หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 335 ผลพวงท่ามกลางหายนะ
เมื่อเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายได้เห็นจุดจบอันน่าอนาถของมู่หรงจางฟง และมู่หรงฮาย พวกมันทั้งหมดพลันเกิดความคิดว่าพิษในร่างของตนพร้อมจะกําเริบขึ้นได้ทุกเมื่อ เช่นนี้มีหรือที่พวกมันจะยังลังเล เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายล้วนพุ่งกรูเข้าหาเกอซีประหนึ่งฝูงแมลงผึ้ง พวกมันล้วนร่ําร้องขอความช่วยเหลือจากนาง
ขอแจ้งแก่ท่านทั้งหลายด้วยความสัตย์จริง เกอซีไม่เคยมีใจคิดเมตตาผู้คนเหล่านี้แม้เพียงน้อย หากทว่าเมื่อได้เห็นฝูงชนผู้น่าสังเวช ร่ําไห้โอดครวญขอความช่วยเหลือเช่นนี้ ความคิดจะปลดเปลื้องเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายจากความทุกข์ยากพลันผุดขึ้นในใจของนาง หากทว่าหญิงสาวยังคงนิ่งเฉยไม่เคลื่อนไหว น้ําเสียงเย็นเยียบเอ่ยกล่าวออกไป “หากพวกเจ้าอยากให้ข้าช่วยเหลือล้วนย่อมเป็นไปได้! เพียงทว่า ข้า! หมอซี จะทําการรักษาตามกระบวนการที่ข้าได้
กระทําไปก่อนหน้า ผู้ใดที่ข้ารู้สึกพึงพอใจล้วนสามารถได้รับการเยียวยารักษาโดยไม่มีค่าตอบแทน ส่วนผู้ใดที่เกะกะขวางหูขวางตาข้า แม้จะหยิบยื่นตําลึงทองให้ข้าถึงสิบล้าน ข้าก็จะไม่มอบการรักษาให้แก่มันผู้นั้น !”
“ทว่าหากพวกเจ้านําของมีค่าที่สะดุดนัยน์ตาข้าออกมาได้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะคือเม็ดโอสถ หรือสิ่งล้ําค่าหายากใดๆ ล้วนสามารถใช้สมบัติหนึ่งชิ้นแลกหนึ่งชีวิต ! หาไม่ ก็ไม่จําเป็นต้องกล่าวให้มากความ
สิ้นสุดคํากล่าวของเกอซี พวกมันทั้งหมดล้วนหันมามองหน้ากันเลิกลักด้วยความหวาดกลัว เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายล้วนพากันนิ่งเงียบอยู่นาน
ผ่านไปครู่ใหญ่ คนผู้หนึ่งจึงอดอ้อมแอ้มเอ่ยปากออกมามิได้ “ผู้ที่เป็นหมอ มิใช่ควรช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์กระนั้นหรือ ? เหตุใด…เหตุใดท่านจึงแบ่งแยกช่วยเหลือตามความพอใจเช่นนี้เล่า ?”
เกอซีหันไปส่งสายตาเฉื่อยเนือยให้หวูอวี้ ชายหนุ่มก้าวออกมา พร้อมเสียงเย้ยหยันขณะโบกพัดในมือ “เทพธิดาบัวเยือกแข็งหาใช่ผู้ที่แบ่งแยกการช่วยเหลือไม่ นางพร้อมยินดีมอบการรักษาให้พวกเจ้าทุกคนโดยไม่รับค่าตอบแทน เหตุใดพวกเจ้าไม่ไปขอให้นางช่วยรักษากันเล่า?”
เพียงถ้อยคําเหล่านั้นถูกเอ่ยกล่าวออกมา สีหน้ายอดยุทธทั้งหลายพลันซีดเผือด ไม่เหลือผู้ใดกล้าต่อปากต่อคําอีกต่อไป
เมื่อครู่เทพธิดาบัวเยือกแข็งมอบการรักษาให้แก่ทุกคนโดยไม่คิด ค่าตอบแทนทว่าผลที่สุดเป็นอย่างไรเล่า? ที่พวกเขาได้เห็นคือสองร่างที่ระเบิดเป็นจุณก่อนจะแปรสภาพเป็นบ่อโลหิตที่น่าสยดสยอง
ทั้งเทพธิดาจิตใจหยาบช้าผู้นั้น แม้จะไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทนแต่ประการใดก็จริง หากทว่ากลับมอบโอสถถอนพิษให้เฉพาะเพียงกลุ่มผู้ดีมีสกุล และผู้ที่มาจากตระกูลที่มีฐานะเท่านั้น หากจะกล่าวไป การกระทําเยี่ยงนี้แตกต่างจากการเรียกร้องค่าตอบแทนอย่างไรได้ ? อาจบางที หนุ่มน้อยผู้ยืนอยู่เบื้องหน้าพวกเขานี้อาจกลับกลายเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมยิ่งไปกว่า
เกอซีเริ่มระอากับการต้องอยู่รั้งรอกลุ่มคนปากมากเหล่านี้ นางเดินเข้าไปหาหวูอวี้ “เรื่องนี้มอบหมายให้เป็นหน้าที่เจ้า ทั้งเจ้า ย่อมสมควรได้รับส่วนแบ่งด้วยเช่นกัน…”
“เรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้ คุณชายซีโปรดวางใจ ผู้น้อยจะจัดการดูแลให้เรียบร้อย” ยังมิทันที่เกอซีจะกล่าวจบ สองตาของหวูอวี้ก็ทอประกายฉายความตื่นเต้นออกมาเสียแล้ว “ขอเพียงได้ลิ้มลองยอดอาหารอันโอชะของท่านอีก แม้ต้องบุกน้ําลุยเพลิงข้าก็ไม่เคยนึกหวั่น”
ใบหน้าของหญิงสาวกระตุกกึก หวูอวี้ ผู้นี้ช่างควรค่าแก่ฉายาหวูอวี้จอมตะกละเสียจริง เขาสามารถละทิ้งสมบัติล้ําค่าเพียงเพื่อปลายลิ้นโดยแท้
เมื่อได้รับการผงกศีรษะตอบรับของเกอซี ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกตื่นเต้นยินดี เขาจะไม่ยอมให้ผู้ใดเล็ดลอดเอื้อมมืออํามหิตของตนไปได้
และด้วยความช่วยเหลือจากกู้หลิวเฟิง นายใหญ่แห่งโรงโอสถเชิงเต๋อ ความร้ายกาจทารุณของสองบุรุษจึงกลับยิ่งเพิ่มเป็นพันทวี และย่อมเป็นเหตุให้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายโกรธเกรี้ยวเดือดดาล
“ก็อย่างที่ข้าบอกอย่างไรเล่า หากนําเม็ดโอสถระดับสามของข้า ไปแลกล้วนสามารถได้หินผลึกหลายแสนก้อน ทว่านี่กลับยังไม่เพียงพอจะทําการรักษา เช่นนี้มันไม่น่าชังจนเกินไปกระนั้นหรือ ?”
“การกระทําของพวกเจ้า ล้วนคือการกอบโกยผลประโยชน์จากคราวเคราะห์ของผู้อื่น สิ่งนี้ล้วนหาใช่การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไม่ จรรยาแพทย์ของพวกเจ้าไปอยู่เสียที่ใด ?”
“ก็แค่เพียงการใช้ความร้อนผ่องถ่ายพลังจิตวิญญาณที่แฝงอยู่ในดอกวานรม่วง ผลทับทิมเพลิง และหญ้ามังกรเท่านั้นมิใช่รึ? เฒ่าผู้นี้มีวิชาการแพทย์ถึงระดับที่สอง ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะทําไม่สําเร็จ”
ทั้งหQอ และกู้หลิวเพิ่งต่างส่งสายตามองเหล่ายอดฝีมือที่พากันวิ่งกลับเข้าไปยังสวนสมุนไพรทั้งยังสบถด่าทอไม่หยุดปาก หากทว่า บุรุษหนุ่มทั้งคู่กลับไร้สิ้นความอาทรร้อนใจ กลับกันประกายตาของพวกเขากลับแฝงความสนุกสนานในหายนะที่กําลังดําเนินไป
เจ้าพวกไร้สมองที่เข้าใจว่าเพียงได้รู้ตํารับโอสถก็ย่อมสามารถลอกเลียนกระบวนการกลั่นโอสถขับพิษของเกอซีได้ หึหึหึ อีกแค่เพียงไม่นาน พวกมันจะได้ตระหนักว่าตนที่มซื่อสักเพียงใด
ทว่าในที่นั้น ยอดฝีมือบางส่วนที่ไม่อาจทนต่อความเจ็บปวดอันแสนทรมานของแรงฤทธิ์พิษโลหิตหลั่งสําราญได้ ล้วนจําใจต้องควักสมบัติที่ตนได้มาจากอาณาจักรกําบังออกแลกเปลี่ยน
“นี่คือเม็ดโอสถแก่นจิตสัตว์เวทอสูรขั้นห้าที่ข้าได้มาจากดินแดนหวงโม่ กว่าจะได้เม็ดโอสถแก่นจิตระดับห้านี้มาได้ ตัวข้ายังหวุดหวิดเกือบถูกสัตว์เวทอสูรตนนั้นกินเป็นอาหาร เดิมที่ข้าคิดใช้โอสถแก่นจิตนี้เพื่อเสริมพลังฝีมือของตน ทว่ายามนี้…ยามนี้ชีวิตของข้ากําลังจะหาไม่อยู่รอมร่อ นับประสาอันใดกับการเพิ่มพลังฝีมือกันเล่า ? เม็ดโอสถแก่นจิตนี้เป็นของเจ้า รีบมอบโอสถถอนพิษให้ข้าเถิด”