พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ – บทที่ 197ความอัปยศของปาจรีย์

บทที่ 197ความอัปยศของปาจรีย์

“ถ่ายรูปได้!” ประธานวรวีพยักหน้าตกลง

วารุณียิ้มอย่างดีใจ“ ดีเลยค่ะ ฉันจะถ่ายภาพทุกมุม ในตอนออกแบบ ฉันก็สามารถจำลองภาพการออกแบบได้ และนึกถึงตอนที่สวมใส่เครื่องประดับชุดนี้ด้วย”

พูดจบ เธอก็เปิดกล้อง แล้วเริ่มเก็บภาพบริเวณรอบๆของฝาครอบกระจกนี้

เมื่อพิชญาเห็น ก็ไม่อยากที่จะน้อยหน้า และไม่อยากให้รู้สึกว่าเธอไม่เป็นมืออาชีพ หยิบมือถือออกมาถ่ายรูปเอาไว้ด้วยเช่นกัน แล้วยังแกล้งทำทีบังเธอเอาไว้อีกด้วย

เมื่อวารุณีสังเกตเห็น ก็เหลือบมองพิชญาอย่างเหนื่อยหน่าย ขี้เกียจจะสนใจเธอ จากนั้นก็ละสายตาออก

หลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จ วารุณีกำลังจะเก็บโทรศัพท์ลง ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เธอมองดูชื่อคนที่โทรเข้ามา แล้วขออนุญาตประธานวรวี “ประธานวรวีค่ะ ฉันขอรับสายสักครู่นะคะ ”

“ตามสบาย” ประธานวรวีทำท่าเชิญตามสบายให้

วารุณีก็กดรับสายต่อหน้าคนทั้งสอง ยกโทรศัพท์ขึ้นแล้วแนบไปที่หู “ปาจรีย์”

“วารุณี เธออยู่ไหน ฉันเอาของมาให้แล้วนะ”ปาจรีย์ถามในขณะที่ยืนอยู่ใต้อาคารของสมาคม

“ตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้องทำงานของประธานวรวี เธอรอฉันแป๊บหนึ่ง ฉันจะออกไปรับเธอเดี๋ยวนี้ ”

เธอวางสายไป แล้วหันมาพูดกับประธานวรวีว่า“ประธานวรวีค่ะ เพื่อนฉันเอาของมาให้ เป็นของสำคัญ ”

ในตอนที่พูด หางตาเธอก็เหลือบมองไปที่พิชญา

ประธานวรวีเองก็เห็น และเข้าใจเธอทันที โบกมือให้ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ไปเถอะ รีบไปรีบมา ”

“ค่ะ”วารุณีรับคำ แล้วออกไปจากห้องทำงานอย่างรวดเร็ว

พอเธอไปแล้ว พิชญาก็เข็นรถเข็นไปทางด้านหน้าเล็กน้อย “ประธานวรวี คุณให้เธอออกไปแบบนี้ ไม่กลัวว่าเธอจะออกไปหาคน มาช่วยเธอโกงการแข่งขันเหรอคะ ?”

ประธานวรวีนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องทำงาน มองไปที่เธออย่างเย็นชา “คุณวารุณีจะทำแบบนั้นหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่หากเป็นคุณผมมั่นใจว่าทำแน่”

ดวงตาของพิชญาร้อนรน ท่าทีก็ราวกับรู้สึกผิดขึ้นมา “ประธานวรวี ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดอะไร ”

“ในเมื่อคุณไม่เข้าใจ งั้นผมก็จะพูดตรงๆ ผมได้ยินวงในของนักออกแบบเขาพูดกันว่า คุณมีข่าวเกี่ยวกับลอกเลียนงานเขียนเยอะมาก เรื่องจริงหรือเปล่า ?” ประธานวรวีหรี่ตาจ้องมองเธอ

พิชญาหายใจติดขัด หลบตาเขาอย่างไม่รู้ตัว “ประธานวรวีพูดตลกอะไรกัน เรื่องพวกนี้จะเป็นเรื่องจริงได้ยังไงคะ ก็เป็นเพราะคนที่เขาไม่ชอบฉัน ถึงได้จงใจใส่ร้ายป้ายสีฉัน ”

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ดูแล้วผมคงจะเข้าใจคุณผิดไป” ประธานวรวีพยักหน้าให้ ดูหน้าแล้วเหมือนกับจะเชื่อเธอ แต่ในใจกับยิ้มเยาะ

ข่าวปลอม ?

คุณวารุณีเขามีหลักฐานหมดแล้ว จะปลอมได้ยังไง ?

พิชญาไม่รู้ว่าประธานวรวีกำลังคิดอะไรอยู่ คิดว่าเขาคงจะเชื่อเธอจริงๆ ในใจก็รู้สึกโล่งขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี่ต่อ จึงได้บอกลา“ประธานวรวี ของจริงฉันดูเสร็จแล้ว รูปก็ถ่ายแล้ว งั้นขอตัวกลับสนามแข่งก่อนนะคะ ”

“ไปเถอะ” ประธานวรวีโบกมือให้

พิชญาบังคับรถเข็นแล้วออกไป

แต่พอออกมาได้ ตรงด้านหน้าก็เห็นวารุณีกับปาจรีย์เดินเข้ามา

ปาจรีย์เองก็เห็นเธอ เร่งฝีเท้าแล้วเดินตรงเข้ามาตรงหน้าเธอ มือกอดอก มองจากที่สูงลงมา “เฮ้ย ไม่เจอตั้งนานนะพิชญา ทำไมถึงเดี้ยงไปได้ละ?”

พิชญากำไปยังที่พักแขนแน่น“ เธอมาเพื่อหัวเราะเยาะฉันใช่ไหม ?”

“โอ้นี่เธอเดาถูกเผงเลยนะเนี่ย ฉันมาเพื่อหัวเราะเยาะเธอจริงๆ ”ปาจรีย์ตอบรับด้วยรอยยิ้ม

วารุณีก็อดไม่ได้ ปิดปากและหัวเราะออกมา

เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ พิชญาก็โกรธจนตัวสั่น “เธอ……พวกเธอ……”

“พวกเราทำไม ช่วยพูดให้มันชัดเจนด้วย นี่แค่พูดยังพูดไม่รู้เรื่อง อยู่มาจะยี่สิบกว่าปีนี่ก็เสียเปล่าเลยนะ ” ปาจรีย์แกล้งทำเป็นแคะไปที่หู พูดเหน็บไปอย่างไม่เกรงใจ

ร่างกายของพิชญาสั่นสะท้าน ดวงตาแดงก่ำ ราวกับอาบไปด้วยยาพิษ จ้องเขม็งมาที่เธอ

วารุณีที่เห็นพิชญาในสภาพอาการแบบนี้ ก็หุบยิ้ม สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมา “พอแล้วปาจรีย์ เราอย่าไปเสียเวลากับเขาเลย ตอนนี้สภาพเขาไม่สมประกอบ เดี๋ยวจะหาว่าเรารังแกคนไม่มีทางสู้ เสียชื่อกันพอดี”

“ที่เธอพูดมาก็จริง งั้นเราต้องอยู่ให้ห่างเธอเอาไว้”ระหว่างที่พูด ปาจรีย์ก็กระถดตัวถอยห่างออกไป

วารุณียิ้มไม่ได้ร้องไม่ออก“พอแล้ว เราไปกันเถอะ ไปหาประธานวรวีกัน เอาของไปให้เขา”

“อืมดี”ปาจรีย์พยักหน้า เดินอ้อมพิชญาไปแล้วไปยืนอยู่ข้างๆวารุณี จากนั้นก็เดินเข้าไปยังห้องทำงานของประธานวรวีพร้อมเพื่อนสาว

พิชญาดวงตาทมิฬจ้องมองไปยังประตูห้องทำงานที่ปิดลง สบถในใจเงียบๆ

เธอไม่ปล่อยสองคนนี้ไว้แน่!

รอก่อนเถอะ ความอัปยศในวันนี้ เธอจะต้องเอาคืนพวกเขาเป็นสิบเท่าร้อยเท่าแน่นอน !

พิชญาจากไป

หลังจากที่เธอจากไปได้ไม่นาน วารุณีกับปาจรีย์ที่เอาของให้ประธานวรวีแล้วเสร็จก็ออกจากห้องมาแล้วด้วยเช่นกัน

“วารุณี งั้นฉันกลับไปโรงพยาบาลก่อนนะ”ปาจรีย์บิดขี้เกียจ

“เดี๋ยว เธอพาเด็กๆไปด้วย การแข่งของฉันไม่รู้ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไร ให้เด็กๆรออยู่ที่นี่ฉันเองก็ไม่วางใจ พิชญาก็อยู่ที่นี่ด้วยฉันกลัวว่าหากเธอเห็นพวกเด็กๆ แล้วจะทำอะไรพวกเขา”วารุณีคลึงไปที่ขมับ แล้วพูดออกไปอย่างเป็นกังวล

ปาจรีย์ตบไปที่ไหล่ของเธอ “พอแล้ว ไม่ต้องคิดมาก ฉันจะพาเด็กๆไปด้วย แล้วพวกเขาอยู่ไหน ?”

“อยู่ที่ห้องรับรอง ตามฉันมา”วารุณีพูดจบ ก็เดินนำทางไป

ทั้งสองคนมาถึงที่ห้องรับรอง

ด้านในของห้องเด็กทั้งสองคนกำลังดูการ์ตูนอยู่ เมื่อเห็นพวกเธอเดินเข้ามา ก็ดีใจจนกระโดดลงจากโซฟา“หม่ามี๊ แม่บุญธรรม ”

“เด็กดี!”วารุณีกับปาจรีย์ต่างอุ้มเด็กกันคนละคน

อารัณในอ้อมแขนของวารุณีก็หันหน้าไปมา แล้วถามอย่างสงสัย “หม่ามี๊ แข่งเสร็จแล้วเหรอครับ ?”

“ยังเลยครับ หม่ามี๊แวะมา จะให้ลูกกลับไปกับแม่บุญธรรมก่อน ”วารุณีชี้ไปที่ปาจรีย์

ปาจรีย์พยักหน้า“ ใช่ หม่ามี๊ของเราเขาเป็นห่วงพวกเราอยู่ที่นี่ไม่มีคนคอยดูแล เลยฝากพวกเราไว้กับแม่บุญธรรม ”

“ครับ/ค่ะ”อารัณกับไอริณก็ก้มหน้ารับ

แม้ว่าพวกเขาอยากจะรอวารุณีกลับพร้อมกัน แต่ก็ไม่อยากจะให้วารุณีต้องเป็นห่วง

เมื่อเห็นความผิดหวังของเด็กทั้งสอง ในใจของวารุณีก็รู้สึกเศร้า ถอนหายใจออกมา “ไม่ต้องห่วงนะ หม่ามี๊แข่งเสร็จแล้ว จะไปรับลูกที่โรงพยาบาลทันที ลูกต้องเชื่อฟังพ่อบุญธรรมกับแม่บุญธรรมนะ ”

“รู้แล้วครับ/ค่ะ ”เด็กทั้งสองรับคำพร้อมกัน

วารุณีวางอารัณลง แล้วดันร่างของเด็กน้อยไปหาปาจรีย์ “ปาจรีย์ พวกเด็กๆต้องรบกวนเธอแล้ว ฉันต้องเข้าไปที่ห้องประชุมแล้ว การแข่งขันยังดำเนินอยู่ ”

“รีบๆไปเถอะ”ปาจรีย์ยิ้มแล้วโบกมือให้

วารุณีตอบอืมกลับมาคำหนึ่ง แล้วลูบไปที่ศีรษะของเด็กทั้งสองอีกครั้ง จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องรับรอง

กลับมาที่ห้องประชุม หัวหน้าเอริคเห็นเธอเดินเข้ามา ก็พูดขึ้นว่า“การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้ มีเวลาให้สองชั่วโมง ”

เลขาฯภูมิพยักหน้า หยิบเครื่องจับเวลาออกมาแล้วตั้งเวลา

วารุณีกลับมานั่งลงประจำที่ หายใจเข้าลึกๆ แล้วเปิดกระดาษเขียนแบบหน้าใหม่ขึ้นมา หลับตาลงแล้วเริ่มจินตนาการถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบ

พิชญานั่งอยู่ไม่ไกลจากวารุณีมากนัก ห่างจากเธอราวๆสองที่นั่งได้ ร่างกายร้อนรนกระวนกระวายจนเหงื่อเย็นผุดออกมา

เพราะตอนนี้หัวสมองของเธอขาวโพลน แทบไม่มีแรงบันดาลใจอะไรเลย หรือแม้แต่ความคิดปรกติทั่วไปก็แทบไม่มี สติสมาธิแทบควบคุมไม่ได้เลย

ตอนนี้ในใจของเธอเกลียดหัวหน้าเอริคบนเวทีคนนั้นจนแทบคลั่ง ยังดีๆอยู่แท้ๆ ทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนหัวข้อซะงั้น มันทำให้เธอทำอะไรไม่ได้เลยในตอนนี้ !

เมื่อเทียบกับพิชญาที่กระวนกระวายใจ กับวารุณีที่นิ่งสงบราวกับไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย

เธอลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ใบหน้าเผยรอยยิ้มที่มั่นอกมั่นใจ แล้วหยิบดินสอที่อยู่ข้างๆขึ้นมา

“นัทธี ดูเหมือนคุณวารุณีเธอจะมีไอเดียแล้ว”นวิยาที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ หันหน้าไปแล้วพูดกับชายหนุ่มที่อยู่ข้างเตียง

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

Status: Ongoing

5ปีก่อน พ่อแม่หย่าร้าง พ่อสุดเหี้ยมไล่พวกเขาออกจากบ้าน เพื่อรักษาโรคหัวใจของน้องชาย วารุณีแอบแฝงเข้าไปในห้องนัทธีขึ้นแสดง ‘ใช้กายแลกเงิน’ 5ปีต่อมา เธอพาเด็กน้อยน่ารักสองคนกลับประเทศ เพื่อที่จะเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนมา กลับบังเอิญเจอชายผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในจังหวัดจันทร์อีกครั้ง เขาคือ นัทธี นั่นเอง “ลูกชายคุณทำไมหน้าเหมือนฉันจัง?” นัทธีถามเสียงต่ำ วารุณี:”…” เด็กน้อยน่ารัก: “แด๊ดดี้ รีบมีลูกกับหม่ามี๊อีกคนสิครับ!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท