“คุณตาเธอ?” เฟิงเหลยถิงทั้งตกใจและประหลาดใจด้วย
เป๋าฮวนตอบตามความจริง: “คุณตาของฉันตอนวัยรุ่นได้สูญเสียความทรงจำ และทิ้งคุณยายของฉันไว้ที่ประเทศฮัวตามลำพัง ต่อมาคุณยายของฉันให้กำเนิดแม่ของฉันซูอวิ้นเรื่องราวหลังจากนั้นคุณก็รู้แล้ว”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้……” เฟิงเหลยถิงพยักหน้าเข้าใจกระจ่างแจ้ง และความสับสนในใจของเขาก็ได้รับการแก้ไขในทันที
เขามองดูแต่ละคนที่ท่าทางมึนงงและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้น: “ฮวนฮวนกลับมาแล้ว อีกหน่อยบ้านก็จะครึกครื้นน่าอยู่”
“พวกเราอย่าโง่ไปเลย เป๋าฮวนก็คือเฉินฮวนฮวน ทั้งคู่เป็นฮวนฮวนคนเดียวกัน ศพผู้หญิงตอนนั้นไม่ใช่ฮวนฮวน เป๋าฮวนคนนี้ถึงจะเป็นฮวนฮวนตัวจริง”
“ไม่มีผีสิงอะไรทั้งนั้น ทุกคนรีบทานข้าวเถอะ” เฟิงเหลยถิงอารมณ์ดีในทันทีใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความปิติยินดี
เป๋าฮวนคิดถึงประโยคหนึ่งที่เขาเพิ่งพูด คิดๆแล้วจึงพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “นายท่าน ครั้งนี้ที่ฉันมา เพียงเพื่ออยากอธิบายให้พวกคุณชัดเจน ไม่อย่างนั้นจะทำให้ทุกคนประสาทกลับกันหมด ฉันก็รู้สึกผิดใอยู่ในใจ”
“สำหรับฉันและเฟิงหานชวน ในเมื่อแยกจากกันแล้ว งั้นก็แยกจากกันเลย ต่อไปถ้ามีโอกาส ฉันก็จะกลับมาเยี่ยมคุณอีก”
เป๋าฮวนรู้สึกว่าความหมายที่ตัวเองแสดงออกมานั้น น่าจะชัดเจนมากแล้ว
เฟิงเหลยถิงกำลังยื่นตะเกียบออกไปคีบผัก แต่มือของเขาหยุดกลางอากาศครู่หนึ่ง เขาคิดไม่กี่วินาที แล้วางตะเกียบกลับมาไว้ข้างหน้าตัวเอง จากนั้นถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขามองไปยังลูกชายคนที่สามของตัวเอง สีหน้าของเฟิงหานชวนเยือกเย็นเหมือนชื่อของเขา เย็นจนไม่รู้จะเย็นยังไง
เป๋าฮวนก็หันศีรษะและมองไปที่เฟิงหานชวน เธอเห็นว่าสีหน้าของเฟิงหานชวนดูไม่ได้เลย แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรผิด ตัวเองได้แสดงความหมายแบบนี้กับเขาตั้งแต่แรกแล้ว
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ได้เห็นเธอยังมีชีวิตอยู่ดีฉันก็ดีใจแล้ว” เฟิงเหลยถิงโบกมือและพูดว่า “หิวแล้วหล่ะสิ? รีบทานอาหารเถอะ! ทุกคนทานกันเถอะ!”
เป๋าฮวนพยักหน้าแล้วหยิบตะเกียบขึ้น แม้ว่าคนอื่นๆจะเริ่มทานกัน แต่ทั้งหมดก็มีความคิดของตัวเอง
กระบวนการรับประทานอาหารกลางวันดูแปลกๆ เล็กน้อย และทุกคนก็แทบไม่ได้พูดอะไรหลังจากนั้น ยกเว้นเฟิงเหลยถิงกับเป๋าฮวนที่คุยกันไม่กี่ประโยค
เมื่อรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ เป๋าฮวนนั่งอยู่ที่ที่นั่งอย่างเบื่อหน่าย ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ จู่ๆก็ลุกขึ้นยืนด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: “ทานเสร็จหรือยัง?”
“ทานเสร็จแล้ว” เป๋าฮวนรู้ว่าเขากำลังถามตัวเองอยู่จึงพยักหน้าตอบ
“มากับผม” ชายหนุ่มคว้าข้อมือเธอไว้
เป๋าฮวนเลยต้องลุกขึ้นและเดินตามเฟิงหานชวน เห็นแค่เฟิงหานชวนดึงเธอขึ้นชั้นบน พอถึงชั้นสองก็พาเธอไปที่ห้องนอนห้องหนึ่ง
เธอรู้จักห้องนอนนี้แน่นอน เป็นห้องของเธอกับเฟิงหานชวนในบ้านหลังเก่า ภายในไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย ยังเหมือนกับเมื่อ3ปีที่แล้ว และได้รับการทำความสะอาดอย่างสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบเรียบร้อย
เมื่อเธอเห็นอย่างชัดเจน ชายหนุ่มก็กดร่างของเธอบนผนัง และจู่ๆเกิดความรู้สึกถูกกดขี่ขึ้นมา
“เฟิงหานชวน คุณต้องการทำอะไร? มีคนมากมายที่ชั้นล่าง!” สีหน้าของเป๋าฮวนเริ่มหมองคล้ำและดุด่า
วินาทีต่อมา ชายหนุ่มโอบร่างทั้งร่างของเธอไว้ในอ้อมอก คางของเขาวางอยู่บนบ่าเธอ เขาใช้แรงมาก อยากจะถูเธอเข้าไปในร่างกายของเขา
“ฮวนฮวน เธออยู่ที่นี่ไม่ได้หรือ?” น้ำเสียงของเขาอ่อนน้อมและอ้อนวอน
เป๋าฮวนพูดไม่ออก
เธอพูดแต่แรกแล้วว่าเธอแค่มาอธิบายกับตระกูลเฟิง ไม่ได้กลับมาตระกูลเฟิง
“เฟิงหานชวน ฉันเคยบอกคุณแล้วว่าเราไม่ใช่สามีภรรยากันแล้ว” เธอพูดทีละคำทีละประโยค: “เพราะว่าตอนนี้ฉันคือเป๋าฮวน”
“เฉินฮวนฮวนคนนี้ ไม่มีอีกแล้ว”
อย่างไรก็ตาม หลังจากพูดไม่กี่ประโยคนี้จบ
เฟิงหานชวนกอดเธอแน่นยิ่งขึ้น และเธอรู้สึกว่าเธอกำลังหายใจไม่ออก
“ไม่ว่าคุณจะเป็นเฉินฮวนฮวนหรือเป๋าฮวน คุณก็เป็นฮวนฮวนของผม เป็นภรรยาของผม!” เสียงของเฟิงหานชวนเกือบจะขาดรอนๆ ราวกับว่ากลัวว่าเธอจะหายไปทันทีที่ปล่อยมือ
“คุณปล่อยฉันก่อน ฉันจะหายใจไม่ออกแล้ว” เป๋าฮวนใช้กำปั้นทุบหลังของชายหนุ่ม เสียงกล่าวออกมาไม่ค่อยได้แล้ว เพราะเธอหายใจไม่ออกจริงๆ
ชายหนุ่มกอดเธอแน่นเกินไป ราวกับว่าต้องการชีวิตของเธอ
เฟิงหายชวนได้ยินความแตกต่างในเสียงของเป๋าฮวนรีบปล่อยมือทันที ก้มศีรษะและเอื้อมมือไปจับใบหน้าของเธอ และพูดอย่างกังวล: “ผมหุนหันพลันแล่นเกินไป คุณรู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม?”
เป๋าฮวนสูดอากาศบริสุทธิ์เฮือกใหญ่ แล้วพยักหน้าช้าๆ: “ฉันไม่เป็นไร”
เธอยอมแพ้เฟิงหานชวนจริงๆ กอดผู้หญิงก็ช่างเถอะ แต่นี่ไม่นับว่าเป็นการกอด นี่เขากำลังจะฆ่าปิดปากแล้ว!
“ผมขอโทษฮวนฮวน ผมขาดสติไปแล้ว” ในสมองของเฟิงหานชวนวุ่นวายไปหมด เขาไม่รู้ว่าตัวเองทนมาจนถึงตอนนี้ได้ยังไง
หลังจากที่เป๋าฮวนและนายท่านพูดคำเหล่านั้นออกมา เขาก็ทนอยู่ตลอด ทนจนถึงตอนนี้ ทนตลอดช่วงเวลาอาหารกลางวัน
“คุณ…เฟิงหานชวน คุณต้องการทำอะไรกันแน่?” เป๋าฮวนมองท่าทางแบบนี้ของเฟิงหานชวน พูดคำตำหนิไม่ออกมีแค่เสียงมีแบบช่วยไม่ได้
“ผมอยากให้คุณอยู่เคียงข้างผม” เขาพูดโดยไม่ลังเล
เป๋าฮวนหายใจเข้าลึกๆ และพูดอย่างเย็นชา: “ฉันคิดว่าฉันไม่เพียงบอกคุณชัดเจนแค่ครั้งเดียว และฉันไม่ต้องการที่จะพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก”
“คุณโทรกลับหาเวินซือเหยี่ยนหรือยัง?” เฟิงหานชวนพูดขัดจังหวะเธอ
เป๋าฮวนใบหน้างงงวย: “มันเกี่ยวกับคุณหรือ?”
“เกี่ยว!” เฟิงหานชวนพูดอย่างจริงจัง: “ถ้าคุณรับปากเวินซือเหยี่ยนว่าจะเล่นเป็นตัวประกอบในละครราชวังชิง ถ้าอย่างนั้นคุณก็สามารถอยู่ในประเทศฮัวต่อ และอยู่ใกล้ผมมากขึ้น”
เป๋าฮวน : “……”
“ใกล้ชิดคุณมากขึ้น? คุณต้องการทำอะไร?”
“ผมอยากตามจีบคุณ!”
“……”
“ฮวนฮวน ตาของคุณเห็นด้วยแล้ว ถ้าคุณไม่เห็นด้วย ฉันจะตามจีบคุณเรื่อยๆ ตามจีบคุณไปจนถึงสุดหล้าฟ้าเขียว จนกว่าคุณจะตอบตกลง”
“……”
เป๋าฮวนพูดไม่ออก อีกทั้งรู้สึกว่าสมองของเฟิงหานชวนไม่ปกติ
“สุดหล้าที่ไหนไม่มีฟ้าเขียว ทำไมถึงรักดอกไม้แค่ดอกเดียว?” เธอแอบพูด
“แต่ผมรักแค่ดอกไม้ดอกนี้”
เฟิงหานชวนจ้องไปที่ดวงตาที่สดใสของหญิงสาวด้วยความรักลึกซึ้ง ลูกกระเดือกของเขาสั่นไหว อดไว้ไม่อยู่ ก้มศีรษะลงและจูบริมฝีปากของหญิงสาวโดยตรง
เพียงแต่ว่าเร็วมาก ไม่กล้าค้างไว้
เป๋าฮวนผงะไปครู่หนึ่งและมองขึ้นไปที่ชายหนุ่มตรงหน้า แม้กระทั่งสงสัยว่าช่วงเวลาเมื่อครู่นี้เป็นเพียงภาพลวงตาของเธอ
แต่ความอบอุ่นอันน้อยนิดที่ริมฝีปาก ทำให้เธอรู้สึกอีกว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกไปเอง
“คุณเพิ่ง……จูบฉันเหรอ?” เป๋าฮวนชี้ไปที่ปากตัวเองและถามด้วยสายตาที่จ้องเขม็ง
“อืม” เฟิงหานชวนตอบอย่างมั่นใจ “ทนไม่ไหว”
“ฉัน……เหี้ย……” เป๋าฮวนอดไม่ได้ที่จะระเบิดคำหยาบ
“ฮวนฮวน เมื่อก่อนคุณไม่เคยดุขนาดนี้” เฟิงหานชวนลิ้มรสความหวานและมีความสุขใจมาก
ไม่ว่าอย่างไรฮวนฮวนเป็นของเขา ร่างกายทั้งหมดของเธอก็เป็นของเขา
ส่วนเวินซือเหยี่ยนนั่น เกรงว่าแม้แต่นิ้วของฮวนฮวนก็ไม่เคยได้แตะ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ริมฝีปากของเฟิงหานชวนก็ม้วนงอและรอยยิ้มที่พึงพอใจก็ปรากฏขึ้น