พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ – บทที่ 650 ออกเดินทางเพื่อช่วยชีวิต

บทที่ 650 ออกเดินทางเพื่อช่วยชีวิต

“ใช่” สายตานัทธีอ่อนโยนขึ้นมา

หลังจากค้นหาอยู่นาน ในที่สุดก็ได้เบาะแสเกี่ยวกับที่อยู่ของวารุณี นี่เป็นข่าวดีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเลย

เขาโล่งใจมาก

“พ่อครับ เมื่อไหร่เราจะไปที่เกาะไปรับแม่?” อานัณกำมือแน่นและพร้อมที่จะออกเดินทางได้ทุกเมื่อ

อย่างไรก็ตามนัทธีพูด “อานัณอยู่ที่นี่ไปก่อน แม้ว่าจะเจอที่อยู่ของแม่นายแล้ว แต่ยังต้องตรวจสอบว่าอยู่ที่เกาะไหน พ่อจะไปที่บริเวณทะเลนั้น และคนหาทีละเกาะ!”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของนัทธีเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอย่างและเย็นชา

ตอนนี้เขารู้ว่าวารุณีอยู่ที่ไหน เขาต้องหาเธอให้ได้

นอกจากนี้ยังมีนิรุตติ์ด้วย เขาที่จะค้นหาให้เจอ!

“เอ๋ ให้ผมรออยู่ที่นี่อีกแล้ว!” อานัณหน้ามุ่ย เห็นได้ชัดว่าไม่มีความสุขเล็กน้อย

นัทธีปลอบโยน “พ่อขอโทษนะอานัณ เพราะลูกยังเด็กเกินไป ไม่สะดวกที่จะพาลูกไปด้วย”

“ครับ” เมื่อได้ยินคำพูดของพ่อ ทำไงได้ อานัณจึงเห็นด้วยอย่างไม่มีความสุข

นัทธีเงียบไปสองวิแล้วพูดว่า “เอาล่ะอานัณ หลังจากที่พ่อเจอแม่แล้ว จะรีบไปรับลูกนะแบบนี้ไหม?”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ดวงตาของอานัณก็เป็นประกายขึ้นมาในทันที และพยักหน้าตอบรับ”ตกลงครับ”

“งั้นตามนี้นะ” นัทธีพูดด้วยสายตานุ่มนวล

“ครับพ่อ พ่อต้องรีบหาแม่โดยเร็วแล้วมารับผมและไอริณไปด้วยนะครับ” อานัณพูดพร้อมกำโทรศัพท์แน่น

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าโทรศัพท์ ถ้าได้อยู่ต่อหน้ากัน เขาคงจะเกี่ยวก้อยกับพ่อแล้ว

“ตกลง พ่อมาแน่” นัทธีพยักหน้าแล้ววางสาย

หลังจากวางสาย เขาไม่วางโทรศัพท์ แต่ขึ้นรถแล้วโทรหามารุตอีก

มารุตรีบรับสาย “ท่านประธาน”

“แล้วบทสรุปของเกาะล่ะ?” นัทธีถามพร้อมหรี่ตาลง

ตามารุตที่บวมแดงเพราะไม่ได้นอนทั้งวันทั้งคืน ตอบกลับ “รวบรวมใกล้เรียบร้อยแล้วครับ เกาะบางส่วนที่อยู่บนแผนที่ ผมสรุปไวแล้ว แต่มีบางที่ที่ดาวเทียมเข้าไม่ถึงไม่สามารถตรวจสอบได้ จุดนี้เกินความสามารถผมแล้ว”

ท้ายที่สุด เกาะที่ไม่สามารถสำรวจด้วยดาวเทียมจะไม่ปรากฏบนแผนที่โลก และไม่มีทางสรุปได้

นัทธีก็เข้าใจสิ่งนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ผิดหวังอะไร เขาตอบอืมแสดงถึงการรับรู้ “ส่งข้อมูลที่คุณรวบรวมไปที่อีเมลของผม นอกจากนี้ ตอนนี้คุณออกจากที่นั่นตรงไปสนามบินและไปที่ ประเทศนิวซีเพื่อรอฉัน และซื้อเรือสำราญที่นั่น และอาวุธและอุปกรณ์กู้ภัย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ การแสดงออกของมารุตจริงจังขึ้นมา “ท่านประธาน คุณหมายถึงคุณหญิงยู่บนเกาะแห่งหนึ่งในบริเวณทะเลนั้นจริง ๆ ใช่ไหม?”

“ใช่” นัทธีพยักหน้า

มารุตกลืนน้ำลาย “แสดงว่าพวกนิรุตติ์เขาอาจอยู่บนเกาะนั้น?”

มิฉะนั้น ทำไมท่านประธานถึงขอให้เขาซื้ออุปกรณ์เหล่านั้น?

นัทธีเม้มริมฝีปากบางของเขา “ใช่ เพราะ นิรุตติ์พาวารุณีไป เป็นไปได้ว่าตอนนี้นิรุตติ์อยู่กับวารุณีในตอนนี้ ดังนั้นจัดการทันที”

“รับทราบครับ ผมจะไปตอนนี้” มารุตพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

หลังจากวางสาย นัทธีก็ขมวดคิ้วพูด “ไปสนามบิน”

ประเทศนี้อยู่ไกลจาก ประเทศนิวซีมาก คาดว่าถึงพรุ่งนี้ตอนเที่ยง

นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเพิ่งพูดว่าให้มารุตไปที่ ประเทศนิวซีรอเขา

“ครับประธาน” เมื่อได้ยินคำสั่งของนัทธี คนขับก็พยักหน้าตอบรับและสตาร์ทรถทันที

นัทธีกำโทรศัพท์ เอนกายพิงเบาะนั่ง หลับตาลงเล็กน้อย โดยไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

ในตอนเที่ยงวันรุ่งขึ้น ในที่สุดนัทธีก็มาถึงประเทศนิวซี

มารุตขับรถไปรับเขาที่สนามบินเป็นการส่วนตัว “ท่านประธานครับ”

นัทธีขึ้นรถด้วยใบหน้าที่เหนื่อยล้า และถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “การเตรียมตัวของเรือสำราญเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ผมซื้อมาแล้ว ลำตัวยาว 80 เมตร และสามารถแล่นได้ในระยะทางไกล ตอนนี้ผมอยู่ที่ท่าเรือเพื่อซ่อมบำรุง” มารุตตอบ

นัทธีพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ดีมาก”

“นอกจากนี้ ผมยังติดต่อโรงงานทหารมืออาชีพเพื่อซื้ออุปกรณ์ และทุกอย่างจะถูกติดตั้งบนเรือสำราญในวันพรุ่งนี้ ในเวลาเดียวกัน ผมได้ติดต่อบริษัทรักษาความปลอดภัยและจ้างผู้คุ้มกันสามคน ถึงเวลาก็ออกเดินทางพร้อมกัน” มารุตพูดอีกครั้ง

นัทธียกคางพูด “ทำดีมาก”

มารุตยิ้ม “ ครับผมหวังว่าจะพบคุณหญิงเร็วขึ้น แบบนี้ผมถึงจะวางใจได้”

นัทธีเหลือบมองเขาเบา ๆ ขี้เกียจสนใจอุบายของเขา จึงเปิดคอมพิวเตอร์และตรวจสอบข้อมูลสรุปของเกาะที่เขาส่งให้เมื่อวานนี้

เมื่อเขาอยู่บนเครื่องบิน เขาได้ตรวจสอบข้อมูลแล้ว และตอนนี้เขาได้ตรวจสอบอีกครั้ง แต่เขาต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม

มารุตรวบรวมเกาะอยู่ประมาณ 17 เกาะ โดยเจ็ดเกาะเป็นเกาะส่วนตัว สามเกาะเป็นเกาะของประเทศนิวซี และที่เหลือเป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่

อย่างไรก็ตาม ที่บอกว่าเป็นที่ไม่มีคนอาศัย แต่แท้จริงแล้สไม่มีใครรู้

คนรวยบางกลุ่มมีเงิน แต่ไม่ได้ซื้อเกาะ แต่กลับสร้างบ้านบนเกาะก็มี

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นัทธีได้ใส่ข้อมูลของเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ทั้งเจ็ดในโฟลเดอร์แยกจากกัน และพูดขึ้น “บนเรือสำราญมีเรือค้นหาและกู้ภัยลำเล็ก ๆไหม?”

“มีครับ มีเรือค้นหาและกู้ภัยขนาดเล็ก 3ลำ ขนาดประมาณ 15เมตร นอกจากนี้ยังมีเรือคายัคแบบเป่าลม เจ็ทสกีฯลฯ” มารุตตอบขณะขับรถ

นัทธีพยักหน้าเล็กน้อย “สิบห้าเมตร มันค่อนข้างยาว ดังนั้นคุณสามารถจัดบอดี้การ์ดให้ขึ้นเรือค้นหาและกู้ภัยสามลำ และไปที่เกาะร้างทั้งเจ็ดเพื่อดูว่ามีร่องรอยของวารุณีหรือไม่”

ด้วยเกาะต่าง ๆ มากมาย เลยต้องหามันทีละเกาะและต้องใช้เวลานานพอสมควร เมื่อเจอวารุณีไม่รู้ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน

ดังนั้น เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและย่นระยะเวลา จึงจำเป็นต้องจัดเตรียมกำลังคนให้มากขึ้น แล้วแยกย้ายกันปฏิบัติงาน

มารุตไม่รู้สึกแปลกใจเมื่อฟังคำแนะนำของนัทธี

เพราะต้องการหาคุณหญิงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว

“ผมเข้าใจแล้สครับ หลังจากส่งมอบอุปกรณ์จากโรงงานทหารแล้ว ผมติดตั้งอุปกรณ์บางส่วนบนเรือค้นหาเรียบร้อย และจัดการกำลังคนครับ”

“อืม” นัทธีกุมขมับของเขาและไม่ได้พูดอะไร

เขากำลังคิดว่าจะตรวจสอบเกาะเหล่านี้ด้วยตัวเอง แต่เกาะที่ไม่มีใครรู้จักล่ะทำอย่างไรดี?

ถึงอย่างนั้น นัทธีไม่ได้คิดเรื่องนี้นานเกินไป เพราะมันไร้ประโยชน์ที่จะคิด ดังนั้นเขาจึงต้องรอดูทีละขั้นตอน

ถ้าวารุณีไม่ได้อยู่บนเกาะเหล่านี้

เขาต้องขึ้นไปเดินบนเกาะที่ไม่รู้จักที่ทางดาวเทียมไม่สามารถตรวจสอบได้

สรุปคือ เขาจะไม่มีวันยอมแพ้จนกว่าเขาจะพบวารุณี

นัทธีบีบกำปั้น แววตาแฝงไปด้วยความหนักแน่น

ท้องฟ้าเริ่มมืดลง

เวลา 11.00 น. อุปกรณ์ทั้งหมดถูกติดตั้งบนเรือสำราญ

นัทธีไม่รอช้าและสั่งให้เรือสำราญแล่นไปยังบริเวณทะเลที่มีเกาะ

เรือค้นหาและกู้ภัยทั้งสามลำได้ออกเดินทางก่อนแล้วในตอนบ่ายซึ่งน่าจะเชื่อมต่อกับเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ แค่ไม่รู้ว่าทางทีมกู้ภัยตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เกาะที่ไม่มีคนอยู่จะมีวารุณีรึป่าว

นัทธีที่กำลังครุ่นคิด ก็ถูกเคาะในห้องบนเรือสำราญ

เขาเม้มปากและเงยหน้าขึ้น “เข้ามา”

มารุตผลักประตูเข้าไป “ท่านประธานครับ มีข้อความจากเรือค้นหาและกู้ภัยหมายเลข 1 ว่าไม่มีคนอยู่บนเกาะร้างหมายเลข 1เลยครับ”

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

Status: Ongoing

5ปีก่อน พ่อแม่หย่าร้าง พ่อสุดเหี้ยมไล่พวกเขาออกจากบ้าน เพื่อรักษาโรคหัวใจของน้องชาย วารุณีแอบแฝงเข้าไปในห้องนัทธีขึ้นแสดง ‘ใช้กายแลกเงิน’ 5ปีต่อมา เธอพาเด็กน้อยน่ารักสองคนกลับประเทศ เพื่อที่จะเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนมา กลับบังเอิญเจอชายผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในจังหวัดจันทร์อีกครั้ง เขาคือ นัทธี นั่นเอง “ลูกชายคุณทำไมหน้าเหมือนฉันจัง?” นัทธีถามเสียงต่ำ วารุณี:”…” เด็กน้อยน่ารัก: “แด๊ดดี้ รีบมีลูกกับหม่ามี๊อีกคนสิครับ!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท