พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ – บทที่ 49 นิรุตติ์

บทที่ 49 นิรุตติ์

วารุณีส่ายหน้า เอาสายตาย้ายกลับไปที่คอมพิวเตอร์ แล้วเริ่มทำงาน

ถึงเวลาเลิกงานตอนเย็น วารุณีไปรับลูกทั้งสองคนจากโรงเรียนอนุบาลก่อน แล้วไปส่งกับปาจรีย์ ให้ปาจรีย์ดูแลแทน จากนั้นจึงเรียกรถไปโรงแรมซันธารา

หนึ่งทุ่มห้าสิบ ก็มาถึงโรงแรมซันธารา

วารุณีเพิ่งผลักประตูห้องส่วนตัวไป ก็ได้ยินเสียงเบาๆของพิชญาดังขึ้น“คุณวารุณี คุณมาสายแล้ว!”

“สายเหรอ?”วารุณีเดินเข้าไป ยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา ชี้ไปที่เวลาด้านบน“ไม่ได้บอกว่าสองทุ่มเหรอ ตอนนี้ยังไม่ถึง ฉันจะสายได้ไง?”

พิชญาส่ายแก้วไวน์แดง เหลือบมองเธอเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม“ตอนแรกฉันบอกว่าสองทุ่มจริงๆ แต่ว่าต่อมาฉันเปลี่ยนเป็นหนึ่งทุ่มแล้ว แจ้งเตือนก็ส่งไปในกลุ่ม คุณวารุณี คุณไม่เห็นเหรอ?”

วารุณีเม้มริมฝีปาก“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้เข้ากลุ่ม!”

“แบบนี้เองเหรอ?”พิชญามีท่าทีตกใจแล้วไปถามคนอื่น“พวกคุณไม่ได้ลากคุณวารุณีเข้ากลุ่มเหรอ?”

“เปล่าค่ะ ในกลุ่มเต็มแล้ว!”มีคนตอบ

พิชญาหัวเราะอย่างรู้สึกผิดต่อวารุณี“ขอโทษนะคุณวารุณี ฉันคิดว่าพวกเขาดึงคุณเข้ากลุ่มแล้ว”

วารุณีมองการแสดงที่จอมปลอมของเธอ แล้วที่มุมปากก็กระตุก“ไม่เป็นไรค่ะ!”

ถึงเวลานี้แล้ว เธอยังไม่เข้าใจตรงไหนอีก

กลุ่มเต็มอะไรกันล่ะ ตั้งแต่เริ่มต้น พวกเขาก็ได้รับคำสั่งของพิชญา จงใจไม่ดึงเธอเข้า และตอนนี้พิชญาก็จงใจเปลี่ยนเวลาในกลุ่ม จุดประสงค์ก็เพื่อให้เธอมาสาย ทำให้เธอลำบากใจ!

อย่างที่คาดไว้ วารุณีเพิ่งลากเก้าอี้มานั่ง ไวน์แดงขวดหนึ่งถูกพิชญาวางไว้ตรงหน้า“คุณวารุณี ถึงแม้จะมาสายก็ไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร คุณก็ยังมาสาย ลงโทษด้วยขวดหนึ่งเป็นไง?”

มาแล้ว!

ในใจวารุณีแอบพูด จากนั้นเอาไวน์แดงผลักไปตรงหน้าของพิชญา“ผู้จัดการพิชญา ขอโทษนะคะ ฉันดื่มไวน์ไม่ได้”

พิชญาคิดไม่ถึงว่าจู่ๆเธอจะปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ แล้วสีหน้าก็หม่นลงทันที“คุณวารุณีหมายความว่าไงคะ?ไม่ไว้หน้าฉันเหรอ?”

“แน่นอนว่าไม่ใช่ ก็แค่วันนี้ไม่สบาย กินเซฟาโลสปอรินไปสองเม็ด ก็เลย……”

ตอนที่พูด วารุณีก็หยิบเซฟาโลสปอรินแผงหนึ่งออกมาจากกระเป๋าไปวางที่โต๊ะ

มองเซฟาโลสปอรินแผงนี้ สีหน้าพิชญาก็แดงยิ่งขึ้น

ทำไมเธอคิดไม่ถึงว่า ยัยแพศยาวารุณีนี้ จู่ๆจะมากินเซฟาโลสปอรินอย่างบังเอิญแบบนี้!

“ผู้จัดการพิชญา คุณดูสิไวน์นี้ฉันดื่มไม่ได้แล้ว แต่ว่าถ้าดื่มน้ำผลไม้ ฉันทำได้ค่ะ ไม่งั้นฉันเอาน้ำผลไม้แทนไวน์เป็นไง?”วารุณีมองพิชญาที่อยู่ตรงข้าม

พิชญาชักสีหน้าตอบไปว่า“ไม่ต้องแล้ว!”

น้ำผลไม้?

น้ำผลไม้ทำให้คนขายหน้าได้เหรอ?ดื่มไปก็ไม่ต่างอะไรกับไม่ดื่ม!

“ผู้จัดการพิชญาใจกว้างจริงๆ ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็ขอบคุณนะ”วารุณีเอาเซฟาโลสปอรินเก็บเข้าไปพร้อมหัวเราะหรี่ตา

เซฟาโลสปอรินนี้ ไม่ได้เตรียมมาโดยเฉพาะ แต่เธอมีอันนี้ไว้ตลอดจนชิน

ที่ต่างประเทศ เธอมักจะไปร่วมงานเลี้ยงกับอาจารย์ ที่งานเลี้ยงก็หนีการดื่มไม่พ้น พอนานๆเข้าเธอก็ทำลายกระเพาะ ต่อมาภายใต้การเสนอของพงศกร เธอก็เริ่มพกเซฟาโลสปอรินแผงหนึ่งติดตัว แบบนี้ก็มีเหตุผลที่ไม่ดื่มเหล้าแล้ว

ข้าวมื้อนี้ พิชญาไม่พอใจอย่างมาก คนอื่นๆใส่ใจในอารมณ์ของเธอ เลยไม่ได้แสดงท่าทีมีความสุขเท่าไหร่ ดังนั้นกินอาหารกันอย่างอุดอู้ มีแค่วารุณีที่กินอย่างพอใจ

รอจนถึงเวลาพอประมาณ เธอก็ลุกขึ้นไปห้องน้ำ

แต่เพิ่งเดินไปถึงหน้าห้องน้ำ จู่ๆร่างสูงใหญ่ก็ผ่านออกมาจากในห้องน้ำชายข้างๆ คว้าข้อมือของเธอไว้ แล้วผลักเธอไปที่กำแพง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน จนวารุณีตกใจ จะร้องออกมา ก็ถูกชายหนุ่มอุดปากไว้

“ชู่ อย่าส่งเสียง ช่วยผมหน่อย ไม่อย่างนั้นผมจะฆ่าคุณ!”ชายหนุ่มเตือนด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

รูม่านตาวารุณีหดลง ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ รีบพยักหน้ารับปาก

ชายหนุ่มเห็นเธอเชื่อฟังแบบนี้ ก็ยกมุมปากขึ้นอย่างพอใจ จากนั้นก็เอาหน้าซุกไปที่คอ ทำท่าเป็นจูบเธอ

ตอนนี้ เสียงฝีเท้าสองคู่ดังขึ้นมาไม่ไกล พร้อมกับเสียงพูดคุย

“หา เขาจะต้องอยู่ใกล้ๆนี้แน่ คุณไปดูข้างหน้า คุณไปดูที่ห้องน้ำ”

“ครับ!”

พูดจบ เสียงฝีเท้าก็ค่อยๆหายไป

วารุณีได้ยินเสียงฝีเท้าหนึ่งในนั้น กำลังเดินมาทางพวกเขา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ร่างของเธอเกร็งขึ้นมา

ชายหนุ่มรู้สึกถึงความกังวลของเธอ จึงหยิกไปที่คอด้านขวาของเธอทีหนึ่ง“ผ่อนคลายหน่อย ถ้าเป็นเพราะว่าคุณ ทำให้ผมถูกพบล่ะก็ ผมจะพาคุณซวยแน่เชื่อไหมล่ะ?”

ได้ยินคำนี้ วารุณีขาอ่อนทันที ยืนไม่ค่อยอยู่

ชายหนุ่มถือโอกาสนี้ กอดเธอไว้แน่น ให้ทั้งตัวเธอเอนไปที่อ้อมแขนของเขา

การกระทำของทั้งสองคน สำหรับคนนอกแล้ว เป็นคู่รักที่กำลังพลอดรักกันอยู่นอกห้องน้ำโดยสิ้นเชิง

และดังนั้น เสียงฝีเท่านั้นจึงเดินผ่านข้างพวกเขาไป ไม่ได้หยุดลง แต่ออกไปโดยตรง

ในที่สุด ชายหนุ่มก็ปล่อยวารุณีออก

วารุณีจึงมีโอกาสเห็นสภาพเขาอย่างชัดเจน

เขาหน้าตาดีมาก ท่าทีดูสูงส่ง เสื้อผ้าที่สวมอยู่บนตัวไม่มีป้ายยี่ห้อใดๆ แต่รูปแบบนั้นดีมาก แค่มองก็รู้ว่าเป็นชุดสั่งตัดระดับสูง เห็นได้ชัดว่าตัวตนของเขาไม่ธรรมดา

ตอนที่วารุณีสำรวจชายหนุ่ม ชายหนุ่มก็กำลังสำรวจเธอ

ตอนที่เห็นหน้าเธอ ในม่านตาสีน้ำตาลอ่อนของชายหนุ่มมีสีแปลกๆ และก็หายวับไป

“เมื่อกี๊ขอบคุณมากนะ ขอโทษนะครับคุณชื่ออะไร?รอมีโอกาส ผมจะตอบแทนคุณ”นิรุตติ์ยื่นมือข้างหนึ่งไปที่วารุณี อยากจะรู้จักเธอ

แต่วารุณีเพียงแค่จัดเสื้อผ้าที่ตัวของตัวเอง ไม่ได้จะจับมือของเขา พูดอย่างเรียบเฉย“ไม่ต้องหรอก ยังไงซะต่อไปพวกเราก็ไม่ได้เจอกันอีก”

คนที่ตัวตนไม่ธรรมดากลับถูกคนติดตาม เธอโง่สิถึงจะรู้จักกับคนอันตรายแบบนี้

คิดไป วารุณีก็ไม่มองนิรุตติ์สักนิด เดินผ่านตัวเขาไป

นิรุตติ์ลูบคางมองแผ่นหลังของวารุณี เหมือนกับมองเหยื่อ ในสายตาเต็มไปด้วยความสนใจ จนเธอหายไปไม่เจอ

วารุณีกลับไปที่ห้องส่วนตัว พิชญาก็ไม่อยู่แล้ว ถามดีไซเนอร์ที่อยู่ข้างๆ บอกว่าตอนที่พิชญาไปได้รับสายหนึ่ง สีหน้าดูไม่ค่อยดี ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!

แต่ว่าเจ้าภาพก็ไปแล้ว คนที่เหลืออยู่ก็อยู่นานมากไม่ได้ หลังจากยัดให้อิ่มท้องกันแล้ว ก็ออกไปจากโรงแรมทีละคน

วันถัดมา วารุณีเพิ่งมาถึงบริษัท ก็ถูกเรียกไปประชุมที่ห้องประชุม ไปถึงหน้าประตูห้องประชุม ก็พบนัทธีกับมารุตที่มาประชุมเหมือนกัน

“ประธานนัทธี”วารุณีโค้งทักทาย

นัทธีก็คิดไม่ถึงว่าจะเจอเธอที่นี่ กำลังจะตอบรับ ก็มองเห็นรอยแดงที่คอเธอ รูม่านตาหดลงทันที สีหน้าก็เปลี่ยนไป!

เมื่อคืนเธออยู่กับใคร?

พงศกร หรือว่าผู้ชายคนอื่น?

เห็นนัทธีเอาแต่จ้องวารุณี แสดงออกอย่างลำบากใจมาก มารุตก็ส่งเสียงสงสัย“ประธาน คุณเป็นอะไรไป?”

นัทธีไม่ได้ตอบ ละสายตากลับ เดินเข้าไปห้องประชุมด้วยใบหน้าเย็นชา

มารุตไม่เข้าใจจึงมองไปที่วารุณี สัญชาตญาณบอกว่าความผิดปกติของประธานเกี่ยวข้องกับเธอ แต่ก็ไม่ได้ถาม รีบตามเข้าไป

ที่ห้องประชุม วารุณียืนอยู่หน้าจอมัลติมีเดีย บอกกระบวนการตัดเย็บเสื้อผ้าครั้งต่อไป รวมทั้งความคิดเห็นของการเดินแบบของตัวเองกับเหล่าผู้บริหารระดับสูงทุกคน

ความคิดของเธอแปลกใหม่มาก ทำให้ผู้บริหารระดับสูงทุกคนรู้สึกสนใจ ค่อยๆถามถึงความเป็นไปได้ของแนวคิดเหล่านี้

มีแต่นัทธีที่มองเธอโดยไม่พูดอะไร สายตามีความทรงพลังอย่างรุนแรง

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

Status: Ongoing

5ปีก่อน พ่อแม่หย่าร้าง พ่อสุดเหี้ยมไล่พวกเขาออกจากบ้าน เพื่อรักษาโรคหัวใจของน้องชาย วารุณีแอบแฝงเข้าไปในห้องนัทธีขึ้นแสดง ‘ใช้กายแลกเงิน’ 5ปีต่อมา เธอพาเด็กน้อยน่ารักสองคนกลับประเทศ เพื่อที่จะเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนมา กลับบังเอิญเจอชายผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในจังหวัดจันทร์อีกครั้ง เขาคือ นัทธี นั่นเอง “ลูกชายคุณทำไมหน้าเหมือนฉันจัง?” นัทธีถามเสียงต่ำ วารุณี:”…” เด็กน้อยน่ารัก: “แด๊ดดี้ รีบมีลูกกับหม่ามี๊อีกคนสิครับ!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท