หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 304 เหยื่อ

ตอนที่ 304 เหยื่อ

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 304 เหยื่อ

เฟิ่งอวิ๋นจึงไม่หันกลับมองเฟิ่งเหลียนอิ่ง หากทว่าสายตาคู่นั้นกลับจ้องนิ่งอย่างเย็นชาอยู่กับเกอซี ขณะน้ำเสียงของเขาก้องผ่านหูขึ้นอีกครา “ในเรื่องนี้ เจ้าย่อมไม่มีหนทางเลือกอื่นใด เจ้าต้องไม่พบเจอหนานกงยวี่อีกต่อไป ทั้งย่อมต้องช่วยข้าสลายม่านอาคม หาไม่…”

“หากข้าไม่ตกลงเล่า ?”

สีหน้าเฟิ่งอวิ๋นจึงหมองคล้ำในทันที่ ฝ่ามือกว้างตรงเข้าคว้าปลายคางเกอซี บีบบังคับให้นางแหงนเงยหน้าขึ้นจ้องสบตา ขณะคํากล่าวติดน้ำเสียงดูแคลนเผยขึ้น

“เจ้าใช้ใบหน้านี้ทําให้หนานกงยวี่หลงใหลเคลิบเคลิ้มกระนั้นหรือ ? ข้าย่อมเห็นได้ชัดว่ามันดึงดูดความรู้สึกอย่างแท้จริง ทว่าหากหนานกงยวี่ล่วงรู้ว่าเจ้ากลับกลายเป็นหนึ่งในคนของข้า เช่นนั้นแล้ว เขายังจะต้องการเจ้าอีกหรือ ไม่…โอะ !!!”

ฝ่ามือของเฟิ่งอวิ๋นจึงพลันถอนออกจากปลายคางของเกอซีอย่างฉับพลัน สีหน้าของเขาซีดเผือด ฝ่าเท้ากระถดถอยกลับ ก่อนฝ่ามือของเขาจะค่อย ๆ ยกขึ้นสัมผัสติ่งหูอย่างเชื่องช้า

เกินความคาดหมายเมื่ออุ้งมือนั้นรับรู้ได้ถึงความเย็นแฉะขึ้น ก่อนความตระหนักรู้จะแจ่มแจ้งภายในใจว่านั่นคือ สายโลหิต

อายพิฆาตเข้มข้นฉายผ่านม่านนัยน์ตาของเกอซี เถาวัลย์หนาสีม่วงพุ่งขึ้นจากด้านหลังประดุจฝืนม่านที่ปกคลุมแผ่นฟ้า กําเนิดม่านปราการปกป้องอันน่าสะพรึงอยู่เบื้องหลัง

“อาจยังมีหนทางเลือกอื่น นั่นคือ พวกเจ้าทั้งหมดต้องตาย !!”

น้ำเสียงของนางแฝงไว้ด้วยความคับแค้นเกรี้ยวกราดที่สร้างความเหน็บหนาวจนถึงขั้วกระดูก ความเดือดดาลขับส่งให้ดวงหน้าขาวเนียนแปรเปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อดั่งดอกท้อที่เบ่งบาน กลับกลายเป็นการเสริมส่งความงดงามให้ดวงหน้านั้นสามารถฉุดกระชากวิญญาณผู้คนได้อย่างง่ายดายเหนือความคาดหมาย

นัยน์ตาของเฟิ่งอวิ๋นจึงทอประกายวาววับ รอยแย้มยิ้มบนดวงหน้าปนเปื้อนด้วยความคลุมเครืออย่างร้ายกาจแฝงไว้ด้วยความจองหองอหังการที่ฉาบทาอยู่บนธรรมชาติ แห่งความก้าวร้าวดุดัน บ่งชัดถึงความตื่นเต้นเมื่อพบสิ่งท้าทาย “เยี่ยม ! เหยื่อที่สามารถเล็ดรอดจากมือข้าล้วนยังไม่เคยปรากฏ ซีเยว่ ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะทําสําเร็จหรือไม่”

ผืนธงสีน้ำเงินเข้มลอยทะยานขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะตรงเข้าพัวพันเถาวัลย์หนาสีม่วง แสดงให้เห็นชัดว่าพวกมันทั้งคู่ล้วนคือสิ่งซึ่งมีพลังเทียบเคียงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

กระบี่ยาวปรากฏขึ้นในฝ่ามือของเกอซี ที่ปลายกระบี่ เงาสายคมกระบี่จํานวนนับไม่ถ้วนระเบิดพวยพุ่งตรงเข้าหุ้มห่อร่างของเฟิ่งอวิ๋นนิ่ง

นับเป็นเคล็ดวิชากระบี่ที่งดงามเสมือนหนึ่งภาพมายาที่คนผู้หนึ่งต้องทุ่มเทแรงพลังทั้งหมดในกายเพื่อจรรโลงสร้างสรรค์ หากแต่กลับไม่ปรากฏคลื่นพลังปราณที่ผันผวนพลุ่งพล่าน ทว่ากลับปรากฏความงดงามดังการร่ายรําที่แสนวิจิตรเพริศแพร้วสูงสง่าอย่างมิอาจเพิกถอนสายตา

เพียงครู่ทั่วท้องนภากลับแปรเปลี่ยน ม่านเมฆา กลุ่มควันหมอกแผ่กระจายกว้างปกคลุมแสงตะวัน

เฟิ่งอวิ๋นจึงเคลื่อนกายเลี่ยงหลบการโจมตีจากฝนกระบี่สัมผัสแห่งความประหลาดใจระคนชื่นชมฉายผ่านแววตาของเขาวูบหนึ่ง ร่างของชายหนุ่มพลันเปล่งรัศมีแสงสี แดงขึ้นในฉับพลัน พร้อมกันนั้นคือสุ่มเสียงที่ดังกึกก้องสะท้อนทั่วท้องนภา สั่นสะเทือนแก้วหูของเกอซี “น่าเสียดายยิ่ง ทว่าหากข้าปล่อยให้เจ้ายังคงดําเนินไปในหมอกขาวเช่นนี้ อาจเป็นได้ที่กระทั่งตัวข้าย่อมไม่อาจหยุดยั้งเจ้าได้ เช่นนั้นในยามนี้ ย่อมถึงคราวที่เจ้าจะต้องตกเป็นเหยื่อของข้า ซีเยว่ !”

ทันทีที่สิ้นสุดวาจา พลังแสงสีแดงรอบกายของเขาพลันทวีความรุนแรงอย่างท่วมท้นประหนึ่งหยาดโลหิตที่ถูกหลอมกลั่นรวมตัวอย่างเข้มข้นก่อนขุมพลังนั้นจะเคลื่อนตรงเข้าหาเกอซีอย่างรวดเร็ว

ห้วงบรรยากาศที่กลั่นตัวสว่างไสวโชติช่วง ส่งให้หญิงสาวละล้าละลัง ความตื่นตระหนกฉายผ่านทางสีหน้า

เห็นได้ชัดว่าในห้วงบรรยากาศตรงหน้าล้วนไม่ปรากฏขุมพลังปราณ ทว่าเพียงมันตรงเข้าสัมผัสร่าง เรี่ยวแรงในกายของเกอซีกลับถูกสูบกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว

เพียงครู่เกอซีกลับมิอาจ กระทั่งหยิบยกกระบี่ เสียง “เคร้ง” ดังขึ้นเมื่อด้ามกระบี่ร่วงหล่นกระทบพื้น

สีหน้าของเกอซีกลับกลายเป็นซีดเซียวราวซากศพ ฝ่าเท้าทั้งสองซวนเซคล้ายพร้อมจะทรุดร่วงมุมปากของเฟิ่งอวิ๋นจึงยกโค้งขึ้นด้วยรอยยิ้มอันเหี้ยมเกรียม เขาเหยียดท่อนแขนยาวหมายจะรั้งนางเข้าสวมกอด

หากทว่าผู้ใดจะคาดคิดว่า ช่วงเสี้ยวนาทีที่เขาเหยียดยืนท่อนแขนออกไป ชายหนุ่มกลับต้องประหลาดใจ

แม้ร่างของเฟิ่งอวิ๋นจึงจะล่าถอยกลับฉับพลัน กระนั้นยังไม่อาจเลี่ยงหลบคมกระบี่อันเปี่ยมอานุภาพร้ายกาจที่หล่อหลอมขึ้นด้วยอายสังหารอันแรงกล้านั้นได้ ผลที่สุดแขนเสื้อของเขาถูกกรีด รอยแผลน่าสะพรึงปรากฏขึ้นบนท่อนแขนกํายํา

เรือนกายของเกอซียามนี้อยู่ในสภาพที่ด้านชาไร้ความรู้สึก ทว่าแทนที่ร่างของนางจะถลาลงสู่ผืนธรณี กลับร่วงทรุดลงในอ้อมอกอันอบอุ่นของคนผู้หนึ่ง

กลิ่นอายอันคุ้นเคยถาโถมเข้าสู่โพรงจมูก คล้ายที่สุดนางก็ถึงถิ่นที่ปลอดภัย สถานพักพิงที่นางถวิลหาด้วยความคาดหวังอันเปี่ยมล้น

มิอาจทราบว่าด้วยเหตุใด เกอซีจึงรู้สึกคันยุบยิบที่ปลายจมูก ยามเมื่อนางเอ่ยเรียกนามคนผู้นั้นด้วยน้ำเสียงอ่อนบาง “หนานกงยวี่”

หนานกงยวี่จับกุมลาดไหล่ทั้งสองของหญิงสาวพลางสํารวจตรวจตราอาการบาดเจ็บทั่วร่างทุกตารางนิ้ว

ฝ่ามือที่สัมผัสร่างของเกอซีผ่าวร้อนจนแทบลวก ทว่าขณะเดียวกันก็กลับไหวสะท้านเผยให้เห็นถึงความตื่นตระหนกภายในใจของผู้เป็นเจ้าของ

***จบตอน เหยื่อ***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

Status: Ongoing

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

เมื่อนางคือสุดยอดมือสังหารเกียรติยศระดับเหรียญทองแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ถูกส่งผ่านข้ามกาลเวลามาสู่ร่าง คุณหนูสาม น่าหลานเกอซี แห่งตระกูลแพทย์ผู้ปรุงโอสถอันลือลั่น นางผู้สิ้นดี นางผู้ถูกกลั่นแกล้งสารพัด

นางคือผู้ที่ไร้สิ้นกระแสปราณแห่งพลังจึงมิอาจโคจรฝึกฝนพลังปราณเยี่ยงผู้อื่นได้เช่นนั้นล่ะหรือ? จะต้องเกรงไปไย เมื่อนางคือยอดหมออัจฉริยะสวรรค์บันดาน แค่อาการจิ๊บจ้อยเพียงเท่านี้ ไม่พอมือนางหรอก บิดาไม่เอ็นดูข้า มารดาไม่รักข้า ทุกคนล้วนข่มเหงรเหยียบย่ำข้ากระนั้นหรือ? ฮึ่ม! เมื่อนางคือผู้ครอบครองมิติและสัตว์เวทย์ที่แข็งแกร่งอย่างไร้ผู้เทียบเทียม เช่นนี้แล้ว ไยนางต้องแสร้งทำตนเป็นคุณหนูลูกแหง่ในสกุลน่าหลานอีกเล่า!

ใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ ร่างกายที่ผ่ายผอมแลดูอมโรคนั้น หาได้มีผู้ใดต้องการมันใช่ไหม? เพียงชั่วพริบตา นางจะกระชากหน้ากากเดิมเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ทำให้บุรุษรูปงามเป็นโหลๆต้องคอยเฝ้าล้อมหน้าล้อมหลัง! หากแต่บุรุษจอมเผด็จการผู้นั้นกลับยังตามตื้อกันไม่เลิกไม่ราตั้งแต่งานประมูลเมื่อคราก่อน

ผู้ใดบอกว่าชีวิตของข้าต้องขึ้นอยู่กับเจ้ากัน? ชีวิตของข้าย่อมต้องเป็นของข้า! ข้าจะมิยอมให้ผู้ใดมากำหนดชีวิตของข้าได้!

บุรุษนิรนาม : เช่นนั้นชีวิตของข้าก็เป็นของเจ้า แล้วแต่เจ้าจะบัญชาให้เป็นไปดีไหม?

*****

ลำดับขั้นแห่งการฝึกฝนพลังปราณอันต้องอาศัยผู้ที่มีรากฐานแห่งพลังอันเนื่องด้วยกระแสจิตวิญญาณเท่านั้นจึงจะสามารถควบกลั่นโคจรพลังปราณในกายได้ ไล่เรียงลงไปตามลำดับขั้นจากขั้นพื้นฐานไปถึงขั้นสูงสุดมีทั้งหมด 9 ขั้น โดยกำลังปราณแต่ละขั้นมี 10 ระดับ

กำลังปราณขั้น 1 เมล็ดพันธุ์เพาะบ่ม กำลังปราณขั้น 2 ปฐมภูมิโลกันต์ กำลังปราณขั้น 3 พลิกผันอเวจี กำลังปราณขั้น 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน กำลังปราณขั้น 5 ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ กำลังปราณขั้น 6 เปิดม่านฟ้าดิน กำลังปราณขั้น 7 ทะลวงสิ้นโลกสาม กำลังปราณขั้น 8 ก้าวข้ามสูญญภพ กำลังปราณขั้น 9 สยบทั้งจักรวาล

ผู้แปลไม่ได้เก่งภาษาจีน เป็นการแปลจากภาษาอังกฤษ

ดังนั้นชื่อเฉพาะของบุคคลและสถานที่ต่างๆอาจผิดเพี้ยนไปต้องขออภัยอย่างยิ่งนะคะ หากท่านใดไม่เคร่งครัดเรื่องนี้ขอเชิญมาสนุกด้วยกันเลยค่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท