ตำรวจเอาแต่จ้องมองหลิวหยู่ “ตอบมาครับ เมื่อคืนประมาณห้าทุ่ม คุณอยู่ที่ไหน?”
หลิวหยู่กัดฟันแน่น ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยอมรับเด็ดขาด จึงตอบว่า “เมื่อคืนผมเล่นไพ่กับเพื่อนอยู่ที่บ้านครับ”
“มีพยานยืนยันไหมครับ?”
“มีครับ เพื่อนที่เล่นไพ่กับผมเป็นพยานได้ทุกคน”
หลิวหยู่จึงบอกชื่อสองคนนั้นที่เมื่อคืนไปลักพาตัวลั่วเสี่ยวชิงกับเขา
สองคนนั้นเป็นมือซ้ายมือขวาของหลิวหยู่ แล้วเป็นคนฉลาดด้วย ในใจเขามั่นใจว่าพวกเขาจะไม่ทำให้เรื่องโป๊ะแตกแน่นอน
จากนั้นหลิวหยู่จึงพูดกับคุณตำรวจอีกว่า “คุณตำรวจครับ ถ้าพวกคุณไม่เชื่อผมโทรหาพวกเขาตอนนี้เลยก็ได้ครับ”
หลิวหยู่ไม่รอให้ตำรวจสองคนเอ่ยพูด เขาจึงหยิบโทรศัพท์ตัวเองมาแล้วโทรหาลูกน้องสองคนนั้น
ลูกน้องสองคนนั้นไม่ได้บาดเจ็บสาหัสเท่าหลิวหยู่ พอมาตรวจเช็กที่โรงพยาบาลแล้ว จึงเอายาแล้วกลับไปพักผ่อนที่บ้าน
หลิวหยู่โทรออกต่อหน้าคุณตำรวจ โทรศัพท์เพิ่งดังหลิวหยู่จึงรีบพูดก่อนว่า “ไอ้หลี่ ตอนนี้คุณตำรวจอยากจะถามอะไรนายหน่อย นายช่วยเป็นพยานพิสูจน์หน่อยว่าเมื่อคืนประมาณห้าทุ่มฉันทำอะไรอยู่”
หลิวหยู่จงใจพูดคำว่าตำรวจออกมาอย่างเสียงดังฟังชัดก่อน
ตอนที่หลิวหยู่ยังเป็นนักเลง ทั้งสามคนก็เป็นพยานให้กันบ่อยๆ รู้ใจกันตั้งนานแล้ว ไอ้หลี่อีกฝั่งของโทรศัพท์ได้ยินคำว่าตำรวจจึงเข้าใจทันที
จึงตอบอย่างไม่ลังเลว่า “อ้อ เมื่อคืนตอนประมาณห้าทุ่มเหรอ เรากำลังเล่นไพ่อยู่ที่บ้านนายไม่ใช่เหรอ?”
จากนั้นหลิวหยู่จึงโทรหาอีกคน แล้วคำตอบที่ได้ก็เหมือนเดิม
พอโทรคุยจบแล้ว หลิวหยู่จึงมองตำรวจแล้วยักไหล่ว่า “คุณตำรวจครับ คุณดูสิครับ เรื่องเป็นแบบนี้แหละครับ พวกคุณก็ได้ยินชัดเจนแล้ว พวกคุณบอกว่าผมเข้าข่ายคดีลักพาตัวพยายามข่มขืนอะไรนั้นไม่เกี่ยวข้องกับผมครับ”
คุณตำรวจสองคนมองหน้ากัน จากนั้นหนึ่งในนั้นจึงขมวดคิ้วแล้วชี้บาดแผลบนตัวหลิวหยู่ “แล้วบาดแผลบนตัวคุณได้มายังไงครับ?”
หลิวหยู่ได้ยินแล้วจึงยิ้มแห้ง “อ้อ แผลเหรอครับ เมื่อคืนตอนที่ผมเล่นไพ่กับเพื่อนแล้วทะเลาะกันครับ คุณตำรวจคุณก็รู้ คนหนุ่มๆอย่างเราก็ชอบใช้กำลังกันทั้งนั้น”
คำตอบของหลิวหยู่รัดกุมมาก ทางลั่วเสี่ยวชิงไม่มีหลักฐานชี้ตัวหลิวหยู่อีก คุณตำรวจทำอะไรเขาไม่ได้ พอสอบถามแล้ว ตำรวจทั้งสองคนจึงเดินจากไป
พอตำรวจไปปุ๊บ สีหน้าหลิวหยู่จึงเข้มขรึมหัวเราะในลำคอ สีหน้าก็ร้ายกาจกว่าเดิม
นังลั่วเสี่ยวชิง ตอนนี้มึงกล้าแจ้งตำรวจ เดี๋ยวเกิดเรื่องกับน้องมึงมึงจะรู้สึกเอง!
คุณตำรวจทั้งสองคนกลับโรงพักแล้วจึงโทรหาลั่วเสี่ยวชิง
“คุณลั่วครับ ทางคุณยังมีหลักฐานชี้ตัวอะไรอีกไหมครับ? ทางหลิวหยู่ปฏิเสธบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเมื่อคืน แล้วเขามีพยานด้วยครับ ถ้าคุณไม่มีหลักฐานอื่น เราก็ทำอะไรเขาไม่ได้ แล้วก็ดำเนินคดีตรวจสอบไม่ได้ครับ”
ลั่วเสี่ยวชิงถือโทรศัพท์ไว้ ใบหน้าก็มีรอยยิ้มที่ขมขื่น เป็นแบบนี้จริงๆด้วย เธอเดาคำตอบของทางตำรวจได้แล้ว
รู้ว่าหลิวหยู่ไม่ใช่คนธรรมดา หลิวหยู่กล้าทำอะไรแบบนั้นต้องวางแผนมาเป็นอย่างดีแน่นอน
แต่ว่าตัวเองก็ไม่มีหลักฐานอะไรเลย แล้วไม่อยากเอาลู่เฉิงฮ่าวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ลั่วเสี่ยวชิงทำอะไรไม่ได้ จึงต้องปล่อยไปก่อน
ขณะคิดลั่วเสี่ยวชิงจึงเอ่ยกับคุณตำรวจว่า “รบกวนคุณตำรวจหน่อยนะคะ เดี๋ยวฉันจะลองหาหลักฐานใหม่ค่ะ”
พอโทรคุยกับตำรวจจบแล้ว ลั่วเสี่ยวชิงจึงนั่งเหม่อบนเก้าอี้ ในหัวก็ตีกันวุ่นว่าควรบอกเรื่องนี้กับลู่เฉิงฮ่าวไหม แล้วขอให้เขามาเป็นพยานให้เธอ
แต่ว่ายังไม่ทันรอให้ลั่วเสี่ยวชิงได้คำตอบ อยู่ๆโทรศัพท์จึงดังแทรกลั่วเสี่ยวชิงที่กำลังคิดมากอยู่
เบอร์โทรของแม่ลั่ว ลั่วเสี่ยวชิงมองแล้วจึงขมวดคิ้วแน่น
จากนั้นจึงตั้งสติแล้วกดรับสาย เพิ่งวางโทรศัพท์ลงข้างหู ในโทรศัพท์จึงมีเสียงแหลมที่แสบหูของแม่ลั่วดังมาว่า “ลั่วเสี่ยวชิง! แกมันตัวซวย! ฉันบอกแกไว้เลย ถ้าน้องชายแกเป็นอะไรไปฉันไม่ปล่อยแกไปแน่!”
ลั่วเสี่ยวชิงยังไม่ทันได้เสียใจกับคำพูดแทงใจดำของแม่ลั่ว พอได้ยินคำว่าน้องชาย ในใจเธอจึงสั่นเกร็ง แล้วเต้นแรงทันที จากนั้นจึงจับโทรศัพท์ไว้แน่นเอ่ยพูดว่า “แม่ แม่พูดว่าอะไรนะ? เฉินชิงเป็นอะไรคะ? เกิดอะไรกับเฉินชิง?”
พอพูดถึงชื่อลั่วเฉินชิง แม่ลั่วจึงร้องไห้ออกมาทันที “เมื่อกี้ครูของเฉินชิงโทรมา บอกว่าเฉินชิงโดนรถชนที่หน้าโรงเรียน ตอนนี้ส่งไปที่โรงพยาบาลแล้ว ฉันกำลังไปที่โรงพยาบาล!”
จากนั้นน้ำเสียงของแม่ลั่วจึงเปลี่ยนไป พร้อมพูดกัดฟันแน่นว่า “ลั่วเสี่ยวชิง เป็นเพราะแก! เป็นเพราะแกแน่ๆ! หลิวหยู่บอกแล้ว ถ้าแกไม่ให้คำตอบที่เขาพอใจเขาไม่ให้เราอยู่เป็นสุขแน่! เฉินชิงไม่เคยเป็นอะไรมาก่อน ทำไมถึงโดนรถชนตอนนี้ล่ะ! ลั่วเสี่ยวชิง ทั้งหมดเป็นเพราะแก ทำไมคนที่โดนชนไม่ใช่แก! คนที่สมควรตายคือแก อย่ามาทำให้เฉินชิงของฉันซวยไปด้วย!”
ลั่วเสี่ยวชิงได้ยินแล้วจึงรู้สึกว่าเหมือนมีมีดมากรีดลงที่หัวใจ แล้วเลือดก็ไหลทะลักออกมา
ลั่วเสี่ยวชิงกัดริมฝีปากแน่น พยายามไม่ให้เสียงตัวเองสั่น พร้อมพูดอย่างขมขื่นว่า “แม่ แม่ไว้ใจเถอะหนูจะไม่ให้เฉินชิงเป็นอะไรแน่นอน”
พูดจบลั่วเสี่ยวชิงจึงไม่กล้าฟังคำพูดแทงใจดำที่แม่ลั่วจะพูด จึงกดตัดสายทันที
ลั่วเสี่ยวชิงรีบหยิบกระเป๋ากับโทรศัพท์แล้วออกจากห้องพัก โบกรถแล้วรีบไปที่โรงพยาบาลที่ลั่วเฉินชิงอยู่ทันที
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ลั่วเสี่ยวชิงไปถึงโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าลั่วเฉินชิงอยู่ที่ไหน จึงรีบไปที่แผนกฉุกเฉิน ปกติรถพยาบาลจะส่งคนมาที่แผนกฉุกเฉิน
“คุณหมอสวัสดีค่ะ หนูอยากสอบถามว่าเมื่อกี้มีรถพยาบาลรับตัวเด็กนักเรียนชายที่โดนรถชนมาไหมคะ? ชื่อลั่วเฉินชิง เพิ่งส่งตัวมาที่นี่ค่ะ”
ลั่วเสี่ยวชิงพูดรายละเอียดครบถ้วน คุณหมอแผนกฉุกเฉินจึงเปิดดูบันทึกแล้วพูดกับเธอว่า “ครับ มีเด็กนักเรียนถูกส่งตัวมา คุณเป็นญาติใช่ไหมครับ?”
ลั่วเสี่ยวชิงได้ยินแล้วจึงรีบพยักหน้า “ใช่ค่ะ ฉันเป็นพี่สาวเขา”
คุณหมอแผนกฉุกเฉินจึงเอ่ยกับลั่วเสี่ยวชิงว่า “ตอนนี้เด็กนักเรียนชายคนนั้นถูกส่งตัวไปที่แผนกผู้ป่วยในตึกเจ็ดห้องเจ็ดศูนย์หนึ่ง คุณไปหาที่ห้องพักฟื้นได้เลยครับ”