อันเยว่ต้องการจะถ่ายอีก แต่ประตูโดยสารปิดลงทันที
หลังจากนั้น เครื่องบินมุ่งไปข้างหน้า บินขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าเครื่องบินยิ่งอยู่ยิ่งเล็กลงเรื่อยๆ เครื่องบินก็หายวับไปจากสายตาพวกเธอ
ติงเซียงได้สติกลับมาก่อน อุทานขึ้นว่า: “นั่นเป็นเครื่องบินส่วนตัว! ในประเทศนี้มีไม่กี่คนที่มีเครื่องบินส่วนตัว!”
“เชี่ย เครื่องบินส่วนตัวลำนั้นเป็นของสามีเป๋าฮวน เธอไปหาจากไหนเนี่ย? สามีของเธอเป็นใครกันแน่!” ฉินฟางฟางกล่าวเสริม
อันเยว่ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ จูเล่ทายาทเศรษฐีที่กำลังตามจีบเธอ ไม่มีเครื่องบินส่วนตัว แต่ตอนนี้ เธอต้องมองเป๋าฮวนนั่งเครื่องบินส่วนตัว
อันเยว่อารมณ์เสียเล็กน้อย และส่งรูปที่เธอเพิ่งถ่ายไปให้จูเล่
วินาทีต่อมา จูเล่โทรมาจากวีแชท: “เยว่เอ่อร์ คุณถูกแฮกหรือเปล่า? คุณส่งอะไรมาเนี่ย!”
“อาเล่ ฉันไม่ได้ถูกแฮก นี่คือเครื่องบินส่วนตัวของเพื่อนที่รู้จัก คุณช่วยหาได้ไหมว่าชื่อใครเป็นเจ้าของ?” อันเยว่กล่าวทันที
“อ๋อ นี่คือรูปที่คุณถ่ายเหรอ? เมื่อกี้ผมดูแล้วไม่เข้าใจ ขอดูก่อนนะ!” ขณะที่จูเล่พูดก็กดไปดูในวีแชท และเริ่มครุ่นคิด
แม้แต่ตัวเองยังไม่มีครื่องบินส่วนตัว จะรู้เรื่องที่ยุ่งเหยิงพวกนี้ได้อย่างไร อันเยว่เองก็ไม่ได้ถ่ายติดใบหน้าของเป๋าฮวน มีเพียงด้านหลังของเธอเท่านั้น
“อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ เดี๋ยวผมจะลงสตอรี่วีแชท เผื่อคนอื่นอาจจะรู้” จูเล่กดโพสต์ทันที
อันเยว่ก็ไม่คัดค้าน อย่างไรก็ตาม เป๋าฮวนก็คงไม่รู้ว่าในรูปนี้คือเธอ ต่อให้รู้ ก็ไม่เป็นไร แค่เรื่องซุบซิบที่อยากรู้อยากเห็น ไม่ได้มีอะไรร้ายแรง
หลังจากวางสายจากจูเล่ อันเยว่บอกให้คนขับรถแท็กซี่กลับไปที่โรงแรม
ระหว่างทาง อารมณ์ของทั้งสามคนไม่ค่อยดี โดยเฉพาะฉินฟางฟาง ราวกับปากถูกเย็บไว้ ไม่พูดแม้แต่คำเดียว
เธอรู้ว่าเป๋าฮวนเป็นผู้ดี เธอก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน เพราะตอนนี้เธอเห็นกับตาตัวเองว่าเป๋าฮวนขึ้นเครื่องบินส่วนตัว
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเครื่องบินส่วนตัวได้!
สามีของเป๋าฮวนต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
ระหว่างทางติงเซียงก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน เธออารมณ์เสีย และรู้สึกเสียใจที่เธอทำให้เป๋าฮวนขุ่นเคืองเพราะความอยากรู้อยากเห็นของอันเยว่และฉินฟางฟาง ตอนนี้เธอต้องการเข้าใกล้เป๋าฮวน และกลับมาเป็นเพื่อนกับเป๋าฮวนอีกครั้ง มันคงเป็นเรื่องยากไปแล้ว
มีเพียงอันเยว่ ที่รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ถึงภายนอกจะดูมีชีวิตที่ดี แต่จริงๆแล้วเธอทำงานหนักมาก บริษัทมอบงานให้เธอมากมาย ออกรายการหลายที่ ตั้งแต่เดบิวต์จนถึงตอนนี้ 3ปีเต็มๆเธอไม่เคยได้พักเลย บริษัทเอาเปรียบเธอมาก
มีผู้ชายตามจีบเธอหลายคน แต่เธอยังไม่พบผู้ชายที่อุทิศตนเพื่อเธอ ผู้ชายที่สามารถมอบครึ่งชีวิตให้เธอได้ ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาไม่จริงจังกับเธอ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้เธอไม่ได้ดังเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ผู้ชายเหล่านั้นจะยังสนใจเธองั้นเหรอ? ผู้ชายมักจะให้ความสำคัญกับสถานะของเธอในฐานะคนดังเท่านั้น!
เธอพยายามมานาน แต่ก็ไม่สามารถเทียบได้กับเป๋าฮวน นั่งเครื่องบินส่วนตัวได้อย่างสบายๆ เพียงเพราะเธอแต่งงานกับสามีที่มีอำนาจ
แต่ตัวเอง ต่อให้จะมีชื่อเสียงมากแค่ไหน เป็นนักแสดงอันดับหนึ่ง เธอก็ต้องไปสนามบินเพื่อนอวดโฉมหน้าของตัวเอง ยังต้องรับมือกับกลุ่มแฟนคลับที่คลั่งไคล้อีก
อันเยว่รู้สึกอึดอัดมากในขณะนี้ อึดอัดมาก
“เยว่เอ่อร์ การกระทำของเราในวันนี้จะทำให้เป๋าฮวนขุ่นเคืองไหม? หรือไม่คราวหน้าถ้าเธอกลับมาเหิงเตี้ยนอีก เราชวนเธอกินข้าวด้วยกันดีไหม ถือว่าเป็นการขอโทษ!” ติงเซียงเสนอความคิด
ฉินฟางฟางก็เห็นด้วย: “จริงด้วยจริงด้วย เรามองหน้าเธอไม่ติดแล้ว ต้องขอโทษเธอ ไม่งั้นถ้าเธอให้สามีของเธอจัดการเรา เราซวยแน่…”
อันเยว่รำคาญทั้งสองคนและตวาด: “พวกเธอกังวลอะไรนักหนา? บางทีอาจจะเป็นสามีแก่? หรืออาจจะเป็นทายาทเศรษฐีที่ไม่ได้เรื่องล่ะ? ผู้ดีที่ไหนจะแต่งงานกับคนที่ไม่มีฐานะอย่างเธอ?”
คำพูดของเธอทำให้ติงเซียงและฉินฟางฟางตกตะลึง
“ก็เป็นไปได้ เป๋าฮวนอาจจะแต่งงานกับเสี่ยก็ได้ มีแต่เสี่ยพวกนั้นที่ชอบเด็กสาว ไม่สนใจอย่างอื่น” ฉินฟางฟางตระหนักในทันใด
ติงเซียงพูดอย่างกังวล: “แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น สถานะของเป๋าฮวนก็ไม่ควรมองข้าม ทำให้เธอขุ่นเคืองเป็นเรื่องที่ไม่ดีกับเรา…”
“ติงเซียง เธอเสียใจที่มาเป็นเพื่อนกับเราเหรอ? ถ้าเธออยากกลับไปเลียขาของเป๋าฮวน เราก็ไม่ได้ห้ามนะ” อันเยว่พูดอย่างเย็นชา
ติงเซียงเงียบทันที
…
เครื่องบินค่อยๆลงจอดที่สนามบิน
อาคารในเมืองทางเหนือแออัดและยากที่จะหาพื้นที่เปิดโล่ง ดังนั้นพวกเขาจึงลงจอดที่สนามบิน
หลังจากที่เป๋าฮวนลงจากเครื่องบิน ก็เห็นรถโรลส์-รอยซ์จอดอยู่ไม่ไกล ขาที่เรียวยาวของผู้ชายก้าวลงจากรถและเดินมาหาเธอ
เป๋าฮวนยิ้มและโบกมือให้เขา วิ่งไปหาผู้ชายตรงหน้าเช่นกัน
เครื่องบินจอดอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา และผู้โดยสารที่นั่งริมหน้าต่างเห็นเหตุการณ์ด้านล่างและหยิบโทรศัพท์ออกมา**
การผสมผสานระหว่างผู้ชายหล่อและผู้หญิงสวยนั้นช่างตระการตา!
ไม่นานทั้งสองก็ขึ้นรถ เฟิงหานชวนขับรถออกไป
เป๋าฮวนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังถูกแอบถ่าย นั่งอย่างเชื่อฟังในที่นั่งข้างคนขับและงีบหลับ
“คุณหิวไหม?” เฟิงหานชวนถามเธอ
“ยังไม่ค่อยหิว กินมื้อค่ำอิ่มแล้ว” เป๋าฮวนยกมือขึ้นและเหลือบมองดูนาฬิกา ดึกมากแล้ว
หลังจากทานมื้อค่ำ ก็ประมาน10โมง และหลังจากนั้นอีก 2 ชั่วโมงบินกลับ เวลาก็ผ่านไปไวมาก
“แต่ผมรู้สึกหิวนิดหน่อย ผมได้ยินมาว่ามีร้านอาหารฝรั่งเปิดใหม่ ไปกินเป็นเพื่อนผมได้ไหม? ” เฟิงหานชวนหันศีรษะมองเธอ มุมริมฝีปากของเขาขดขึ้นเล็กน้อย
“ได้สิ!” แม้ว่าเป๋าฮวนจะเหนื่อย แต่ก็ไม่อยากขัดใจเฟิงหานชวน เธอจึงตอบตกลงอย่างไม่ลังเล
โรลส์-รอยซ์ค่อยๆจอดที่หน้าตึกสูง
เมื่อเป๋าฮวนลงจากรถ มองไปที่ตึกอันงดงามและอุทาน: “นี่คือตึกอวิ๋นจงที่เพิ่งสร้างใหม่ใช่ไหม? เปิดทำการแล้วเหรอ?”
เธอเคยผ่านมาที่นี่แต่ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ไม่คิดว่าจะเปิดทำการเร็วขนาดนี้
“ใช่ ร้านอาหารอยู่ชั้นบนสุด” เฟิงหานชวนจูงมือเธอและพาเธอไปที่ลิฟต์
ลิฟต์หยุดที่ชั้น88 ประตูเปิดออกอย่างช้าๆ ดวงตาของเป๋าฮวนเบิกกว้าง
“สวยจังเลย!”
พรมกลีบกุหลาบ ประตูประดับดอกไม้หลากหลายชนิด มองแวบแรกสวยมาก ราวกับอยู่ในทุ่งดอกไม้
เธออดไม่ได้ที่จะเดินไปข้างหน้า แต่สังเกตเห็นว่ากลีบกุหลาบบนพื้นโรยเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ เธอเดินไปข้างหน้าทีละก้าว แล้วอ่านทีละตัวอักษร
“ H u a n H u a n M a r…”
ก่อนที่เป๋าฮวนจะอ่านอักษรทั้งหมด เธอมีลางสังหรณ์อยู่ในใจ เธอเงยหน้าขึ้น ก็มีการพ่นสเปรย์เรืองแสงออกมาบนหน้าต่างสูง
ฮวนฮวน แต่งงานกับผมนะ!