หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 271 เถาวัลย์ม่วงอเวจี

ตอนที่ 271 เถาวัลย์ม่วงอเวจี

ตอนที่ 271 เถาวัลย์ม่วงอเวจี

พร้อมคํากล่าวนั้น หนานกงยวี่โน้มกายทาบร่างลงกับแผ่นหลังของเกอซีอย่างไม่ลังเล ท่อนแขนทั้งสองโอบรัดรอบเอวอ่อนบางของอีกฝ่าย

หญิงสาวรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่โอบล้อมรอบเรือนกาย ยามนี้เกอซีหาได้รับรู้ถึงน้ําหนักที่ถ่ายเทให้นางต้องประคองรับไว้ไม่ เมื่อความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลถูกรวมลงที่ริม ฝีปากของชายหนุ่ม มันกําลังค่อย ๆ แนบชิดพร้อมอายลมหายใจที่รินรดอยู่ข้างกกหู

“เปิ่นหวาง*จะขอมอบความสุขตลอดชั่วชีวิตนี้ของเปิ่นหวางไว้ในมือซีเอ๋อ ! ซีเอ๋อ” เรื่องนี้เจ้าต้องรับผิดชอบ !”

รับผิดชอบน้องสาวเจ้าสิ !

ผู้รับภาระแบกจับแขนหนานกงยวีแน่นก่อนจะรวบรวมพลังปราณทั้งหมดในกายเพื่อดันร่างพุ่งทะยานขึ้นสู่เบื้องบน ตรงสู่ยอดสุดหุบเหวลึก

เสียงสายลมหวีดดังผ่านช่องหูพร้อมกระแสลมเย็นยะเยือกที่แทรกผ่านผิวกายตลอดการเดินพุ่งมุ่งหน้า ทว่าบุรุษผู้แนบกายอยู่บนแผ่นหลังยังคงมอบอายอบอุ่นอย่างเหลือล้นให้แก่นางอย่างไม่ย่อท้อ

เพียงไม่นาน ในหัวของเกอซีเริ่มฟุ้งซ่าน

คล้ายผ่านมาเพียงครึ่งชั่วยาม” ที่พวกเขาทั้งสองมีเรื่องหมางใจ กระทั่งความสัมพันธ์แทบขาดสะบั้นเพียงพริบตา

*ครึ่งชั่วยามคือ 1 ชั่วโมง

ทว่า ในยามนี้พวกเขากลับอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันในช่วงเวลาแห่งความเป็นและความตาย

โชคชะตาช่างสนุกกับการหยอกเย้ามนุษย์เสียเหลือเกิน ! เบื้องหน้าต่อไป นางกับหนานกงยวี่จะเป็นเช่นไร คือสิ่งมิอาจล่วงรู้ได้เลย

หน้าผาในบริเวณหุบเขาแห่งนี้สูงชันยิ่งนัก แม้เกอซีแผดเผาพลังปราณในกายกระทั่งแทบสิ้น กลับยังไม่เห็นปลายสุดยอดผา

นับว่ายังดีที่ระหว่างทางมีถ้ําซึ่งเป็นโพรงอยู่บนผา เพียงพอให้ได้หยุดพักหายใจ และฟื้นพลังชั่วครู่

เมื่อสามารถหยุดยืนได้อย่างมั่นคงที่ปากถ้ำ หญิงสาวกวาดตาสํารวจตรงเข้าไปด้านใน นางพบว่าถ้ำน้อยแห่งนี้ แท้จริงคือถ้ำที่ลึกมากกว่าคาด หากแต่เพราะม่านดอกจื่อเถิงฮวา” ที่ห้อยระย้าดกหนาปกคลุมจึงทําให้ดูคล้ายเป็นถ้ำเล็กที่ตื้นเขิน

“จื่อเถิงฮวา คือดอกวิสทีเรีย

เกอซีก้าวตรงเข้าไปอีกสองก้าวอย่างอดใจอยากรู้อยากเห็นมิได้

ฉับพลัน สุ้มเสียงของหนานกงยี่กลับดังก้องขึ้นข้างหู “ระวัง ! นี่คือพฤกษาเวทขั้นห้า เถาวัลย์ม่วงอเวจี”

เสียดายที่คําเตือนของอีกฝ่ายช้าไปเพียงอึดใจ เมื่อปลายนิ้วของเกอซีกวาดปัดพรรณไม้ตรงหน้าออกไปเสียแล้ว สายลมแรงกรรโชกพวยพุ่งผ่านผิวหน้า

เถาวัลย์สีแดงเข้มจนเกือบม่วงเมื่อครู พลิกขยับรัดเข้าหากันคล้ายปลายแส้ก่อนจะเฆี่ยนใส่เกอซีอย่างรุนแรง

หญิงสาวแตกตื่นใจรีบขยับถอยร่นไปหลายก้าว หากทว่าความเร็วของเถาวัลย์ม่วงนั้นเหนือกว่า ทั้งแรงพลังที่ฟาดเข้าใส่ยังแข็งแกร่งสามารถเทียบได้กับการโจมตีของยอดฝีมือระดับพลิกผันอเวจี

หากแต่ ทันทีที่หญิงสาวกําลังจะเพลี่ยงพล้ำ พลันเกิดเสียงรุนแรงประดุจฟ้าผ่าดังก้องอยู่ข้างหู

เถาวัลย์สีม่วงเถานั้นชะงักหยุดทันทีที่ถูกฟาดกระหน่ำด้วยสายฟ้าเมื่อครู่ มันเกลือกกลิ้งดิ้นไปมาอยู่กับพื้นคล้ายได้รับบาดเจ็บ หลายส่วนปรากฏร่องรอยถูกเผาไหม้จากสายฟ้า มันรีบหดตัวกลับเข้าถ้ําไปอย่างไม่รอช้า

หนานกงยวี่รั้งร่างของเกอซีไว้หลังตนในทันที กระบี่ดําปรากฏขึ้นในมือเตรียมพร้อมรอรับการโจมตีจากเถาวัลย์ม่วงทุกเมื่อ

ทว่ากลับโดนอีกฝ่ายกระชากแขนกลับพร้อมน้ำเสียงขุ่นเคือง “หนานกงยวี่ เสียสติไปแล้ว ? กระทั่งยามนี้ยังกล้าผืนใช้พลัง ! อยากตายนักหรือไร !”

ชายหนุ่มได้ฟังถึงกับนิ่งค้างคล้ายถูกแช่แข็ง ยังไม่ทันจะคืนสติ เขาก็ถูกอีกฝ่ายดึงกลับไปไว้ด้านหลังดังเดิม เพียงครู่ถัดมา ม่านพลังอันแข็งแกร่งพลันปรากฏขึ้นปกป้องร่างของเขา พร้อมพิทักษ์เขาไว้เบื้องหลังตัวนาง

“ทําตัวให้มันว่าง่ายหน่อย รอข้าอยู่ที่นี่ หากเจ้ากล้าทําตัววุ่นวายอีกก็อย่าหาว่าข้าใจร้ายแล้วกัน !”

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งตะลึงค้างอีกคราในทันที สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าสายตามีเพียงแผ่นหลังอันแสนบอบบางของสตรีร่างน้อยที่ตรงเข้าคุ้มกันเขาจากภัยอันตรายเบื้องหน้า

ความรู้สึกเช่นนี้ช่างแปลกนัก ทว่าก็ช่างยอดเยี่ยมเกินจะเอ่ย ความรู้สึกอมเปรี้ยวอมหวานพลันเอิบอาบไปทั่วทั้งหัวใจประหนึ่งกําลังหย่อนกายแช่ชุ่มในไหน้ำผึ้ง

เหตุใดซีเอ๋อของเขาจึงพิเศษเหนือผู้ใดเช่นนี้เสมอ ?

เมื่อยามนี้ เกอซีกําลังจดจ่ออยู่กับภัยร้ายที่ต้องเผชิญตรงหน้า มีหรือที่นางจะรู้ว่าหนานกงยวี่ผู้ยืนรั้งอยู่ด้านหลังกําลังปล่อยความคิดเลยไกลจนเตลิดไปถึงไหนแล้ว

หญิงสาวใจหายวาบ เมื่อการโจมตีระลอกสองของเถาวัลย์ม่วงเริ่มขึ้น นางรีบรวบรวมขุมพลังอย่างเร่งด่วนในทันที

เพียงพริบตาเปลวไฟสีทองเรืองรองพลันก่อตัวขึ้นอย่างน่าจับตามองบนปลายนิ้วของเกอซี ก่อนเปลวเพลิงทั้งหมดจะถูกสลัดใส่เถาวัลย์ม่วงอเวจีอย่างไม่รอช้า

*เปิ่นหวาง คําเรียกแทนตนเองของท่านอ๋อง

*เอ๋อ การเรียกที่แสดงความสนิทสนม โดยเรียกชื่อเล่นตัวท้ายตามด้วยคําว่าเอ๋อ

***จบตอน เถาวัลย์ม่วงอเวจี***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

Status: Ongoing

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

เมื่อนางคือสุดยอดมือสังหารเกียรติยศระดับเหรียญทองแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ถูกส่งผ่านข้ามกาลเวลามาสู่ร่าง คุณหนูสาม น่าหลานเกอซี แห่งตระกูลแพทย์ผู้ปรุงโอสถอันลือลั่น นางผู้สิ้นดี นางผู้ถูกกลั่นแกล้งสารพัด

นางคือผู้ที่ไร้สิ้นกระแสปราณแห่งพลังจึงมิอาจโคจรฝึกฝนพลังปราณเยี่ยงผู้อื่นได้เช่นนั้นล่ะหรือ? จะต้องเกรงไปไย เมื่อนางคือยอดหมออัจฉริยะสวรรค์บันดาน แค่อาการจิ๊บจ้อยเพียงเท่านี้ ไม่พอมือนางหรอก บิดาไม่เอ็นดูข้า มารดาไม่รักข้า ทุกคนล้วนข่มเหงรเหยียบย่ำข้ากระนั้นหรือ? ฮึ่ม! เมื่อนางคือผู้ครอบครองมิติและสัตว์เวทย์ที่แข็งแกร่งอย่างไร้ผู้เทียบเทียม เช่นนี้แล้ว ไยนางต้องแสร้งทำตนเป็นคุณหนูลูกแหง่ในสกุลน่าหลานอีกเล่า!

ใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ ร่างกายที่ผ่ายผอมแลดูอมโรคนั้น หาได้มีผู้ใดต้องการมันใช่ไหม? เพียงชั่วพริบตา นางจะกระชากหน้ากากเดิมเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ทำให้บุรุษรูปงามเป็นโหลๆต้องคอยเฝ้าล้อมหน้าล้อมหลัง! หากแต่บุรุษจอมเผด็จการผู้นั้นกลับยังตามตื้อกันไม่เลิกไม่ราตั้งแต่งานประมูลเมื่อคราก่อน

ผู้ใดบอกว่าชีวิตของข้าต้องขึ้นอยู่กับเจ้ากัน? ชีวิตของข้าย่อมต้องเป็นของข้า! ข้าจะมิยอมให้ผู้ใดมากำหนดชีวิตของข้าได้!

บุรุษนิรนาม : เช่นนั้นชีวิตของข้าก็เป็นของเจ้า แล้วแต่เจ้าจะบัญชาให้เป็นไปดีไหม?

*****

ลำดับขั้นแห่งการฝึกฝนพลังปราณอันต้องอาศัยผู้ที่มีรากฐานแห่งพลังอันเนื่องด้วยกระแสจิตวิญญาณเท่านั้นจึงจะสามารถควบกลั่นโคจรพลังปราณในกายได้ ไล่เรียงลงไปตามลำดับขั้นจากขั้นพื้นฐานไปถึงขั้นสูงสุดมีทั้งหมด 9 ขั้น โดยกำลังปราณแต่ละขั้นมี 10 ระดับ

กำลังปราณขั้น 1 เมล็ดพันธุ์เพาะบ่ม กำลังปราณขั้น 2 ปฐมภูมิโลกันต์ กำลังปราณขั้น 3 พลิกผันอเวจี กำลังปราณขั้น 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน กำลังปราณขั้น 5 ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ กำลังปราณขั้น 6 เปิดม่านฟ้าดิน กำลังปราณขั้น 7 ทะลวงสิ้นโลกสาม กำลังปราณขั้น 8 ก้าวข้ามสูญญภพ กำลังปราณขั้น 9 สยบทั้งจักรวาล

ผู้แปลไม่ได้เก่งภาษาจีน เป็นการแปลจากภาษาอังกฤษ

ดังนั้นชื่อเฉพาะของบุคคลและสถานที่ต่างๆอาจผิดเพี้ยนไปต้องขออภัยอย่างยิ่งนะคะ หากท่านใดไม่เคร่งครัดเรื่องนี้ขอเชิญมาสนุกด้วยกันเลยค่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท