ก็เป็นเช่นนี้ จุ๊บแจงอยากได้งาน พวกเขาก็ให้แล้ว และจุ๊บแจงก็จะไม่ปรากฏตัวที่สำนักงานใหญ่ เจอนัทธีทุกวัน
เรื่องยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทำไมถึงไม่ทำล่ะ
“ใช่สิผู้ช่วยมารุต ตอนนี้จุ๊บแจงอยู่ไหน?”จู่ๆวารุณีก็ถาม
มารุตดันแว่นแล้วตอบ“โรงแรมครับ เธอบอกว่าเพิ่งเข้าเมืองมา ไม่มีที่พัก ดังนั้นผมเลยหาโรงแรมให้เธอ จองห้องหนึ่งให้เธอครับ”
วารุณีเงยคางขึ้น สื่อว่าเข้าใจ จากนั้นพูดอีกว่า:“แบบนี้ละกัน คุณให้เธอไปพักที่คอนโดฉัน ให้เธอยืมพักที่คอนโดฉันก่อน”
ไม่ว่ายังไง จุ๊บแจงก็ช่วยนัทธีไว้
ถึงเธอไม่ชอบจุ๊บแจงแค่ไหน แต่เรื่องบุญคุณนั้น จะไม่ใส่ใจไม่ได้
“ให้เธอพักคอนโดคุณไม่ได้”ตอนนี้เอง จู่ๆนัทธีก็พูด“ในคอนโดคุณมีความทรงจำของพวกเรา ให้คนอื่นมาทำลายไม่ได้”
ได้ยินน้ำเสียงเขาแล้วก็รู้สึกสวีต วารุณีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก“งั้นคุณจะให้เธอไปพักไหน?”
นัทธีมองไปที่มารุต“เช่าห้องที่ดูหน่อยให้เธอ ค่าเช่าพวกเราจ่าย อย่างอื่นเธอต้องการอะไร ก็พยายามทำให้เธอ”
“ครับ”มารุตพยักหน้า
จากนั้น เขาก็ออกไปจากห้องแต่งหน้าไปหาจุ๊บแจง
วารุณีกับนัทธีแต่งหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อ ถ่ายรูปแต่งงานสไตล์ต่อไป
ในโรงแรม จุ๊บแจงได้ยินคำพูดของมารุต ก็ยืนขึ้นมาจากโซฟาด้วยความตกใจ“อะไรนะ?ให้ฉันไปบริษัทย่อย?”
มารุตตอบกลับด้วยรอยยิ้ม“ใช่ครับ ที่สำนักงานใหญ่นั้นสำคัญมาก พนักงานที่ทำงานที่นั่น การศึกษาสูงกันมาก และก็ต้องใช้ทักษะบางอย่างด้วย ผมเคยอ่านข้อมูลของคุณจุ๊บแจงแล้ว คุณไม่ค่อยเหมาะที่จะไปทำงานในสำนักงานใหญ่ ไม่งั้นพนักงานคนอื่นในสำนักงานใหญ่จะมีความเห็นได้ แน่นอนว่า พวกเขามีความเห็นก็ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นต่อสำนักงานใหญ่ แต่พวกเขาจะเอาความเห็นไปใส่ที่คุณ ดังนั้นชีวิตของคุณในสำนักงานใหญ่คงไม่ดีนัก ดังนั้นสาขาย่อยจึงเหมาะสำหรับคุณ และประธานจะจ่ายเงินเดือนให้คุณค่อนข้างสูงด้วย”
ประโยคนี้ มารุตพูดได้สวยงามมาก ถึงแม้ไม่ได้พูดตรงๆว่าการศึกษาของจุ๊บแจงต่ำ แต่กลับบอกว่าถ้าจุ๊บแจงอยากไปทำงานที่สำนักงานใหญ่ จะถูกพนักงานคนอื่นเล่นงานได้
แบบนี้ จุ๊บแจงน่าจะอายแล้วยอมไปที่สาขาย่อยเอง
จุ๊บแจงก้มหน้าลงไม่พูดอะไร แววตามีความไม่พอใจและโกรธจัด
เธอหวังว่านัทธีจะให้งานเธอ และเธอก็มั่นใจมากว่าเขาจะตกลง
ตอนนี้ดูสิ เขาตกลงจริงๆ แต่เขากลับส่งเธอไปบริษัทย่อย เธอไปบริษัทย่อยทำบ้าอะไรล่ะ?ไปก็ไม่เจอนัทธี และก็หมดหนทางช่วยนิรุตติ์ทำภารกิจสำเร็จ!
ไม่ได้ เธอไปสาขาย่อยไม่ได้ เธอจำเป็นต้องไปสำนักงานใหญ่
คิดไป ปาจรีย์ก็สูดหายใจลึกๆมองมารุต“ผู้ช่วยมารุต เอ่อ……คนที่ให้ฉันไปบริษัทย่อย ใช่วารุ……ไม่สิ ใช่คุณผู้หญิงไหม?”
เธอไม่เชื่อว่านัทธีจะให้เธอไป
เธอเป็นผู้มีพระคุณของเขาเชียวนะ!
ดังนั้นเป็นไปได้สูง ที่จะเป็นผู้หญิงสวยๆคนนั้นทำ ผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าเธอชอบนัทธี ดังนั้นเพื่อหยุดเธอได้เจอนัทธี จึงจัดการเช่นนี้
ใช่ ผู้หญิงคนนั้นแน่ หน้าตาสวยมาก แต่ใจแคบจริงๆ!
ผู้หญิงคนนั้นไม่คู่ควรกับนัทธีเลย!
มีแค่เธอที่เหมาะสม!
อารมณ์ในแววตาจุ๊บแจงไม่หยุดพลุ่งพล่าน
มารุตแค่มองก็รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ สายตานั้นเย็นชา
ผู้หญิงมีความคิดต่อท่านประธาน และไม่รู้จักประเมินตนเองเขาเห็นมาเยอะแล้ว แต่ผู้หญิงธรรมดาที่หน้าตาไม่ดีอย่างจุ๊บแจงนี้ หุ่นก็ไม่ดี ไร้การศึกษา และก็ไม่มีความสามารถ และไม่รู้จักประเมินตนเอง เป็นครั้งแรกที่เขาเจอ
ไม่รู้จริงๆว่าเธอเอาความมั่นใจมาจากไหน!
มารุตไม่อาจรักษาได้แม้แต่รอยยิ้มอย่างมืออาชีพ เขาตอบกลับไปนิ่งๆ:“ไม่ ไม่ใช่ความต้องการของคุณผู้หญิง แต่นี่คือความต้องการของคุณผู้ชาย”
“จะเป็นไปได้อย่างไร?”สีหน้าจุ๊บแจงดูตกใจ ชัดเจนว่ายอมรับความจริงนี้ไม่ได้
มารุตมองบนใส่“ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้ล่ะครับ ไม่ได้บอกแล้วเหรอ?จุ๊บแจงการศึกษากับความสามารถของคุณไม่เหมาะที่จะเข้าสำนักงานใหญ่”
“ฉันรู้ แต่ทุกอย่างมีข้อยกเว้นไม่ได้หรอกเหรอ?ฉันเป็นถึงผู้มี……”
“ผมรู้ว่าคุณจุ๊บแจงเป็นผู้มีพระคุณของประธาน ดังนั้นประธานเลยไม่ให้คุณสัมภาษณ์ ก็เข้าไปทำงานในบริษัทสาขาย่อยได้เลย และเงินเดือนยังสูงกว่าพนักงานเก่าสองสามปี และยังจัดหาที่พักให้คุณโดยเฉพาะ สวัสดิการนี้ นอกจากพวกผู้จัดการแล้ว คุณก็เป็นพนักงานคนเดียวที่ได้ไป ดังนั้นผมคิดว่าประธานทำถึงตรงนี้ก็ดีมากแล้ว คุณจุ๊บแจงอย่าได้ไม่พอใจอีกเลย”มารุตเตือนอย่างเย็นชา
จุ๊บแจงหน้าแดงระเรื่อ ก้มหน้าลงอย่างร้อนตัว“ฉัน……ฉันเปล่า ฉันแค่……แค่คิดว่าไปสาขาย่อยไม่ได้เรียนรู้อะไรเท่าไหร่ ก็เลย……”
เห็นตัวเองพูดถึงสถานะแล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็ยังอยากจะเขาสำนักงานใหญ่ มารุตทั้งรู้สึกเยาะเย้ยและก็รู้สึกเหนื่อยล้า
เขาขยี้คิ้ว“ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว คุณจุ๊บแจง แบบนี้ละกัน ผมไปปรึกษากับประธานอีกทีดีไหม?”
“ค่ะ”ดวงตาของจุ๊บแจงเป็นประกาย พยักหน้าขอบคุณทันที“ขอบคุณค่ะผู้ช่วยมารุต”
ในใจมารุตนั้นหัวเราะ หยิบโทรศัพท์ออกไปจากห้อง โทรหานัทธีที่ทางเดินด้านนอก
นัทธีกำลังโอบเอวของวารุณี ยืนอยู่ใต้ต้นอู๋ถงให้ช่างภาพถ่ายรูป
อารัณถือโทรศัพท์วิ่งเข้ามา“พ่อ สายของคุณอามารุตครับ”
“เดี๋ยวก่อน”นัทธียังไม่อยากรับ
วารุณีหัวเราะเบาๆผลักเขาออก“รีบรับเถอะ ถ้ามีเรื่องสำคัญล่ะ”
เธอพูดแบบนี้แล้ว นัทธีก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่หยิบโทรศัพท์มารับ
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป สีหน้าของนัทธียิ่งดูแย่ขึ้น รอบๆตัวดูกดดันลง
วารุณีจูงมือของอารัณแล้วมองเขา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ผ่านไปสักพัก นัทธีก็วางสายแล้ววางโทรศัพท์ลง
วารุณีถาม“นัทธี ทำไมเหรอ?เกิดอะไรขึ้นอีกแล้วเหรอ?”
“ไม่มีอะไร จุ๊บแจงน่ะ เธอไม่ยอมไปสาขาย่อย จะอยู่ที่สำนักงานใหญ่ให้ได้”ริมฝีปากบางๆของนัทธีเม้มลงแล้วพูดอย่างเย็นชา แววตามีความรังเกียจปรากฏ
วารุณีก็ขมวดคิ้ว จากนั้นก็ยิ้มอย่างเยือกเย็น“ดูเหมือนว่าเธอจะยังยึดมั่น ขณะเดียวกันก็มองออกว่าเธอทะเยอทะยานกับคุณมากเลยนะ”
นัทธีขยี้คิ้ว“ในเมื่อเธอไม่อยากไปสาขาย่อย งั้นก็ไม่ต้องทำงาน เอาเงินส่งไปให้แม่เธอเลย”
“ไม่ ในเมื่อเธออยากไปสำนักงานใหญ่ งั้นก็ให้เธอไป”จู่ๆวารุณีก็หรี่ตาลง
นัทธีมองเธอ เหมือนจะตกใจกับการตัดสินใจของเธอ
วารุณียิ้มขึ้นมา“จากการศึกษาและความสามารถของเธอแล้ว ทำตำแหน่งปกติไม่ได้จริงๆ แต่แผนกทำความสะอาดไม่เป็นไร”
นัทธีเลิกคิ้วขึ้น“คุณจะให้ผมส่งเธอไปแผนกทำความสะอาด?”
“ไม่ใช่ว่าเธออยากอยู่ที่สำนักงานใหญ่เหรอ?สำนักงานใหญ่ก็มีแผนกทำความสะอาดนี่ ดังนั้นก็ส่งเธอไป ตอบสนองเธออยากอยู่สำนักงานใหญ่ได้พอดี ที่สำคัญที่สุดก็คือ พนักงานทำความสะอาดทั่วไปก็ไปชั้นบนสุดไม่ได้ เธอก็ยังไม่ได้เจอคุณอยู่ดี”วารุณีหัวเราะเบาๆแล้วพูด
อารัณชูนิ้วโป้งให้“หม่ามี๊ฉลาด”
“ปีศาจร้าย!”วารุณีหัวเราะแล้วลูบหัวเขา
นัทธีพยักหน้า“งั้นก็ตามนี้แหละ”
พูดจบ เขาก็โทรกลับไปหามารุต ให้มารุตบอกต่อจุ๊บแจง ถ้าไม่อยากไปทำงานที่แผนกทำความสะอาด งั้นก็ไม่ต้องไปทำงาน มาจากไหนก็กลับไปที่นั่น
ตอนที่จุ๊บแจงได้ยินก็ดูแย่ไป ตกใจอยู่นานสติถึงค่อยๆคืนกลับมา ไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือสิ่งที่นัทธีจัดหาให้ ถึงได้ให้เธอไปปัดกวาดเช็ดถูกที่แผนกทำความสะอาด
เขาทำแบบนี้ได้ไง เธอเป็นผู้มีพระคุณของเขาเชียวนะ
ในใจของจุ๊บแจงนั้นน้อยใจ เบ้าตาแดงก่ำ
มารุตเห็นเธอแบบนี้ ก็ไม่สงสารสักนิด กลับหาวอย่างทนไม่ไหว“คุณจุ๊บแจง คิดได้หรือยัง?จะไปหรือไม่ไปครับ?