ในกรณีแบบนี้ถึงเป๋าฮวนจะไม่อยากยอมรับก็คงจะไม่ได้
แก้มของเธอแดงราวกับถูกต้มให้เดือด เธอวางคางบนไหล่ของร่างสูงแล้วกระซิบว่า: “ใช่”
ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอและเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของเธอเอง!
ถ้าเธอไม่พูดล้อเล่นก็คงจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้
เฟิงหานชวนแอบยิ้มอย่างลับๆ และแสงแห่งความสุขก็ส่องประกายผ่านดวงตาของเขา เขาอุ้มเป๋าฮวนและเดินออกจากห้องครัวมา
เขาเดินไปเพียงไม่ถึงสองก้าว เป๋าฮวนก็รีบคว้าแขนของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทาว่า: “เดี๋ยวก่อน คุณวางฉันลงก่อน อย่าอุ้มฉันเลย”
“แน่ใจเหรอว่าอยากให้ปล่อย?”เฟิงหานชวนลดเสียงลงและถามกลับ
เป๋าฮวนอึ้งไปและรับรู้ได้ถึงถึงสถานการณ์ในปัจจุบันทันที ดูเหมือนว่าเธอต้องให้เฟิงหานชวนอุ้ม เพื่อช่วยเฟิงหานชวนปกปิดความอับอายของเขาในตอนนี้
มิฉะนั้นหากเฟิงหานชวนพบแม่บ้านหลี่ระหว่างทางขึ้นไปชั้นบน มันจะต้องทำให้เฟิงหานชวนอับอายแน่ๆ
“งั้นก็ได้ อุ้มฉันขึ้นไปข้างบนเถอะ”เป๋าฮวนทำได้เพียงแค่เห็นด้วยและไม่กล้าขัดขืน สองมือของเธอจับรอบคอของเฟิงหานชวนแน่นและไม่ขยับเขยื้อนเลย
เส้นเลือดสีเขียวปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขาในตอนนี้ ความรู้สึกของความอดทนในตอนนี้ทำให้เขาแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว เขาอุ้มเป๋าฮวนและรีบออกไปจากห้องครัวอย่างรวดเร็ว
ต่อมา เขาเพียงแค่ก้าวออกจากห้องครัวเพียงแค่ไม่กี่ก้าว จากนั้นเขาก็หยุดเดิน
เฟิงหานชวนหันหน้าไปทางบันได แต่วิธีการจับของเป๋าฮวนนั้นทำให้เธอยังห้อยต่องแต่งอยู่บนตัวเขา ดังนั้นสายตาของเขาจึงมองไปทางตรงกันข้าม
“ทำไมคุณไม่เดินต่อ?”เป๋าฮวนถามด้วยความสงสัยแล้วหันกลับไป
วินาทีต่อมาเป๋าฮวนก็ชะงักไป
แม่บ้านหลี่ยืนอยู่ที่ชั้นบนสุดของบันได มองดูพวกเขาด้วยรอยยิ้มและกล่าวทักทาย: “คุณชายสาม ฮวนฮวน อรุณสวัสดิ์ค่ะ!”
เป๋าฮวนอยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา สีหน้าของเธอดูรีแลกซ์ขึ้น ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง “ฉ่า”
“แม่บ้านหลี่ สเต๊กที่ทอดเมื่อกี้ไหม้แล้วและฮวนฮวนก็กลัว ผมจะพาเธอขึ้นไปล้างเนื้อล้างตัว รบกวนคุณช่วยทำความสะอาดห้องครัวหน่อย”เฟิงหานชวนแสร้งทำเป็นนิ่ง หลังจากพูดจบเขาก็รีบขึ้นไปชั้นบนพร้อมกับเป๋าฮวนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา
ตอนที่ขึ้นไปชั้นบน เป๋าฮวนหันศีรษะกลับมาและสบตากับแม่บ้านหลี่ เธอเม้มริมฝีปากและโบกมือให้แม่บ้านหลี่ในท่าทางที่เขินมากๆและพูดว่า: “แม่บ้านหลี่ รบกวนคุณด้วยนะคะ ฉันขึ้นไปข้างบนก่อน”
“ไม่มีปัญหาๆ มันเป็นหน้าที่”แม่บ้านหลี่ยิ้ม จากนั้นเธอก็หันหลังกลับและจากไปโดยไม่ได้ถามอะไรมาก
เฟิงหานชวนอุ้มเป๋าฮวนไปจนถึงห้องนอนบนชั้นสาม เฟิงหานชวนเตะประตูห้องนอนจากนั้นก็เดินไปที่เตียงใหญ่และวางเป๋าฮวนลง
เป๋าฮวนรีบลุกขึ้นและยืนบนพื้นอย่างเร็ว เธอเกาหัวของเธออย่างบ้าคลั่ง
“อ๊าก!” แม่บ้านหลี่ต้องเห็นแน่ๆเลย! ทำยังไงดี! มันน่าอายมาก! ฉันไม่อยากอยู่แล้ว! “เป๋าฮวนเหมือนคนเป็นบ้า เธอใช้เท้าของเธอกระทืบกับพื้น
เฟิงหานชวนมองดูเธอ เธอดูเหมือนเธออยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา และมันก็ดูน่ารักมาก
“ไม่เป็นไรหรอก แม่บ้านหลี่มาที่นี่ และถ้าเธอรู้ว่าเราต้องการจะทำอะไร เธอก็คงไม่คิดว่ามันแปลกหรอก ใช่ไหม?”เฟิงหานชวนปลอบเธอ เสียงของเขายังคงแหบแห้ง
“แต่มันน่าอายจริงๆ! เฟิงหานชวน มันเป็นความผิดของคุณ ความผิดของคุณ! “เป๋าฮวนกังวลใจจริงๆ คนตัวเล็กๆของเขาเดินวนไปวนไปอยู่ตรงหน้าของเขา
“ฮวนฮวน ไม่เห็นจะต้องอายเลยจริงๆ แม่บ้านหลี่เธอไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก”เฟิงหานชวนคว้าแขนของเป๋าฮวนและดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขา
เป๋าฮวนส่ายหัวทันทีและพูดว่า: “ฉันเคยเป็นภรรยาของคุณ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วไง เมื่อเธอเห็นเราแบบนี้แม่บ้านหลี่คงต้องคิดว่าฉันทำตัวแย่แน่ๆเลย”
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วไง…
ประโยคนี้ทำให้หัวใจของเฟิงหานชวนเจ็บปวด
เขารู้สึกเจ็บปวดในทันที ไฟทั้งหมดถูกน้ำเย็นดับลงตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งร่างกายรู้สึกชาไปหมด
มันคือความหมดหวัง
ถ้าแม่บ้านหลี่ไม่มา เขาและเป๋าฮวนอาจทำเรื่องนั้นต่อในห้องครัวไปแล้ว แต่แม้ว่าเป๋าฮวนตกลงที่จะยอมรับเขา ก็คงเป็นเป็นได้แค่ความสัมพันธ์แบบ “เพื่อน” เท่านั้น
เธอตกลงกับเขาไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์แบบสามีภรรยากัน
เป็นแค่ “เพื่อน!”
“ฮวนฮวน…”เสียงที่ดูเหมือนจะหายใจไม่ออกบวกกับดวงตาที่เป็นสีแดงของเฟิงหานชวน
เป๋าฮวนสังเกตว่าเสียงของเฟิงหานชวนนั้นผิดปกติไป ดังนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าดวงตาของเขาเป็นสีแดง และเธอก็ตกใจทันที
เธอก้มหน้าลง หน้าของเธอแดงระเรื่อและรีบถามไปว่า: “เฟิงหานชวน หรือว่าคุณ…คุณทนไม่ไหวเหรอ? คุณเหมือนจะร้องไห้แล้ว…”
เธอคิดว่ามันเป็นเพราะความอดทนที่ทำให้ดวงตาของเฟิงหานชวนกลายเป็นสีแดงแบบนั้น
ว่ากันว่าถ้าผู้ชายบรรเทาตัวเองไม่ทันจะส่งผลเสียต่อร่างกาย แล้วตอนนี้…ตอนนี้จะทำยังไงดี?
เดิมทีเธอไม่ได้อยากจะเห็นด้วย และตอนที่อยู่ในห้องครัวเธอเองก็ถูกเขาบังคับ เธอยอมขึ้นมาข้างบนเป็นเพราะเธอต้องการหลีกเลี่ยงจากสายตาของแม่บ้านหลี่ให้เร็วที่สุดด้วย และไม่ต้องการให้แม่บ้านหลี่จับได้
แต่ตอนนี้…..
เป๋าฮวนรู้สึกสับสนในทันที เธอต้องทำอะไรสักอย่างกับเฟิงหานชวนใช่ไหม?
“ฮวนฮวน ตอนนี้ผมรู้สึกไม่ดี”มันเป็นเพียงความทุกข์อย่างฉับพลันในจิตใจของเขา
เมื่อเขาได้ยินฮวนฮวนของเขาปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างสามีและภรรยากับเขา ความรู้สึกไม่สบายใจก็แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย
เมื่อนึกถึงความเข้าใจผิดที่พวกเขามีก่อนแต่งงาน ตอนนั้นเขาเองก็ใจร้ายกับเธอมาก และตอนนั้นเธอเองก็มีแต่ความสิ้นหวัง หลังจากนั้นเขาจึงพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อชดเชยให้กับเธอ
เพียงแต่ความเข้าใจผิดมันมีมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายทั้งสองคนก็ถูกแยกจากกันเป็นเวลาสามปี แต่ตอนนี้พวกเขาได้พบกัน และเธอกลับตั้งกำแพงกันเขาไว้
ดูเหมือนว่าต่อให้พยายามแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถก้าวเข้าไปในหัวใจของเธอได้อีก
“คุณ คุณ คุณ……งั้น งั้น งั้น…”เป๋าฮวนลังเลและไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี
ความคิดของเธอกับความคิดของเฟิงหานชวนไม่ตรงกันเลย สิ่งที่เธอคิดว่าเฟิงหานชวนพูดว่ารู้สึกไม่ดี คงไม่ใช่ความรู้สึกไม่ดีที่อยู่ในใจ แต่…
เป๋าฮวนหน้าแดงและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี แต่เฟิงหานชวนก็ไม่ได้ทำอะไรกับเธอมาเป็นเวลานานแล้ว เขาคำนึงถึงความรู้สึกของเธอใช่ไหม?
เมื่อเห็นดวงตาของผู้ชายตรงหน้าที่แดงก่ำ เป๋าฮวนก็รู้สึกกังวลใจจริงๆ ครั้งหน้าเธอคงไม่กล้าล้อเล่นอีกแล้ว ผู้ชายที่อดกลั้นมาสามปีคงแบกรับไม่ไหวแล้วจริงๆ!
เธอเม้มริมฝีปาก กัดฟันแน่นและหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็เขย่งเท้าแล้วก็เอาแขนโอบรอบคอของร่างสูง แล้วใช้ริมฝีปากสีแดงของเธอ…
การรุกของคนตัวเล็กทำให้ดวงตาของเฟิงหานชวนเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย และสัมผัสของความประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ฮวนฮวนของเขาจะรุกเขาจริงๆเหรอ?
เฟิงหานชวนไม่จูบตอบเธอ แต่เขาจับไหล่เรียวของผู้หญิงด้วยมือทั้งสองข้างแล้วผลักเธอออกไป ด้วยดวงตาสีเข้มคู่หนึ่งที่ไร้อารมณ์นั้นจ้องไปที่เธอ
ใบหน้าของเป๋าฮวนแดงก่ำและเธอก็รู้สึกสับสน เธอไม่รู้ว่าทำไมเฟิงหานชวนผลักถึงตัวเองออก เธอกำลังจะเอ่ยปากถามเขา แต่เฟิงหานชวนก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน
“ฮวนฮวน คุณกำลังทำอะไร?”เฟิงหานชวนต้องการมั่นใจในความคิดของเธอ
“ฉัน…..”แก้มของเป๋าฮวนยิ่งแดงขึ้นมากกว่าเดิมราวกับไฟกำลังลุกโชน เธอกัดริมฝีปากล่างและหลับตา จากนั้นก็รีบพูดว่า: “คุณเลิกถาม แล้วเรามาเริ่มกันเลยเถอะ…”