หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 291 เดรัจฉาน !

ตอนที่ 291 เดรัจฉาน !

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 291 เดรัจฉาน !

ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะเยาะเย้ยออกมาแทบจะพร้อมเพรียงกันในคราวเดียว “พี่ใหญ่สนุกสมใจกับนางเมื่อไรค่อยเป็นคราวของพวกเรา !”

สาวน้อยผู้นั้นพยายามดิ้นรนหนีจากฝ่ามือกว้างใหญ่ของบุรุษผู้เป็นหัวหน้า พร้อมเสียงกรีดร้องที่บีบเค้นจิตใจอย่างเหลือแสน “พวกเจ้ามันเดรัจฉาน ! เดรัจฉาน ! หากเจ้ากล้าแตะต้องข้า ท่านอาจารย์ และท่านพ่อจะไม่มีวันปล่อยพวกเจ้าไปแน่ ! หากเจ้าสามารถก็ลงมือสังหารข้าสิ !”

บุรุษผู้สวมผ้าคลุมหน้ายกมือขึ้นตรงเข้าหาเนินอกสาวน้อยผู้นั้นพลางเปล่งเสียงหัวเราะร้องตะโกนอย่างคลั่งตัณหา “สังหารเจ้ากระนั้นรึ ? เจ้างดงามเพียงนี้ ข้าจะสังหารเจ้าลงได้เยี่ยงไร ?”

แรงบีบหนักมือยิ่งขึ้น เสียงอาภรณ์ของสตรีผู้นั้นฉีกขาดกระจุยเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เผยให้เห็นผิวเนื้อนุ่มบาง และเอี้ยมตัวในสีแดงสด

“นี่มันสินค้าคุณภาพเยี่ยมอย่างที่สุด !” น้ำลายของพวกมันเริ่มเจิ่งนองเต็มปาก แววแห่งความตื่นกระหายแผดเผาในดวงตา “พี่ใหญ่ รออะไรอีกเล่า รีบ ๆ จัดการนางสักทีสิ ! หมอกหนาทึบเพียงนี้ช่วยบดบังไอ้พวกสอดรู้สอดเห็นได้ดีนัก

นัยน์ตาผู้เป็นหัวหน้าลุกวาวยามเมื่อเขาหันมาหาพี่น้องเพื่อนฝูงที่อยู่ด้านหลัง “โซวโฮ่วเจ้าช่วยจับขานางไว้อย่าให้ดิ้นได้”

เพียงจบคํา สาวน้อยผู้นั้นก็ถูกขึงพืดอยู่กับพื้นราวสัตว์

หญิงสาวส่งเสียงกรีดร้องด้วยความสิ้นหวังอย่างน่าเวทนา เสียงของนางสะท้อนก้องไปทั่วอายหมอกที่หนาทึบ ทว่าเสียงแผดร้องที่โหยหวนกลับมิได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด ยังมีแม้นหากจะมีผู้ใดได้ยินเสียงของนาง แล้วพวกเขาจะทําสิ่งใดได้ ? เมื่อทุกผู้คนภายใต้หมอกหนาทึบแห่งนี้ล้วนอยู่ในสภาพไร้สิ้นแรงพลัง ยังจะมีผู้ใดเข้ามาช่วยนางได้อีกกระนั้นหรือ ?

เพียงพริบตา บุรุษผู้สวมหน้ากากผู้นั้นก็เปลื้องอาภรณ์บนกายของสาวน้อยออกสิ้น โซวโฮ่วผู้ช่วยกดหญิงสาวไว้ได้ยินเสียงกลืนน้ำลายตัวเองดังเอื้อก ใบหน้าของเขายามนี้แทบมิอาจทนไหวอีกต่อไป

ฉับพลัน โซวโฮ่วกลับรับรู้ได้ถึงบางสิ่งที่เย็นเฉียบสัมผัสผ่านลําคอพร้อมความรู้สึกเจ็บแปลบพุ่งผ่านอย่างคมกริบ

เขาอดมิได้ที่จะยกมือขึ้นจับลําคอ หากแต่ไม่คาดคิดเลยว่าแนวภาพเบื้องหน้าสายตากลับพลิกคว่ำลงไปต่อหน้า

ดวงตาของมันเบิกโพลงด้วยความตื่นตะลึงที่ได้เห็นร่างไร้ศีรษะของตนในยามนี้ โลหิตจํานวนมากพุ่งทะลักออกมาตรงหน้า เลือดสีแดงสดกระจายใส่ร่างของสาวน้อยผู้นั้นรวมไปถึงชายผู้เป็นหัวหน้า

“อ๊าก— !!” เสียงร้องอันตื่นตระหนกของคนตาขาวผู้หนึ่งซึ่งยืนในหมู่บุรุษร่างกํายําทั้งหลายที่รายล้อมอยู่นั้นดังขึ้น

ชายผู้เป็นหัวหน้าตกตะลึงกับฉากเลือดพุ่งเบื้องหน้ากระทั้งที่สุดเขาจึงรู้ตัว และรีบกระโดดหนีออกมาคว้าขวานขนาดยักษ์แหกปากร้องปาว ๆ “ผู้ใดกล้าลอบโจมตีพวกเรา ? รีบเผยตัวออกมาเดี๋ยวนี้ !

เพียงสิ้นคํากล่าว ชายผู้นั้นจึงเห็นเงาร่างเลือนลางร่างหนึ่งค่อย ๆ เคลื่อนผ่านเข้ามาในม่านหมอกขาว

คนผู้นั้นคือหนุ่มน้อยคล้ายจะมีวัยเพียง 16-17 ปี ผิวพรรณขาวกระจ่างราวหิมะ ใบหน้าโดดเด่นงดงาม ริมฝีปากแดงระเรื่อสดใสนั้นเม้มเข้าหากันเล็กน้อย ช่างประดุจดั่งดอกบัวยแดงที่กําลังปลิดปลิวอย่างเชื่องช้าลงบนผิวหิมะยามเหมันต์ เรือนผมดําขลับดังเส้นไหมเรียบลื่นทอประกายเงางามอยู่บนแผ่นหลังนั้นช่วยขับลําคองามระหงให้ยิ่งรู้สึกถึงความเนียนนุ่มละเอียด แนวโค้งของลําคอที่งดงามนำทางสายตาให้เรื่อยลงมาสู่ช่วงไหปลาร้าที่ขาวเนียนละเอียดงามปลุกเร้าจินตนาการให้ยิ่งเตลิดพลุ่งพล่าน

บุรุษผู้เป็นหัวหน้ากลืนน้ำลายเอื้อก เห็นได้ชัดว่าชายที่อยู่ตรงหน้าคือบุรุษ ทว่ากลับอึดอัดรัดแน่นหายใจติดขัด อวัยวะส่วนล่างเริ่มกระสับกระส่ายพลุ่งพล่าน ความห่อหดอันเกิดจากความตื่นกลัวฉากนองเลือดเมื่อครู่ ยามนี้กลับกลายเป็นร้อนรุ่มสะท้านไปทั่วกายยิ่งกว่าที่เคย

บ้าชะมัด ! ที่เห็นอยู่นี้คือบุรุษโดยแท้ ทว่าหนุ่มน้อยผู้นี้กลับกระตุ้นเร้าความรู้สึกได้ยิ่งไปกว่าสาวน้อยจากสํานักเมฆาแดงผู้นี้เสียอีก !

“เจ้าหนุ่ม เจ้าขวัญกล้ายิ่งนัก อยากทําตัวเป็นผู้กล้าพิทักษ์โฉมงามกระนั้น เช่นนั้นเจ้าคงอยากมาแทนที่สาวน้อยผู้นี้ให้พวกเราได้ร่วมสนุกแทนกระมัง ?”

หนุ่มน้อยปล่อยเสียงหัวเราะอย่างไม่สนใจคนผู้นั้น มุมปากที่ยกโค้งอย่างงดงามสร้างความตื่นตะลึงให้งงงัน ฝ่ามือขวาของเขายกพรึ่บขึ้นทันที

เงาสีม่วงสายหนึ่งพุ่งตรงออกไปราวกับสายฟ้าฟาด มันตรงดิ่งเข้าหาบุรุษผู้กําลังพล่ามอยู่นั้น ยังมิทันที่มันผู้นั้นจะรู้สึกตัว สายเงาสีม่วงนั้นก็ตรงเข้ารัดรอบลําคอกระชากร่างของมันผู้นั้นอย่างรุนแรงราวกับเบ็ดกระชากปลาตาย

***จบตอน เดรัจฉาน !***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

Status: Ongoing

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

เมื่อนางคือสุดยอดมือสังหารเกียรติยศระดับเหรียญทองแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ถูกส่งผ่านข้ามกาลเวลามาสู่ร่าง คุณหนูสาม น่าหลานเกอซี แห่งตระกูลแพทย์ผู้ปรุงโอสถอันลือลั่น นางผู้สิ้นดี นางผู้ถูกกลั่นแกล้งสารพัด

นางคือผู้ที่ไร้สิ้นกระแสปราณแห่งพลังจึงมิอาจโคจรฝึกฝนพลังปราณเยี่ยงผู้อื่นได้เช่นนั้นล่ะหรือ? จะต้องเกรงไปไย เมื่อนางคือยอดหมออัจฉริยะสวรรค์บันดาน แค่อาการจิ๊บจ้อยเพียงเท่านี้ ไม่พอมือนางหรอก บิดาไม่เอ็นดูข้า มารดาไม่รักข้า ทุกคนล้วนข่มเหงรเหยียบย่ำข้ากระนั้นหรือ? ฮึ่ม! เมื่อนางคือผู้ครอบครองมิติและสัตว์เวทย์ที่แข็งแกร่งอย่างไร้ผู้เทียบเทียม เช่นนี้แล้ว ไยนางต้องแสร้งทำตนเป็นคุณหนูลูกแหง่ในสกุลน่าหลานอีกเล่า!

ใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ ร่างกายที่ผ่ายผอมแลดูอมโรคนั้น หาได้มีผู้ใดต้องการมันใช่ไหม? เพียงชั่วพริบตา นางจะกระชากหน้ากากเดิมเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ทำให้บุรุษรูปงามเป็นโหลๆต้องคอยเฝ้าล้อมหน้าล้อมหลัง! หากแต่บุรุษจอมเผด็จการผู้นั้นกลับยังตามตื้อกันไม่เลิกไม่ราตั้งแต่งานประมูลเมื่อคราก่อน

ผู้ใดบอกว่าชีวิตของข้าต้องขึ้นอยู่กับเจ้ากัน? ชีวิตของข้าย่อมต้องเป็นของข้า! ข้าจะมิยอมให้ผู้ใดมากำหนดชีวิตของข้าได้!

บุรุษนิรนาม : เช่นนั้นชีวิตของข้าก็เป็นของเจ้า แล้วแต่เจ้าจะบัญชาให้เป็นไปดีไหม?

*****

ลำดับขั้นแห่งการฝึกฝนพลังปราณอันต้องอาศัยผู้ที่มีรากฐานแห่งพลังอันเนื่องด้วยกระแสจิตวิญญาณเท่านั้นจึงจะสามารถควบกลั่นโคจรพลังปราณในกายได้ ไล่เรียงลงไปตามลำดับขั้นจากขั้นพื้นฐานไปถึงขั้นสูงสุดมีทั้งหมด 9 ขั้น โดยกำลังปราณแต่ละขั้นมี 10 ระดับ

กำลังปราณขั้น 1 เมล็ดพันธุ์เพาะบ่ม กำลังปราณขั้น 2 ปฐมภูมิโลกันต์ กำลังปราณขั้น 3 พลิกผันอเวจี กำลังปราณขั้น 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน กำลังปราณขั้น 5 ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ กำลังปราณขั้น 6 เปิดม่านฟ้าดิน กำลังปราณขั้น 7 ทะลวงสิ้นโลกสาม กำลังปราณขั้น 8 ก้าวข้ามสูญญภพ กำลังปราณขั้น 9 สยบทั้งจักรวาล

ผู้แปลไม่ได้เก่งภาษาจีน เป็นการแปลจากภาษาอังกฤษ

ดังนั้นชื่อเฉพาะของบุคคลและสถานที่ต่างๆอาจผิดเพี้ยนไปต้องขออภัยอย่างยิ่งนะคะ หากท่านใดไม่เคร่งครัดเรื่องนี้ขอเชิญมาสนุกด้วยกันเลยค่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท