Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1545

ตอนที่ 1545
ตอนที่ 1545 ราคาเรียกเก็บล่วงหน้า
โดย 

“ผลึกปราณเทวะหกล้านก้อน จ่ายมา”

เย่หยวนเอ่ยปากกล่าวขึ้นอย่างไม่แยแสใดๆ เขาหาได้ใส่ใจกับท่าทีอันตื่นตะลึงของเฉินเปาเลย

ทันทีที่คำกล่าเหล่านี้แผดดังออกมา ดวงตาของเฉินเปาพลันโพล่งกว้าง

“ห-หกล้าน? นี่เจ้าแค่จับนิดจับหน่อยแล้วพาอีกฝ่ายส่งกลับมา ถึงขั้นคิดราคาหกล้านเชียว? นี่เจ้ากำลังปล้นกันชัดๆ!”

เฉินเปากล่าวขึ้นด้วยความตกใจยิ่ง

เย่หยวนเผยสีหน้าการแสดงออกประดุจจับจ้องพวกโง่เขลาและกล่าวเสียงเย็นว่า

“จับนิดจับน้อย? แล้วเจ้าสามารถนำเจ้าตัวนี้ออกมาได้เองหรือไม่?”

ขณะสนทนาเอ่ยกล่าว เย่หยวนก็ยื่นฝ่ามือออกไป พลันปรากฏเป็นแมลงตัวจิ้วร่างโปร่งแสงปรากฏขึ้น

เพียงพลาดท่าประมาทเล็กน้อย มันก็สามารถเข้าซุกซ่อนภายในร่างกายได้ในพริบตา ทุกคนที่ได้เห็นต่างสูดหายใจแช่มลึกเจือประหลาดใจ

หยิงซื่ออวี๋กล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มเย็นว่า

“แมลงตัวนี้มีชื่อว่า หนอนศพเขมือบเส้นเอ็น มักซ่อนตัวอยู่ในสุสานของเหล่าเซียนโบราณ ชอบกินเส้นเอ็นและเส้นลมปราณของเหล่านักสู้เป็นที่สุด นอกจากนี้เมื่อมันเข้าไปถึงเส้นลมปราณได้สำเร็จตัวมันจะฝังเข้ากระดูกและยากที่จะบังคับมันออกไป! ในเขตเมืองชั้นนอกทั้งหมด ไม่มีใครอื่นแล้วนอกจากท่านปรมาจารย์เย่ที่สามารถช่วยรักษาได้! แค่หกล้านแลกกับหนึ่งชีวิตนับว่าแพงอันใด?”

เย่หยวนเหลือบมองหนิงซื่ออวี๋เล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าสาวน้อยนางนี้จะมีความรู้มากมายนัก

ก่อนหน้าเขาเพิ่งฟังคำแนะนำของหวูเฉินมาเอง ก่อนจะรู้ว่าสิ่งนี้เรียกว่า หนอนศพเขมือบเส้นเอ็น

ทว่าในความเป็นจริง หนิงซื่ออวี๋นางนี้กลับลึกลับยิ่งกว่าเย่หยวน นางกลับรู้จักหนอนชนิดนี้จริงๆและยังทราบไปถึงความยากในการนำมันออกมาจากร่างกาย

แม้ว่าท่านอาจารย์ของนางเองก็ทำได้เช่นกัน แต่กลับไม่มั่นใจนักว่าจะบังคับนำเจ้าสิ่งนี้ออกไปได้

นางเองก็ไม่คิดไม่ฝัน เย่หยวนเพียงจับร่างของคนๆนั้นสองสามครา ก็สามารถบังคับนำเจ้าสิ่งนี้ออกมาได้แล้ว

ทักษะฝีมือระดับนี้ ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ

สีหน้าการแสดงออกของเฉินเปาเปลี่ยนไปซ้ำไปมา ก่อนจะเอ่ยกล่าวเสียงขรึมว่า

“ข้าขอยอมแพ้ต่อความโชคร้ายนี้เสีย! หวู่จ้าวนี่คือชีวิตของเจ้า เช่นนั้นเจ้าต้องจ่ายเอง!”

หวู่จ้าวผงะเล็กน้อยพร้อมเอ่ยกล่าวคลี่ยิ้มแสนขมขื่นขึ้นว่า

“ข้า…ข้าไม่มีผลึกปราณเทวะมากมายขนาดนั้น…”

เฉินเปาแสยะยิ้มเย็นกล่าวว่า

“นั้นหาใช่เรื่องของข้า! กลับกันเถอะ!”

เฉินเปาโบกมือปัด ขณะที่กำลังจะนำพากลุ่มคนของตนจากไป

ทันทีทันใดเย่หยวนเอ่ยปากกล่าวเสียงขรึมว่า

“เจ้าเป็นคนพามารักษา เช่นนั้นเจ้าก็ต้องจ่าย!”

เฉินเปาหันมาแสยะยิ้มมุมปาก รวนหัวเราะเยาะกล่าวว่า

“บิดาเถอะ ข้าไม่จ่าย! น้ำหน้าอย่างเจ้าจะมีปัญญาทำอะไรได้?”

วูบบ!

เย่หยวนไม่พูดไม่จาใดๆอีกต่อไปพร้อมซัดกำปั้นออกไปทันที

เพียงเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นต้น คิดโจมตีเขา?

เขาระดมพลังพลังปราณเทวพถึงขีดสุด และกระหน่ำกำปั้นเขาชนกับเย่หยวนทันที

กำปั้นนี้ของเขาช่างทรงพลังและหนักหน่วงยิ่งนัก แม้แค่หนึ่งกระบวนเดี๋ยวจะไม่สามารถฆ่าเย่หยวนได้ แต่นี่กลับเกินพอที่จะใช้สั่งสอน

ทว่าในขณะเดียวกัน พลันปรากฏรอยยิ้มเย็นขึ้นบนมุมปากของหัวหน้าห้า เขาเคยปะทะประมือกับเย่หยวนมาก่อน ย่อมทราบตระหนักดีถึงความแกร่งกล้าเกินจินตนาการของเย่หยวน

บูมมม

ขณะที่สองเพลงหมัดเจียนจะเข้าชนสกัดต้าน จู่ๆกำปั้นของเย่หยวนก็อันตรธานหายวับกลางอากาศสุดน่าประหลาดใจ ก่อนจะปรากฏขึ้นอีกครั้งต่อหน้าต่อตาเฉินเปา พร้อมซัดร่างอีกฝ่ายกระเด็นออกไปไกล

กำปั้นนี้ทำเอาใบหน้าของเฉินเปาบิดเบี้ยวผิดรูป เลือดตาแตกพร่ามัวไปหมดก่อนจะหมดสติลงในที่สุด

“หัวหน้าห้า กักตัวชายคนนี้ไว้ ให้ประมุขจองพวกมันมาจ่ายค่ารักษาไถ่ตัวเขาคืนทีหลัง”

เย่หยวนกล่าวสั่งการอย่างไม่แยแสใดๆ

หัวหน้าห้าก้าวแช่มออกมาอย่างสบายใจ พลางสกัดจุดเพื่อปิดดผนึกทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเฉินเปาและนำตัวไปคุมขัง

เซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นต้นล้มเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นปลายได้ด้วยกำปั้นเดียว!

ท่านปรมาจารย์เย่คนนี้ลึกลับโดยแท้!

เมื่อเฉินเปาได้สติขึ้นอีกครั้งก็ถูกหัวหน้ากุมตัวเอาไว้แล้ว ในที่สุดสีหน้าการแสดงออกของเขาพลันตื่นตระหนักหนักพลันเอ่ยร้องดังลั่น

“ข้า…ข้ามีเงินจ่าย! ข้ายินดีที่จะจ่าย! ปล่อยข้าเถอะ!”

หัวใจของเฉินเปาราวกับถูกมีดคมกรีดทั้งเป็น เดิมทีเขาคิดแค่ว่าจะมาก่อกวนและจบลงโดยการทำลายป้ายร้านบัดซบนี่ แต่ที่ไหนได้…ใครจะไปคิดว่าจะลงเอยเช่นนี้?

เมื่อครู่เด็กนั้นมันทำบ้าอันใด ไฉนกำปั้นถึงอันตธานหายวับกลางอากาศ?

เย่หยวนหาได้สนใจใดๆอีกฝ่ายอีก พร้อมกวาดสายตากล่าวกับทุกคนที่ยังต่อแถวว่า

“ผู้ใดไม่มีเงินไสหัวไปซะ ข้ามิได้ทำการกุศลช่วยเหลือโดยไม่คิดสักแดง”

ติงซ่งหาได้ใส่ใจเช่นกันกับเรื่องนี้ เขากล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่มิใช่รอยยิ้มว่า

“ก็แค่หกล้านเองมิใช่รึ? ประมุขเฉียนมาเงินมากมายเกินจะนับไหว”

หวางห่าวหลานยังกล่าวเสริมว่า

“หกล้ายแลกหนึ่งชีวิต นับว่าไม่แพง”

เย่หยวนเหลือบมองพวกเขาเล็กน้อยก่อนกล่าวว่า

“จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่สมบูรณ์มีค่ารักษาอยู่ที่ยี่สิบล้านก้อน! ส่วนอีกหนึ่งมาจากหอเต๋ออี้กระมัง? ห้าสิบล้านก้อน! นอกจากนั้นด้านหลังราคารักษาอยู่ที่สิบและสามสิบล้านตามลำดับ ผู้ใดคิดว่ามีปัญญาจ่ายไหวก็ต่อไป หากไม่ไหวก็กลับไปซะ”

“ฟู่วว…”

เหล่าผู้คนโดยรอบต่างสั่นสะท้านหนักเมื่อได้ยิน นี่เป็นราคาเรียกเก็บล่วงหน้าที่มหาโหดยิ่งนัก

ค่ารักษาห้าสิบล้าน?

ห้าสิบล้านเท่ากับราคาทรัพย์สินทั้งหมดของเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนหนึ่งเลยกระมัง

ประมุขเฉียนยามนี้ออกโรงมาดูด้วยตัวเองเช่นกัน พลางได้ยินราคายี่สิบล้าน เขายิ่งกว่ารู้สึกเจ็บปวดหัวใจนัก เพราะนี่คือทรัพย์ทั้งหมดที่เขามี

แต่เขายังคงสูดหายใจฮึดสู้กล่าวว่า

“ตราบใดที่ท่านปรมาจารย์เย่รักษาลูกชายข้าได้ ยี่สิบล้านก็ยี่สิบล้าน!”

ส่วนร้านขายโอสถสองยักษ์ใหญ่เองต่างก็ครุ่นกังวลชั่งน้ำหนักกันสีหน่าเคร่งเครียด ก่อนท้ายที่สุดจะลงเอยเห็นด้วย

ราคาห้าสิบล้าน หวางห่าวหลานมั่นใจว่านี่เป็นเพียงคำขู่เท่านั้น

เพราะถึงจะขายตัว แต่ราคาขนาดนี้เขาก็ไม่สามารถควักจ่ายได้เช่นกัน!

แต่เย่หยวนหาได้สนใจไม่ และกล่าวกับประมุขเฉียนว่า

“เจ้าไปนพเงินมา ส่วนข้าจะรักษาบุตรชายเจ้าเอง”

ขณะที่ประมุขเฉียนกำลังจะตอบตกลง จู่ๆติงซ่งพลันโพล่งขึ้นว่า

“เดี๋ยวก่อน ราคายี่สิบล้านหาใช่เงินก้อนเล็กๆ หากท่านประมุขเฉียนไปนำเงินมา แต่เจ้ากลับไม่สามารถรักษาอาการของเฉียนปิงได้ จะทำอย่างไร?”

เย่หยวนเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา

“เจ้ากำลังสงสัยในตัวข้า?”

ติงซ่งสำลักทันทีโดยมิตั้งใจ การตั้งแง่กับนักหลอมโอสถนับเป็นข้อห้ามสำคัญ

เนื่องจากพวกเขาเต็มใจเดินทางมารักษา ดังนั้นพวกเขาจำต้องเชื่อใจอีกฝ่ายโดยธรรมชาติ

แต่เมื่อประมุขเฉียนได้ฟังเช่นนั้น เขาพลันกัดฟันแน่นกล่าวว่า

“ท่านปรมาจารย์เย่อย่าลังเลที่จะรักษา ข้าจะรีบไปเอาเงินมาทันที!”

เมื่อกล่าวจบประมุขเฉียนก็เหลียวตัวกลับและออกไปทันที

คล้อยหลังที่เย่หยวนพาเฉียนปิงเข้าไป เหล่าฝูงชนโดนรอบต่างเริ่มจับกลุ่มสนทนาในทันที

“สวรรค์! ค่ารักษาขนาดนี้…แพงไปหรือไม่? นี่มันถึงขั้นล้มละลายกันเลยทีเดียว!”

“นี่เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยงั้นรึ?!  ท่านปรมาจารย์เย่กำลังกำจัดพวกสร้างปัญหาอยู่! ก็เห็นอยู่ว่าคนพวกนี้มาเพื่อสร้างปัญหา เขาย่อมเรียกร้องค่ารักษาสูงเป็นธรรมดา!”

“เท่านี้ยังไม่หมด! สิ่งที่กลุ่มคนพวกนี้นำมาล้วนแต่เป็นโรคภัยลี้ลับและได้ชื่อว่ารักษายากที่สุดในเขตเมืองใต้! หากมันสามารถรักษาได้ง่ายปานนั้น ตอนนี้พวกเขาคงหายนานแล้ว!”

ผ่านไปสองชั่วยาม ในที่สุดเย่หยวนก็พาเฉียนปิงออกมาจากโถงภายใน

สายตาที่จับจ้องของหนิงซื่ออวี๋ยามนี้เปี่ยมล้นไปด้วยความประหลาดใจอย่างที่สุด

เห็นได้ชัดว่าทมุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในโถง ล้วนแล้วแต่ทำให้นางประหลาดใจยิ่งยวด

“พ-พ่อ!”

เฉียนปิงเอ่ยกล่าวเรียกประมุขเฉียนด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน พร้อมธารน้ำตาที่รินไหลออกมาจากดวงตา

ร่างของประมุขเฉียนสั่นสะท้านหนักทั้งน้ำตาเช่นกัน

ลูกชายของเขาหายปัญญาอ่อนแล้วจริงๆ!

ในตอนนี้ดวงตาคู่นั้นของเฉียนปิงเปล่งประกายเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา แจกจ่างจากก่อนหน้าที่ดูเลื่อนลอยโดยสิ้นเชิง

“ปิงเอ๋อ! เจ้า…เจ้าหายเป็นปกติดีแล้วใช่ไหม?”

ประมุขเฉียนแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

เฉียนปิงพยักหน้ากล่าวว่า

“ท่านปรมาจารย์เย่เปรียบเสมือนเทพโดยแท้! เขาสามารถชดเชยจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในส่วนที่บกพร่องไปของข้าได้! ตอนนี้ข้ามิได้ต่างอะไรจากเด็กทั่วไปแล้ว!”

“ดี! ดี! ดีจริงๆ!”

ธารน้ำตาไหลรินผ่านใบหน้าเหี่ยวย่นของประมุขเฉียน ในที่สุดความปรารถนาอันแสนยาวนานของเขาก็กลับกลายมาเป็นความจริง

สองพ่อลูกเข้าสวมกอดกันต่างร้องห่มร้องไห้ออกมาต่อหน้าสาธารณชน

พวกเขาทุกคนต่างทราบดีว่า ประมุขเฉียนใช้ความพยายามและทุ่มสุดดตัวเพียงใดเพื่อวันนี้!

“ท่านพ่อ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะแสดงความกตัญญูชดใช้สิ่งที่ผิดพลาดไปในอดีต! ปิงเอ๋อจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน”

เฉียนปิงเอ่ยกล่าวขึ้นพลางร่ำไห้อย่างขมขื่นใจยิ่ง

…………………………………

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Status: Ongoing
จักรพรรดิโอสถแห่งยุคได้ถูกก่อกบฏโดยผู้ทรยศ
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา…แผ่นดินไร้ซึ่งนาม ฉิงหยุนซี และผู้ได้รับ แพรไหมหมื่นปี ก่อนที่จะสิ้นชีพลง….
กาลเวลาผ่านไป…เขาได้กลับมาอีกครั้ง ขณะที่ร่างกายเจ้าของคนเก่ากำลังเดินเล่นอยู่ใน สำนัก…
ข้าจะทลายสวรรค์ให้สิ้น…ด้วยโอสถในมือข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท