พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ – บทที่ 288 ผลตรวจ

บทที่ 288 ผลตรวจ

วารุณีมองแหวนวงนี้ แววตาเต็มไปด้วยความทึ่ง พูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว“สวยจัง!”

เธอคิดว่า ไม่มีผู้หญิงคนไหน สามารถทนต่อสิ่งล่อใจอย่างเพชรได้

เธอก็เหมือนกัน!

นัทธีได้ยินคำอุทานของวารุณี รอยยิ้มก็แวบเข้ามาในสายตา หยิบแหวนขึ้นมา“ชอบไหม?”

วารุณีไม่คิดอะไรทั้งนั้น พยักหน้า แล้วพูดไปว่า:“ชอบ”

พอเธอพูดจบ จึงได้สติถึงการกระทำของตัวเองเมื่อกี๊ แล้วจึงก้มหน้าลงอย่างเขินอาย

พระเจ้า เธอตอบไปอย่างกระตือรือร้นแบบนี้ ไม่ได้เป็นการบอกคนอื่นเหรอว่า เธออยากได้แหวนวงนี้มากขนาดไหน

ถ้าแหวนวงนี้ ไม่ได้ให้เธอจริงๆ แล้วเธอตอบไปแบบนี้ ก็เป็นเรื่องตลกจริงๆ

“ชอบก็รับไว้สิ”นัทธีจับมือซ้ายวารุณีที่อยู่บนเข่าขึ้นมา จับนิ้วกลางของเธอมา แล้วค่อยๆเอาแหวนใส่เข้าไป

วารุณีมองแหวนบนนิ้วอย่างตะลึง“ให้……ให้ฉันเหรอ?”

“อือ แหวนขอแต่งงาน”นัทธีพูดไป ก็ยกมือของเธอขึ้นมา ก้มหน้าลงจูบเบาๆไปที่แหวน

วารุณีประทับใจกับการกระทำเช่นนี้ของเขา จึงปิดปากไว้ หลีกเลี่ยงความดีใจของตัวเอง และเสียงร้องไห้ออกมา

ไม่มีผู้หญิงคนไหนทนต่อแหวนเพชรได้ และเช่นกัน ไม่มีผู้หญิงคนไหนทนต่อการขอแต่งงานที่มีแหวนเพชรได้

ที่จริงเธอคิดว่าการขอแต่งงานของเขา ก็แค่พูดออกมา คิดไม่ถึงว่าจะมีแหวนจริงๆ

นัทธีไม่รู้ว่าในใจของวารุณีกำลังคิดอะไรอยู่ จึงวางมือของเธอลง ลูบแหวนแล้วพูดว่า:“คนอย่างผมไม่โรแมนติก ดังนั้นเลยไม่สามารถขอคุณแต่งงานอย่างโรแมนติกได้ แต่ว่า……”

วารุณีชูนิ้วขึ้นมานิ้วหนึ่งแล้วปิดไปที่ปากของเขา จากนั้นตัดบทคำพูดท้ายสุดของเขา“ไม่เป็นไร การขอแต่งงานของคุณ ก็โรแมนติกมากแล้ว ฉันมีความสุขมาก”

ถึงแม้การขอแต่งงานแสนโรแมนติกพวกนั้น จะทำให้เธออิจฉามาก

แต่เธอรู้ จากนิสัยของเขาแล้ว ทำไม่ได้ และเรื่องที่เขาทำไม่ได้ เธอจะไม่บังคับให้อับอาย มีแหวน ก็ยากมากพอแล้ว

ความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจของวารุณี ทำให้ในใจของนัทธีนั้นรู้สึกอบอุ่น

เขาโอบเธอไว้ในอ้อมแขนเบาๆ“ต่อไป ผมจะค่อยๆชดเชยให้คุณเอง”

“ทำไมต้องชดเชยด้วย คุณไม่ได้ติดหนี้ฉันซะหน่อย”วารุณีตบหน้าอกเขาอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

มารุตที่อยู่ข้างๆไม่อยากดูทั้งสองคน จึงเบะปาก ลังเลว่าต้องบอกลาหรือไม่

แต่ตอนนี้เอง จู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมา เสียงเรียกเข้าดึงดูดความสนใจของวารุณีกับนัทธี ทำลายบรรยากาศอันอบอุ่นของพวกเขา

มารุตหัวเราะอย่างเขินอาย“ขอโทษครับประธาน ผมก็ไม่อยาก ผมรับสายก่อน”

นัทธีเม้มริมฝีปากบางๆไม่พูดอะไร มองเขาด้วยสายตาที่หม่นลง ชัดเจนว่าไม่พอใจกับสายโทรศัพท์ของเขา

ส่วนวารุณี กลับก้มหน้าลงอย่างอายๆ

ยังไงความสวีทของเธอกับนัทธีทั้งสองครั้ง ก็มีคนเห็นหมด ถ้าไม่เห็นก็คงดี นั่นไม่เป็นไร

แต่เธอถูกเห็นแบบนี้ จึงเขินมาก

มารุตหันกลับ พยายามไม่สนใจสายตาอันเย็นชาของนัทธี หยิบโทรศัพท์ออกมา หลังจากเห็นสายที่โทรมาแล้ว ก็วางไว้ข้างหูแล้วกดรับ“คุณหมอพิชิต”

“นัทธีล่ะ?”พิชิตถาม

มารุตเงยมองนัทธีแวบหนึ่ง“ประธานอยู่นี่ครับ”

“เอาโทรศัพท์ให้เขา โทรศัพท์เขาปิดเครื่อง”พิชิตพูดเร่ง

มารุตหันกลับ เอาโทรศัพท์ยื่นให้นัทธี

นัทธีรับมา ไม่ได้วางไว้ข้างหู แต่เปิดลำโพง แล้วเอาโทรศัพท์วางไว้ที่โต๊ะน้ำชาตรงหน้า“มีธุระเหรอ?”

“ฉันได้ยินว่าวารุณีท้อง จริงเปล่า?”พิชิตนั่งบนเก้าอี้ทำงานของตัวเอง เอนตัวไปด้านหน้า ถามอย่างแปลกใจ

วารุณีจ้องโทรศัพท์“คุณรู้ได้ไง?”

สายตาของพิชิตมีความแปลกใจแวบเข้ามา“อ๋า คุณก็อยู่เหรอ”

วารุณีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม“สวัสดีค่ะคุณหมอพิชิต”

“สวัสดีครับๆ คุณท้องจริงเหรอ?”พิชิตถามอีกรอบ

นัทธีไม่ชอบให้เธอคุยกับผู้ชายมาก จึงเม้มปากพูดว่า“แกรู้มาจากไหน?”

“ป้าส้มบอกฉัน เธอให้ฉันจัดการให้หน่อย เพราะว่าแกน่าจะพาวารุณีมาตรวจครรภ์”พิชิตตอบกลับอย่างร่าเริง เมื่อรวมกับหน้าเด็กนั้นแล้ว ก็ยิ่งน่ารัก

วารุณีมองไปทางห้องครัว“ป้าส้มคิดได้รอบคอบมาก”

นัทธีเงยคางขึ้นมาโดยไม่พูดสักคำ จากนั้นพูดกับปลายสายไปว่า:“งั้นแกจัดการให้ที เดี๋ยวฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

“ได้ ฉันจะจัดการให้เอง”พิชิตพยักหน้า

โทรศัพท์เสร็จ นัทธียืนขึ้นมา“ไปเถอะ ไปตรวจที่โรงพยาบาล”

วารุณีไม่ปฏิเสธ

เพราะถึงนัทธีไม่จัดการให้ วันข้างหน้าเธอก็ต้องไปตรวจเอง

ช่วงตั้งครรภ์ระยะแรก ทารกในครรภ์มีปัญหามากมาย เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ตรวจครรภ์

“ผมขับรถเอง”มารุตเอาโทรศัพท์ตัวเองคืนกลับไป แล้วก็เป็นคนขับรถให้ทันที

ไม่นานนัก ก็ถึงโรงพยาบาล

นัทธีพาวารุณีไปที่แผนกสูตินรีเวชโดยตรง

พิชิตรอพวกเขาอยู่ตรงนั้น มองเห็นพวกเขามา ก็หยุดคุยกับหมอผู้หญิงคนหนึ่งทันที และเดินเข้ามา

เขามองท้องของวารุณีก่อน จากนั้นมองนัทธีเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม พูดหยอกล้อไปว่า:“นัทธี คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าแกจะไวขนาดนี้ นี่คบกันนานแค่ไหนเอง ก็มีลูกแล้วนะ”

วารุณีก้มหน้าลงด้วยความอายและอึดอัด ไม่พูดอะไร

นัทธีเหลือบมองพิชิตเบาๆ“โอเค เริ่มเมื่อไหร่”

“ตอนนี้ก็ได้ แกรอข้างนอกละกัน ส่วนคุณตามผมมา”ห้าคำสุดท้ายนั้น พิชิตพูดกับวารุณี

วารุณีตอบอือ แล้วมองไปที่นัทธีอีกครั้ง จากนั้นจึงตามหลังพิชิตไป เข้าไปในแผนกสูตินรีเวช

นัทธีกลับนั่งบนเก้าอี้ตรงทางเดิน รออย่างอดทน

ระหว่างที่รอ เขาก็เห็นหญิงตั้งครรภ์ที่ท้องโตเดินไปเดินมาไม่น้อย

ใบหน้าของหญิงตั้งครรภ์พวกนั้น มีความอ่อนโยนของความเป็นแม่ออกมา

ถึงแม้รูปร่างพวกเธอจะไม่ดี แต่สำหรับนัทธีแล้ว พวกเธอสวยที่สุดจริงๆ

เขาคิดว่า รอจนตอนที่ท้องของวารุณีใหญ่ขึ้นมา ก็ต้องสวยเหมือนกันแน่!

“นัทธี!”กำลังคิดอยู่นั้น จู่ๆเสียงผู้หญิงที่ดูอ่อนโยนก็ดังขึ้นมา

นัทธีละความคิดออกแล้วได้สติคืนมา หันมองไปทางซ้าย ก็เห็นนวิยาที่สวมชุดคนไข้เดินเข้ามา เขาขมวดคิ้วก่อน จากนั้นยืนขึ้นมา ประคองเธอไปบนเก้าอี้

“คุณมาได้ไง?”เขานั่งกลับไปที่เดิมเมื่อกี๊ แล้วถามอย่างไม่พอใจเล็กน้อย“ร่างกายไม่ดีอยู่ อย่าไปไหนมั่วๆสิ”

นวิยาแลบลิ้นออกไป“ฉันได้ยินพยาบาลบอกว่าคุณกับคุณวารุณีมาโรงพยาบาล ก็เลยมาดู นัทธี คุณวารุณีตั้งท้องเหรอ?”

เธอมองป้ายประตูแผนกสูตินรีเวชที่อยู่ตรงข้าม มีความริษยาและคลุ้มคลั่งลึกลงในแววตา

แต่แป๊บเดียวก็หายไป เร็วจนไม่มีใครเห็น

นัทธีไม่ได้ปิดบังนวิยา คิ้วที่ขมวดนั้นคลายลง ดูอ่อนโยนขึ้นมา“ใช่”

มองความอ่อนโยนในสายตาของเขาแล้ว ในใจของนวิยาก็เจ็บปวด ความริษยาลึกๆในดวงตา ก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ก็แค่ไม่ปรากฏออกมาที่ใบหน้า กลับทำหน้าดีใจออกไปให้เขา“นั่นดีจริงนัทธี ยินดีด้วยนะ คุณจะเป็นพ่อแล้ว”

ริมฝีปากบางๆของนัทธียกขึ้นเบาๆ“ขอบคุณ”

นวิยาโบกมือ“ไม่ต้องขอบคุณ สมควรอยู่แล้ว นัทธีชอบเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง?”

“ชอบหมด”พอนึกถึงอารัณกับไอริณ มุมปากของนัทธีก็โค้งอย่างชัดมากขึ้น

อารัณกับไอริณน่ารักขนาดนี้ เด็กคนนี้ ก็ต้องเช่นกัน

ในใจของนวิยาอิจฉาอย่างบ้าคลั่ง แต่ใบหน้ากลับยิ้มออกไป“ก็ใช่ คุณกับคุณวารุณีหน้าตาดีขนาดนี้ ลูกที่คลอดออกมา จะต้องหน้าตาดีแน่นอน จะไม่ชอบได้อย่างไรล่ะเนอะ”

ประโยคนี้ฟังแล้วแปลกเล็กน้อย นัทธีเก็บรอยยิ้ม สีหน้าดูจริงจังขึ้นมา“ลูกของผม ไม่ว่าจะหน้าตาแบบไหน ผมชอบหมด ไม่เกี่ยวกับหน้าตา เข้าใจไหม นวิยา?”

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

Status: Ongoing

5ปีก่อน พ่อแม่หย่าร้าง พ่อสุดเหี้ยมไล่พวกเขาออกจากบ้าน เพื่อรักษาโรคหัวใจของน้องชาย วารุณีแอบแฝงเข้าไปในห้องนัทธีขึ้นแสดง ‘ใช้กายแลกเงิน’ 5ปีต่อมา เธอพาเด็กน้อยน่ารักสองคนกลับประเทศ เพื่อที่จะเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนมา กลับบังเอิญเจอชายผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในจังหวัดจันทร์อีกครั้ง เขาคือ นัทธี นั่นเอง “ลูกชายคุณทำไมหน้าเหมือนฉันจัง?” นัทธีถามเสียงต่ำ วารุณี:”…” เด็กน้อยน่ารัก: “แด๊ดดี้ รีบมีลูกกับหม่ามี๊อีกคนสิครับ!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท