นพลางเค้นถาม “เช่นนั้นเกี่ยวกับผู้ใดกู้หลิวเฟิ่งกระนั้นหรือ
เกอซีกัดริมฝีปากแน่นน้ําเสีงของนางแหบพร่าเผยถึงความเย็นชาที่ไม่มีวันยอมอ่อนข้อให้แก่ผู้ใด “หากใช่ แล้วจะอย่างไร ? เจ้าก็กลับไปหาเทพธิดาบัวเยือกแข็งผู้เป็น ที่รักของเจ้าสิ นับแต่นี้ไปจงอย่าได้มายุ่งเกี่ยวกับชีวิตข้า !”
เปลวไฟที่แดง…โหมกระพืออยู่ในแววตาของหนานกงยวี่ บรรยากาศรอบกายอัดแน่นไปด้วยเสียงปริแตกที่สะท้อนก้องไปทั่ว ชั่วขณะนั้นเอง ก้อนเมฆหม่นดําพลันคืบคลานเข้า ครอบคลุมตลอดทั่วทั้งผืนฟ้าแห่งอาณาจักรกําบังเป็นชั้น ๆ
เพียงพริบตาคล้ายพายุฝนพร้อมกระหน่ํา ภัยพิบัติกําลังจะมาเยือน !
เกอซีตื่นตกใจ หากแต่ยังไม่ทันได้ปริปากกล่าวสิ่งใด กลับเกิดอาการอื้ออึงมึนงงนัยน์ตาพร่าเลือนคล้ายทั้งร่างถูกสูบกลืนเข้าไปในขุมคลื่นพลังวนที่ทรงอานุภาพ
คลื่นพลังขนาดมหึมาภายในหลุมพลังวนฉุดกระชากร่างของเกอซีเหวี่ยงอย่างแรงคล้ายทั่วร่างพร้อมจะฉีกออกเป็นเสี่ยงๆ ได้ทุกเมื่อ
ทว่าเพียงครู่ หญิงสาวกลับรู้สึกคล้ายร่างของตนตกอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของใครสักคน
ภายใต้วงแขนที่แผ่กระจายขุมพลังอันมหาศาลไร้ขีดจํากัดกดข่มคลื่นพลังทั้งหมดทั้งสิ้นตรงเข้าโอบล้อมรอบกายกั้นขวางนางจากคลื่นพลังที่ฉีกกระชากร่างของนางให้เจ็บปวดเมื่อครู่ก่อน
ภายใต้สติสัมปชัญญะอันเลือนลาง คล้ายได้ยินน้ําเสียงมืด หม่นของบุรุษผู้หนึ่งดังก้องอยู่ข้างหู สุ่มเสียงนั้นแฝงความขุ่นเคือง หากทว่ากลับเปี่ยมความรักอันล้ําลึก “ซีเอ๋อ เจ้าเป็นของข้า ! เจ้าจะต้องอยู่ข้างกายข้าตลอดไป !”
***จบตอน ไม่เกี่ยวกับเจ้า*-*-*