ดูเหมือนว่าหลังจากที่พิชิตมาพอเธอ อยู่ๆเธอก็รู้สึกว่าที่ตัวเองทำไปนั้นมันผิด
ขณะเดียวกัน เธอเองก็รู้สึกสึกว่าตัวเองทำอะไรไปมากมาย แต่กลับไม่ได้อะไรเลย กลับใช้ชีวิตอย่างเร่ร่อน
ดังนั้น สิ่งที่เธอทำไปทั้งหมดในเมื่อก่อน มันมีความหมายอะไรกัน?
ตอนนี้ นวิยาเริ่มสงสัยในอดีตของตัวเอง ว่ามันไม่มีความหมายอะไรเลย
และเริ่มสงสัยสิ่งที่ตัวเองทำลงไปทั้งหมดในอดีต ทั้งหมดมันเป็นเรื่องตลก เป็นเรื่องที่พูดไปเรื่อยเปื่อยทั้งนั้น เพราะทำไปตั้งมากมาย แต่เธอกลับไม่ได้อะไรเลย กลับกันคือร่วงลงมาอย่างวันนี้
นัทธีเกลียดเธอขนาดนั้น เขาจะทำยังไงกับเธอ?
จะส่งเธอเข้าคุก หรือประหารเธอด้วยตัวเอง?
ถ้าหากว่าส่งเข้าคุก เธอก็คงอยู่ในคุกได้ไม่นาน เพราะสิ่งที่เธอทำไป มันมากพอที่ทำให้เธอโดนโทษประหารได้
แต่หากนัทธีจัดการด้วยตัวเอง นัทธีเกลียดเธอขนาดนั้น จะเป็นไปได้ยังไงที่จะให้เธอได้มีชีวิตอยู่ต่อ?
เขาก็ต้องปล่อยให้เธอลงนรก ให้ไปขอโทษพ่อแม่เขา ดังนั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะปล่อยให้เธอได้มีชีวิตอยู่ต่อ
นอกจากนี้ เมื่อครึ่งปีที่แล้ว ตอนที่เธอออกจากโรงพยาบาล คนในโรงพยาบาลเคยบอกกับเธอว่า เนื่องจากร่างกายของเธอนั้นได้รับอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บมากเกินไป เธอจะอยู่ได้อีกนานที่สุดไม่เกินสิบกว่าปีเท่านั้น
ก็พูดได้ว่า ทั้งสามเส้นทาง เส้นทางไหนก็ตายทั้งนั้น
ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว เธอจะคาดหวังอะไรอีก?
เธอเหนื่อยแล้ว เหนื่อยแล้วจริงๆ
ตั้งแต่ที่พิชิตพูดกับเธอ ตอนที่บอกว่าจะไม่รักเธออีก บอกกับเธอว่า จะไม่มมาเจอเธออีก เธอก็เพิ่งจะรู้ว่าเอเหนื่อยแล้ว อยากจบทุกอย่างมากๆ
คิดถึงเท่านี้ นวิยาก็เริ่มคว้าผ้าห่ม แล้วปีนขึ้นไปขอบเตียง
วินาทีถัดมา เธอก็โดดลงจากขอบเตียง ตกลงมาบนพื้น ทำให้เกิดเสียงดัง
นอกจากนี้แล้วขาทั้งสองข้างก็ถูกกระแทกลงไปด้วย นวิยาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ด้านนอก บอดี้การ์ดคุ้มกันทั้งสองได้ยิน ก็รีบเปิดประตูเข้ามาดู เกิดอะไรขึ้น?
นวิยาไม่ตอบอะไร แล้วก็ไม่ได้สนใจขาของตัวเองด้วย
เธอกัดไปที่ริมฝีปากแน่น อดกลั้นความเจ็บปวดตรงขา ใบหน้าบิดเบี้ยว คลานไปห้องน้ำกับเหงื่อเย็นที่ออกมา
เมื่อบอดี้การ์ดเห็น ก็โล่งใจ
โอเค ช่างเธอเถอะ คงจะอยากไปเข้าห้องน้ำ บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูดขึ้น
บอดี้การ์ดอีกคนสงสัย จะเข้าห้องน้ำทำไมไม่เรียก?ตัวเองตกลงจากเตียง จนตัวเองล้ม เธอปัญญาอ่อนหรือไง?
นายจะสนใจอะไร เธอไม่เรียก ตัวเองล้มเอง ก็ตัวเองหาเรื่องเอง ยังไงท่านประธานก็สั่งว่า แค่ดูเธออย่างเดียว อย่าให้เธอตายก็พอ อย่างอื่น ก็เรื่องของเธอ
ที่นายพูดก็ถูก
บอดี้การ์ดทั้งสองไม่สนใจ ปิดประตูลงอีกครั้งแล้วเดินออกไป
สิ่งที่ทั้งสองพูดเยาะเย้ย นวิยาได้ยินทั้งหมด
ถ้าเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน เธอต้องเกลียดและฆ่าสองคนนี้ทิ้งแน่ๆ
แต่ตอนนี้ เธอไม่ตอบกลับอะไรแล้วทั้งนั้น
หลังจากที่พิชิตจากไป เธอก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าตัวเองสูญเสียจิตวิญญาณไปครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งที่เหลือ ก็ไม่สามารถยกขึ้นมาได้อีก กลายเป็นคนแพ้ใจตัวเอง
เธอกำลังคิด ว่าเอาแบบนี้แหละ ไม่อยากคิด ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น ไม่อยากไปแย่งชิงอะไรอีก ผ่อนคลายตัวเองเถอะ
เมื่อได้แบบนี้ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองนั้น ผ่อนคลายได้มากขึ้นจริงๆ
ในขณะที่เธอรู้สึกผ่อนคลาย เธอก็อยากจะกำจัดมากขึ้น
นวิยาค่อยๆ คลานไปที่ห้องน้ำด้วยความเจ็บปวด คลานอยู่นาน ในที่สุดก็ถึงประตูห้องน้ำ
แต่ขาของเธอทั้งสองข้าง ที่อยู่บนพื้นห้องนั้น ถูกสัมผัสเข้ากับผิว ทิ้งรอยเลือดเป็นรอยยาวไว้
แต่นวิยาไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ เธอคลานไปด้านหน้าต่อ แล้วเข้าไปในห้องน้ำ หลังจากนั้นก็จ้องกระจกห้องน้ำตรงหน้า
นวิยาจ้องอยู่นาน หลังจากนั้นก็ขวาครีมอาบน้ำที่อยู่ถัดจากชักโครก แล้วออกแรงทุบไปที่เข้ากระจก
เสียงลมดังโครม
กระจกแตกกระจายในทันที
เสร็จกระจกร่วงเป็นปรอยๆ กระจายเต็มพื้น มากจนกระทั่งมีหลายชิ้นที่กระเด็นเข้าไปในร่างกายของนวิยา แทงเข้าไปในเพจของเธออย่างเจ็บปวด
แต่เธอนั้นไม่ได้สนใจ แต่กลับนอนราบลงไปบนพื้น เอื้อมมือที่สั่นเทา เข้าไปในกองกระจกที่แตกควานหาอะไรบางอย่าง
ด้านนอก เมื่อบอดี้การ์ดทั้งสองได้ยินเสียงในห้องก็มีการเคลื่อนไหวเข้ามาในห้อง
เกิดอะไรขึ้น?เหมือนมีอะไรบางอย่างแตก บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูด คงไม่ใช่เธอทุบกระจกห้องน้ำแตกนะ คิดหนีออกไปทางห้องน้ำเหรอ?
ทันทีที่ที่พูดแบบนี้ บอดี้การ์ดอีกคนก็กลอกตา แกโง่หรือเปล่า?ขาเธอใช้งานไม่ได้แล้ว จะวิ่งยังไง?เธอปีนหน้าต่างไม่ได้ อีกอย่าง หน้าต่างนั้นในตอนแรก ครั้งแรกที่เธอถูกขังอยู่ในนี้ ก็ล็อกไปแล้วครึ่งหนึ่ง ต่อให้ขาของเธอปกติดี ก็ไม่มีทางที่จะวิ่งออกจากหน้าต่างไปได้ เดาว่าขาเธอคงไม่สะดวก คงไม่ระวังจนทำแตกน่ะสิ
ที่นายพูดก็ถูก แต่ฉันเข้าไปดูหน่อยดีกว่า ถ้าเกิดตายขึ้นมา เราไม่มีปัญญารับผิดชอบเรื่องนี้แน่
ใช่ๆๆ ลองเข้าไปดูหน่อย
บอดี้การ์ดทั้งสองกลัวว่าหลังจากที่นวิยาทำกระจกแตก จะบังเอิญได้รับบาดเจ็บจากกระจก แล้วจะเสียชีวิต จึงรีบเปิดประตูเข้าไปตรวจดูเหตุการณ์
เมื่อมาถึงประตูห้องน้ำ บอดี้การ์ดทั้งสองก็เห็นสถานการณ์ในห้องน้ำ
พบเพียงนวิยาที่นอนราบอยู่กับกองกระจก สองมือสองเท้า รวมไปถึงใบหน้าของเธอ ล้วนถูกกระจกข่วนจนเกิดแผล ก็ตกใจในทันที
เกิดอะไรขึ้นครับคุณ?ทำไมกระจกถึงแตกได้? บอดี้การ์ดทั้งสองรีบเข้าไปด้านใน ลากนวิยาออกจากกองเศษกระจก
นอนอยู่ต่อไป ถ้าเกิดมีเศษคมแทงเข้าไปในร่างกายของเธอมันจะยุ่ง
นวิยาหลับตาลง ไม่พูดอะไร
บอดี้การ์ดทั้งสองเห็นสถานการณ์แบบนี้ รู้สึกโมโหมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้คาดหวังให้เธอตอบเหมือนกัน เป็นพยุงเธอออกไปอย่างไม่มีทางเลือก
อยู่ดีๆ หน่อย! บริการทั้งสองโยนนวิยาขึ้นไปบนเตียง หลังจากนั้นก็ไปเก็บกวาดเศษกระจกในห้องน้ำ
ทำความสะอาดไป แล้วดุบ่นไป บอกว่านวิยาเรื่องให้พวกเขา
นวิยาฟังคำสะอิดสะเอียนของบริการทั้งสอง ก็กำมือแน่น แต่วินาทีถัดมา ก็ปล่อยมือลง หลังจากนั้นก็พริกเสื้อ สอดมือเข้าไปในเสื้อผ้าด้วยอาการสั่น ข้างในเสื้อ หยิบของชิ้นหนึ่งที่คมมากออกมา
มันคือเศษกระจกที่แตก
เศษแผ่นนั้นเป็นมุมสามเหลี่ยม นั่นแหลมด้านหนึ่ง มีความยาวและแหลมเป็นพิเศษ ประมาณสิบเซ็น ความแหลมคมเปรียบได้กับปลายมีด
และมุมแหลมทั้งสองด้านก็คมมากเช่นกัน เมื่อนวิยาเอื้อมมือไปสัมผัส ขอบนั้นก็บาดเข้าที่ท้องนิ้วชี้ของเธอ แล้วมีเลือดสดไหลออกมา
นวิยา เอานิ้วใส่เข้าไปในปากแล้วเม้มไว้ จากนั้นก็ยกหมอนขึ้น นำเศษกระจกวางไว้ใต้ล่างแล้ว ก็หลับตาลง แล้วเริ่มนอน
บอดี้การ์ดทั้งสองหลังจากเก็บกวาดเช็ดกระจกเสร็จก็มองไปที่เธอ มองเห็นเธอที่เธอหลับไปแล้ว ก็โกรธขึ้นมา
ผู้หญิงคนนี้อยู่ดีครับ ทำกระจกแตก พวกเราเก็บไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว เธอหลับไปเองแล้ว
ช่างเถอะๆ แค่ผีพี่อายุสั้นตัวหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องไปสนใจหรอก ไปเถอะ
บอดี้การ์ดทั้งสองคนหนึ่งถืออุปกรณ์ทำความสะอาด อีกคนหนึ่งคือเศษกระจกออกไป
จังหวัดที่พวกเขาปิดประตู นวิยาที่อยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้นมาทันที แล้ววางหมอนลม กำเศษกระจกที่อยู่ในมือแน่น
ผีอายุสั้นเหรอ……
ตามนั้นแหละ แม้แต่บอดี้การ์ดทั้งสอง ยังรู้ว่าจุดจบของเธอจะเป็นยังไง
อีกฝั่ง คฤหาสน์ตระกูลไชยรัตน์
ทันทีที่นัทธีถึงบ้าน ก็ตรงดิ่งไปที่ห้องสมุด มารุตเองก็ไปด้วยเช่นกัน ไม่รู้ว่าทั้งสองไปพูดคุยอะไรกัน
วารุณีเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบน ในใจรู้สึกเป็นห่วงนัทธีอย่างมาก
หวังว่านัทธีจะปลุกตัวเองขึ้นมาได้
แน่นอน ในขณะที่เป็นห่วงนัทธี วารุณีก็รู้สึกกลัดกลุ้มอยู่ในใจตัวเองเหมือนกัน
เพราะวันนี้นวิยาเผยข้อมูลออกมามากเกินไป ทำให้ใจเธอในตอนนี้ไม่สามารถสงบลงได้