โสรยาไม่รู้ว่าตัวเองถูกนัทธีจับตามองแล้ว กำลังจับปากกา แล้วรอคอยภาพออกแบบของทางฝั่งโน้นอยู่
รอไปประมาณยี่สิบกว่านาที โสรยาเห็นภาพทั้งหมดที่อยู่บนแว่น ด้านบนก็คือภาพออกแบบหนึ่งภาพ
พอเห็นภาพออกแบบภาพนี้ โสรยาก็ตกตะลึงในความสวยเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ยิ้ม
มีการออกแบบนี้ ครั้งนี้เธอต้องได้เข้ากลุ่มเอแน่นอน ต่อให้ฝีมือการตัดเย็บของเธอจะไม่ค่อยดี แค่พึ่งพาอาศัยการออกแบบนี้ ก็สามารถทดแทนได้แล้ว
คิดไป โสรยารีบลอกแบบบนโปรเจ็กเตอร์โฮโลแกรม แล้วไปเลือกเนื้อผ้า
รอให้เธอเลือกเสร็จแล้วกลับมา เสื้อผ้าของวารุณีก็ออกมาเป็นแบบเป็นร่างคร่าวๆ แล้ว
ตอนที่โสรยาถือผ้าแล้วเดินผ่านก็มองไปชั่วพริบตา หลังจากมองเสร็จ สีหน้าก็หนักหน่วงโดยไม่รู้ตัว
ถึงแม้เสื้อของวารุณีจะยังทำไม่เสร็จ ทว่ารูปร่างนี้ ก็ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการออกแบบรูปแบบใหม่
เชื่อว่าหลังจากออกมาเป็นชิ้นงานสุดท้าย ก็ต้องน่าตกตะลึงในความสวยแน่ๆ
“คุณโสรยา มีเรื่องอะไรเหรอ?” วารุณีเห็นโสรยาจ้องเสื้อผ้าของตัวเอง ก็อดหรี่ตามองไม่ได้
โสรยากอดผ้าในมือไว้แน่นๆ แล้วตอบกลับด้วยหน้ายิ้มๆ “ไม่มีอะไร การออกแบบของคุณวารุณีไม่เลวจริงๆ”
“ขอบคุณค่ะ ของคุณก็เหมือนกัน” สายตาของวารุณีมองผ้าที่เธอถือไว้
โสรยาเลือกผ้าเรืองแสง เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าผ้าที่ใช้งานที่เล็กที่สุด
เพราะว่าผ้าแบบนี้สวยนะดี แต่ถ้าออกแบบได้ไม่ดี เสื้อผ้าที่ทำออกมาก็จะทั้งลาวทั้งขี้เหร่ นางแบบใส่บนเรือนร่าง จากผู้หญิงที่ทันสมัยคนหนึ่งก็จะกลายเป็นสาวบ้านนอกคนหนึ่ง
ดังนั้นมีดีไซเนอร์น้อยมากที่จะใช้ผ้าเรืองแสงในการประกวด
และในมือของโสรยามีแต่ผ้าเรืองแสง ดูๆแล้วเธอมีความมั่นใจในเสื้อผ้าตัวเองมาก
“ขอบคุณคำชมจากคุณวารุณี เอาเถอะ ไม่รบกวนเวลาคุณแล้ว ฉันก็จะเริ่มกลับไปทำเสื้อผ้าตัวเองแล้ว” โสรยาพูดจบก็พยักหน้าจากไปเล็กน้อย
วารุณีมองเธอที่เดินจากไปสักพัก จากนั้นดึงสายตาตัวเองกลับมา แล้วทำเสื้อของตัวเองต่อ
หลังจากสองชั่วโมงผ่านไป เสื้อผ้าที่ทำก็เสร็จสิ้น
หลังจากวารุณีได้รับอนุญาต ก็หอบเสื้อผ้าไปให้นางแบบที่อยู่หลังเวที เตรียมแต่งหน้าให้กับเชอรีน
หลังจากมาถึงหลังเวที วารุณีกลับสังเกตเห็นว่าเชอรีนไม่อยู่
“ไปไหนแล้ว?” วารุณีพึมพำด้วยความสงสัย จากนั้นก็หยุดนางแบบคนหนึ่ง “สวัสดีค่ะ คุณเห็นนางแบบของฉันไหมคะ?”
นางแบบคนนี้รู้จักวารุณี ก็รู้ว่านางแบบของวารุณีคือใคร
ยังไงช่วงนี้ เชอรีนก็โด่งดังมีเกียรติอย่างมาก ได้รับการให้ความสำคัญกับแฟชั่นลีชมากมาย ความสำเร็จในอนาคตถูกกำหนดไว้แล้ว
ดังนั้นนางแบบมากมายก็เป็นฝ่ายญาติดีกับเชอรีนก่อน
ตอนนี้นางแบบคนนี้ได้ยินวารุณีถามถึง จึงรีบตอบกลับ “เปล่าค่ะ สามชั่วโมงก่อน เธอรับสายแล้วเดินออกไป ก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย”
สามชั่วโมงก่อน?
วารุณีเม้มปาก
นั่นไม่ใช่ตอนนี้เธอถูกขังไว้ในห้องน้ำหรือยัง เธอโทรหาเชอรีนให้มาช่วยเธอ?
ดังนั้นตั้งแต่ก่อนหน้านั้นเชอรีนก็ไม่ได้กลับมาหรือไง?
หรือว่าเธอไปหาคนตรวจลายนิ้วมือแล้วยังไม่ได้กลับมา?
พอนึกถึงแบบนี้ วารุณีวางเสื้อผ้าลง แล้วเอามือถือกดโทรหาเธอ
สายโทรติด ทว่ากลับไม่มีใครรับสาย
หัวใจของวารุณีหล่นไปถึงเหว ไม่รู้ว่าเชอรีนไม่ได้ยินเสียงมือถือดัง หรือว่ามือถือไม่อยู่ด้านข้าง หรือเกิดเรื่องอะไรกันแน่
ไม่ว่าจะวิธีอะไร ตอนนี้สำหรับวารุณีแล้วล้วนไม่ใช่เรื่องดีเลย
“สามโมงห้าสิบแล้ว” วารุณีมองนาฬิกา ยังมีอีกหนึ่งชั่วโมง แคชวอร์คก็จะเริ่มขึ้น และไม่รู้ว่าภายในหนึ่งชั่วโมงนี้เชอรีนจะกลับมาทันไหม
วารุณีนวดผมด้วยความเคร่งเครียดเล็กน้อย แล้วนั่งรอบนเก้าอี้
คิดว่าจะรอเชอรีนก่อน ขืนเชอรีนอยู่ในระหว่างทางกลับล่ะ?
ทว่าหลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ดีไซเนอร์คนอื่นทยอยกันเอาเสื้อผ้ามาแล้ว แล้วกำลังจะแต่งหน้าเปลี่ยนเสื้อให้นางแบบ เชอรีนยังไม่ได้กลับมา
วารุณีไม่เพียงแต่กระวนกระวาย และไม่อยากรออีกต่อไป จึงลุกขึ้นยืน
ตอนที่เธอกำลังจะออกไปตามหาเชอรีน เสียงอันน่าสงสัยของโสรยาดังขึ้นจากด้านหลัง “คุณวารุณี นางแบบของคุณล่ะ?”
วารุณีหยุดฝีเท้าลง แล้วหันไปมองโสรยา
โสรยากะพริบตา “เสื้อผ้าของคุณไม่ใช่ว่าเสร็จตั้งแต่เนิ่นๆแล้วหรือไง ทำไมถึงจะวางไว้ที่นั่นล่ะ? เชอรีนไม่อยู่เหรอ?”
พูดไป เธอก็มองซ้ายมองขวา
วารุณีเม้มปากแดง ตอบอืมคำเดียว “ดังนั้นฉันกำลังจะออกไปตามหาเธอ”
“ตามหา?” โสรยาตกตะลึง “ดังนั้นคุณวารุณี คุณไม่รู้เหรอว่านางแบบของคุณไปไหน?”
“ถือเป็นแบบนั้น” วารุณีตอบกลับด้วยเสียงเรียบ แล้วเอาเสื้อผ้าเดินออกจากห้องแต่งหน้า
เสื้อผ้าเป็นของสำคัญขนาดนี้ เธอคงไม่ทิ้งไว้ด้านในอยู่แล้ว
ขืนถูกคนประสงค์ร้ายทำลาย ทุกอย่างคงจบ
มองด้านหลังของวารุณีที่เดินจากไป โสรยาจับคางเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
ผ่านไปสองวิ เธอเอามือถือออกแล้วโทรออก “ถึงตอนนี้เชอรีนยังไม่กลับมา คุณทำอะไรหรือเปล่า”
“ฉันเอง ตอนที่ฉันไปช่วยคุณทำลายภาพกล้องวงจรปิดละแวกห้องน้ำ ก็บังเอิญเจอกับเชอรีน เธอก็บอกว่ามาเอาภาพกล้องวงจรปิด ดังนั้นฉันเลยตีเธอให้สลบ ไม่รู้ว่าตอนนี้ฟื้นหรือยัง” ในสายมีเสียงผู้หญิงตอบกลับอย่างแหบพร่า
โสรยายกมุมปากขึ้น “ตอนนี้ยังไม่กลับมา คิดว่ายังไม่ฟื้น เธอทำได้ดีมาก แค่วารุณีหาเชอรีนไม่เจอ สิทธิ์การประกวดของเธอก็จะถูกยกเลิก”
ทีแรกเธอคิดว่าตัวเองให้วารุณีมาสาย ก็สามารถทำให้วารุณีหมดสิทธิ์ในการประกวด แต่นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายวารุณีกลับกลับมาด้วยความโชดดี
แต่ตอนนี้นางแบบของวารุณีถูกตีจนสลบ ไม่รู้ร่องรอยใด และอาจจะกลับมาไม่ทัน แค่ว่าเชอรีนไม่กลับมา เป้าหมายของเธอยังคงบรรลุ
โสรยาวางสายด้วยความพึงพอใจ กลับไปถึงห้องแต่งตัวของสุชาดา แต่งตัวให้สุชาดา
หรืออาจเพราะว่ามั่นใจว่าวารุณีจะถูกตัดสิทธิ์ โสรยาเลยอารมณ์ดีมาก แม้กระทั่งมองสุชาดาก็ยังจะเข้าตาไปเยอะ
อีกด้านหนึ่ง วารุณีเดินออกจากห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ ขณะที่ก็ได้โทรหาเชอรีน เดินไปที่ห้องพักผ่อนของนัทธีด้วย
มือถือของเชอรีนยังไม่มีใครรับสาย วารุณีก็ได้ตัดสินใจไปแล้ว เธออาจจะเกิดอะไรขึ้น ภายในใจทั้งกระวนกระวายทั้งเป็นห่วง
“อารัณ” วารุณีเคาะประตูห้องพักผ่อน
ประตูเปิดออกเร็วมาก ร่างสูงใหญ่ของนัทธีปรากฏตรงหน้าประตู กำลังมองเธอ หางคิ้วยกขึ้นเล็กน้อย “คุณมาได้ยังไง ไม่ได้ประกวดอยู่เหรอ?”
“ยังไม่ทันได้อธิบายอะไร อารัณล่ะ?” วารุณีถามด้วยความใจร้อน
นัทธีหันข้างหลีกทาง “อยู่ด้านใน”
วารุณีสาวเท้าเข้าไปในห้อง
นัทธีมองท่าทีกระวนกระวายของเธอ ก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น?
ภายในใจกำลังคิดแบบนี้ นัทธีปิดประตูห้องพักผ่อน แล้วเดินตามไป
“อารัณ” วารุณีตะโกนเข้าไปในห้องพักผ่อน
อารัฯกำลังเดินเป่ายิ้งฉุบกับไอริณอยู่ พอเห็นเธอมา แววตาเป็นประกาย “หม่ามี๊”
“หม่ามี๊ กลับมาแล้ว พวกเรากลับบ้านได้หรือยัง?” ไอริณปีนลงจากโซฟา แล้ววิ่งไปหาวารุณี กอดขาของเธอไว้ แล้วเงยหน้าถามด้วยความดีใจ
วารุณีลูบผมของยัยหนูน้อย “โอ๋เป็นเด็กดี ตอนนี้หม่ามี๊ยังแข่งไม่จบ ยังกลับไม่ได้ รอก่อนนะ”
“อ้อ” ไอริณก้มหน้าด้วยความผิดหวัง
วารุณีตบไหล่เล็กๆของเธอ “เอาเถอะลูกรัก หนูไปฝั่งทางโน้นก่อนนะ หม่ามี๊มีเรื่องจะคุยกับพี่ชายหนู”
“ค่ะ” ไอริณหลีกไปด้วยความเชื่อฟังมากๆ
อารัณมองวารุณีแล้วถาม “หม่ามี๊ มีเรื่องอะไรกับผมเหรอ?”
“หม่ามี๊อยากให้ผมช่วยอะไรอย่างหนึ่ง” วารุณีพูดไป
นัทธีตอบกลับ “เรื่องอะไรครับ?”
“คือแบบนี้ เชอรีนไม่อยู่ ดังนั้นมี๊อยากให้อารัณหาตำแหน่งที่เชอรีนอยู่ในตอนนี้ นี่เป็นเบอร์ของเชอรีนจ้า” พูดจบ วารุณียื่นมือถือไปให้อารัณ