ตอนนี้วารุณียิ่งแน่ใจมากขึ้นว่าที่นวิยากับพิชิตคบกันต้องไม่ใช่เพราะว่าอยากอยู่ด้วยกันจริงๆ
แต่คือเพื่อที่จะลบล้างความระมัดระวังของเธอลง จากนั้นใช้สถานะแฟนสาวของพิชิตมาเข้าใกล้นัทธี
ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครเอาคนที่มีแฟนแล้วมาทำเป็นคู่ปรับในความรักของตัวเองต่อ
นวิยากัดริมฝีปากล่างไว้ “คุณวารุณี คุณพูดแบบนี้ฉันสามารถฟ้องคุณได้นะ”
วารุณียิ้มเยาะสองที “อยากจะฟ้องฉัน งั้นคุณก็ไปฟ้องสิ ฉันจะรอดูว่าคุณจะฟ้องชนะฉันได้ไหม แต่ก่อนหน้านั้น ตอนนี้คุณต้องเอาของของคุณออกไป นี่คือออฟฟิศของสามีฉัน คุณมีสิทธิ์อะไรมาวางสิ่งของของคุณ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าคุณเป็นแค่ลูกน้องคนหนึ่ง!”
“คุณวารุณีอิจฉาฉันขนาดนี้เลยเหรอ งั้นฉันก็ยิ่งไม่เอาออกไป คุณจะทำอะไรกับฉันได้” นวิยากอดแขนขึ้นมา มองวารุณีอย่างหาเรื่อง
วารุณีหรี่ตาลง “ฉันจะทำอะไรกับคุณ เดี๋ยวคุณก็รู้”
พูดจบ เธอลุกขึ้นมากำของเล่นกับของว่างที่อยู่บนโซฟาขึ้นมาและเดินออกไปทางประตูเลย
นวิยาเห็นแล้วรีบร้องออกมาว่า: “แกจะทำอะไร”
วารุณีไม่ได้สนใจเธอ เปิดประตูใหญ่ของออฟฟิศออกมาและโยนของเหล่านี้ออกไปเลย
นวิยารีบตามมาดู ทันใดนั้นโกรธจนกรีดร้องขึ้นมา “วารุณี แกกล้าโยนของของฉันได้ยังไง!”
“ทำไมฉันถึงไม่กล้า คุณยึดครองที่ที่ไม่ควรยึดครอง มีความคิดที่ไม่ควรจะมี ฉันก็ให้บทเรียนเล็กๆ กับคุณแค่นั้นเอง” วารุณีพูดอย่างเย็นชา
ข้างๆ คนในออฟฟิศเลขาฯ ได้ยินเสียงก็ต่างเปิดประตูออกมา
เห็นวารุณีกับนวิยากำลังคุมเชิงกัน รู้สึกงงกันอย่างมาก
“เลขาลูซี่ นี่เกิดอะไรขึ้นเหรอ” มีคนถาม
และมีคนดูไปที่วารุณีและดูออกว่าเธอเป็นใคร “คุณเป็นผู้จัดการพิชญาไม่ใช่เหรอ”
วารุณียิ้ม “คือฉันเอง”
“ผู้จัดการพิชญานี่คือ…” คนนั้นชี้ของที่อยู่บนพื้นและชี้ไปที่นวิยาต่อ
วารุณีตอบด้วยเสียงเย็นชาว่า: “ผู้หญิงคนนี้เอาของของเธอไปไว้ในออฟฟิศของสามีฉัน ยังคิดจะใช้วิธีนี้บอกคนอื่นว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสามีฉันนั้นไม่ธรรมดา คุณว่าฉันกำลังทำอยู่ล่ะ”
พอคำพูดนี้ออกมา เลขาฯแต่ละคนต่างอึ้งกันอย่างมาก
สามีเหรอ
พวกเขาดูออกว่านี่เป็นของของนวิยา พวกเขาต่างเคยเห็นทุกครั้งที่ไปออฟฟิศประธาน พวกเขาก็เคยเดาจริงๆ ว่าตกลงความสัมพันธ์ระหว่างนวิยากับประธานคืออะไร บางคนเดาว่าเป็นญาติกัน และก็มีบางคนเดาว่าเป็นคู่สามีภรรยากัน
ถึงอย่างไรประธานก็ได้แต่งงานแล้ว แค่ไม่เคยเปิดเผยว่าคุณหญิงเป็นใครมาตลอด
ตอนนี้นวิยาสามารถเอาของไปไว้ในออฟฟิศประธาน ส่วนประธานก็ไม่ได้ปฏิเสธ คิดดูแล้วความเป็นไปได้ที่เป็นคุณหญิงเยอะกว่า เพราะฉะนั้นพวกเขาต่างสุภาพต่อนวิยาในที่ส่วนตัว
แต่คิดไท่ถึงเลยว่านวิยาไม่ใช่ภรรยาของประธาน ส่วนผู้จัดการพิชญาก็คือคนนั้น
ดังนั้นสถานการณ์ในตอนนี้ก็คือผู้จัดการพิชญารู้ใจมักใหญ่ใฝ่สูงของนวิยา ดังนั้นจึงโมโหและโยนของของนวิยาออกมา
หลังจากเลขาฯแต่ละคนคิดออกเรื่องเหล่านี้ได้แล้ว สายตาที่มองไปยังนวิยาก็กลายเป็นแปลกๆ แล้ว
นวิยาโมโหจนสั่นทั้งตัว จ้องมองวารุณีอย่างแรง “แกกล้าได้ยังไง!”
วารุณีไม่เพียงแค่โยนของของเธอออกมาอย่างเดียว และยังบอกจิตใจของเธอให้กับคนเหล่านี้แล้วด้วย
เธอพอจินตนาการได้แล้วว่าคนเหล่านี้จะนินทาเธอยังไง คนในบริษัทจะมองเธอยังไง
วารุณีไม่กลัวความโกรธแค้นในสายตาของนวิยาเลย แต่กลับสบตาเธออย่างสงบนิ่งและพูดเบาๆ ว่า: “ทำไมฉันจะไม่กล้า ตอนแรกฉันก็ไม่อยากดึงผ้าบังความอายของแกออกหรอก แต่ใครให้แกยิ่งทำยิ่งเกินไปล่ะ มีแฟนแล้วยังจะจับจ้องสามีของคนอื่นไม่ปล่อย ดังนั้นก็อย่ามาโทษฉันใจร้ายละกัน”
เลขาฯแต่ละคนพอได้ยินคำพูดนี้แล้วต่างรู้สึกอึ้งหนักมาก
อันที่จริงเลขาลูซี่มีแฟนแล้วนี่เอง
แล้วเธอยังมาอ่อยประธานอีก!
นวิยารู้สึกว่าสายตาที่คนเหล่านี้มองเธอยิ่งเกินไปมากขึ้นแล้ว ตัวสั่นอย่างกับแกลบตะแกรง
ขณะที่นวิยาใกล้จะถูกความโกรธแค้นและความโมโหที่มาจากความอายทำสติหลุดแล้ว ลิฟต์ที่อยู่ไม่ไกลดังติงและเปิดออกมา นัทธีกับมารุตรีบออกมาทันที
เห็นวารุณีกับคนเหล่านั้นล้อมอยู่ตรงนั้น นัทธีขมวดคิ้วขึ้นมา “พวกคุณกำลังทำอะไรอยู่”
เลขาฯ แต่ละคนพอได้ยินเสียงเขาแล้วต่างยืนตัวตรง
ส่วนนวิยากลับมองเธอด้วยตาแดง
มีแต่วารุณีหันหลังมา มองนัทธีแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “ไม่มีอะไร กำลังสั่งสอนคนไร้ยางอายอยู่เลย!”
คนไร้ยางอาย?
นัทธียกคิ้ว จากนั้นรู้สึกว่าเหมือนตัวเองเตะโดนอะไรบางอย่าง พอก้มหน้าดูคือของทานเล่นถุงหนึ่ง
เขาดูออกแล้ว คือของทานเล่นที่นวิยาเอาไปไว้ในออฟฟิศของเขา
ตอนนี้ของทานเล่นกับของเล่นตกลงไปเต็มพื้น บวกกับหน้าตาอันน่าสงสารที่ดูออกได้ชัดมากของนวิยานั้น นัทธีเข้าใจแล้วว่าคนที่ถูกสั่งสอนจากปากของวารุณีคือใครแล้ว
“พวกคุณกลับไปหมดเลย” นัทธีหรี่ตาชำเลืองเลขาฯ กี่คนนั้นแวบหนึ่ง
เลขาฯ เหล่านั้นต่างตอบมาเป็นคำๆ กลับไปออฟฟิศแล้ว
พวกเขากลัวไม่ได้กลับไปมาก จะได้แบ่งปันข่าวที่ได้รับรู้จากกลุ่มให้ออกไปเลย
ตอนนี้เหลือแค่สี่คนแล้ว
นัทธีมองวารุณี “นวิยาทำอะไรให้คุณถึงต้องสั่งสอนเธอ”
วารุณีหัวเราะเยาะเย้ยใส่ “ทำอะไรเหรอ ก็แย่งคนของฉันไปน่ะสิ คุณยังไม่รู้ใช่ไหม เธอไม่เคยลบความคิดที่จะไล่ฉันลงมาจากตำแหน่งภรรยาของคุณเลยสักที ของที่อยู่ใต้ขาคุณเหล่านี้ก็คือหลักฐาน”
พอพูดถึงตรงนี้ เธอหันไปมองนวิยาอีกครั้ง “เพราะเห็นแก่คุณหมอพิชิต ก่อนหน้านี้ฉันถึงอดทนคุณมาตลอด ไม่ได้ทำอะไรกับคุณอย่างวันนี้ แต่ใครจะรู้ว่าคุณยิ่งวันยิ่งทำเกินไปกว่าเดิม ดังนั้นฉันจะไม่ไว้หน้าให้คุณอีกต่อไปแล้ว”
“และก็คุณด้วย!” วารุณีหันหลังกลับอีกครั้ง เปลี่ยนสายตากลับไปอยู่ที่นัทธี “แม้ตอนนี้คุณจะเย็นชาใส่ฉัน แต่ตอนนี้เรายังไม่ได้หย่ากัน ฉันก็ยังคงเป็นภรรยาของคุณอยู่ สอง สามวันนี้คุณตัวติดกับนวิยาอยู่ตลอดเวลา ยิ่งกว่านั้นยังปล่อยให้เธอเอาของมาไว้ในออฟฟิศของคุณ ตกลงคุณอยากทำอะไรเหรอ”
เธอจิ้มแผ่นอกของเขา “คืออยากให้โอกาสเธอขึ้นครองตำแหน่งใช่ไหม”
นัทธีก้มหน้าดูนิ้วมืออันเรียวยาวและขาวใสของเธอแวบหนึ่ง จากนั้นขมวดคิ้วขึ้นมา “คุณอย่าไร้เหตุผลอย่างนี้ได้ไหม! นวิยากับมารุตคบกันแล้ว การแย่งตำแหน่งของคุณที่คุณบอกนั้นเป็นความเข้าใจผิดของคุณก็แค่นั้น”
“ตกลงเป็นความเข้าใจผิดหรือเป็นความจริง ฉันดูได้ชัดแจ้งกว่าคุณ” ใบหน้าเล็กของวารุณีเต็มไปด้วยความเยือกเย็น ตอบดังๆ ว่า: “นัทธี ถ้าคุณอยากหย่ากับฉัน ก็เซ็นใบสำคัญการหย่าที่ฉันเอาให้คุณเลยซะ อย่าพาเธออยู่ข้างตัวตลอดเวลามาทำให้ฉันรู้สึกน่ารังเกียจเลย ฉันทนไม่ได้อีกแล้ว!”
นวิยาไม่เคยลบความคิดที่อยากได้นัทธีมาตลอดจริงๆ
ในนี้ นัทธีเป็นคนสนับสนุนนวิยามากที่สุด เพราะทุกครั้งที่นวิยาเข้าใกล้ นัทธีไม่เคยผลักออกไปเลย ส่วนนี่ก็ทำให้ใจมักใหญ่ใฝ่สูงของนวิยายิ่งวันมากขึ้น
ก่อนหน้าเพราะเธอรักเขาจึงอดทนมาตลอด และก็เชื่แใจเขาว่าจะไม่ทำผิด แต่ช่วงนี้เขากับนวิยาไปไหนมาไหนด้วยกันกับความเฉยเมยของเขาทำให้เธอเหนื่อยไม่ไหวแล้ว ไม่อยากอดทนอย่างกับคนโง่คนหนึ่งต่อไปอีกแล้ว
ตอนที่เธออดทน ไม่แน่นวิยายังได้ด่าเธอว่าโง่เขลาในใก็เป็นไปได้
ข้างๆ นวิยากับมารุตได้ยินคำว่าใบสำคัญการหย่าต่างอึ้งกันไม่น้อย
ที่มารุตอึ้งคือวารุณีกลับเป็นฝ่ายบอกหย่ากันเอง
ส่วนนวิยาคือจรุงใจบวกกับตื่นเต้น
เธอรู้สึกไม่พอใจมากมาตลอดที่ความเป็นจริงนัทธีเย็นชาใส่วารุณี แต่กลับไม่หย่ากับวารุณี
ไม่คิดเลยว่าตอนนี้เธอกลับได้ยินว่าพวกเขาจะหย่ากันจริงๆ แล้วด้วย
นวิยาสองมือจับไว้ด้วยกัน ใจเต้นได้เร็วมาก
“ผมเคยบอกแล้ว ผมไม่มีทางเซ็น” นัทธีไม่พอใจกับคำว่าหย่ากันอย่างมาก สีหน้ามืดมนลงมาทันที
นวิยาก็เป็นแบบนี้เช่นกัน โกรธและโมโหมาก
ขนาดนี้แล้วเขายังไม่เซ็นอีก!
เขารักวารุณีมากขนาดนั้นเลยเหรอ
“พอแล้ว ตอนนี้เรายังไม่ต้องคุยเรื่องเซ็นหรือไม่เซ็น แต่เธอ…” วารุณีชี้นวิยา “วันนี้ต้องคุยให้รู้เรื่อง ไม่งั้นไม่จบแน่!”