เมื่อมู่ซีซีได้ยินจี้หลิงชวนสั่งงานและเห็นว่าป้าหลิงได้พยักหน้าตอบตกลงกับเขาแล้ว มู่ซีซีจึงทำได้เพียงแค่ปล่อยให้จี้หลิงชวนพาเธอขึ้นไปที่ด้านบน
หลังจากที่มู่ซีซีเตรียมเสื้อผ้าเสร็จเธอก็เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ แต่เป็นเพราะจี้หลิงชวนรู้สึกเป็นห่วงมู่ซีซี
ดังนั้นเขาจึงยังคงรอเธออยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ
หลังจากที่มู่ซีซีอาบน้ำเสร็จ จี้หลิงชวนก็นอนลงบนเตียงขนาดใหญ่อันแสนสบายพร้อมกับมู่ซีซี
เดิมทีก่อนหน้านี้มู่ซีซีรู้เหนื่อยและง่วงนอนมาก แต่หลังจากที่มู่ซีซีอาบน้ำเสร็จ เธอกลับ รู้สึกสบายตัวขึ้นและตอนนี้ก็ไม่มีอาการง่วงเลยสักนี้ จี้หลิงชวนค่อยๆโอบกอดเอาตัวของมู่ซีซีเข้ามาไว้ในอ้อมแขนของเขา เมื่อเห็นมู่ซีซีกระฉับกระเฉงอยู่เช่นนี้ เขาจึงยิ้มและถามมู่ซีซีขึ้นว่า “ทำไมล่ะ เธอยังไม่ง่วงเหรอ?”
มู่ซีซีเงยหน้าขึ้นและพยักหน้าให้กับดวงตาที่สวยงามคู่นั้นของจี้หลิงชวน และถามจี้หลิงชวนขึ้นว่า “จี้หลิงชวน คุณไม่ง่วงเหรอ? ถ้าคุณยังไม่ง่วง อย่างนั้นอยู่คุยเป็นเพื่อนกับฉันก่อนนะ”
จี้หลิงชวนไม่สามารถปฏิเสธต่อคำขอร้องของมู่ซีซีได้ เมื่อมู่ซีซีพูดมาอย่างนี้แล้ว เขาก็พยักหน้าให้กับมู่ซีซีอย่างไม่มีความลังเลพร้อมกับยื่นมือออกไปลูบที่ศีรษะจรดปลายผมสีดำอันเงางามของมู่ซีซีและพูดขึ้นว่า”มู่ซีซี ฉันวางแผนไว้ว่าในอีกไม่กี่วันนี้จะรื้อและตกแต่งห้องรับแขกที่อยู่ถัดจากห้องของเรา เปลี่ยนเป็นห้องสำหรับเด็ก เอาไว้ให้ลูกๆของเราอยู่ เธอคิดว่าเป็นยังบ้าง?”
จี้หลิงชวนไม่ต้องการให้ลูกที่กำลังจะเกิดขึ้นมาในอนาคตนอนร่วมกันกับพวกเขา เพราะเขาไม่อยากจะแย่งภรรยาของเขากับลูกๆของตัวเอง
แน่นอนว่ามู่ซีซีก็คงจะไม่มีความเห็นใดๆในเรื่องนี้ เมื่อเห็นว่าจี้หลิงชวนคิดอย่างรอบคอบแล้ว มู่ซีซีจึงพยักหน้าตกลง
“แต่ถ้าจะต้องรื้อและตกแต่งใหม่มันก็ค่อนข้างที่จะเสียงดัง เธอคงจะไม่ค่อยสะดวก เอาเป็นว่าในวันพรุ่งนี้เธอย้ายไปอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ก่อนสักพัก รอให้ตกแต่งเสร็จแล้วค่อยย้ายกลับมา ”
จี้หลิงชวนเสนอความคิดขึ้นอีกครั้ง อสังหาริมทรัพย์ภายใต้ชื่อจี้หลิงชวนที่เป็นคฤหาสน์อยู่ในเมืองหรงนั้นมีจำนวนไม่น้อย อีกทั้งยังตกแต่งเสร็จครบหมดเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่ทำความสะอาดนิดหน่อยก็สามารถย้ายเข้าไปอยู่ได้ทันที
แต่จี้หลิงชวนกลัวว่ามู่ซีซีจะไม่ชินกันการอาศัยอยู่ในคฤหาสน์พวกนั้น ดังนั้นจึงไม่ได้พูดถึง เขาบอกเพียงแต่ว่าให้เธอย้ายไปที่บ้านหลังใหญ่ก่อน เพราะคิดว่ามู่ซีซีน่าจะชินกับการใช้ชีวิตในบ้านหลังใหญ่แห่งนั้น
มู่ซีซีไม่ได้คัดค้านการจัดการปัญหาในเรื่องนี้ของจี้หลิงชวนเลย เธอเอาแต่พยักหน้าให้จี้หลิงชวนอย่างเชื่อฟัง
จากนั้นฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ร้อนระอุของจี้หลิงชวนก็สัมผัสลงบนหน้าท้องของมู่ซีซีในทันที
จี้หลิงชวนค่อยๆลูบเบา ๆ และพยายามสัมผัสความรู้สึกของเด็กที่อยู่ในท้อง เมื่อมู่ซีซีเห็นอย่างนั้นแล้วก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ เธอมองไปที่จี้หลิงชวนพร้อมกับยื่นมือออกไปจับที่มือของเขาและพูดขึ้นว่า “จี้หลิงชวน ตอนนี้ลูกยังไม่มีรูปร่างเลย คงไม่มีความรู้สึกอะไรหรอก…”
มู่ซีซีพูดพลางในสมองของเธอนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เธอจึงรีบถามจี้หลิงชวนขึ้นว่า “จี้หลิงชวน คุณชอบเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง?”
เมื่อจี้หลิงชวนได้ฟังคำถามของมู่ซีซีแล้ว เขาก็ยิ้มออกมาในทันที ในเวลาต่อมา จี้หลิงชวนก็ยกมือขึ้นและใช้นิ้วที่เรียวยาวของเขาบีบไปที่ปลายจมูกของมู่ซีซีพร้อมกับพูดทั้งยิ้มขึ้นว่า “ซีซี ถ้าเป็นลูกที่เธอคลอดจะเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง ฉันก็ชอบทั้งหมดแหละ”
เมื่อได้ฟังคำตอบของจี้หลิงชวนแล้ว มู่ซีซีก็แสดงอาการเขินอายจนแก้มทั้งสองข้างค่อยๆแดงขึ้น เธอสัมผัสได้ถึงความหวานขึ้นที่ปรากฏขึ้นมาในหัวใจ
ดูเหมือนตอนนี้จี้หลิงชวนจะพูดเกี่ยวกับเรื่องความรักได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นแล้ว!
เมื่อจี้หลิงชวนเห็นว่ามู่ซีซีกำลังยิ้มอย่างมีความสุข เขาจึงกอดมู่ซีซีแน่นขึ้นพร้อมกับยิ้มให้เธอและพูดเสริมขึ้นว่า “แน่นอน ถ้าทำได้ล่ะก็ ขอเป็นลูกชายจะดีที่สุด”
เมื่อจู่ ๆ มู่ซีซีได้ยินประโยคนี้ของจี้หลิงชวน เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นในทันที ในใจของเธอเต้นตึก ๆ ๆขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก มู่ซีซีมองไปที่จี้หลิงชวนพร้อมกับเม้มปากอย่างไม่พอใจเล็กน้อยและพูดขึ้นว่า “จี้หลิงชวน ทำไมคุณถึงอยากจะได้ลูกชายล่ะ?คุณรักลูกชายมากกว่าลูกสาวอย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อจี้หลิงชวนมองเห็นท่าทางที่ดูไม่ค่อยพอใจของมู่ซีซี เขา จึงคอยๆฉีกยิ้มออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นและบีบที่ปลายจมูกของมู่ซีซี จากนั้นก็อธิบายขึ้นว่า “แน่นอนว่ามันต้องไม่ใช่รักลูกชายมากกว่าลูกสาว ฉันก็บอกไปแล้วนี่ว่า หากเป็นลูกที่เธอคลอด ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้ชายหรือผู้หญิง ฉันก็ชอบทั้งหมดเลย แต่ฉันคิดว่ามันจะดีกว่าที่ลูกคนแรกจะเป็นเด็กผู้ชาย เป็นพี่ชายที่แสนดีคอยทำหน้าที่ดูแลน้องสาว”
เมื่อมู่ซีซีก็เข้าใจความหมายของจี้หลิงชวนแล้ว สีหน้าของเธอก็กลับมาเป็นปกติ ไม่เพียง แต่เธอจะไม่โกรธจี้หลิงชวน แต่ในทางกลับกันแก้มทั้งสองข้างของเธอกลับค่อยๆแดงขึ้นมาด้วย
จี้หลิงชวนนี่จริงๆเลย ลูกคนแรกอายุครรภ์ได้เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น เขายังคิดถึงลูกคนที่สอง ลูกคนที่สามได้อีก…
คิดไกลเกินไปแล้ว
เมื่อทั้งสองสบตากัน มู่ซีซีก็ไม่อาจทนต่อสายตาคู่นั้นของจี้หลิงชวนได้ เธอรู้สึกเขินอายและว่ารู้สึกว่าบรรยากาศมันชักคลุมเครือขึ้นเรื่อยๆแล้ว
จิ้งจอกหนุ่มกับกวางสาว อยู่ห้องเดียวกันในตอนกลางคืน และตอนนี้ทั้งสองก็กำลังใกล้ชิดและสนิทกันมาก อีกทั้งยังพลอดรักกันอย่างหวานชื่นอีกด้วย
มู่ซีซีกลัวจริงๆว่าจี้หลิงชวนจะถูกอารมณ์พา
เธอรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งก่อนเป็นเพราะจี้หลิงชวนหุนหันพลันแล่นไป แต่ในตอนสุดท้าย จี้หลิงชวนก็กลับมาเป็นปกติได้เพราะเขาวิ่งเข้าไปอาบน้ำเย็นในห้องน้ำ และสุดท้ายแล้วคนที่รู้สึกไม่ดีก็คือตัวของจี้หลิงชวนเอง
มู่ซีซีรู้สึกกังวลเล็กน้อย เธอไม่ต้องการให้จี้หลิงชวนวิ่งเข้าไปอาบน้ำเย็นในสภาพอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ เมื่อคิดถึงนี้ขึ้นมาใบหน้าของมู่ซีซีก็แดงขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอรีบทำลายบรรยากาศอันคลุมเครือนี้ด้วยการเปลี่ยนหัวข้อของเรื่องที่จะคุยกันต่อ “ใช่แล้ว จี้หลิงชวน ดูเหมือนเรายังไม่ได้ตั้งชื่อลูก ๆ ของเรากันเลยนะ?คุณคิดเรื่องชื่อของลูก ๆ ไว้บ้างหรือยัง?”
เมื่อมู่ซีซีพูดจบ จี้หลิงชวนก็พูดต่อขึ้นมาว่า “ฉันก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย เธอคิดชื่อเพราะๆไว้บ้าง
หรือยังล่ะ?ไม่อย่างนั้น เรามาคิดกันสิว่า เราควรจะตั้งชื่อลูกๆ ของเราว่าอะไรดี”
เมื่อมู่ซีซีได้ยินอย่างนั้นแล้วเธอก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาในทันที
มู่ซีซีใช้มือน้อยๆของเธอค่อยๆดึงจี้หลิงชวนลุกขึ้นนั่งบนเตียง จากนั้นก็มองไปที่จี้หลิงชวนและพูดขึ้นว่า “จี้หลิงชวน วันนี้เรามาคิดชื่อลูกๆของเรากันเถอะ ”
มู่ซีซีพูดพลางเปิดผ้าห่มและลุกขึ้นจากเตียง เธอเดินไปพลางหันกลับมาพูดกับจี้หลิงชวนว่า “ฉันจะไปเอาพจนานุกรมชื่อมาให้”
เมื่อจี้หลิงชวนเห็นท่าทางดีใจของมู่ซีซีอย่างนั้นแล้ว ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เมื่อเห็นว่ามู่ซีซีมีความสุขเขาจึงพยักหน้าและให้ความร่วมมือกับมู่ซีซีอย่างเต็มที่
มู่ซีซีไปหยิบหนังสือพจนานุกรมชื่อออกมาจากห้องหนังสือของจี้หลิงชวนอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เธอกลับขึ้นมานอนบนเตียง จี้หลิงชวนก็ค่อยๆโอบกอดมู่ซีซีเข้ามาในอ้อมแขนของเขา