“อื้อ……”วารุณีโดนจูบจนตะลึง ดวงตาเบิกโต ลืมแม้แต่จะขัดขืน
จนกระทั่งมือของชายหนุ่มสัมผัสร่างของเธอ เธอจึงตกใจสั่น ได้สติคืนมาทันที
จะเป็นไปได้อย่างไร!
ใบหน้าเล็กๆของวารุณีเริ่มแดงผ่าว เริ่มขัดขืนอย่างรุนแรง อยากจะหยุดพฤติกรรมของชายหนุ่ม
แต่ยิ่งเธอต่อต้านแบบนี้ ชายหนุ่มกลับยิ่งแข็งแกร่ง
เหมือนกับถูกทำให้โมโห การกระทำของนัทธีก็หยาบคายมากขึ้น
ร่างวารุณีสั่นเล็กน้อย ภายใต้ความโมโห จึงกัดไปที่ไหล่ของนัทธีอย่างเอาคืน
นัทธีก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บ สายตาแดงก่ำมีความชัดเจนเข้ามา สติก็ค่อยๆคืนกลับมา
เขาก้มหน้ามองหญิงสาวที่หอบอยู่ใต้ร่าง รูม่านตาสั่นคลอนเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าช็อกกับเรื่องที่ทำกับเธอ
แต่ว่าอาการช็อกนี้ไม่ได้อยู่นานนัก นัทธีเม้มริมฝีปากบางๆ เหมือนตัดสินใจอะไร แล้วจึงละสายตาลง ปกปิดความหม่นลงในสายตา เคลื่อนไหวร่างกาย
หมอที่อยู่ด้านนอกประตูได้ยินเสียงที่มาจากด้านใน หน้าแก่ๆก็อดไม่ได้ที่จะแดง สุดท้ายก็ไม่กล้ายกมือขึ้นเคาะประตู ไอเบาๆแล้วแบกกล่องยาเดินออกไปไกล
ไม่รู้ว่านานแค่ไหน นัทธีลุกขึ้นจากตัววารุณี
“คุณ……”วารุณีมองเขาด้วยดวงตาที่เปียกปอนและแดงก่ำ อยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่มีแรงพูด มึนหัว หมดสติไป
สายตานัทธีดูตกใจ รีบเก็บเสื้อผ้าที่พื้นขึ้นมาคลุมให้เธอ อุ้มเธอขึ้นมา แล้วรีบออกไปจากห้องรับรอง
หมอที่รออยู่ด้านนอกอยู่ตลอดเวลาเห็นทั้งสองออกมา ก็มีสติทันที ขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็ว แล้วเรียกออกไป“ประธานนัทธี!”
“ตามมา!”นัทธีหันหน้าเล็กน้อย หลังจากพูดสองคำนี้ออกไป ฝีเท้าก็เดินไปที่ลิฟต์ไม่หยุด
กลับไปที่คอนโด ก็รุ่งสางแล้ว
นัทธีอุ้มวารุณีเข้าไปในคอนโดของตัวเอง
ป้าส้มยังไม่นอน กำลังดูโทรทัศน์อยู่ ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากด้านนอกประตู ก็ไปเปิดประตูทันที
เห็นนัทธีกับวารุณีที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยอยู่ด้านนอกประตู ก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปาก“เอ่อคุณผู้ชายกับคุณวารุณี……”
“เดี๋ยวค่อยคุย ป้าตามผมไปที่ห้องน้ำ”พูดจบ นัทธีก็อุ้มวารุณีผ่านป้าส้ม เดินไปที่ห้องน้ำ
หลังจากป้าส้มให้หมอนั่งตามสบาย จึงตามไปที่ห้องน้ำ
ในห้องน้ำ นัทธีเปิดน้ำในอ่างน้ำเรียบร้อย จากนั้นเปิดเสื้อผ้าของวารุณีแล้วเอาเธอลงไป
ป้าส้มเข้ามาเห็นวารุณีที่ช้ำไปทั้งตัว ก็ตกใจอย่างมาก แล้วจึงมองนัทธีที่มีรอยแดงๆที่คอสองสามจุดอีกครั้ง จากนั้นจึงเข้าใจทุกอย่างทันที“คุณผู้ชาย คุณกับคุณวารุณีคงไม่ได้……”
นัทธีรู้ว่าเธอจะพูดอะไร จึงตอบอืออย่างไม่ปริปากพูดใดๆ ยอมรับออกไป
ป้าส้มก็ยิ้มกว้างทันที“คุณผู้ชาย ยินดีด้วยนะคะ!”
เธอมองออกนานแล้วว่าคุณผู้ชายของตัวเองมีความรู้สึกกับคุณวารุณี ไม่อย่างนั้นจะไปคอนโดของเธอได้ทุกวันได้ไงกันล่ะ แล้วยังรับส่งลูกของเธอไปโรงเรียนอีก
ถึงแม้ตอนแรกเธอจะคิดว่าคุณวารุณีมีลูกสองคนแล้ว มูลค่าก็จะต่ำไปเล็กน้อย ไม่คู่ควรกับคุณผู้ชาย แต่เห็นคุณผู้ชายชอบ เด็กสองคนก็น่ารักมากด้วย เธอเลยคิดว่าแบบนี้ก็ดี แค่คุณผู้ชายมีความสุขก็พอแล้ว
นัทธีได้ยินคำยินดีของป้าส้ม มุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย“พอแล้ว ป้าช่วยเธออาบน้ำหน่อย ผมจะออกไปหาหมอหน่อย”
บางทีอาจจะเป็นเพราะยา ตอนนี้เขาจึงเวียนหัว
“ค่ะๆๆ คุณผู้ชายไปเถอะค่ะ”ป้าส้มพยักหน้าไปมา ไม่ถามเขาว่าทำไมต้องไปหาหมอ หยิบผ้าขนหนูข้างๆ แล้วนั่งลงไปที่ขอบอ่าง
นัทธีมองวารุณีที่อยู่ในอ่าง ลูบขมับที่ปวดแล้วจึงเดินออกไป
มาที่ห้องรับแขก หลังจากเขานั่งลงไป ก็พยักหน้าให้หมอ สื่อว่าตรวจวินิจฉัยได้เลย
หมอเข้ามาวัดชีพจร แล้วดูรูม่านตาของนัทธี ชักมือกลับไปพูดว่า“ประธานนัทธี แม้ว่าการตอบสนองของร่างกายคุณปลดปล่อยออกมาแล้ว แต่ก็ยังมีตกค้างอยู่บ้าง ต้องฉีดยาครับ”
“ฉีดเลยครับ”นัทธีสะบัดหัวที่รู้สึกมึนแล้วพูดออกไป
พอหมอได้รับการอนุญาต ก็เปิดกล่องยา หยิบเข็มฉีดยาออกมา
นัทธีถกแขนเสื้อขึ้น เพิ่งเอาแขนวางลงบนโต๊ะน้ำชา โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
เขาใช้มืออีกข้างหยิบโทรศัพท์ออกมาดู เป็นมารุตโทรมา หลังจากเอานิ้วกดปุ่มรับ ก็เอาโทรศัพท์วางไว้ข้างหู“จัดการเรื่องเรียบร้อยหรือยัง?”
“เรียบร้อยแล้วครับ และพิชญาก็สารภาพ เธอบอกว่าเธอได้รับการช่วยเหลือจากสุภัทร จึงหนีออกมาจากโรงพยาบาลประสาทได้ จุดประสงค์ก็เพื่อวางยาคุณ มีอะไรกับคุณ เพราะแบบนี้ คุณก็จะรับผิดชอบ”
“รับผิดชอบ?”นัทธีหรี่ตาลงอย่างอันตราย“เธอฝันหวานไปแล้ว!”
มารุตก็พยักหน้าเสริมตาม ในดวงตาที่อยู่หลังเลนส์แว่นเต็มไปด้วยความดูถูก“ยิ่งไปกว่านั้น แผนนี้เป็นพวกเขาสองคนพ่อลูกคิดออกมาด้วยกัน เพราะว่าสุภัทรหวังว่าพิชญาท้องลูกของเขาแล้ว แบบนี้พิชญาไม่ใช่แค่ไม่ต้องเข้าคุก แต่สุภัทรยังสามารถใช้เด็กมาบังคับให้คุณกับพิชญาแต่งงานกัน เป็นแผนการที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว”
“ดีมาก พวกเขาเยี่ยมจริงๆ!”นัทธีกำโทรศัพท์แน่น หัวเราะอย่างเยือกเย็น
ห้าปีก่อน เขาถูกนิรุตติ์วางแผนใส่ไปแล้วครั้งหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าห้าปีถัดมา จะถูกสุภัทรกับพิชญาสองพ่อลูกที่ไร้ยางอายคู่นี้ วางแผนใส่อีกครั้ง
พวกเขาฉลาดมาก รู้จักเอานวิยามาเป็นข้ออ้าง หลอกเขาไปห้องรับรอง หลังจากรอเขาดื่มน้ำแก้วนั้นอย่างไม่ระวังตัว จึงค่อยปรากฏตรงหน้าเขา
“ประธานครับ ตอนนี้พิชญาถูกช่วยชีวิตไว้ที่โรงพยาบาลแล้ว ผู้ชายสองสามคนนั้นทำให้เธอบาดเจ็บหนักมาก ทางด้านสุภัทรผมแจ้งไปแล้ว เขากำลังอยู่ระหว่างทางไปครับ”มารุตพูดไปอีก
นัทธีคิดต่อ ริมฝีปากบางๆขยับ“หลังจากช่วยชีวิตเธอเสร็จ ก็เอาเธอกลับไปที่โรงพยาบาลประสาท ไม่ใช่ว่าเธอแกล้งป่วยเป็นโรคประสาทเพื่อไม่ต้องเข้าคุกหรือไง?งั้นก็ให้เธอเป็นโรคประสาทสมใจซะ”นัทธีพูดด้วยใบหน้าเย็นชา
หมอที่ฉีดยาให้เขาอยู่ข้างๆได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
“ส่วนสุภัทร……”นัทธีมองไปทางห้องน้ำ เงียบไปเล็กน้อย จากนั้นพูดอีกว่า“ภายในหนึ่งวัน ผมต้องการให้บริษัท ศรีสุขคํา กรุ๊ปล้มละลาย!”
เขาพอจะรู้แล้วว่าทำไมสุภัทรถึงทำแบบนี้ คนอย่างสุภัทรมีความทะเยอทะยานอย่างแรงกล้ามาโดยตลอด อยากจะให้ตระกูลศรีสุขคําพัฒนาเป็นหนึ่งในตระกูลชั้นสูงของจังหวัดจันทร์มาเสมอ แต่ตัวสุภัทรเองไม่มีความสามารถนั้น ดังนั้นห้าปีนี้ จึงแอบบอกใบ้เสมอให้เขาช่วยพัฒนาตระกูลศรีสุขคํา แต่ว่าเขาไม่เคยตอบตกลงเลย
ตอนนี้ตระกูลศรีสุขคําตกต่ำจนถึงขั้นไม่ใช่แม้แต่บริษัทจดทะเบียน พอเห็นว่าจะหายไปในวงการแล้ว ดังนั้นสุภัทรจึงเริ่มร้อนใจ และได้คิดความคิดแบบนี้ออกมากับพิชญา คิดว่าแบบนี้จะทำให้เขาแต่งกับพิชญาแล้วพัฒนาตระกูลศรีสุขคํา คิดเพ้อเจ้อจริงๆ!
“เข้าใจแล้วครับ!”มารุตได้ยินคำสั่งของนัทธีก็ตอบรับไป แต่วินาทีถัดมา ก็ถามอย่างลังเลว่า“แต่ทำให้ตระกูลศรีสุขคําล้มละลาย แล้วทางด้านคุณวารุณี……”
“เธอน่าจะไม่สนใจ”นัทธีละสายตาลงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เขาจำได้ว่าเธอเคยบอกว่า เธอไม่สนใจสุภัทรแล้ว
“ผมเข้าใจแล้ว ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ครับ”มารุตพยักหน้า
วางสาย นัทธีก็ปลดแขนเสื้อลง เพิ่งส่งหมอเสร็จ ก็ได้ยินเสียงของป้าส้มดังออกมาจากในห้องน้ำ“คุณผู้ชายคะ คุณวารุณีอาบน้ำเสร็จแล้วค่ะ”