อันอันไม่ค่อยร้องงอแง เชื่อฟังที่สุด ตอนนี้เธออยู่ในอ้อมแขนของป้าหวางไม่ร้องงอแงและหลับตาสักพักก็เผลอหลับไป
จี้หลิงชวนลุกขึ้นสองสามก้าวแล้วเดินไปที่มู่ซีซี แต่ก็ไม่ถือสาที่มีลั่วเสี่ยวชิงเป็นก้างขวางคออยู่ข้างๆ เขาเอื้อมมือออกไปจับมือมู่ซีซีอย่างใกล้ชิด
มู่ซีซีเขินเล็กน้อยและคิดจะปลดมือออก แต่ฝ่ามือใหญ่ของจี้หลิงชวนรัดแน่นขึ้นเขาก้มศีรษะลงเอื้อมไปที่หูของมู่ซีซีอย่างจงใจ พูดด้วยน้ำเสียงที่เบามากจนมีเพียงสองคนเท่านั้นที่ได้ยินเขา “ซีซี ฉันกำลังจับมือภรรยาของตัวเอง เธอจะปฏิเสธไม่ได้”
ในน้ำเสียงขี้อ้อน มู่ซีซีทำกลอกตาด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว ทำได้เพียงเขินอายจนหน้าแดงปล่อยให้จี้หลิงชวนจูงมือไป
ดูเหมือนว่าหลังจากที่มู่ซีซีคลอดลูก จี้หลิงชวนมักใช้น้ำเสียงขี้อ้อนพูดกับมู่ซีซีมากๆ
ในทางกลับกันมู่ซีซีรู้ว่าจี้หลิงชวนตั้งใจทุกครั้งเธอจะรู้ว่าถูกจี้หลิงชวนอ้อน
ทั้งสามคนเข้าไปในห้องอาหาร ทันทีที่มู่ซีซีนั่งลงจี้หลิงชวนก็ไปที่ข้างมู่ซีซีและนั่งลงอย่างมีสติ ลั่วเสี่ยวชิงก้างขวางคอนั่งตรงข้ามมู่ซีซีอย่างมีสติ
ตอนนี้มู่ซีซีกำลังอยู่ไฟหลังคลอด มีอาหารที่ต้องงดมากมายและเธอต้องการชดเชยโภชนาการอย่างมาก ดังนั้นจี้หลิงชวนจึงเชิญให้นักโภชนาการมาดูแลเรื่องอาหารของมู่ซีซีเป็นพิเศษซึ่งอาหารของเธอจะแตกต่างจากจี้หลิงชวนและลั่วเสี่ยวชิงทั้งหมด
เมื่อจี้หลิงชวนอยู่บนโต๊ะอาหาร การสนทนาส่วนตัวของมู่ซีซีและลั่วเสี่ยวชิงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพูดต่อหน้าชายร่างใหญ่
มู่ซีซีจึงคุยกับลั่วเสี่ยวชิงเกี่ยวกับงาน ในขณะที่มู่ซีซีกำลังทานอาหารเย็น จี้หลิงชวนก็คอยเสิร์ฟทั้งอาหารและเสิร์ฟทั้งซุปให้มู่ซีซีอย่างพิถีพิถัน
บางครั้งเพียงแค่มู่ซีซีขยับมือเล็กน้อย จี้หลิงชวนที่อยู่ข้างๆก็เหมือนพยาธิตัวกลมในท้องของมู่ซีซีที่รู้ทันทีว่ามู่ซีซีต้องการดื่มอะไรและรีบรินน้ำอุ่นหนึ่งแก้วให้มู่ซีซี
จนกระทั่งมู่ซีซีเกือบจะกินอิ่ม จี้หลิงชวนก็เริ่มกินอาหาร
ลั่วเสี่ยวชิงมองไปที่ฝั่งตรงข้ามดูความร่วมมือระหว่างคนทั้งสองรู้สึกอิจฉา เธอแค่รู้สึกว่ามู่ซีซีและจี้หลิงชวนกำลังแสดงความรักแบบหวานชื่นต่อหน้าเธอ แต่เธอมีความสุขกับมู่ซีซีจากก้นบึ้งของใจฉัน โชคดีมากที่เพื่อนที่ดีของตัวเองสามารถหาคนที่ไว้ใจได้ตลอดชีวิต
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ มู่ซีซียังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะถามลั่วเสี่ยวชิงดังนั้นเธอจึงมอบอันอันให้กับจี้หลิงชวนดูแลและเธอก็พาลั่วเสี่ยวชิงไปที่ห้องนอนและทั้งสองคนก็พูดคุยกระซิบกระซาบกัน
เมื่อเขามาถึงห้องนอน มู่ซีซีปิดประตูพาลั่วเสี่ยวชิงนั่งลงบนโซฟาข้างๆเธอ
มองลั่วเสี่ยวชิงด้วยความกังวล เธอพูดว่า “เสี่ยวชิง ทำไมคุณย้ายออกจากบ้าน?”
ลั่วเสี่ยวชิงรู้ว่ามู่ซีซีเป็นห่วงเธอ ดังนั้นเธอจึงเริ่มเล่าด้วยเรื่องที่แม่ของเธอบังคับให้เธอไปเจอคู่ ลั่วเสี่ยวชิงข้ามเรื่องที่แม่ลั่วต้องการระดมเงินส่งลั่วเฉินชิงน้องชายของลั่วเสี่ยวชิงไปศึกษาต่อต่างประเทศ มันเป็นเพียงเพื่อหาเงินมาบังคับให้เธอแต่งงานกับชายวัยกลางคนที่อายุมากกว่าเธอยี่สิบกว่าปี
เพราะลั่วเสี่ยวชิงรู้ดีอยู่แก่ใจว่าถ้าเธอบอกว่าแม่ลั่วขาดแคลนเงินจึงทำเช่นนั้นมู่ซีซีจะนำเงินจากจี้หลิงชวนไปช่วยเธออย่างแน่นอน
ลั่วเสี่ยวชิงเป็นคนที่ไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณ แม้แต่เพื่อนที่ดีที่สุดของเธอลั่วเสี่ยวชิงก็ไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับมู่ซีซี
เมื่อมู่ซีซีได้ยินลั่วเสี่ยวชิงพูดเรื่องครอบครัวจบแล้ว เธอก็โกรธเล็กน้อย “ครั้งนี้คุณป้าไม่มีเหตุผลเกินไป คุณยังเรียนอยู่ในวิทยาลัย ทำไมต้องบังคับให้เธอแต่งงานและหาคนที่แก่กว่าให้เธอ! ”
มองลั่วเสี่ยวชิงพูดและพยักหน้าเห็นด้วย “เธอย้ายออกมาก็ดีแล้ว ไม่เช่นนั้นคุณป้าพูดทุกวันจนคุณทนไม่ไหว”
ยิ่งไปกว่านั้นมู่ซีซีเคยพูดคุยกับแม่ลั่วเพียงไม่กี่ครั้ง รู้ว่าว่าแม่ลั่วเป็นคนแข็งมาก และยังโหดร้ายมาก สามารถทำบางอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้วยวิธีที่ไร้ยางอาย
ท้ายที่สุดลั่วเสี่ยวชิงทำงานนอกเวลาทั้งกลางวันและกลางคืนสำหรับค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพเพื่อใช้ในการเข้าเรียนที่วิทยาลัยครั้งแรกและเหนื่อยล้าจนร่างของเธอทรุดตัวลง ใครๆที่เห็นก็จะรู้สึกทุกข์ใจ แต่มีเพียงแม่ลั่วเท่านั้นที่ไม่แยแส หากบอกไม่ให้เงินกับลั่วเสี่ยวชิงก็แสดงว่าไม่ให้เงินเลยสักแดงเดียว
หลังจากมู่ซีซีพูดจบ เธอมองไปที่ลั่วเสี่ยวชิงอย่างกังวลเล็กน้อยและถามว่า “เสี่ยวซิง ตอนนี้เธอขาดเงินอยู่หรือเปล่า?”
ขณะที่มู่ซีซีพูดรีบหยิบบัตรเครดิตจากกระเป๋าของเธอแล้วยัดเข้าไปในมือของลั่วเสี่ยวชิง “เสี่ยวซิง เธอรับไปรหัสผ่านคือวันเกิดของฉัน เงินไม่มาก เธอรับไป เธอพอติดตัวไว้ใช้ยามฉุกเฉิน”
การอยู่คนเดียวมีค่าใช้จ่ายมากเกินไป
ลั่วเสี่ยวชิงได้ยินสิ่งที่มู่ซีซีพูด แต่เขารีบผลักบัตรเครดิตกลับไปที่มือของมู่ซีซีและพูดกับมู่ซีซี “ซีซี เธอเก็บไว้กับตัวเองเถอะ ฉันยังมีเงินใช้ ไม่เป็นไร”
มู่ซีซีรู้ว่าลั่วเสี่ยวชิงมีเงินแค่ไหน ไม่ต้องพูดถึงว่าลั่วเสี่ยวชิงซื้อของมากมายให้กับอันอันในช่วงก่อนหน้านี้และมู่ซีซีผลักบัตรธนาคารกลับคืนสู่มือของลั่วเสี่ยวชิงแล้วพูดว่า “เสี่ยวชิง ในนี้มีเงินไม่มาก เงินในนั้นเป็นเงินทั้งหมดที่ฉันเก็บได้จากการทำงานพาร์ทไทม์ มันไม่เกี่ยวอะไรกับจี้หลิงชวน ฉันยังอยู่ที่บ้านเพื่ออยู่ไฟหลังคลอดและไม่ต้องการใช้เงินใดๆ เธอตอนนี้อยู่ข้างนอกล้วนต้องใช้เงินและตอนนี้เธอเพิ่งได้ทำงาน เงินถูกใช้ทุกที่และ แม้ว่าเงินเดือนของคุณจะจ่ายเร็ว คุณก็ต้องรับเงินเดือนสิ้นเดือนหน้า ยังเหลืออีกมากกว่าครึ่งของเดือน คุณวางแผนจะทำยังไง?”
มู่ซีซีรู้ว่าลั่วเสี่ยวชิงจะไม่ยอมรับข้อเสนอของเธอ ดังนั้นเธอจึงพูดอีกครั้ง “เงินนี้ เธอก็คิดว่ายืมฉัน เมื่อเธอรู้สึกมั่นคงแล้ว เธอก็คืนเงินให้ฉันมันก็เหมือนกัน แบบนี้ฉันถึงจะสบายใจได้หน่อย”
เมื่อลั่วเสี่ยวชิงฟังคำพูดของมู่ซีซีดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเพราะรู้ว่ามู่ซีซีกำลังคิดแทนเธอจริงๆ ลั่วเสี่ยวชิงกัดริมฝีปากของเธอเบาๆ แล้วรับบัตรเครดิต “ซีซีขอบคุณเธอมาก”
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณระหว่างเราสองคน”
มู่ซีซีคุยกับลั่วเสี่ยวชิงอยู่พักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเวลายิ่งอยู่ยิ่งดึกแล้วแล้วมู่ซีซีจึงอำลาลั่วเสี่ยวชิงและให้คนขับรถของครอบครัวส่งลั่วเสี่ยวชิงกลับไป
ด้านนี่มู่ซีซีอยู่ที่ห้องโถงของคฤหาสน์ส่งลั่วเสี่ยงชิง จี้หลิงชวนหยิบเสื้อกันลมห่อมู่ซีซีให้แน่นอย่างรวดเร็วโอบกอดมู่ซีซีไว้ในอ้อมแขนของเขาด้วยความรักและผ่อนคลาย ยกมือขึ้นและปลายจมูกของมู่ซีซีพูดอย่างเคร่งขรึม “ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอ โดนลมไม่ได้ ทำไมคุณถึงยังยืนอยู่ที่ประตูและให้ลมพัดทำไม”
จี้หลิงชวนยึดใช้ข้อห้ามอย่างเคร่งครัดในการอยู่ไฟหลังคลอดของมู่ซีซี
เมื่อได้ยินสิ่งที่จี้หลิงชวนพูดมู่ซีซีก็อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างเงียบๆ ว่า “ฮูว ฉันแค่ยืนอยู่ที่ประตูครู่หนึ่งลมก็พัดไม่โดนฉัน… ”
ขณะที่มู่ซีซีพูดก็นึกถึงตอนที่ลั่วเสี่ยวชิงเพิ่งจากไป อดไม่ได้ที่จะเหม่อลอย