ได้ยินดังนี้ นัยน์ตาวารุณีวูบไหว รีบมองกลางทะเลสาบ
พลันเห็นคนขับเรือปั่นหงส์ในชุดดำหลายคนเข้าใกล้เรือถีบหงส์ของอารัณกับไอริณ ก่อนจะล้อมรอบเรือของอารัณกับไอริณไว้ตรงกลาง
ภาพตรงหน้าทำให้สมองของวารุณีคล้ายกับระเบิดเป็นเสี่ยงๆ เธอรู้สึกเดือดดาลจนตัวสั่นเทิ้ม
ดวงตาแดงก่ำของเธอจับจ้องไปยังนิรุตติ์“คุณไร้ยางอายเหลือเกิน ถึงกับใช้ลูกมาขู่ฉัน!”
นิรุตต์ไม่สะทกสะท้านหรือโกรธเคืองถ้อยคำของเธอสักนิด เสียงต่ำที่เจือเสียงหัวเราะเอ่ยขึ้นมาว่า “ช่วยไม่ได้ ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ คุณก็คงไม่ยอมอยู่คุยกับผม”
“เรียกลูกน้องคุณกลับมา ปล่อยลูกฉันนะ” วารุณีกำสองมือไว้แน่นขนัด
นิรุตต์ยักไหล่ พลางเอ่ยว่า “คงไม่ได้ แต่ถ้าคุณนั่งลงมาคุยกับผมดีๆ คุยเสร็จผมจะปล่อยพวกเขา ว่าไงล่ะ”
“ได้” วารุณีขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน
ตาคนนี้ถึงกับใช้ลูกทั้งสองคนข่มขู่เธอ
ถ้าเกิดเธอไม่ทำตาม เธอก็ไม่กล้าจินตนาการเลยว่าเขาจะทำอะไรลูกๆของเธอบ้าง
มารปีศาจคนนี้ทำได้ทุกอย่าง
“ในเมื่อรับปากแล้วก็มาสิ” นิรุตติ์ตบที่นั่งข้างกาย
วารุณีหลับตาพลันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปนั่ง
ทว่าเธอไม่อยากเข้าใกล้เขา จึงเว้นระยะไว้ช่วงหนึ่ง
ซึ่งช่องว่างระหว่างเธอกับนิรุตติ์นั้นสามารถนั่งได้อีกสองคน
นิรุตติ์เห็นแล้วเข้าใจเจตนาของเธอ เขาหรี่ตาขึ้น ก่อนจะยกริมฝีปากบางโค้งขึ้น แล้วใช้แรงคว้าข้อมือเธอมาด้านข้างตน
“โอ๊ย!” วารุณีตกใจร้องเสียงหลง วินาทีต่อมา ตัวเธอก็นั่งบนตักนิรุตติ์เรียบร้อย
นิรุตติ์โอบกอดเธอไว้แนบแน่น พลางซุกหัวไว้ที่คอเธอ จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
คล้ายกับว่ากลิ่นกายเธอทำให้เขาเพลิดเพลินยิ่งนัก เขาถึงขั้นหลับตาดื่มด่ำสิ่งนี้
ซึ่งการกระทำของนิรุตติ์ทำให้วารุณีรู้สึกสะอิดสะเอียนจนเกือบอาเจียนออกมา
โดยเฉพาะตอนที่ศีรษะของเขาโน้มเข้ามาหา เธอราวกับเห็นงูพิษเข้าใกล้อย่างไรอย่างนั้น เธอดิ้นรนออกจากพันธนาการ “ปล่อยฉัน!”
นิรุตติ์ไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยวารุณี ซ้ำร้ายยังกอดแน่นกว่าเดิมอีก พลางมองเธอดิ้นอย่างมีความสุข
“ไม่มีประโยชน์หรอก คุณดิ้นไม่หลุดหรอก และไม่มีคนมาช่วยคุณด้วย เพราะบอดี้การ์ดสองคนของคุณโดนลูกน้องผมคุมตัวแล้ว” นิรุตติ์บีบคางวารุณีขึ้นพร้อมกับกล่าว
วารุณีกัดริมฝีปากตัวเองแน่น“คุณจะทำอะไรกันแน่?”
“อยู่กับผม ว่าไง?”นิรุตติ์มองเธอแล้วพูดออกมา
วารุณีตกตะลึงพรึงเพริด“คุณพูดอะไรนะ?”
นิรุตติ์เชิดคางเธอขึ้น“ผมบอกว่าเลิกกับนัทธีแล้วมาอยู่กับผม เป็นไง”
สาเหตุที่เขามาที่นี่ครั้งนี้ นอกจากจะมาจัดการนวิยาแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ อยากมาหาเธอ
วารุณีโมโหคำพูดของเขาจนแสดงเป็นเสียงหัวเราะออกมา“นิรุตติ์ คุณบ้าไปแล้วเหรอ ฉันเป็นน้องสะใภ้คุณนะ!”
“ผมรู้ ยุคโบราณฮ่องเต้ยังแย่งเมียกับลูกชายเลย พี่ชายของผัวแย่งน้องเมียจะเป็นไรไป”นิรุตติ์มองวารุณีอย่างจดจ่อ “วารุณี ผมจริงจังนะ ขอเพียงคุณอยู่กับผม ผมจะไม่โจมตีนัทธีอีก และผมก็จะไม่เอาวันเฮิร์ทด้วย”
วันเฮิร์ทคือสิ่งที่เขาใฝ่ฝันอยากครอบครองเสมอมา
ทว่าตอนนี้ เขาสามารถละทิ้งวันเฮิร์ทเพียงเพื่อให้เธอไปกับเขา
วารุณีโกรธขึ้งจนตัวสั่นเทา“นิรุตติ์ คุณอย่าได้คิดเลย ทำไมฉันต้องอยู่กับปีศาจอย่างคุณด้วย!”
“ปีศาจ?” นิรุตติ์หรี่ตาขึ้น“คุณมองผมเป็นคนแบบนี้เหรอ?”
“ฉันพูดผิดเหรอ?คุณไม่ใช่ปีศาจหรอกหรือ?”วารุณีถลึงตาใส่เขา“คุณลักพาตัวฉัน พาฉันกระโดดหน้าผา ยังติดสินบนหมอกับพยาบาลมาเอาลูกในท้องฉันออกอีก คนน่ากลัวอย่างคุณ ใครจะอยู่กับคุณ!”
ได้ยินถ้อยคำนี้ นิรุตติ์หลุบตาลง ผ่านไปสักพักใหญ่จึงจะเอ่ยขึ้นมาว่า “ถึงผมจะลักพาตัวคุณ พาคุณกระโดดหน้าผา แต่ผมก็ช่วยคุณไว้นะ ถ้าผมไม่เอาตัวรองรับคุณ คนที่แขนขาหักก็คือคุณนะ”
เขามองวารุณีด้วยท่าทีหายกัน คล้ายกับไม่เข้าใจว่าตัวเองช่วยเธอแล้ว แต่ทำไมเธอยังใส่ใจเรื่องพวกนั้นอีก
วารุณีอ่านความนึกคิดเขาออกพลันรู้สึกว่าเขาสติฟั่นเฟือนระคนประหลาดใจไว้ในทีด้วย
ตอนนั้นปาจรีย์สันนิษฐานถูกเผงเลย
ที่เธอไม่บาดเจ็บเพราะนิรุตติ์ช่วยเธอไว้
วารุณีกัดริมฝีปาก“คุณช่วยฉันแล้วยังไง เพราะคุณลักพาตัวฉัน พาฉันกระโดดหน้าผา ฉันถึงประสบเหตุการณ์เช่นนั้น คุณจะให้ฉันไม่ถือโทษโกรธคุณเพราะคุณช่วยฉันทีหลังหรอกหรือ คุณมีสิทธิ์อะไร”
หากมีคนตบหัวแล้วลูบหลัง คุณก็ต้องให้อภัยเขาที่เขาไม่ตั้งใจกระทำหรอกหรือ?
ขอโทษ เธอทำไม่ได้!
นิรุตติ์หน้านิ่วคิ้วขมวด“ได้ หากคุณไม่ยอมรับว่าผมช่วยคุณ งั้นพวกเราคุยเรื่องอื่นกัน คุณว่าผมซื้อตัวหมอกับพยาบาลเอาลูกในท้องคุณออก ใช่ ผมทำเอง แต่วารุณี ผมทำไปเพราะหวังดีกับคุณนะ”
เขาคว้าข้อมือวารุณีไว้
วารุณีรู้สึกตลกเหลือแสน พยายามสุดแรงเพื่อชักมือกลับมา“หวังดีกับฉัน?คุณให้คนอื่นเอาเด็กในท้องฉันออกแล้วบอกว่าหวังดีกับฉันงั้นหรือ นิรุตติ์ คุณมันบ้าไปแล้ว!”
“ผมหวังดีกับคุณอยู่แล้ว ผมรักคุณ ผมเห็นคุณตั้งท้องลูกคนอื่นไม่ได้ วารุณี ผมจะให้คุณมาอยู่กับผมให้ได้ ผมหนักแน่นต่อเรื่องนี้มาก ดังนั้นเอาเด็กออกแต่เนิ่นๆจะไม่ดีกว่าเหรอ?คุณไม่อยากให้เขาคลอดออกมาแล้วไม่มีพ่อหรอกมั้ง เพราะฉะนั้นไม่คลอดจะดีกว่า”ใบหน้านิรุตติ์ประดับรอยยิ้มเหี้ยมโหด
วารุณีส่ายหัวสุดเหวี่ยง“บ้าไปแล้ว คุณบ้าไปแล้วจริงๆ!”
“คุณบอกผมบ้า ผมบ้าก็ได้ ผมก็นึกไม่ถึงว่าจะตกหลุมรักคุณเหมือนกัน”นิรุตติ์ช่วยเธอจัดแจงผมเผ้าอันยุ่งเหยิง
วารุณีเบือนหน้าหนี ไม่อยากให้เขาแตะต้อง
จากนั้นนิรุตติ์ก็หันหน้าเธอกลับมา“วารุณี ผมรักคุณจริงๆ อยู่กับผมเถอะนะ ถ้าคุณรับปาก ผมจะให้คุณคลอดออกมาแล้วเอาไปให้นัทธี ผมใจกว้างมากแล้วนะ”
“ใจกว้าง?”สีหน้าวารุณีย่ำแย่“ฉันต้องการความใจกว้างจากคุณไหม?ฉันเป็นภรรยาของนัทธี เมียลูกพี่ลูกน้องของคุณ เด็กในท้องของฉันคือลูกน้องชายคุณนะ คุณไม่มีสิทธิ์ตัดสินว่าลูกของฉันคลอดได้หรือคลอดไม่ได้ หลีกไป หลีกไปเดี๋ยวนี้!”
ใบหน้านิรุตติ์มืดครึ้ม เสมือนความโกรธผุดขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น น้ำเสียงก็เยือกเย็นขึ้นมา “พูดมากมายขนาดนี้ คุณยังไม่คิดจะอยู่กับผมใช่ไหม?”
วารุณีมองเขาด้วยแววตาประกายแสงหยามเหยียด ไม่ได้ตอบอะไร
นิรุตติ์กำหมัดแน่นขนัด จากนั้นก็หัวเราะออกมา“ไม่เป็นไร คุณไม่ยอมไปด้วย ผมจะพาคุณไปเอง พอขังคุณไว้แล้วต้องมีสักวันที่คุณเต็มใจอยู่กับผมแน่”
วารุณีหน้าถอดสี“คุณจะพาฉันไป?”
“ใช่ ใครใช้ให้คุณไม่ยินยอมล่ะ ผมเลยต้องใช้วิธีนี้ไง แต่คุณวางใจได้ ผมไม่ทำอะไรเด็กสองคนนี้หรอก หลังจากพวกเราไปแล้ว ผมจะปล่อยพวกเขาเอง”นิรุตติ์เอามือลูบจับใบหน้าเธอ จากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นมา ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังประตูสวนสาธารณะ
วารุณีร้อนรุ่มกลุ้มใจถึงขีดสุด เธอถีบแบบไม่บันยะบันยัง“ปล่อยฉัน นิรุตติ์ คุณปล่อยฉัน ฉันไม่ไปกับคุณ คุณปล่อยฉัน!”
นิรุตติ์ทำเหมือนหูทวนลม อุ้มเธอแน่นขึ้น เธอจะได้ดิ้นไม่หลุด
วารุณีเห็นใกล้จะถึงประตูสวนสาธารณะแล้ว หัวใจก็รู้สึกกระวนกระวายอย่างยิ่งยวด
เธอต้องถูกนิรุตติ์จับตัวไปจริงๆหรือ?
ไม่ ไม่ได้!
วารุณีขบฟัน พลางตะโกนขอความช่วยเหลือสุดเสียง
นิรุตติ์ก้มหน้ามองเธอ“ไม่มีประโยชน์หรอก ก่อนผมจะมาที่นี่ ผมจัดการสถานที่เรียบร้อยแล้ว ไม่มีคนมาช่วยคุณได้หรอก!”
“หืม ใช่หรือ?” สิ้นเสียงนิรุตติ์พลันมีเสียงดูถูกดูแคลนแว่วเข้ามา