หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 358 หวนคืนสู่เรือน
ยิ่งกู้หลิวเฟิ่งจินตนาการถึงเกอซีในร่างของอิสตรี จิตใจของเขากลับยิ่งสั่นไหวกระทั่งดวงหน้าที่ซุกซ่อนภายใต้หน้ากากยังแดงก่ํา
ชายหนุ่มรีบเรียกคืนสติ เพื่อมองดูเกอซีผู้กําลังมีสีหน้าเคร่งขรีมกับการปักแบ่งเข็มเงินบนร่างของกู้อี้ตาว
ความคิดฟุ้งซ่านกระจัดกระจายภายในใจ พลันถูกแทนที่ด้วยความนับถือชื่นชมอย่างสุดซึ้ง
ซีเยวคือบุรุษอย่างแน่ชัด ทั้งยังเป็นบุรุษที่มีทักษะการรักษาระดับอัจฉริยะ ยามนี้เขาได้เป็นเพื่อนสนิทของคนผู้นี้ เขาจะมีใจคิดเช่นนั้นกับซีเย่วได้อย่างไร?
กู้หลิวเฟิ่งยิ่งรู้สึกละอายแก่ใจ เขาก้มหน้าไม่กล้าเผชิญหน้าสบตากับเกอซี
ส่วนโจวเหยียนอันกลับเข้าใจว่านายท่านของตนยังรู้สึกเก้อเขิน ไม่กล้าออกปากร้องขอเกอซีด้วยมิรู้จะวางตัวเช่นไร โจวเหยียนอันจึงสาวฝีเท้าก้าวตรงเข้าหาเกอซีพลางเอ่ยถาม “คุณชายซี ในครานั้น ครั้งที่พวกเราอยู่ในห้องโถงใหญ่แห่งวังจือจิน ท่านเคยออกปากถามว่าด้วยเหตุใดพวกเราจึงยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือท่าน”
เกอชีหันมาผงกศีรษะรับ “เจ้าอยากให้ข้าช่วยมารดาของกู้หลิวเฟิ่งกระนั้นสิ”
“ถูกต้องที่สุดขอรับ” ยิ่งได้ยินเช่นนั้น โจวเหยียนอันก็ยิ่งเปรมปรีด์ นี่สมควรจะมีเรื่องน่ายินดี เขารีบเอ่ยปากในทันที “ท่านแม่ของนายน้อยต้องล้มหมอนนอนเสื่อมิอาจลุกเนิ่นนานหลายปี แม้พวกเราจะเรียนเชิญท่านหมอฝีมือดีมากมายเพียงไรล้วนไร้ผล ยามนี้ พวกเราต้องขอรบกวนท่านหมอซียอดอัจฉริยะเสียแล้ว”
“หากเจ้าต้องการให้ข้าช่วยคนหาใช่ปัญหาไม่” เกอซีพยักหน้ารับอย่างไม่ลังเล “หากแต่ตัวข้าหาใช่เทพเซียนไม่ ย่อมมิอาจให้การ รักษาโรคภัยได้ทุกประเภท ยังมี อีกสองสามวันข้ายังมีเรื่องต้องกลับไปจัดการสะสาง ขอเจ้าจงรอเสียหน่อยเถิด เสร็จภารกิจเมื่อใด ข้าจะไปหาเจ้าที่โรงโอสถเชิงเต่อ ถึงตอนนั้น เจ้าค่อยพาข้าไปดูอาการของผู้ปวยเถิด”
โจวเหยียนอันคล้ายในหัวว่างเปล่างุนงงในคราแรก ก่อนดวงตาทั้งคู่ของเขาจะกลับกลายเป็นแดง “ตึง” เสียงหัวเข่าทั้งสองกระแทกลงบนพื้น “ผู้น้อยขอขอบคุณท่านหมอซียอดอัจฉริยะผู้เปี่ยมล้นด้วยความเมตตาแทนนายหญิงด้วยขอรับ”
กู้หลิวเฟิ่งเพิ่งคืนสติรําลึกได้จึงสาวเท้าตรงเข้ามาช่วยรับโจวเหยียนอันให้หยัดยืนขึ้น เขาหันมาหาเกอซียกยิ้มอ่อนบาง “ซีเยว่ ข้าจะรอเจ้า”
กล่าวจบเขาก็ไม่รั้งรอยืดเยื้อต่อไป ชายหนุ่มหันหลังเดินจากไปอย่างไร้สิ้นความลังเลใจแม้เพียงน้อย
หากทว่ากลับมิมีผู้ใดค้นพบความรักอันลึกซึ้งที่เผยผ่านนัยน์ตาเปี่ยมเสน่ห์คู่นั้น เมื่อยามนี้สิ่งที่สถิตแนบแน่นในแววตานั้น คือความยินดีพร้อมพลีอุทิศแรงกายใจ และความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่อย่างไม่สั่นคลอน
แม้ซีเยวจะบ่ายเบี่ยง ทว่าเขาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า หากซีเยว่สามารถให้การรักษามารดาของเขาได้ ชีวิตนี้ของเขาจะเป็นของซีเยวในทันที
เพื่อซีเยว่ แม้ต้องบุกน้ําลุยกองเพลิง เขาจะไม่มีวันหวั่นหรือนึกลังเล
เมื่อส่งหนานกงยี่ และกู้หลิวเฟิ่งกลับเรียบร้อยแล้ว เกอซีจึงหวนคืนสู่อาณาจักรกําบัง เพื่อสร้างสายริ้วอาคมปราการ
เมื่ออาคมคุ้มกันเขตแดนมังกรปรากฏขึ้นอีกครา กระทั่งผู้ฝึกยุทธชั้นสูงถึงขั้นห้า ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณล้วนไม่อาจพบเจอตําแหน่งที่ตั้งแห่งอาณาจักรกําบัง คงมิต้องกล่าวถึงการล่วงเข้าสู่เขตแดนด้านในกระมัง
และนับจากนี้ไป เทือกเขาฉาง ตลอดถึงเขตแดนผนึกมังกรแห่ง อาณาจักรกําบังล้วนคือสมบัติส่วนตัวของเกอซี นางย่อมสามารถเปิดอาณาจักรกําบัง เพื่อใช้เป็นสถานที่ฝึกฝนพลังยุทธให้แก่คนของนางได้เสมอทุกเมื่อ
และเมื่อถึงคราวมีภัย นางย่อมสามารถพาแม่นมเฉิน และทุกคนเข้าซุกซ่อนตนภายในอาณาจักรกําบัง สามารถกล่าวได้ว่าสถานที่แห่งนี้คือเขตแดนซ่อนกายเร้นภัยที่สมบูรณ์แบบอย่างที่สุด
เมื่อจัดการทุกสิ่งในอาณาจักรกําบังเรียบร้อยแล้ว เกอซีจึงเร่งรุดเหาะกลับสู่เรือนเบี้ยอย่างไม่รอช้า
ยามนี้ภายในใจของนางพลันท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกละอายแก่ใจ อีกเพียงไม่นาน เบื้องหน้าสายตาของนางจะเป็นรอยยิ้มเซ่อซ่า แฝงความน่าเอ็นดูของเซี่ยวหลี ใบหน้าที่บ่งบอกความห่วงใยที่ลึกซึ้งของแม่นมเฉิน และนัยน์ตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยแรงศรัทธาเชื่อมั่นของผู้ที่รัก และชื่นชมในตัวนาง
ในชาติภพก่อน นางเป็นเพียงสตรีตัวเล็กๆผู้หนึ่งที่ไม่มีผู้ใดใส่ใจ ไม่ว่านางจะหายตัวไปนานเพียงใด หรือจะไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ทุกคราที่นางกลับคืนล้วนพบเพียงอาคารที่ว่างเปล่า นางจึงไม่เคยเรียกสถานที่แห่งนั้นว่า บ้าน
ทว่าในช่วงชีวิตนี้ล้วนแตกต่างในเรือนเบี้ย มีผู้ที่ยังคงตั้งตารอคอยการกลับมาของนาง
ห้องของนางจะถูกจุดประทีปให้สว่างไสว เพื่อรอต้อนรับอย่างอบอุ่นเสมอ นี่แหละ คือสิ่งที่เรียกว่าบ้าน
ผลสําเร็จที่นางกอบโกยมาได้ในครานี้ มั่นใจได้เลยว่าจะสามารถเสริมส่งให้แม่นมเฉิน และทุกคนพัฒนาพลังฝีมือให้รุดหน้าได้อย่างแน่นอน อนาคตเบื้องหน้าของทุกคนย่อมต้องได้พบความสว่างไสวรุ่งโรจน์
*-*-*จบตอน หวนคืนสู่เรือน***