หลังจากจ้องเขม็งวารุณีด้วยความโกรธ พิชญาก็ไม่ได้ทักทายใคร ออกไปจากงานเลี้ยงก่อน
ส่วนอีกด้าน นายท่านวัชระพาวารุณีกับนัทธีมาที่ห้องพักผ่อนส่วนตัวของตัวเอง
“คุณปู่วัชระ นี่คือของขวัญที่อาจารย์ฝากฉันมาให้ท่านค่ะ สุขสันต์วันเกิดนะคะ”วารุณีเอาของขวัญที่พกติดตัวยื่นไปให้
คืนนี้เป็นงานเลี้ยงงานหนึ่ง และก็เป็นงานเลี้ยงวันเกิดด้วย
ก็แค่คนที่รู้งานเลี้ยงวันเกิดนี้มีไม่เยอะ วารุณีถือเป็นหนึ่งในนั้น
“โอเค ขอบคุณ”นายท่านวัชระรับไป แล้วเปิดต่อหน้าวารุณี
เป็นกาน้ำชาดินเผา ถึงแม้ไม่ใช่ราคาแพง แต่กลับเป็นของที่เมอร์เซเดอเพื่อนรักทำเองกับมือ
เห็นลายเซ็นของเพื่อนรักด้านบน นายท่านวัชระจึงยิ้มอย่างมีเลศนัย รับไว้ด้วยความยินดี
“นัทธี เรื่องที่คุณพูดก่อนหน้านี้ ผมแก่แล้ว ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว”นายท่านวัชระวางของขวัญลงเสร็จ ก็เงยหน้ามองไปที่นัทธีที่อยู่ข้างๆ
ก่อนหน้านี้พวกเขากำลังคุยกัน และเพราะว่าข้างนอกเสียงดังมากไป จึงต้องหยุดลงกลางคัน
นัทธีเป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดในคืนนี้ แต่ความคิดของเขาไม่ได้อยากเข้าร่วมโครงการของตระกูลแววสูงเนิน แต่อยากให้นายท่านวัชระออกมา มาทำหน้าที่เป็นหัวหน้านักออกแบบแฟชั่นโครงการใหม่ล่าสุด‘Bath fire rebirth’ของบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป
นัทธีเป็นคนจู้จี้จุกจิกมากในการทำงาน ในอาณาจักรนี้เขานึกถึงแค่สองคนนี้ คนหนึ่งคือวัชระที่อยู่ในประเทศ อีกคนคือเมอร์เซเดอที่อยู่ต่างประเทศ
แต่ที่อยู่ใกล้มีแต่วัชระ
เผชิญหน้ากับคำปฏิเสธของนายท่านวัชระ นัทธีก็เงียบลง
“แบบนี้นะ คุณว่าสาวน้อยคนนี้เป็นไง?ยังสาวมีความคิด”ทันใดนั้นเองนายท่านวัชระก็มองไปที่วารุณี
วารุณีที่ยืนอยู่ที่เดิมก็แสดงออกอย่างงุนงง
สายตาเย็นชาของนัทธีก็มองไปที่วารุณี
ถึงแม้เขาจะรู้จักผู้หญิงคนนี้แล้วพูดคุยกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเอาโครงการนี้ไปให้ใครทำก็ได้
นัทธีคิดพิจารณา
“แบบนี้นะ คุณก็ให้สาวน้อยคนนี้ไปทำงานให้คุณหนึ่งเดือน คุณก็ตรวจสอบเธอคอยดูเธอ ถ้าเธอทำไม่ได้ ก็ให้อาจารย์เธอทำแทนคุณ”นายท่านวัชระหัวเราะไปพูดไป แต่สายตากลับมั่นใจต่อวารุณีมาก
แต่วารุณีได้ยินว่าตัวเองถูกขาย ไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่อาจารย์ก็ถูกขายด้วย
นายท่านวัชระเชื่อมั่นมากๆแบบนี้ และในคำพูดก็ยังเผยความไม่ธรรมดาของผู้หญิงคนนี้อีก
นัทธีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสนใจ
“โอเค”เขาเห็นด้วยอย่างเต็มใจ
“……”วารุณียืนอยู่ที่เดิม นี่ไม่ต้องปรึกษากับตัวเองเหรอ?
“พรุ่งนี้ มาที่นี่ ทำงานตรงเวลา”นัทธีลุกขึ้น เอานามบัตรสีทองส่วนตัวยื่นให้วารุณี
วารุณีรับไว้ ยังไม่ทันพูดอะไร นัทธีก็หมุนกลับออกไป
“คุณปู่วัชระ นี่?”
วารุณีส่งสายตาไม่เข้าใจไปให้นายท่านวัชระ
“เป็นความตั้งใจของอาจารย์คุณ ว่าควรจะออกไปเอาประสบการณ์เยอะๆแล้ว”นายท่านวัชระยิ้มไปตอบไป
ทันใดนั้นเองวารุณีก็เข้าใจ รีบนามบัตรไว้อย่างจริงจัง“ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณคุณปู่วัชระที่จัดการให้ฉันค่ะ”
ที่ต่างประเทศ มีอาจารย์ปูทาง เธอจึงพอมีชื่อเสียงบ้าง
แต่ในประเทศ ไม่ใช่ชื่อ Minaนี้ ไม่เปิดเผยตัวตนว่าเป็นลูกศิษย์เมอร์เซเดอ เธอก็เป็นแค่น้องใหม่ที่ไม่มีคนสนับสนุนอยู่ด้านหลัง ต้องการเสนอหน้าออกมาให้ไวที่สุด ก็จำเป็นต้องมีโอกาสที่ใช้ประสบการณ์ให้มีชื่อเสียงขึ้นมา
ตอนนี้อาจารย์ขอให้นายท่านวัชระให้โอกาสนี้กับเธอ เธอจะต้องไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง
“คิดได้แล้วก็ดี กลับไปเตรียมตัวดีๆเถอะ เส้นทางต่อไป คุณต้องเดินเองแล้ว”นายท่านวัชระพยักหน้าอย่างชื่นใจ
วารุณีโค้งคำนับให้เขา บอกลาแล้วออกไป
ตอนกลับไปที่พัก ก็เที่ยงคืนแล้ว
วารุณีเปิดประตูห้องนอนเขาๆ มองลูกสองคนที่นอนหลับสนิทบนเตียง ก็ยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น
“พวกเขาหลับสนิทเลย”ปาจรีย์ยืนอยู่ข้างวารุณี มองไปกับเธอ
วารุณีปิดประตู“วันนี้ลำบากคุณแล้วที่มา”
“ไม่ลำบากเลย ฉันเป็นแม่บุญธรรมพวกเขา ดูแลพวกเขาน่ะสมควรอยู่แล้ว เธอต่างหาก ทำไมกลับมาช้าแบบนี้?”ปาจรีย์แปลกใจ
วารุณีไปที่โซฟาในห้องรับแขก พร้อมกับหาวแล้วตอบไปด้วยว่า:“ไม่ต้องพูดถึงแล้ว เจอปัญหาที่งานเลี้ยงด้วย ลากเวลาเจอคุณปู่วัชระช้าไปอีก”
“ปัญหา?”ได้ยินสองคำนี้ ปาจรีย์ก็กังวลขึ้นมาทันที ตามหลังเธอแล้วสอบถามอย่างเป็นห่วง“ปัญหาอะไรเหรอ ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร แก้ไขหมดแล้ว และยังมีข่าวดีด้วย”วารุณีนั่งลงบนโซฟา หยิบนามบัตรของนัทธีออกมาจากกระเป๋า
ปาจรีย์รับมาดู แล้วพูดอย่างตกใจ:“วารุณี เธอได้นามบัตรของประธานนัทธีมาได้ไง?”