ที่จริงคิดว่าแบบนี้จะยั่วโมโหวารุณี ใครจะไปรู้ว่าวารุณีจะตอบด้วยรอยยิ้ม ตอบกลับไปอย่างมีมารยาทว่า
“ขอบคุณที่ห่วงใย ตอนนี้ครอบครัวพวกเรามีความสุขกันมาก”
พิชญารู้สึกว่าตัวเองจะเล่นงานเธอแต่กลับไม่ได้ผล
ดังนั้น เธอจึงเหน็บแนมอย่างเย็นชาต่อไปว่า“จากคุณหนูเศรษฐีกลายเป็นคนบ้านนอกที่ไม่มีที่อยู่ภายในค่ำคืนเดียว สวมเสื้อผ้าราคาถูกๆ ทำงานธรรมดา เธอยังบอกว่าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขดี ใครจะไปเชื่อเหรอ?”
ถึงจะพูดคำเหน็บแนม แต่สายตาพิชญาก็ยังปกปิดความริษยาที่มีต่อวารุณีไม่อยู่
เพราะว่าเธอมองไม่เห็นความตกอับจากตัววารุณีเลยสักนิด ตรงกันข้ามเธอกลับรู้สึกว่าวารุณีมีออร่ามากขึ้นกว่าห้าปีก่อน ใบหน้าไร้เมคอัพ ขาวผ่องเป็นประกาย ตั้งแต่หัวจรดเท้าเต็มไปด้วยความรู้สึกสาวอย่างมาก
ซึ่งนี่ต้องจ่ายเท่าไหร่ก็แลกมาไม่ได้
และเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การแต่งหน้าจัดของเธอดูด้อยไปมาก
เผชิญหน้ากับคำเหน็บแนมของพิชญา
วารุณีหัวเราะ ไม่พูดอะไร
แต่การหัวเราะนี้กลับทำให้พิชญารู้สึกไม่สบาย“เธอหัวเราะอะไร?”
“เปล่า ก็แค่รู้สึกว่าเธอมีเวลามาเห็นใจฉันที่นี่ สู้กลับไปวาดแบบร่างให้มากกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอ”
เกี่ยวกับเรื่องบางอย่างในวงการของพิชญา วารุณีที่อยู่ต่างประเทศก็พอจะได้ยินมาบ้าง
ดังนั้นคำพูดนี้จี้จุดของพิชญา
“แก!”พิชญาโกรธจนมือกำแน่นทันที แต่ขณะเดียวกันน้ำเสียงของเธอก็ถูกเสียงเด็กใสๆเข้ามาปิดไว้
“หม่ามี๊!หม่ามี๊!”
อีกด้านของทางเดิน ทันใดนั้นเองก็ปรากฏเด็กตัวเล็กสองคนที่ดูนุ่มนิ่ม
ได้ยินลูกของตัวเองกำลังเรียกหาตัวเอง วารุณีก็ไม่ยุ่งกับพิชญาอีก แต่เดินผ่านอีกฝ่ายไป แล้วเดินไปหาเด็กสองคน
“หม่ามี๊ แม่บุญธรรมปาจรีย์กำลังหาหม่ามี๊อยู่”ไอริณผู้เป็นน้องโผเข้าหาอ้อมแขนของวารุณีทันที แล้วพูดอย่างออดอ้อน
“ไป พวกเราไปหาแม่บุญธรรมกัน”วารุณีลูบผมฟูๆของลูกสาว แล้วจูงมือออกไป
พิชญาหันหน้ามองไป ก็เห็นในมือวารุณีจูงเด็กสองคนนี้ เธออดไม่ได้ที่จะตกใจ ไม่เจอกันไม่กี่ปี วารุณีมีลูกแล้ว?
ตอนที่พิชญากำลังสงสัย อารัณผู้เป็นพี่กลับหันหัวทันที ดวงตาโตๆที่เป็นประกายมองไปที่พิชญา
ทั้งสองสบตากัน
พิชญาหยุดหายใจทันที
ใบหน้าละเอียดอ่อนเล็กๆนั่น เหมือนนัทธีมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายตาที่มองคน เหมือนกันมาก
เด็กสองคนนี้คงไม่ใช่ลูกของนัทธีหรอกนะ!
หลังจากมีความคิดเช่นนี้สีหน้าพิชญาซีดลงทันที
เธอคิดไม่ถึงว่าแค่คืนเดียว วารุณีจะตั้งท้องได้
ถ้านี่เป็นจริง งั้นทุกอย่างที่เธอดื่มด่ำมาในห้าปีนี้ไม่ใช่ว่าสูญเปล่าหรอกเหรอ?
แล้วความรู้สึกคุกคามที่มองไม่เห็นก็แพร่ไปทั่วพิชญา
ไม่ได้!
เธอต้องไปถามให้เข้าใจ
“พี่ ในที่สุดฉันก็เจอพี่สักที”
พิชญาบีบกระเป๋าแน่น หันกลับไปอยากไปถามวารุณีเรื่องของลูก แต่พอก้าวออกไป ก็ถูกผู้ชายที่มาหาเธอเรียกไว้
ผู้ช่วยที่เดินเข้ามาสังเกตเห็นสีหน้าซีดขาวของพิชญา ดูผิดปกติเล็กน้อย จึงพูดอย่างเป็นห่วงว่า“พี่ ไม่สบายตรงไหนไหม?”
“ฉันไม่เป็นไร”พิชญาการปฏิเสธอย่างแข็งทื่อ
เธอไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องเมื่อกี๊
เห็นพิชญาไม่พูด ผู้ช่วยก็ตระหนักได้จึงไม่ได้ถามต่อ พูดไปว่า“พี่ตอนเย็นมีงานเลี้ยง ถ้าตอนนี้ไม่ออกเดินทางล่ะก็ น่าจะไปถึงสาย”
จากชานเมืองฝั่งตะวันตกไปเขตเมือง ก็ใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วโมง
โดนผู้ช่วยออกคำสั่งแบบนี้ พิชญาก็ดูไม่พอใจอย่างมาก“เมื่อไหร่กันที่ตารางของฉันขึ้นอยู่ที่คุณ?”
ผู้ช่วยไม่มีทางเลือกอย่างมาก“พี่ ประธานนัทธีก็อยู่”
“……”พิชญาก็ไม่รู้จะพูดอะไรทันที
พอนึกถึงภาพลักษณ์ห้าปีนี้ที่เธอพยายามรักษาอย่างสุดชีวิตเมื่ออยู่ต่อหน้านัทธี ก็จะล้มเหลวในตอนสุดท้ายไม่ได้เด็ดขาด
หลังจากชั่งน้ำหนักดูแล้ว พิชญาได้แต่แอบกัดฟันแน่นเงียบๆ มองทางที่วารุณีออกไป จากนั้นจึงตามผู้ช่วยออกไปอย่างไม่เต็มใจ