หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 306 เพียงคําเตือน

ตอนที่ 306 เพียงคําเตือน

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 306 เพียงคําเตือน

บุรุษผู้นี้ดูหมิ่นเกอซีคราแล้วคราเล่า กระทั่งทําให้นางโกรธเกรียวถึงระดับหมายแตกทําลายร่างนั้นออกเป็นเสียง

เพราะความเกรี้ยวกราด นัยน์ตาทั้งสองจึงส่งประกายแวววาวดั่งดวงดารา ขณะริมฝีปากที่อ่อนนุ่มกลับแดงระเรื่อดัง กลีบกุหลาบผิวพรรณนวลผ่องเนียนละเอียดกระจ่างที่แทบ จะโปร่งใสราวเนื้อหยกยิ่งขับเน้นสีแดงเข้มดั่งกลีบดอกท้อให้งดงามเย้ายวนตา

ความงดงามที่สั่นสะเทือนโลกหล้า เหนือเด่นกว่าทุกสรรพสิ่ง พ้นวิสัยที่จะหักห้ามจิตใจมิให้ถวิลหา

ยิ่งได้เห็นความงดงามที่เผยประจักษ์เบื้องหน้าเพิ่งอวิ่นนิ่งก็ยิ่งคลุ้มคลั่ง แรงปรารถนาหมายจะกักเก็บหนุ่มน้อยเบื้องหน้าให้เบ่งบานภายในใจเขาแต่เพียงผู้เดียวไม่ แบ่งปันให้แก่ผู้ใดกลับยิ่งเข้มข้น

เขาต้องการคนผู้นี้ !

เถาวัลย์ม่วงอเวจีในมือเกอซีสันไหวอย่างรุนแรงประ ดุจมันไม่อาจต้านทานนิ่งเฉยอีกต่อไป

หากทว่าหนายกงยวกลับรวดเร็วยิ่งกว่า กระบีดําด้าม ยาวปรากฏขึ้นในมือ คมกระบี่ที่ทั้งคมและเชือดเฉือนชี้หน้า เฟงอวิ่นจึง

แม้รอยยิ้มแสนสุภาพ และทรงเกียรติยังคงประดับอยู่ บนดวงหน้า หากทว่าในแววตาของเขากลับเย็นยะเยียบดัง มันกําลังช่วยตอกย้ําความรู้สึกว่ายามนี้เขามุ่งหมายใจจะฉีกร่างบุรุษเบื้องหน้าให้แหลกเป็นเสี่ยง ๆ

“เฟงอวิ่นนิ่ง เจ้าลืมไปแล้วกระนั้นหรือ ? เมื่อพ้นเขต อาณาจักรกําบังเจ้าล้วนมิใช่คู่ฝีมือข้า !”

เขาเว้นช่วงไปครู่หนึ่ง มุมปากยกโค้งขึ้นสู่รอยยิ้มที่สุภาพอ่อนโยนยิ่งกว่าเคยหากทว่ากลับมอบความรู้สึกถึงอายกระหายโลหิตที่คั่งขันถึงระดับที่สามารถทําให้ทุกผู้คนต้องขนหัว ลุกด้วยความตื่นผวา “ในอาคมริ้วเมฆาแห่งนี้ พลังฝีมือเจ้าย่อมนับว่าไร้ค่า หากข้าปรารถนาชีวิตเจ้า ล้วนง่ายดายดั่ง พลิกฝ่ามือ”

พร้อมถ้อยวาจานั้น อายรังสีสีเขียวเจิดจ้าที่สามารถส่ง นัยน์ตามืดบอดไปชั่วขณะพลันระเบิดออกจากร่างของห นานกงยวี ก่อนร่างนั้นจะเลือนหายไปจากตําแหน่งที่เคยหยุ ดยืน

“ร่าง ร่างกลั่นสายโลหิตขั้นสี่ 1” ศิษย์สํานักหลิวหลีผู้ห นึ่งอดมิได้ที่จะเปล่งเสียงร้องคํารามออกมาด้วยความหวาดผวา “องค์ราชันมัจจุราชคือผู้มีพลังฝีมือสูงส่งไร้ผู้เทียบเทียมอยู่แล้วมิใช่หรือ ?! เหตุใด… เหตุใดจึงเป็นผู้ฝึกยุทธซึ่งมีร่างกลั่นสายโลหิตด้วยเล่า ? !!!”

กว่าล้านปีมาแล้วที่ใต้หล้าไม่ปรากฏผู้มีพลังฝี มือสองจิตวิญญาณในร่างเดียว !!

ที่สุดแล้ว ขอบเขตพลังความแข็งแกร่งที่แท้จริงขององค์ ราชันมัจจุราชนั้นล้ําลึกเพียงใดกัน ?!

ความตื่นตกใจถาโถมเข้าใส่เพิ่งอลิ้นจึงเช่นกัน เขารีบก ระถดถอยกลับหลังตั้งหลักเพื่อรวบรวมกระแสพลังปราณใน กายกลั่นอาวุธต่อสู้ทุกชนิดที่สามารถสร้างได้ขึ้นในฝ่ามือ

หากทว่ากระบี่ยาวในมือของหนานกงยวนั้นรวดเร็ว เด็ดขาด ทั้งยังเหี้ยมโหดไร้ความปรานียิ่งไปกว่า

ปลายกระบี่พุ่งตรงเข้าหาตําแหน่งที่เพิ่งออิ่นจึงยืนอยู่ ยังมิทันที่เขาจะถ่ายเทกระแสพลังปราณอาบลงสู่อาวุธเวท พวกมันทั้งหมดกลับพลันร่วงหล่นส่งเสียงกระแทกกันดังบาดแก้วหูบนแผ่นพื้น

ที่สุดนัยน์ตาของเฟงอวิ่นจึงพลันไม่เผยให้เห็นถึงความนตระหนกแม้เพียงเล็กน้อย

ทว่าเพียงเขากําลังจะปริปากเอ่ยกล่าวบางสิ่ง ขุมพลังงานอันแข็งกร้าวที่ยิ่งใหญ่ก็ตรงเข้าโอบล้อมร่างของเขา กระทั่งยามนี้สีหน้าของเฟงอวิ่นจึงซีดขาวราวซากศพ ลําคอถูกกั้นขวางไม่อาจแม้เพียงเปล่งเสียงร้อง

หากยามนี้พวกเขาอยู่นอกขอบเขตริ้วอาคมเมฆา เขาไม่เชื่อว่าเขาจะพ่ายให้แก่หนานกงยว

ยังมี เมื่ออาวุธเวทอันร้ายกาจทั้งมวลล้วนอยู่ในมือของตระกูลเฟิง เช่นนั้นย่อมไม่ง่ายหากหนานกงยี่หมายจะพิชิตเขา

ทว่าท่ามกลางสายริ้วเมฆาที่สูบกลืนพลังจิตวิญญาณของทุกผู้คนมิให้เหลือแม้เพียงหยดน้อย ทิ้งไว้เพียงเศษพลัง งานกระจิดริดแก่อาวุธเวทตัดทอนกําลังอานุภาพแห่งอาวุธ เวททั้งหลายให้อยู่ในสภาพเศษเหล็กกระทั่งตัวเขายังดึงพลังมาใช้ได้ไม่ถึงหนึ่งในสิบส่วนด้วยซ้ํา

ใบหน้าของเฟงอวิ่นจึงแปรเปลี่ยนสีไปอย่างน่ากลัว เขาชําเลืองมองมาทางเกอซีผู้เฝ้าดูในระยะประชิดใกล้

ความตื่นตระหนกระคนเคืองแค้น ผนวกเข้ากับแรงยึดปลุกตนให้ต่อสู้พลันลุกโชนขึ้นในใจ เขาไม่ต้องการจะเสียหน้าต่อหน้าหนุ่มน้อยผู้นั้น !

เมื่อได้เห็นฝีมือกระบี่อันร้ายกาจของหนานกงยว เนียนจินเฉินผู้ยืนตะลึงค้างเป็นไก่ตาแตกมาตลอดพลันรู้สึกตัวจึงรีบร้องตะโกน “หนานางยว โปรดออมมือด้วย !”

ทว่าอีกฝ่ายคล้ายจะไม่ได้ยินคํากล่าวนั้น

กระบี่ด้ามยาวที่ร้ายกาจพลันพุ่งจู่โจมตรงเข้าแทงหัวไหล่ซ้ายของเฟงอวินจิงอย่างหนักหน่วง แม้จะพลาดตําแหน่งหัวใจ ทว่าย่อมคงปั้นตําแหน่งที่อันตรายและน่าหวาดผวา

ภายในม่านหมอกขาวพลันเงียบสงัดดังปาช้า

เสียงปลายกระบี่เสียบทะลุเลือดเนื้อยังคงดังก้องสะ ท้อนในโสตประสาททุกผู้คนในที่นั้น

ไม่มีผู้ใดไม่หวาดหวั่นครั่นคร้ามต่อพลังความแข็งแกร่ง ค วามเหี้ยมโหด และเฉียบขาดขององค์ราชันมัจจุราชเพียงครูบรรดายอดฝีมือทั้งหลายต่างปิดปากเงียบสนิทด้วยความ หวาดกลัว

หนานกงยวถอนกระบีดําในมือ น้ําเสียงที่เย็นชาก้องกังวา นชัด “ ครานี้เพียงคําเตือน ทว่าคราหน้า เจ้าจะไม่โชคดีเช่นนี้อีก !”

***จบตอน เพียงคําเตือน***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

Status: Ongoing

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

เมื่อนางคือสุดยอดมือสังหารเกียรติยศระดับเหรียญทองแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ถูกส่งผ่านข้ามกาลเวลามาสู่ร่าง คุณหนูสาม น่าหลานเกอซี แห่งตระกูลแพทย์ผู้ปรุงโอสถอันลือลั่น นางผู้สิ้นดี นางผู้ถูกกลั่นแกล้งสารพัด

นางคือผู้ที่ไร้สิ้นกระแสปราณแห่งพลังจึงมิอาจโคจรฝึกฝนพลังปราณเยี่ยงผู้อื่นได้เช่นนั้นล่ะหรือ? จะต้องเกรงไปไย เมื่อนางคือยอดหมออัจฉริยะสวรรค์บันดาน แค่อาการจิ๊บจ้อยเพียงเท่านี้ ไม่พอมือนางหรอก บิดาไม่เอ็นดูข้า มารดาไม่รักข้า ทุกคนล้วนข่มเหงรเหยียบย่ำข้ากระนั้นหรือ? ฮึ่ม! เมื่อนางคือผู้ครอบครองมิติและสัตว์เวทย์ที่แข็งแกร่งอย่างไร้ผู้เทียบเทียม เช่นนี้แล้ว ไยนางต้องแสร้งทำตนเป็นคุณหนูลูกแหง่ในสกุลน่าหลานอีกเล่า!

ใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ ร่างกายที่ผ่ายผอมแลดูอมโรคนั้น หาได้มีผู้ใดต้องการมันใช่ไหม? เพียงชั่วพริบตา นางจะกระชากหน้ากากเดิมเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ทำให้บุรุษรูปงามเป็นโหลๆต้องคอยเฝ้าล้อมหน้าล้อมหลัง! หากแต่บุรุษจอมเผด็จการผู้นั้นกลับยังตามตื้อกันไม่เลิกไม่ราตั้งแต่งานประมูลเมื่อคราก่อน

ผู้ใดบอกว่าชีวิตของข้าต้องขึ้นอยู่กับเจ้ากัน? ชีวิตของข้าย่อมต้องเป็นของข้า! ข้าจะมิยอมให้ผู้ใดมากำหนดชีวิตของข้าได้!

บุรุษนิรนาม : เช่นนั้นชีวิตของข้าก็เป็นของเจ้า แล้วแต่เจ้าจะบัญชาให้เป็นไปดีไหม?

*****

ลำดับขั้นแห่งการฝึกฝนพลังปราณอันต้องอาศัยผู้ที่มีรากฐานแห่งพลังอันเนื่องด้วยกระแสจิตวิญญาณเท่านั้นจึงจะสามารถควบกลั่นโคจรพลังปราณในกายได้ ไล่เรียงลงไปตามลำดับขั้นจากขั้นพื้นฐานไปถึงขั้นสูงสุดมีทั้งหมด 9 ขั้น โดยกำลังปราณแต่ละขั้นมี 10 ระดับ

กำลังปราณขั้น 1 เมล็ดพันธุ์เพาะบ่ม กำลังปราณขั้น 2 ปฐมภูมิโลกันต์ กำลังปราณขั้น 3 พลิกผันอเวจี กำลังปราณขั้น 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน กำลังปราณขั้น 5 ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ กำลังปราณขั้น 6 เปิดม่านฟ้าดิน กำลังปราณขั้น 7 ทะลวงสิ้นโลกสาม กำลังปราณขั้น 8 ก้าวข้ามสูญญภพ กำลังปราณขั้น 9 สยบทั้งจักรวาล

ผู้แปลไม่ได้เก่งภาษาจีน เป็นการแปลจากภาษาอังกฤษ

ดังนั้นชื่อเฉพาะของบุคคลและสถานที่ต่างๆอาจผิดเพี้ยนไปต้องขออภัยอย่างยิ่งนะคะ หากท่านใดไม่เคร่งครัดเรื่องนี้ขอเชิญมาสนุกด้วยกันเลยค่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท