ร่างเล็กถูกกดจนไม่มีที่ว่างให้เคลื่อนไหวหรือดิ้นรนได้ ทำได้เพียงปล่อยให้ร่างสูงทำสิ่งที่ต้องการเท่านั้น
ลีน่ามองดูชายหญิงที่จูบกันจนลืมตัวในห้องครัว หน้าของเธอแดงก่ำซับสีเลือด แม้แต่หูและลำคอก็แดง เธอยืนอยู่กับที่ทำอะไรไม่ถูก
ทำไมเธอถึงคิดไม่ได้ว่าพอตัวเองมาถึงตรงนี้แล้วจะเห็นภาพแบบนี้
ที่จริงตั้งแต่ได้ยินเสียง ในใจเธอก็พอจะเดาออกแล้ว
แต่ความอยากรู้อยากเห็นของเธอสั่งให้เธอต้องมาดู และในที่สุดก็เห็นฉากนี้
ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่านัทธีทำเกินไปจริงๆ แค่นี้ก็ทนไม่ได้ ถึงขนาดบังคับจูบวารุณีในห้องครัว กลับห้องตัวเองไม่ได้หรือไง
ลีน่าแอบบ่นในใจพร้อมเดินถอยหลังออกไป ไม่กล้าทนดูต่อ
เธออยากรีบออกไปจากที่นี่ก่อนที่จะมีคนเห็นเธอ
เป็นสถานที่ไม่เหมาะสม ถ้ามีคนเห็นเข้าแย่แน่
ประธานนัทธีไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่
เมื่อคิดได้อย่างนี้ลีน่าก็กลืนน้ำลายลงคอพร้อมก้าวถอยหลังเร็วขึ้นเล็กน้อย
แต่เพราะเธอรีบเกินไป และช่วงขาของเธอนั้นกว้างเกินไป ทำให้เมื่อถอยหลังกลับจึงบังเอิญไปชนกับกำแพงด้านหลังโดยไม่ตั้งใจจนเกิดเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บ
เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น คนสองคนที่จูบกันในห้องครัวก็ได้ยินและหยุดการกระทำทันที
ลีน่าก็รู้ตัวว่าเธอได้ทำเสียงออกไปแล้ว ดวงตาของเธอเบิกกว้างทันที ใบหน้าซีดขาว และรีบปิดปากของเธออย่างรวดเร็ว
จบแล้ว แย่แล้ว
เธอหนีตอนนี้ยังทันไหม
ตอนแรกลีน่ายังคิดจะหนี แต่หลังจากนั้นเธอก็รู้ตัวว่าหนีไม่ทันแล้ว
เพราะเธอถูกนัทธีจ้องแล้ว
นัทธีกำลังจูบกับวารุณีอย่างดุเดือด จากนั้นก็ได้ยินเสียงคนดังขึ้น
เขาจึงรีบปล่อยวารุณี และหันหน้าไปทางต้นเสียง ก่อนจะเห็นลีน่าที่กำลังตื่นตระหนกอยู่ ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็บึ้งตึงทันที
วารุณีก็คิดไม่ถึงว่าเธอกับนัทธีจะจูบกันในห้องครัว และโดนคนมองจังๆ ทำให้เธออายแทบแทรกแผ่นดินหนี
จะไม่อายได้ยังไง
ในนี้เป็นห้องครัว
จะมีใครจูบกันในห้องครัวบ้าง
ดังนั้นเมื่อทุกคนเห็นเธอก็รู้สึกเขินอายเป็นธรรมดา
“ลีน่านี่เอง” วารุณีโล่งใจเมื่อเห็นว่าคนที่เห็นเธอกับนัทธีจูบกันในห้องครัวคือลีน่า
ลีน่าเคยเห็นเธอตื่นตอนเที่ยงหลายครั้งหลังจากโดนนัทธีรังแก ดังนั้นเมื่อเธอเห็นลีน่าเธอจึงไม่ได้อายมากนัก
ลีน่าเห็นเรื่องน่าอายของเธอมาหลายครั้งแล้ว เห็นอีกครั้งนึงจะเป็นไรไป
อย่างมากลีน่าก็แค่หัวเราะเยาะแค่ครั้งเดียว
สรุปก็คือโดนลีน่าเห็นยังดีกว่าโดนพงศกรเห็น
ถ้าโดนพงศกรเห็น เธอจะรู้สึกอายมาก แต่ถ้าโดนลีน่าเห็น เธอก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบกลับอะไรมากนัก
“ไป เดินไป” นัทธีเหลือบมองลีน่าอย่างเย็นชา และเดินจูงมือวารุณีออกไป
วารุณีส่งเสียงตอบรับ และเดินไปพรางเช็ดริมฝีปากไป
ปากของเธอโดนนัทธีกัดอยู่หลายครั้ง ตอนนี้น่าจะบวมแล้ว
เดี๋ยวลีน่าต้องสาวเธอแน่
เธอได้แต่ถอนหายใจ และยิ้มฝืน
อีกฝั่งหนึ่ง หลังลีน่ารู้ว่าตัวเองถูกจับได้แล้ว จึงหนีไม่ได้อีก ได้แต่ยืนอยู่กับที่ ยอมรับพายุอารมณ์ที่จะเกิดขึ้น
เมื่อเห็นนัทธีจูงมือวารุณีมาที่เธอ หัวใจของเธอก็แทบจะหลุดออกมาจากอก
โดยเฉพาะเมื่อเห็นสีหน้าที่ทะมึนทึงของนัทธี เธอได้แต่กลืนน้ำลายลงคอด้วยสีหน้าที่ซีดมากกว่าเดิม
“ประ…ประธานนัทธี วารุณี” เมื่อลีน่าเห็นนัทธีกับวารุณียืนอยู่ตรงหน้าเธอ เธอจึงฝืนยิ้มทักทายทั้งคู่
วารุณียิ้มให้ลีน่าถือเป็นการทักทายกับแล้ว
ส่วนนัทธีไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา สายตาร้อนแรงของเขาจ้องมาที่เธอและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอมาทำไม”
“ไม่…ไม่มีอะไร” ลีน่ารีบส่ายหน้า “ฉันมาหาวารุณี ฉันคิดไม่ถึงว่าพวกคุณจะกำลัง…กำลังเอ่อ…”
ยิ่งเธอพูดเสียงก็ยิ่งเบาลง
และเมื่อวารุณีได้ยินประโยคนั้นเข้า เธอก็อายหน้าแดงจนต้องหันหน้าหนี
นัทธีหรี่ตา “เธอเห็นเท่าไหร่”
ลีน่าส่ายหัวยิกๆอีกครั้ง “ไม่เท่าไหร่ ไม่เยอะจริงๆ ฉันเห็นแค่นิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น”
เธอทำท่านิดเดียวออกมาเพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นเรื่องจริง “แถมหลังจากที่ฉันเห็นว่าพวกคุณกำลังจูบกันอยู่ ฉันก็จะออกไปจากที่นี่อยู่แล้ว จะได้ไม่รบกวนพวกคุณ แต่คิดไม่ถึงว่าฉันจะชนผนัง…”
ประโยคต่อจากนั้นเธอไม่ได้พูด แต่ความหมายทุกคนก็รู้ดี
เพราะเธอชนผนังจึงทำให้เกิดเสียงออกมา และทำให้ทั้งสองคนรู้ตัว
ไม่อย่างนั้นเธอก็กลับไปตั้งนานแล้ว พวกเขาก็จะไม่รู้ว่าเธอแอบดูพวกเขาจูบกัน
เมื่อคิดถึงตรงนี้เธอก็แอบถอนหายใจในใจ และขณะเดียวกันก็อดเถียงกับตัวเองไม่ได้
บอกว่าจะกลับก็กลับสิ นี่นอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้วยังชนผนังอีก
ลีน่าเริ่มรู้สึกเกลียดตัวเองขึ้นมาในวันส่งท้ายปีเก่า
นัทธีก็รู้สึกว่าเธอโง่มาก เดินอยู่ดีๆยังชนได้ รบกวนเวลาเขาพลอดรักกัน
ถ้าไม่เห็นแก่ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนของวารุณี เขาไล่เธอออกไปตั้งนานแล้ว
นัทธีโมงลีน่าด้วยสีหน้าเย็นชามากขึ้นจนบรรยากาศโดยรอบกดดันจนน่ากลัว
ลีน่าแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว เธอมองไปที่นัทธีด้วยความกลัว และมองวารุณีอย่างขอความช่วยเหลือ เธอกระพริบตาปริบๆ ความหมายชัดเจนมาก
วารุณี ช่วยฉันด้วย!
วารุณีได้รับคำขอร้องขอความช่วยเหลือจากลีน่า เมื่อมองท่าทางของลีน่าที่ตกใจกลัวนัทธีจนทำอะไรไม่ถูก เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “พอแล้วนัทธี อย่าทำอย่างนี้ คุณทำให้ลีน่ากลัวนะ เธอไม่ได้ตั้งใจ เธอมาหาฉัน ใครจะไปรู้ว่าพวกเรากำลัง…แต่เรื่องนี้ก็ต้องโทษคุณ ใครใช้ให้มาจูบกันในห้องครัวล่ะ”
วารุณีตบแขนนัทธีเบาๆ และพูดอย่างไม่พอใจ
ไม่ว่ายังไงลีน่าก็เป็นเพื่อน ถึงเห็นก็ไม่เป็นไร
เธอก็ไม่อยากเห็นนัทธีเอาแต่แค้นลีน่าตลอด
ใช่ แค้น
ที่นัทธีจ้องลีน่าอย่างเย็นชาอย่างนี้ ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เป็นเพราะลีน่าเข้ามาขัดจังหวะของเขา
ดังนั้นเธอควรช่วยลีน่าพูด
เมื่อได้ยินวารุณีช่วยตัวเองพูด ลีน่าก็รีบมองไปที่นัทธีแล้วพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ใช่ค่ะประธานนัทธี วารุณีพูดถูก ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่คิดว่าพวกคุณจะจูบกันอยู่ ถ้าฉันรู้ฉันจะไม่มาแน่นอน ดังนั้นประธานนัทธี คุณช่วยปล่อยฉันไปเถอะนะครั้งนี้ ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ไม่กล้าแล้ว ฉันสาบาน”
เธอพูดและยกนิ้วขึ้นมาสามนิ้วสาบานด้วยสีหน้าจริงจัง
วารุณีมองแล้วรู้สึกตลกจึงรีบดึงแขนนัทธี และช่วยเธอพูดอีกครั้ง “พอแล้วนัทธี ช่างเถอะ ลีน่ามาเห็นพวกเราจูบโดยไม่ตั้งใจ ไม่ได้ทำเรื่องผิดอะไรสักหน่อย คุณทำแบบนี้เธอจะกลัวนะ คืนนี้พวกเราค่อยทำต่อโอเคไหม”
ประโยคสุดท้ายเธอพูดเสียงเบามาก เธอกระซิบข้างหูเขาให้เขาได้ยินคนเดียว
ดวงตาของนัทธีเป็นประกายขึ้นมา บรรยากาศโดยรอบที่อึมครึมหายไปทันที
เมื่อเห็นอย่างนั้นวารุณีก็รู้ว่ามันได้ผลแล้วจึงรู้สึกตลกขึ้นมา “โอเค คุณไปก่อนเถอะ ฉันขอคุยกับลีน่าก่อน จะปลอบเธอ ตอนนี้เธอกลัวคุณมาก ถ้าตอนนี้ไม่ปลอบ คืนนี้เธอนอนฝันร้ายแน่”
นัทธีเหลือบมองลีน่าด้วยสายตาที่ดูถูกอย่างเห็นได้ชัด เห็นได้ชัดว่าเขาดูถูกความกล้าหาญของเธอ
เขายังไม่ได้ทำอะไรเธอเลย แค่ทำหน้าเย็นชา แค่นี้ก็กลัวแล้วหรอ ไร้ประโยชน์จริงๆ!
“อย่าคุยกันนาน ผมจะไปเปลี่ยนเสื้อก่อน เสื้อของผมยับแล้ว” นัทธีดึงปกเสื้อของเขาแล้วพูดเสียงต่ำอย่างมีเลศนัย