ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ – บทที่ 504 คุณอาบก่อน เดี๋ยวฉันค่อยอาบ

บทที่ 504 คุณอาบก่อน เดี๋ยวฉันค่อยอาบ

เป็นเวลานาน โอหยางจวิ้นจึงได้ผละออกจากสือจินหว่าน

คาดไม่ถึงเขาจะพบว่าตนเองอาลัยอาวรณ์ที่จะกล่าวลาเธอ เพียงแต่นึกได้ว่าดึกแล้ว จึงพูดว่า : “หวันหว่าน ฉันจะไปส่งคุณกลับหอพักนะ”

สือจินหว่านพยักหน้า ทั้งสองคนจับมือกัน แล้วเดินไปตามถนน

เพียงแต่เมื่อถึงหน้าทางเข้าหอพัก สือจินหว่านก็พูดว่า : “ฉันอยากทานอาหารมื้อดึก……”

จู่ๆโอหยางจวิ้นรู้สึกว่า เขาชอบข้อเสนออันนี้ของเธอมาก เพราะเช่นนี้จะทำให้พวกเขาได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันได้นานขึ้น

ด้วยเหตุนี้เขาจึงพยักหน้า : “โอเค อย่างนั้นเราไปหาอาหารทานกันก่อน”

พูดจบเขาก็ขับรถพาสือจินหว่านข้ามไปยังถนนอีกเส้นหนึ่ง เมื่อผ่านโรงแรม สือจินหว่านจึงพูดว่า : “ต้องการไปจองห้องไว้ล่วงหน้าก่อนไหม เกรงว่าอีกสักครู่มันจะหมดนะ?”

โอหยางจวิ้นคิดๆดูแล้ว ก็พยักหน้า แล้วพาสือจินหว่านไปยังแผนกต้อนรับของโรงแรม

เป็นไปอย่างที่คิด ห้องแคบไปหน่อย ไม่มีห้องเอกซ์คูซีฟสูท เขาได้แต่จองห้องธรรมดาๆหนึ่งห้อง

และสือจินหว่านที่มองไปรอบๆอยู่ตลอด เมื่อเห็นอาหารที่น่าทานให้โบรชัวร์โรงแรม จึงรีบดึงโอหยางจวิ้นแล้วพูดว่า : “อาจวิ้น ฉันอยากกินปิ้งย่าง!”

“คุณครับ อาหารอยู่ชั้นไหนครับ?” โอหยางจวิ้นเอ่ยถาม

“ชั้น 2 ค่ะ” พนักงานต้อนรับกล่าว : “อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะเลิกแล้วค่ะ”

“อย่างนั้นเรารีบไปกันเถอะ!” สือจินหว่านดึงโอหยางจวิ้นวิ่งไปที่ลิฟต์

โรงแรมนี้เป็นโรงแรม 4 ดาว แต่รสชาติอาหารไม่เลวเลย

สือจินหว่านทานอย่างเอร็ดอร่อย เห็นโอหยางจวิ้นไม่ค่อยเห็นด้วย ด้วยเหตุนี้จึงเอาเนื้อย่างส่งไปที่ปากโอหยางจวิ้น : “จวิ้นน้อย ฉันจะป้อนคุณ!”

โอหยางจวิ้นทำอะไรไม่ถูก : “หวันหว่าน ฉันไม่ทานอาหารตอนดึก”

“ทำไมรักษาหุ่นเหรอ?” สือจินหว่านพูดจาหลอกล่อ : “เอาน่า กินชิ้นหนึ่ง ไม่อ้วนหรอก! อีกอย่างถ้าอ้วนจริงๆฉันก็ไม่รังเกียจหรอก!”

โอหยางจวิ้นจนปัญญา ทำให้แค่กินไปหนึ่งชิ้น เพียงแต่สือจินหว่านป้อนอีกครั้ง เขาก็ไม่กินแล้ว

ด้วยเหตุนี้ของที่สั่งมาดูเหมือนจะถูกสือจินหว่านกินจนหมด เธอเช็ดปาก แล้วลูบท้องของตนเอง พูดอย่างเสียใจว่า : “ฉันจะอ้วนขึ้นไหมนะ?”

พูดจบ ก็เงยหน้าขึ้นออดอ้อนโอหยางจวิ้น : “ถ้าฉันอ้วน คุณจะไม่ชอบฉันแล้วใช่ไหม?”

โอหยางจวิ้นก้มลงไปจุ๊บเธอหนึ่งที : “คุณจะเปลี่ยนจนกลายเป็นอย่างไรฉันก็จะชอบคุณ! อีกอย่าง ตอนเด็กๆคุณชอบกินจนพุงป่อง ยังไม่อ้วนเลยไม่ใช่เหรอ?”

สือจินหว่านนึกถึงตอนเด็กๆ เมื่อพวกเขาทานข้าวด้วยกัน ทุกๆครั้งเธอจะทานจนพุงพลุ้ย แต่เขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด

เพราะเหตุนี้เธอจึงยื่นมือออกมา : “จวิ้นน้อย ฉันอยากจะลูบท้องของคุณหน่อยนะ!”

โอหยางจวิ้นเอียงตัวหลบ : “เด็กดี หวันหว่าน อย่าวุ่นวายสิ”

“ฉันจะดูพุงคุณหน่อยว่าเป็นอย่างไร!” สือจินหว่านพูดจบก็จู่โจมเข้ามา

“ไอหย๋า แข็งจังเลย เป็นกล้ามหน้าท้องหมดเลยเหรอ?” สือจินหว่านพูดจบ ก็ลูบขึ้นลูบลงไปมา

โอหยางจวิ้นถูกเธอยั่วจนเกือบจะทนไม่ไหว พูดด้วยลมหายใจติดขัดว่า : “พอแล้ว อย่าดื้อสิ”

สือจินหว่านเก็บมือกลับมา แล้วลูบๆท้องตนเองอีกที : “ฉันก็อยากจะมีกล้ามท้องบ้าง!”

“เด็กผู้หญิงจะมีกล้ามท้องไปทำไม?” โอหยางจวิ้นพูดว่า : “ตอนนี้คุณก็ดูดีมากๆแล้วนะ!”

“จริงเหรอ?” สือจินหว่านพูดจบ ก็จับมือของโอหยางจวิ้นมา : “คุณลูบดูสิ ดูเหมือนคนอ้วนไหม!”

สัมผัสบนมืออบอุ่นนุ่มนวล มันรู้สึกท้าทายความแน่วแน่ในจิตใจของเขาอย่างมาก โอหยางจวิ้นจึงนำมือกลับมา แล้วพูดเบาๆว่า : “ก็ดีนะ ฉันชอบอย่างนี้”

สือจินหว่านได้รับการยืนยัน ก็รู้สึกพอใจมาก เธอจึงดึงมือโอหยางจวิ้นขึ้นมา : “เราไปกันเถอะ!”

ทั้งสองคนเดินไปที่ลิฟต์ เดิมทีโอหยางจวิ้นต้องการจะกดไปที่ชั้นหนึ่ง แต่เขากลับจับพลัดจับผลูกดไปที่ชั้นของตัวเองซะอย่างนั้น

ลิฟต์เลื่อนขึ้นไปชั้นบน ทั้งสองคนจึงได้สติกลับมา

สือจินหว่านเขินอายเล็กน้อย แต่ว่าเธอเชื่อมั่นในตัวของโอหยางจวิ้นมาตลอด ดังนั้นจึงไม่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เมื่อถึงชั้นบน โอหยางจวิ้นก็ลังเลอยู่หลายครั้ง แต่ในที่สุดก็ยังพาสือจินหว่านไปที่ห้องของเขา

สือจินหว่านเดินเข้าไป เห็นว่ามีเตียงสองเตียง ด้วยเหตุนี้จึงเดินไปที่หน้าประตูทางด้านนั้น แล้วบิดขี้เกียจ : “กินอิ่มแล้วก็ไม่อยากขยับเลย!”

“อย่างนั้นคืนนี้ก็นอนที่นี่ไหม?” โอหยางจวิ้นหลุดพูดออกมา : “ถึงอย่างไรก็มีตั้งสองเตียง”

สือจินหว่านคิดๆดูเล็กน้อย : “ก็ได้ พรุ่งนี้คุณจะได้ไม่ต้องไปรับฉัน!”

พูดจบ เธอก็นอนกลิ้งเล่นอยู่บนเตียง

โอหยางจวิ้นเห็นเช่นนั้น ก็รู้สึกว่าลมหายใจของตนเองแปรปรวนขึ้นมาเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้จึงพูดว่า : “หวันหว่าน ฉันจะไปอาบน้ำก่อนนะ!”

“อืม โอเค!” สือจินหว่านตอบกลับ : “คุณอาบเสร็จแล้วฉันจะได้ไปอาบบ้าง!”

ในห้องน้ำ โอหยางจวิ้นนึกถึงสือจินหว่านที่อยู่ข้างๆกาย ไฟในหัวใจก็ระงับไว้ไม่อยู่

เป็นเวลานาน จึงอาศัยน้ำเย็นๆเพื่อทำให้ตนเองได้สติ จากนั้นก็สวมชุดคลุมอาบน้ำของโรงแรมเดินออกมา : “หวันหว่าน คุณไปอาบน้ำเถอะ!”

“อืม” สือจินหว่านพยักหน้า แล้วกระโดดโลดเต้นเข้าห้องน้ำไป

ที่ด้านนอก เมื่อโอหยางจวิ้นได้ยินเสียงน้ำไหล เลือดลมก็สูบฉีดขึ้นมาอีกครั้ง

เขาจำใจเปิดทีวี เพื่อต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของตนเอง

แต่เดิมทีสือจินหว่านไม่ได้คิดมากขนาดนั้น เธออาบน้ำเสร็จ ก็เป่าผมให้แห้ง แล้วสวมชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมา เดินไปด้วยหาวไปด้วย

ตั้งแต่เธอเดินออกมา ทั้งร่างกายจิตใจของโอหยางจวิ้นก็ถูกดึงดูดความสนใจเข้าไปที่เธอ

ดังนั้น ในทีวีแสดงอะไร เขาก็ไม่รับรู้อีก

“ว้าว นี่คือหนังสยองขวัญที่ออกฉายเมื่อปีที่แล้ว!” สือจินหว่านกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า: “ในตอนนั้นฉันยังอยากดูเลย แต่ยังไม่ได้เตรียมตัวสอบให้พร้อม คาดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้ดู!”

โอหยางจวิ้นฟังถึงตรงนี้แล้ว ก็ถามเธอว่า: “หวันหว่าน สามปีมานี้ คุณเคยทำอะไรบ้าง เล่าให้ฉันฟังอย่างละเอียดได้ไหม?”

เธอพยักหน้า: “จริงๆแล้ว สามปีมานี้ฉันก็เรียบง่ายอย่างมาก โรงเรียนมัธยมในประเทศอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก ดังนั้นปกติฉันก็จะเรียน มีเพียงสุดสัปดาห์ที่ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนเป็นบางครั้ง……”

“เพียงแต่ ฉันเข้าร่วมวงดนตรีภายในประเทศ ฉันก็มีแฟนคลับไม่น้อย!” เธอกล่าวต่อไปว่า: “จำได้ว่ามีครั้งหนึ่ง…….”

สือจินหว่านนั่งเล่าอยู่ที่หัวเตียง โอหยางจวิ้นก็กำลังฟังเธออยู่ที่เตียงอีกเตียงหนึ่งซึ่งห่างจากเธอ2เมตร

เวลาผ่านไปทีละน้อยๆ จนกระทั่ง——

“กรี๊ด!” สือจินหว่านเห็นฉากนองเลือดในภาพยนตร์ จึงส่งเสียงกรีดร้องออกมา กำลังจะไปหาโอหยางจวิ้นเพื่อความรู้สึกปลอดภัย เขาก็กระโดดเข้ามา แล้วกล่าวถามอย่างเป็นกังวลว่า: “หวันหว่าน เป็นอะไร”

สือจินหว่านโผเข้าไปในอ้อมกอดของเขา: “เมื่อกี้ฉากนั้นน่ากลัวจัง!”

“ห๊ะ?” โอหยางจวิ้นพบว่า คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ได้ดูโดยสิ้นเชิงว่าในทีวีแสดงอะไร

เขาจับไหล่ของสือจินหว่าน แล้วก้มหน้ามองเธอ: “เรื่องหลอกลวงทั้งนั้น ทำไมถึงยังกลัวอีก?”

เธอถูไถไปมาที่หน้าอกของเขา: “ก็คนมันกลัวนี่!”

โอหยางจวิ้นถูกสือจินหว่านถูไถจนใจเต้นอย่างมาก จึงค่อยๆกล่าวว่า: “งั้นพวกเราไม่ดูแล้วโอเคไหม?”

เธอเบ้ปาก: “ไม่เอา! ฉากนั้นในหนังฉันอยากดูมาโดยตลอด คาดว่าใกล้จะถึงแล้ว!”

เขารู้สึกจนใจ: “กลัวแล้วยังอยากดูอีก ไม่เข้าใจจริงๆเลยว่าสาวน้อยอย่างพวกคุณกำลังคิดอะไรอยู่?”

“สาวน้อยอย่างพวกเรา?” สือจินหว่านชำเลืองมอง: “อาจวิ้น สารภาพมาซะดีๆว่า คุณยังรู้จักสาวน้อยที่ไหนอีก?!”

เพียงโอหยางจวิ้นได้ยิน ก็รีบกล่าวเพื่อล้างมลทินว่า: “แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยมีคนอื่น มีแค่คุณคนเดียว”

“จริงเหรอ?” เธอกะพริบตา

“จริงสิ ฉันชอบคุณเพียงคนเดียว!” โอหยางจวิ้นจ้องมองดวงตาของเธอแล้วกล่าว

“จวิ้นน้อย คุณดีจริงๆเลย!” สือจินหว่านพูดพลาง คล้องคอของโอหยางจวิ้นเอาไว้ แล้วเข้าไปใกล้: “ให้รางวัลคุณด้วยการจุ๊บหนึ่งที!”

เธอเงยหน้าขึ้น แล้วจูบเขาหนึ่งที

แต่เขากลับถูกจูบแบบนี้ยั่วเย้าให้สะเทือนอารมณ์ ชั่วพริบตา ก็รู้สึกว่าความอ่อนโยนในอ้อมกอดยิ่งรุนแรงขึ้น และกลืนกินความยับยั้งชั่งใจทั้งหมดของเขาไปในทุกๆนาที

โอหยางจวิ้นกลืนน้ำลายเล็กน้อย แล้วจ้องมองริมฝีปากของสือจินหว่านที่อยู่ในอ้อมกอด คล้ายกับถูกมอมเมา จึงเข้าไปใกล้ทีละน้อยๆ

เธอก็กำลังมองเขาอยู่ ไม่ขยับเขยื้อน ในดวงตาอันกลมโตล้วนเป็นเงาของเขา

หัวใจของเขาเต้นเร็วมาก คล้ายกับจะกระโดดออกมาจากลำคอ ในสมองก็ว่างเปล่าไปในชั่วพริบตา

ในใจของเขามีเพียงความคิดคลุมเครือ ที่จะอยู่ด้วยกันกับเธอ!

ด้วยเหตุนี้ ริมฝีปากของเธออยู่ห่างจากเขาเพียงสองเซนติเมตร เขาจึงก้มหน้าลง แล้วทำให้ระยะห่างสองเซนติเมตรกลายเป็นศูนย์

“จวิ้น——” ในความไม่ชัดเจนสือจินหว่านสังเกตได้ถึงความผิดปกติ แต่เมื่อเอ่ยปากก็ถูกโอหยางจวิ้นใช้โอกาสนี้เพื่อเปิดฟันของเธอ

เขารุกล้ำเข้าไป ไม่เหมือนกับวันอื่นๆ จูบในวันนี้คล้ายกับจะแฝงไปด้วยความอันตรายและความเร่าร้อน ทำให้สือมูเฉินรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยโดยไม่มีสาเหตุ

ในทีวี มีเสียงกรีดร้องของคน สือจินหว่านจึงคว้าชุดคลุมอาบน้ำของโอหยางจวิ้นเอาไว้แน่น แล้วอิงเข้าไปในอ้อมกอดของเขา

เขาโอบกอดเธอเอาไว้แน่นทันที ไหล่ของเขากว้างมาก หน้าอกก็กว้าง แทบจะห่อหุ้มร่างกายของเธอเอาไว้ทั้งหมด

เขาจูบเธออย่างไม่สนใจ เสียงจูบ เสียงลมหายใจของพวกเขา กับเสียงในทีวี คาดไม่ถึงว่าจะกลมกลืนเข้าด้วยกัน

สือจินหว่านรู้สึกว่าตัวเบา จากนั้น ก็ถูกโอหยางจวิ้นอุ้มขึ้นมาบนขาของเขา

เขายังคงจับเธอเอาไว้แน่น นิ้วมือสอดผ่านผมของเธอ ห่อหุ้มทุกพื้นที่ของเธอเอาไว้ คล้ายกับต้องการทำให้เธอจมดิ่งอยู่ในโลกของเขา

เลือดของเธอเริ่มอุ่นขึ้นทีละน้อยๆ แต่สติที่ยังคงเหลืออยู่ก็แฝงไปด้วยความไม่สบายใจเล็กน้อย ดังนั้น จึงบิดตัวเล็กน้อย

แต่อารมณ์ความรู้สึกหมกมุ่นของโอหยางจวิ้นบีบบังคับโดยตรง เขากอดเธอ นำเธอวางลง และร่างกายของเขาก็กดทับลงมา

ระยะห่างแทบจะเป็นศูนย์ สือจินหว่านรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ในชุดคลุมอาบน้ำของเขามีสิ่งที่แข็งคล้ายโลหะชนอยู่บนขาของเธอ ทำให้ไม่สามารถไม่สนใจได้

ในความคลุมเครือ เธอก็เข้าใจอะไรบางอย่าง แล้วรู้สึกเพียงว่าหัวใจของตนเองสับสนวุ่นวาย

หลังจากแต่งงานแล้ว ทุกคนล้วนทำแบบนี้ แต่เหมือนกับว่า เธอยังไม่ทันได้เตรียมใจ

แต่ทว่า มือของเขาได้เข้าไปในชุดนอนของเธอแล้ว ฝ่ามือที่ร้อนผ่าวเคลื่อนไปบนตัวเธอ นวดส่วนโค้งเว้าของเธอ อันตรายอย่างมาก แล้วก็เย้ายวนใจอย่างมาก

จูบของโอหยางจวิ้น เริ่มเคลื่อนลงมาตามริมฝีปากของสือจินหว่าน จนกระทั่ง ชุดนอนของเธอถูกเปิดออก เขาได้เห็นทั้งหมดของเธอ ที่งดงามจนตรึงตราเขา

แต่เสียงเรียกเบาๆ ก็ดังขึ้นข้างๆหู: “อาจวิ้น——”

แฝงไปด้วยความไม่สบายใจ หางเสียงของเธอจึงสั่นเล็กน้อย

โอหยางจวิ้นรู้สึกคล้ายกับว่ามีอ่างน้ำแข็งราดรดลงมาบนศีรษะของเขา ในชั่วพริบตา ก็ตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง!

เขาหอบเหนื่อยแล้วมองหญิงสาวที่อยู่ภายใต้ร่างกาย รู้สึกหงุดหงิดใจเล็กน้อย แต่ก็ยังจนปัญญาที่จะควบคุมอารมณ์ได้

“หวันหว่าน ฉัน——” เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ: “ทำให้คุณตกใจใช่ไหม?”

มือของเธอกำผ้าปูเตียงเอาไว้ แม้แต่สาวที่ปกติแล้วมีความกล้าหาญ เวลานี้ก็เขินอายจนหน้าแดงไปหมด: “ฉันแค่ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร…..”

เขามองเธออย่างสงสาร: “หวันหว่าน ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าหากคุณไม่เต็มใจ ฉันก็จะไม่ทำร้ายคุณ!” เขาพูดพลางโน้มตัวลงมา แล้วนำเธอโอบกอดเอาไว้ในอ้อมกอด

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

Status: Ongoing

เมื่อถูกหักหลังจากสามีของเธอและมือที่สาม หลานเสี่ยวถางไม่มีอะไรเหลือเลยภายในคืนเดียว เมื่อออกมาจาก ‘งานเลี้ยงการหย่าร้างเพื่อสันติภาพ’ ชายคนนั้นผลักเธอเข้ามุมห้อง แล้วลมหายใจร้อนก็รดลงมาบนใบหูของเธอ: “แต่งงานกับผมสิ ผมจะจัดการเขา ผมจะพาคุณไปแก้แค้น และทวงคืนทั้งหมดที่เป็นของคุณ… … “

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท