หลังจากที่เขาออกคำสั่งแล้ว จี้หลิงชวนก็ยกมือขึ้นและขมวดคิ้วแน่น สายตาของเขาจ้องมองไปยังมู่ซีซีที่กำลังดูโทรทัศน์อยู่ไม่ไกล ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและมู่ซีซีนั้นไม่ง่ายเลยที่จะค่อยๆดีขึ้นแบบนี้ เขาไม่อยากให้ชูเหยาเข้ามาและทำลายมันอีก!
แต่ครั้งนี้การช่วยเหลือชูเหยานั้นเป็นฝีมือของลู่เฉิงจิน คนของจี้หลิงชวนนั้นตามหาร่องรอยของเธอไม่พบเลย
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ชูเหยากลับมายังเมืองหรง เธอหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่ออกมาและกดโทรหามู่ซีซี
ชูเหยาจงใจเลือกโทรหามู่ซีซีในช่วงเวลาที่เธอเพิ่งเลิกเรียน รอสายโทรศัพท์อยู่ไม่นานนัก มู่ซีซีก็รับสาย
“ฮัลโหล ใครคะ?” มู่ซีซีชำเลืองมองเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยและถาม
ทันทีที่สิ้นเสียงของมู่ซีซี วินาทีต่อมา เสียงของชูเหยาที่มู่ซีซีคุ้นเคยก็ดังขึ้น “มู่ซีซี ฉันเอง ชูเหยา ไม่เจอกันนานเลยนะ”
เมื่อได้ยินเสียงของชูเหยา คิ้วที่งดงามของมู่ซีซีก็ขมวดแน่นในทันที จากนั้นเธอเหลือบมองไปยังบริเวณที่แสดงหมายเลขบนหน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นสายโทรมาจากเมืองหรง
แต่ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้จี้หลิงชวนบอกกับเธอหรือว่าชูเหยานั้นได้ไปต่างประเทศแล้ว?
ขณะที่ครุ่นคิด มู่ซีซีจับโทรศัพท์ไว้แน่นและถาม “ชูเหยา เธอกลับประเทศจีนแล้วเหรอ?”
ชูเหยานั้นไม่ได้คิดจะซ่อนตัวจากมู่ซีซี เมื่อได้ยินมู่ซีซีถามเช่นนั้น เธอจึงตอบในทันที “ใช่ ฉันกลับมาแล้ว”
ขณะที่พูด ชูเหยาไม่มีอารมณ์จะพูดเรื่องไร้สาระกับมู่ซีซี เธอจึงตรงเข้าประเด็นว่า “มู่ซีซี ไม่เจอกันนานแล้ว เรามาเจอกันแล้วพูดคุยเรื่องเก่าๆกันหน่อยไหม….”
ก่อนที่ชูเหยาจะพูดจบมู่ซีซีหัวเราะเยาะเย้ยและขัดจังหวะคำพูดของชูเหยา “ชูเหยา ช่างเถอะ เรื่องเก่าๆระหว่างฉันกับเธอน่ะมันไม่มีอะไรอยู่แล้วนี่นา! อยากจะพูดอะไรก็พูดมาเถอะ ฉันไม่มีเวลาจะมาคุยเรื่องไร้สาระกับเธอหรอกนะ”
เมื่อชูเหยาถูกมู่ซีซีขัดจังหวะเช่นนั้น สีหน้าของเธอก็อึมครึมในทันที เธอกัดฟันแน่นด้วยความโกรธและพูดกับมู่ซีซีที่อยู่ปลายสายว่า “มู่ซีซี วันนี้บ่ายสามโมง ฉันจะไปรอแกที่ร้านกาแฟจื่ออวิ้นด้านนอกโรงเรียนของแก! แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่การพูดคุยเรื่องเก่าๆ แต่ฉันยังมีเรื่องที่สำคัญมากที่อยากจะมาบอกแกด้วยตัวฉันเอง”
เมื่อพูดจบ ชูเหยาก็วางสายโดยไม่รอให้มู่ซีซีได้ตอบโต้
มู่ซีซีมองสายโทรศัพท์ที่ถูกตัดไปจากนั้นเธอขมวดคิ้วแน่น
มู่ซีซีไม่ต้องการเจอชูเหยา แต่ประโยคทิ้งท้ายของชูเหยานั้นกระตุ้นความสนใจของมู่ซีซีได้สำเร็จ
มู่ซีซีเองก็อยากจะดูว่าชูเหยานั้นคิดอยากจะทำอะไรกันแน่!
ขณะครุ่นคิด มู่ซีซีมองดูเวลาที่แสดงบนหน้าจอโทรศัพท์อีกครั้ง ชูเหยาบอกว่าในช่วงเวลาบ่ายสามโมงตรง ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองโมงสี่สิบนาทีแล้ว
เหลือเวลาอีก 20 นาที และมู่ซีซีเองก็ไม่มีธุระอะไรแล้ว ขณะที่คิด เธอเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าและเดินก้าวเท้าออกไปด้านนอกของโรงเรียน
เมื่อมู่ซีซีเดินไปถึงร้านกาแฟจื่ออวิ้นข้างโรงเรียน เวลาเกือบจะบ่ายสามโมงแล้ว
ร้านกาแฟนั้นไม่ใหญ่มาก เพียงแค่ใช้สายตามองครั้งเดียวก็สามารถมองเห็นได้เกือบทั้งร้าน ทันทีที่มู่ซีซีเดินเข้ามา แค่เหลือบมอง เธอก็เห็นคนที่เหมือนกับชูเหยากำลังโบกมือให้กับเธอ
เธอเห็นชูเหยานั่งอยู่ในมุมเล็กๆริมหน้าต่าง เธอสวมทั้งแมสก์และหมวก ปกปิดใบหน้าไว้มิดชิด ถ้าหากว่าไม่ได้เป็นคนเริ่มโบกมือให้กับมู่ซีซีก่อน เกรงว่าในตอนนั้นเธอเองก็อาจมองไม่ออกว่านั่นคือชูเหยา
มู่ซีซีนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับชูเหยา สายตาของเธอมองชูเหยาจากนั้นเธอก็พูดเข้าประเด็นในทันที “ชูเหยา พูดมา ครั้งนี้เรียกฉันมามีเรื่องอะไร?”
ขณะพูดมู่ซีซีเหลือบมองนาฬิกาของเธอและพูดกับชูเหยาอีกว่า “อีกเดี๋ยวฉันมีเรียนต่อ มีเวลาแค่สิบนาทีเท่านั้น”
ชูเหยามองดูท่าทางที่สงบของมู่ซีซี เธอกัดฟันแน่น วินาทีถัดมา ชูเหยายกมือขึ้นจากนั้นเธอก็ถอนแมสก์ที่ปกปิดใบหน้าเธอ เมื่อถอดแมสก์แล้วเธอเผยรอยยิ้มที่ยั่วยุและพูดกับมู่ซีซีว่า “มู่ซีซี วางใจได้ สิ่งที่ฉันอยากจะบอกแกนั้นไม่เกินเวลาสิบนาทีของแกหรอก”
ขณะที่พูด ชูเหยาหัวเราะเบาๆ จากนั้นเธอหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดอัลบั้มภาพและเลือกดูรูปภาพ เธอยื่นโทรศัพท์ให้กับมู่ซีซีที่นั่งอยู่ตรงข้ามและพูดกับมู่ซีซีว่า “มู่ซีซี เธอลองดูรูปภาพพวกนี้ก่อนสิ”
เมื่อได้ฟังคำพูดของชูเหยา สายตาของมู่ซีซีจ้องไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่อยู่ใต้ดวงตาของเธอ เพียงแค่เหลือบมอง ม่านตาที่งดงามของมู่ซีซีก็หดตัวในทันที!
นิ้วมือทั้งสิบอดไม่ได้ที่จะกำแน่น รูปภาพบนหน้าจอโทรศัพท์นั้นคือจี้หลิงชวน ร่างกายของจี้หลิงชวนเปลือยเปล่า เขากำลังนอนอยู่กับชูเหยาและเรือนร่างของเธอก็เปลือยเปล่าเช่นเดียวกัน
นี่มันภาพบนเตียงชัดๆ!
ในขณะนั้นแม้ว่ามู่ซีซีที่จัดการเก็บสีหน้าและอารมณ์ของเธอไว้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเผยความประหลาดใจออกมา
ชูเหยาเห็นว่าในที่สุดสีหน้าของมู่ซีซีก็เปลี่ยนไป รอยยิ้มบนริมฝีปากของเธอก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ภาพถ่ายเหล่านี้ถ่ายไว้ในตอนที่ชูเหยาใช้ประโยชน์จากการวางยาจี้หลิงชวน จี้หลิงชวนจึงเวียนศีรษะและสลบไป
แม้ว่าชูเหยาและจี้หลิงชวนจะไม่ได้ทำอะไรกันในคืนนั้น แต่ชูเหยามีรูปถ่ายเหล่านี้ มันก็เพียงพอแล้วที่จะปลอมแปลงความจริงที่ว่าเธอได้นอนกับจี้หลิงชวนและได้นำมันมาให้มู่ซีซีได้เห็นกับตา
ขณะที่ครุ่นคิด ชูเหยาอดไม่ได้ที่จะขดริมฝีปากของเธอด้วยรอยยิ้ม เธอมองมู่ซีซีที่มีสีหน้าซีดเซียวจากนั้นเธอก็พูดอีกว่า “มู่ซีซี ภาพแบบนี้ฉันยังมีอีกมาก เธอค่อยๆดูก็ได้นะ”
ขณะที่พูด ชูเหยาก็เลื่อนหน้าจอไปอีกสองสามครั้ง ภาพถ่ายบนเตียงระหว่างจี้หลิงชวนและชูเหยาจำนวนไม่น้อยถูกเปิดเผยต่อหน้าต่อตามู่ซีซี
นิ้วทั้งสิบของมู่ซีซีกำแน่นด้วยความยับยั้งชั่งใจ หลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆแล้ว อารมณ์ของเธอก็สงบลงเล็กน้อย เธอจ้องมองชูเหยาและพูดอย่างเย็นชาว่า “ชูเหยา เธอเรียกฉันมาเพียงเพื่อต้องการให้ฉันดูภาพลามกอนาจารของเธอกับจี้หลิงชวนงั้นเหรอ?”
โดยไม่รอให้ชูเหยาตอบ มู่ซีซีหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอโทษด้วย พอดีว่าฉันไม่สนใจภาพลามกอนาจารของเธอกับจี้หลิงชวน!”
“ฉันยังมีธุระ ขอตัวก่อน” ทันทีที่พูดจบ มู่ซีซีก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และตรงออกจากร้านกาแฟทันที
ชูเหยาที่อยู่ด้านข้างจ้องมองท่าทีสงบนิ่งของมู่ซีซี เธอขมวดคิ้วแน่นและไม่สนใจกลอุบายอื่นๆ เธอคว้าแขนเสื้อของมู่ซีซีไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง จากนั้นเธอก็เอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “มู่ซีซี! ฉันท้องแล้ว! เด็กในท้องเป็นลูกของจี้หลิงชวน!!!”
ทันทีที่ชูเหยาถูกลู่เฉิงจินพากลับมายังเมืองหรง เธอก็หาเวลาไปซื้อที่ตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง เป็นตามที่คาด ที่ตรวจครรภ์ขึ้นสองขีด ด้วยความกลัวว่าที่ตรวจครรภ์จะผิดพลาด ชูเหยาจึงแอบไปโรงพยาบาลโดยไม่บอกลู่เฉิงจิน ท้ายที่สุดผลลัพธ์ก็ออกมาว่าชูเหยากำลังตั้งครรภ์