หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 288 พึงใจ

ตอนที่ 288 พึงใจ

ตอนที่ 288 พึงใจ

เสียงนั้นนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ สีหน้าของเกอซียังคงเรียบ เฉยนิ่งสงบ

สําหรับเกอซี แม้พลังฝีมือของนางจะไม่สูงส่งโดดเด่น ทว่าหนทางแห่งการเอาตัวรอดของนางหาได้ขึ้นกับพลังฝีมือแต่เพียงประการเดียวไม่ เมื่อนางยังคงมีพิษร้าย วิชาตัวเบา ทั้งยังมีพลังภายใน แม้นหากผู้ใดหมายพุ่งเข้าทําร้ายนางก็หาได้หวั่นเกรงหวาดกลัวต่อผู้ใดไม่

ยามนี้จิตใจของหญิงสาวสงบลงแล้ว ทั้งยังเริ่มรับรู้ได้ถึงขุมพลังปราณที่ถูกดูดกลืนจากร่างอย่างต่อเนื่องที่ดูคล้ายถูกพลังอันแข็งแกร่งหนักหน่วงกระชากกระทุ้งจุดตันเถียนภายในร่าง ให้ยินยอมปลดปล่อยพลังปราณที่เก็บกักออกมาให้สิ้น หากทว่าคลื่นพลังปราณที่ถูกบังคับให้ผ่องถ่ายออกมา กลับมิได้สร้างความผันผวนให้แก่ม่านหมอกขาวโดยรอบที่ตั้งหน้าตั้งตาดูดซับแต่ประการใด

เกอซีลองใช้ปราณเพลิงในร่างเผาผลาญม่านหมอก หากแต่กลับพบว่าเพียงพลังปราณเพลิงถูกผลักดันออกมาพ้นร่างมันกลับเลื่อนสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ยิ่งเวลาล่วงผ่านไป ปราณในร่างกลับยิ่งถูกสูบกลืนออกไปเรื่อยๆ กระทั่งเมื่อขุมพลังปราณหดหายไปถึงแปดในสิบส่วน สีหน้าของหญิงสาวกลับซีดขาวราวซากศพ

ฉับพลันนัยน์ตาของนางกลับเบิกกว้าง ภายใต้แววตานั้นฉายร่องรอยแห่งความกระจ่าง ความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมปรากฏชัด รอยยิ้มคลี่บานเผยผ่านริมฝีปาก

ด้านนอกม่านหมอกขาว ฝ่ามือที่จับกุมเส้นไหมทองของหนานกงยี่รัดแน่นขึ้น แม้ภายนอกใบหน้าของชายหนุ่มจะยังคงนิ่งสงบ หากทว่าฝ่ามือที่กําเส้นไหมอย่างแน่นเหนียวย่อมแสดงให้เห็นถึงความกระวนกระวายภายในใจอย่างยิ่งยวด

ทันใดนั้น ดวงตาที่จ้องเขม็งอยู่กับหมอกขาวเบื้องหน้าของเขาก็เปล่งประกายเงาร่างอ่อนบางสายหนึ่งค่อยๆขยับใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

รูปหน้าอันกระจ่างภายใต้แสงสุริยันท่ามกลางหมอกขาว ที่บดบังส่งให้นางประดุจดั่งเทพธิดาผู้เลอโฉมแห่งผืนปาปีศาจอสูรที่ซักพาจิตใจให้ใหลหลงดั่งต้องมนตรา ภาพที่ปรากฏประทับฝังแน่นอยู่ในใจของชายหนุ่มกระทั่งหนานกงยวี่พบว่าเขาไม่อาจปลดปล่อยตนให้เป็นอิสระจากนางได้ตลอด

เกอซีรีบกลืนโอสถเสริมพลังปราณซึ่งปรุงขึ้นด้วยทิพย์ธาราทันทีที่ก้าวข้ามม่านหมอกขาวมา ก่อนจะเริ่มหย่อนกายลงนั่งโคจรกระแสพลังเพื่อปรับคืนสภาพสมดุลย์แห่งพลังปราณ

นางค้นพบหนทางการรับมือหมอกขาวเบื้องหน้าแล้ว ทว่าสิ่งแรกจําต้องกระทํานั้นคือฟื้นคืนพลังปราณก่อนจะลองก้าวเข้าสู่ด้านในอีกครา

เพียงเม็ดโอสถเสริมพลังปราณเข้าสู่ร่าง หญิงสาวพลันรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังเย็นอันราบเรียบที่ช่านขึ้นมาจากด้านหลัง ขุมพลังนั้นค่อยๆเคลื่อนเข้าสู่ภายในกายอย่างเชื่องช้า คลื่นพลังที่หอบพาเอาความอบอุ่น และอ่อนโยนดังที่รู้สึกคุ้นชินยิ่งนักร่วมไว้ด้วย

คือหนานกงยว เขาใช้พลังปราณในกายช่วยเสริมส่งให้นางสามารถดูดซับพลังจากโอสถเสริมพลังปราณได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังช่วยกระตุ้นเร้าการออกฤทธิ์โอสถให้ส่งผลเร็วอย่างยอดเยี่ยม

หญิงสาวปิดเปลือกตาทั้งคู่เพื่อน้อมรับคลื่นพลังจากอีกฝ่ายด้วยความยินยอม จุดตันเถียนที่แห้งเหือดภายในกายค่อยๆถูกเติมเต็มขึ้นทีละน้อย มุมปากของนางคลี่ยกเผยรอยยิ้มอ่อนบาง

เมื่อช่วงเวลา 2 เค่อ ผ่านพ้นไป หญิงสาวจึงขยับกายลุกขึ้นพร้อมคํากล่าว

*1 เค่อ คือ 15 นาที 2 เค่อ คือครึ่งชั่วโมง

“ข้าจะกลับเข้าสู่หมอกขาวอีกครา”

พร้อมกันนั้นนางกวักเข็มเงินขึ้นปักลงบนจุดฝังเข็มต่างๆ บนร่างของตนก่อนจะหันกลับเข้าสู่หมอกขาวอย่างไร้อาการลังเลโดยไม่รั้งรอคําตอบรับหรือปฏิเสธจากผู้ใด

และในครานี้เกอซีล่วงเข้าสู่หมอกขาวด้วยชั่วเวลาเพียง 1เค่อ*

*1 เค่อคือ 15 นาที

หากทว่ายามเมื่อนางกลับออกมา สีหน้ากลับมีสีชมพูเปล่งปลั่ง รอยยิ้มเผยผ่านถึงดวงตา ไม่ปรากฏเช่นเดียวกับคราแรกซึ่งแลดูซีดเซียวอ่อนแอทั้งยังสิ้นสูญพลังปราณในกาย

ในคราแรก พวกหวูอวี้ยังคงสับสน ครั้นเมื่อตระหนักรู้ได้ พวกเขาต่างเบิกตากว้างจ้องนางเขม็ง “คุณชายซี ท่าน…ท่านค้นพบหนทางขจัดการสูญเสียพลังปราณแล้วกระนั้นหรือ?”

หญิงสาวผงกศีรษะพลางยกข้อมือตนตรวจจับเส้นชีพจร ก่อนจะเปล่งวาจาออกมาด้วยน้ําเสียงที่ชัดเจน “ข้าค้นพบหนทางปิดกั้นการสูญเสียพลังปราณแล้ว หากทว่าอาจกักกันพลังปราณให้คงค้างในกายได้เพียงแปดในสิบส่วนเท่านั้น ยังมี แท้จริงด้วยวิธีการนี้ย่อมสามารถเสริมพลังความแข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน หากแต่ภายใต้การสูบพลังของม่านหมอกขาวนี้ย่อมไม่อาจเก็บกักพลังไว้ได้ทั้งสิบส่วนจําต้องสูญเสียพลังออกไปดังที่กล่าว ที่สุดการหาหนทางแก้การเสียพลังอย่างสมบูรณ์จําต้องใช้เวลา ไม่อาจคิดค้นได้ในช่วงเวลาอันสั้น ผลที่ได้รับแค่เพียงพอใช้ได้!”

นี่เรียกว่าพอใช้ได้กระนั้นหรือ ? นี่มันยังไม่ถึงความพึงพอใจของท่านอีกกระนั้นหรือ? ระดับความพึงใจของท่านสูงส่งถึงเพียงนี้แล้วจะให้ผู้คนใต้หล้ามีชีวิตอยู่ได้เยี่ยงไร?!

หวูอวี้ กับชิงหลงหันมาสบตากันด้วยสีหน้าตื่นตระหนกระ คนยอมรับนับถืออย่างสุดซึ้ง พระชายาของพวกเขาจะน่าตื่นตะลึงเกินไปเสียแล้ว! ยอดฝีมือขั้นปฐพีสะท้านสะเทือน หรือกระทั่งยอดยุทธระดับย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ ล้วนไม่อาจหาหนทางจัดการกับหมอกขาวเหล่านี้ได้ ทว่าเพียงปัดมือ พระชายาของพวกเขาก็เยี่ยม่านหมอกพวกนั้นแตกกระจายได้แล้ว

จุ๊จุ๊จุ๊ สมควรยิ่งแล้วที่นางคือสตรีในดวงใจของนายท่านผู้เหนือคนของพวกเขา!

เกอซีเงยหน้าจ้องทุกคน “ หากหนึ่งในพวกท่านยอมเข้าไปลองทดสอบดูก่อนย่อมเป็นการดีเยี่ยมอย่างที่สุด ในเรื่องนี้ท่านจงวางใจ”

นางต้องการทดสอบเพื่อความมั่นใจ ด้วยหากมีผู้ซึ่งมีสรีระผิดแปลกออกไป และการฝังเข็มสกัดจุดไม่อาจปิดกั้นการไหลถ่ายเทของพลังปราณได้ย่อมกลายเป็นปัญหาใหญ่

***จบตอน พึงใจ***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

Status: Ongoing

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

เมื่อนางคือสุดยอดมือสังหารเกียรติยศระดับเหรียญทองแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ถูกส่งผ่านข้ามกาลเวลามาสู่ร่าง คุณหนูสาม น่าหลานเกอซี แห่งตระกูลแพทย์ผู้ปรุงโอสถอันลือลั่น นางผู้สิ้นดี นางผู้ถูกกลั่นแกล้งสารพัด

นางคือผู้ที่ไร้สิ้นกระแสปราณแห่งพลังจึงมิอาจโคจรฝึกฝนพลังปราณเยี่ยงผู้อื่นได้เช่นนั้นล่ะหรือ? จะต้องเกรงไปไย เมื่อนางคือยอดหมออัจฉริยะสวรรค์บันดาน แค่อาการจิ๊บจ้อยเพียงเท่านี้ ไม่พอมือนางหรอก บิดาไม่เอ็นดูข้า มารดาไม่รักข้า ทุกคนล้วนข่มเหงรเหยียบย่ำข้ากระนั้นหรือ? ฮึ่ม! เมื่อนางคือผู้ครอบครองมิติและสัตว์เวทย์ที่แข็งแกร่งอย่างไร้ผู้เทียบเทียม เช่นนี้แล้ว ไยนางต้องแสร้งทำตนเป็นคุณหนูลูกแหง่ในสกุลน่าหลานอีกเล่า!

ใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ ร่างกายที่ผ่ายผอมแลดูอมโรคนั้น หาได้มีผู้ใดต้องการมันใช่ไหม? เพียงชั่วพริบตา นางจะกระชากหน้ากากเดิมเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ทำให้บุรุษรูปงามเป็นโหลๆต้องคอยเฝ้าล้อมหน้าล้อมหลัง! หากแต่บุรุษจอมเผด็จการผู้นั้นกลับยังตามตื้อกันไม่เลิกไม่ราตั้งแต่งานประมูลเมื่อคราก่อน

ผู้ใดบอกว่าชีวิตของข้าต้องขึ้นอยู่กับเจ้ากัน? ชีวิตของข้าย่อมต้องเป็นของข้า! ข้าจะมิยอมให้ผู้ใดมากำหนดชีวิตของข้าได้!

บุรุษนิรนาม : เช่นนั้นชีวิตของข้าก็เป็นของเจ้า แล้วแต่เจ้าจะบัญชาให้เป็นไปดีไหม?

*****

ลำดับขั้นแห่งการฝึกฝนพลังปราณอันต้องอาศัยผู้ที่มีรากฐานแห่งพลังอันเนื่องด้วยกระแสจิตวิญญาณเท่านั้นจึงจะสามารถควบกลั่นโคจรพลังปราณในกายได้ ไล่เรียงลงไปตามลำดับขั้นจากขั้นพื้นฐานไปถึงขั้นสูงสุดมีทั้งหมด 9 ขั้น โดยกำลังปราณแต่ละขั้นมี 10 ระดับ

กำลังปราณขั้น 1 เมล็ดพันธุ์เพาะบ่ม กำลังปราณขั้น 2 ปฐมภูมิโลกันต์ กำลังปราณขั้น 3 พลิกผันอเวจี กำลังปราณขั้น 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน กำลังปราณขั้น 5 ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ กำลังปราณขั้น 6 เปิดม่านฟ้าดิน กำลังปราณขั้น 7 ทะลวงสิ้นโลกสาม กำลังปราณขั้น 8 ก้าวข้ามสูญญภพ กำลังปราณขั้น 9 สยบทั้งจักรวาล

ผู้แปลไม่ได้เก่งภาษาจีน เป็นการแปลจากภาษาอังกฤษ

ดังนั้นชื่อเฉพาะของบุคคลและสถานที่ต่างๆอาจผิดเพี้ยนไปต้องขออภัยอย่างยิ่งนะคะ หากท่านใดไม่เคร่งครัดเรื่องนี้ขอเชิญมาสนุกด้วยกันเลยค่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท